 |
== ไปเจอความคิดเห็นนี้มา เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่บอกว่ามาจากธรรมชาติ อ่านแล้วตาสว่างเลย ==
|
 |
จริงๆแล้ว อ่านมานานแล้วครับ แต่อยากแบ่งปันความรู้ให้ห้องโต๊ะเครื่องแป้งบ้างครับ มาจากเว็บนี้นะครับ http://74.55.90.235/CCforum/DCForumID3/11017.html?86
ผมเองเป็นคนตั้ง ตำรับเครื่องสำอางมากว่า 8 ปี บอกได้คำเดียวว่า มีไม่กี่เจ้าที่กล้าเอาสารสกัดจากพืชใส่ลงในผลิตภัณฑ์ในระดับที่มากจริงๆ
เพื่อให้ได้ผลตามผลวิจัยจริงๆ ซึ่งมักเป็นแบรนด์เล็กๆ ไม่ได้ใหญ่ยงหรือลงโฆษณากระหน่ำ ทำตลาดกันเอง แต่มีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่นมายาวนาน
เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้นเห็นผลจริงๆ แต่ที่เหลือส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ใส่แค่ปลายเล็บก้อย
ยิ่งยี่ห้อมีแบรนด์ดังๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เอาสารธรรมชาติมานำ แต่ฟีลลิ่งดีๆ หลังการใช้ ก็มาจากซิลิโคนเป็นหลัก
ลองอ่านดูส่วนผสมสิครับ เพราะเขาเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยอยู่แล้ว
ส่วน ใหญ่ก็เริ่มด้วยน้ำ ตามด้วยสารปรับข้น ตัวเชื่อมน้ำกับน้ำมัน อย่างครีมทาหน้าดีๆ แพงๆ หลายๆ ตัวที่ใช้แล้วความรู้สึกดีๆ เนียนเรียบทันที
ก็ล้วนแต่มาจากสารเคมีเหล่านี้ทั้งนั้น แต่สารเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเป็นเคมีทั้งหมด บางตัวก็มีสารตั้งต้นมาจากสารธรรมชาติ เช่น กรดลอริก กรดสเตียริก เป็นต้น
ซึ่งพวกนี้เป็นกรดไขมันจากพืชพวกมะพร้าว ปาล์ม เป็นต้น
บาง ตัวหลังจากน้ำแล้ว ก็เป็นซิลิโคนเลย อย่างเช่น cyclomethicone, dimethicone, cyclopentasiloxane, polysilicone ต่างๆ ฯลฯ ดังนั้น
อย่าหลงดีใจที่ใช้แล้วรู้สึกดี๊ดีในทันที เพราะคุณอาจกำลังถูกซิลิโคนหลอกก็ได้ แล้วเจ้าซิลิโคนนี่ ถ้าเป็นเครื่องสำอางกลุ่มกรีนจริงๆ เค้าก็ไม่ใช้กันครับ
เพราะถือเป็นสารที่ปิดรูขุมขนให้ไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
แม้บางที่บางเจ้า จะพยายามโฆษณาว่า ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นก็ตาม ยิ่งบอดี้โลชั่นยี่ห้อดังๆ
ซึ่งนำเข้าจากนอกมาขายกันตามเว็บ ไม่ว่าจะยี่ห้อชุดชั้นในผู้หญิงแสนดังจากเมกา
หรือจะอีกแบรนด์ที่มีความหมายประมาณร่างกายและการอาบน้ำก็ดี
พวกนี้อ่านดีๆ ครับ เด่นแค่ซิลิโคนกะน้ำหอมทั้งนั้น ไม่ได้มีอะไรดีเลย ตัวให้ความชุ่มชื้นก็ปิโตรเลียมเจลลี หรือวาสลีนนั่นแหละ
บางเจ้าก็เรียกตามศัพท์ทางเคมีเครื่องสำอางว่า petrolatum
น้ำมัน ประเภทออยล์ฟรีที่โฆษณากัน จริงๆ ก็น้ำมันนั่นแหละ แต่เป็นกลุ่มที่เรียกว่าเอสเทอร์ เป็นน้ำมันสังเคราะห์ เอาแค่นี้แล้วกัน เดี๋ยวเค้าไม่ต้องทำมาหากินกัน
ทางออก ก็คือ ทำความสะอาดผิวหน้าให้เกลี้ยงในตอนเย็น ขณะผิวหน้ายังหมาดๆ ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น/น้ำมันงาสกัดเย็น/น้ำมันมะกอกแบบเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น
