มาพูดถึงข้อดีข้อเสียกันบ้าง สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะซื้อดี ไม่ซื้อดีน๊าา ?
ข้อดี :

1. ราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับ Clarisonnic ที่มีลักษณะคล้ายๆกัน
2. ล้างหน้าได้สะอาดมากขึ้นกว่าการล้างปกติหลายเท่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ต้องแต่งหน้าทุกวันน การล้างหน้าให้สะอาดเป็นเรื่องที่จำเป็นมากก
3. ทำให้แต่งหน้าได้ติดทนมากขึ้น
4. ประหยัดคลีนซิ่ง หรือโฟมล้างหน้ามากว่าเดิม เพราะล้างแค่รอบเดียวก็สะอาดแล้ว
5. ตัวเครื่องกันน้ำ สะดวกสำหรับการใช้ในห้องน้ำ ที่โดนต้องโดนน้ำ
(แต่ก็เอาไปจุ่มน้ำไม่ได้นะจ้าาา)
6. มีหัวแปรงให้เลือกใช้ถึง 3 แบบ ตามลักษณะผิวและการใช้งานของแต่ละคนที่แตกต่างกัน
ข้อเสีย :

1. แพ็คเกจดูก๊องแก๊ง คือถ้าทำตกนี่หล่อนคงร้าวว
2. ปุ่มให้การปรับสปีด กับปุ่มปิดน่าจะเป็นคนละปุ่มกัน และสปีดในการหมุนที่มีอยู่ 2 ระดับ
มันไม่ค่อยต่างกันมาก .. น่าจะมีให้มากกว่า 2 ระดับ หรือไม่ก็ให้มันแตกต่างกันหน่อย
3. หัวแปรงสีชมพูที่ว่าอ่อนโยนที่สุด เอาเข้าจริงๆ มันก็ยังไม่ดีที่สุด น่าจะมีที่นุ่มๆกว่านี้อีก
## สรุปแล้วว่า Sigma ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว
ถึงแม้ว่ามันจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ชนะทุกข้อเสียของเจ้าตัวนี้นี่คือ ราคา
ซึ่่งถือว่าใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ได้ซื้อมาแล้วเดือนนึง ปีนึง จะใช้ซักครั้ง
คนที่ต้องใช้รองพื้น บีบี แต่งหน้าทุกวันอย่างเราคงต้องหาตัวช่วยในการล้างหน้า
เพราะถึงแม้ว่าจะล้างได้ดีแค่ไหน มันก็ยังสะอาดไม่หมด
แต่ผลระยาวจะเป็นอย่างไรทั้งในเรื่องความสะอาด สิว ความทนทาน
คงต้องมารีวิวให้ฟังกันอีกที ##
คะแนน : 9/10
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ :] 