คุณ kwancheewit ดิฉันออกตัวก่อนว่าจะชวนคุย ไม่ได้หาเรื่องแต่ประการใดนะคะ
ที่คุณบอกว่า รักษาสิทธิ์เป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่... ต้องทำในขอบเขตที่เราพึงมี ขอถามหน่อยได้ไหมคะ ว่าสิทธิผู้บริโภคบ้านเราที่มี มันคืออะไร ขอโทษนะคะ ล่าสุด แค่เทสเตอร์แถมในหนังสือคลีโอเดือนนี้ (มี.ค.) ยังโดนฉกไปเลย /เรื่องราวจากกระทู้นี้คะ http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q10320151/Q10320151.html
ที่คุณว่าบางคห.ถึงขนาดว่าต้องไล่พนักงานออก , ต้องแบนสินค้าตัวบนี้ ต้องไม่ซื้อของในร้านนี้ เราก้าวล่วงมากกันเกินไปหรือเปล่า ตรงนี้เรากลับมองว่ามันเป็นสิทธิของผู้บริโภคนะคะ เรื่องไล่พนักงานออก อันนี้ต้องแล้วแต่บริษัทเขาพิจารณาเพราะเขาเป็นผู้จ้าง แต่เรื่องการแบนสินค้าโดยการไม่ซื้อนี่ เราว่าทำได้โดยไม่ผิดแต่ประการใด เพราะเงินมันอยู่ในกระเป๋าเรา เราอยากจะซื้อหรือไม่ซื้อเพราะเหตุผลใดๆ มันอยู่ที่เจ้าของเงินคะ
ถ้าทางมพนักงานผิดจริง คิดว่าทางวัตสันและเมย์บีลีนก็คงมีมาตรการลงโทษของเค้าเองค่ะ ถ้าผู้บริโภคไม่ร้องเรียนไม่รักษาสิทธิคุณคิดว่า บริษัทจะทราบเรื่องเหล่านี้หรือไม่คะ
....ในหลายๆ คคห.เหมือนโพสต์โดยการใช้อารมณ์กันมากกว่า "มีความคาดหวังกันสูงว่าไปแลกแล้วจะต้องได้" ที่เขาคาดหวังกันเพราะเขาไปถึงห้างตั้งแต่ก่อนห้างเปิดไงคะ แล้วเขามั่นใจว่าฉันมาทันใน 50 ตลับแน่ๆ หรือคุณคิดว่ามีใครที่ไปสายแล้วโวยวายว่าไม่ได้ของบ้างคะ อ่านกระทู้เรื่องนี้มา ดิฉันยังไม่เจอเลยนะคะ
บางคนบอกว่าแค่แป้งตลับเดียวฉันซื้อได้ แต่ที่โวยวายนี่เพื่อ รักษาสิทธิ์ อยากให้กลับมาใช้สติกันให้มากๆค่ะ หลายๆคนแสดงคห.กันโดยใช้อารมณ์โกรธเป็นที่ตั้งมากกว่า ก็คงต้องบอกว่า " อย่าให้แป้งเพียงตลับเดียว " มาทำลายมิตรภาพที่ดีของเพื่อนๆห้องแป้งเลยค่ะ คุณคิดแบบนั้นแต่ดิฉันกลับเชื่อว่าคนในห้องแป้งยังมีสติและรักกันอยู่คะ และยังเชื่อด้วยว่า แป้งตลับเดียว มันทำให้พวกเรารักและเข้าใจกันมากขึ้น ที่สำคัญ เราถือว่าเป็นการปลุกกระแส การรักษาสิทธิของตัวเองได้ดีมากๆ คะ ต่อไปดิฉันอาจเป็นคนเตือนคนแซงคิวในห้างสรรพสินค้า หรือในเซเว่น บ่อยขี้นได้นะคะ
อยากคิดมากเลยคะ เพราะสุดท้ายแล้ว พวกเราก็กลับไปคุยเรื่องสวยๆ งามๆ กันอยู่ดี