ซึ่งไม่ได้ผ่านความร้อนขณะสกัด เพราะใช้วิธีบีบเย็นจริงๆ มาชะโลมบางๆ ก็ได้ความชุ่มชื้นไปเต็มๆ แล้ว ทิ้งไว้จนเช้า สิวก็ไม่มี เว้นแต่ผิวหน้าคุณมันมาก
ก็หาน้ำส้มสายชูทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลไซเดอร์ คอร์นไซเดอร์ หรือแม้แต่น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหอมมะลิ ราคาก็ไม่แพง เอามาเช็ดหน้าหลังทำความสะอาดเครื่องสำอางแล้ว
ใช้ดีกว่าโทนเนอร์ทั้งหลายซะอีก เพราะกรดน้ำส้มอ่อนๆ ช่วยให้ผิวเราสะอาด และรูขุมขนก็ปิดได้ด้วย
แต่ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูกลั่น 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะบางเจ้าใช้กรดเคมีแก่ๆ มาเป็นสารตั้งต้น แล้วทำให้บริสุทธิ์พร้อมเจือจางลงจนอยู่ในระดับที่บริโภคได้
ต่างจากกรดน้ำส้มที่หมักจากผลแอปเปิ้ล เราได้กรดมาลิกของผลแอปเปิ้ล ซึ่งดีต่อผิว ส่วนกรดน้ำส้มอื่นๆ จากข้าวก็ดี จากข้าวโพดก็ดี จากสับปะรดก็ดี ก็มีสารจากธรรมชาติโดยตรง
น้ำมัน มะพร้าว/งาสกัดเย็น (แต่น้ำมันสองชนิดนี้จะมีกลิ่นแรงหน่อย ถ้ารับไม่ได้ ก็ใช้น้ำมันรำข้าวก็ได้ เลือกชนิดที่มีออริซานอล 4-5000 พีพีเอ็มขึ้นไป
พวกนี้จะมีวิตามินอีในตัว เรียกว่ากินก็ได้ ทาก็ได้ ดีทั้งสองเลย) ยังสามารถใช้ตอนกลางวันได้ เพราะช่วยกันแดดได้อีก แต่ถ้ากลัวหน้ามันก็ใช้เฉพาะตอนกลางคืน
แค่นี้ก็ใสกิ๊กแล้ว ไม่ต้องให้ผิวเจอกับสารกันเสียสารพัด เพราะยืนยันว่าไม่มีเครื่องสำอางตัวไหนไม่มีสารกันเสีย เพียงแต่จะเป็นประเภทไหน กลุ่มไหนเท่านั้น
เดี๋ยวนี้ฝรั่งกับญี่ปุ่นเก่งมากๆ คิดค้นสารเคมีบางชนิด มาผสานกับสารในธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นสารกันเสีย แต่ไม่เรียกชื่อเป็นสารกันเสีย
ก็สามารถทำให้ฉลากของตัวเองเป็น preservative free ได้สบายๆ ดังนั้น อย่าเชื่อว่า ไม่ใส่สารกันเสีย เครื่องสำอางตัวไหนก็ตามที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
ต้องมีสารกันเสียแน่นอน เว้นแต่จะตั้งตำรับให้พิสดารไปเล็กน้อย ซึ่งอันนี้ขอสงวนไว้เป็นความลับทางธุรกิจ
น้ำมัน มะพร้าวกับน้ำส้มสายชูยังใช้หมักผมได้อีก หรือจะลองหาสูตรที่ใช้พวกโซเดียมไบคาร์บอเนต หรือผงฟู ซึ่งนำมาใช้ประโยชน์ด้านความงามได้อีกสารพัด
ดูเหมือนจะมีอยู่ยี่ห้อหนึ่ง พิมพ์ติดไว้ข้างถุง เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ตัวเองเบ็ดเสร็จ ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น ทำให้ผิวมือนุ่มเนียนได้ ลดความหยาบกร้านของผิวได้ ฯลฯ
ลองหาดู พวกนี้ก็ราคาไม่แพง ถุงใหญ่ๆ ไม่ถึง 30 บาทเอง ธรรมชาติแท้ๆ
เครื่อง สำอางจากธรรมชาติ ต้องลงมือเองนิดนึง ไม่สามารถจะสำเร็จรูปไปได้ทุกอย่าง อย่างที่เล่ามาให้ฟัง ก็กึ่งสำเร็จรูปแล้ว หมักมาให้เสร็จ สกัดมาให้เสร็จ พร้อมใช้เลย และที่สำคัญไม่มีสารกันเสีย
ลองดูครับ
| จากคุณ |
:
เจ้าชายหิมะ  
|
| เขียนเมื่อ |
:
11 มี.ค. 54 00:47:59
|
|
|
| |
