Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วิธีการเตรียมตัว ก่อนรับปริญญา Part 1 :: การเตรียมตัวสำหรับเมคอัพและการแต่งหน้า ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่ะสาวๆ ช่วงนี้สาวๆหลายคนคงจะเหนื่อยกับฤดูรับปริญญา เราจะมาบอกทริกดีๆเคล็ดไม่ลับกับสาวๆทุกคน เพื่อที่จะทำให้เป็นวันอันแสนPerfectสำหรับทุกคนค่า

สาวๆหลายคนอาจจะจ้างช่างแต่งหน้า ช่างทำผมในดวงใจกันบ้างแล้ว หรืออาจะจะดุ่มเดินไปร้านที่ไหนซักแห่ง แนนจะแนะนำถึงวิธีการเลือกช่างที่ถูกใจ เพิ่อให้วันสวยๆของเราไม่พลาดค่ะ

1 หาช่างจากเพื่อนแนะนำมา

หรือไปงานญาติหรือเพื่อน และชอบสไตล์การแต่งหน้า
ข้อดีของการหาช่างแบบนี้ก็คือ เราจะได้เห็นผลงานกันจะๆค่ะ เริดไม่เริดดูง่ายๆเลย
รองพื้นที่ลงค่ะ บางคนหน้าหมองแบบองค์ลง บางคนหน้าวอกเป็นลิง หรือสไตล์การแต่ง
ตา แก้ม ปาก ว่าเราชอบรึเปล่า บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่ามันเข้มกว่าปกติชีวิตประจำวัน
เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะจะทำให้ถ่ายรูปขึ้นกล้อง และบางครั้งการเฉดดิ้งของการแต่งหน้าทำให้หน้าเราผอมด้วยนะเออ แต่ถ้าเข้มจนแบบ เราไม่ประทับใจ ก็เลี่ยงค่ะ แต่ถ้าช่างคนนี้ถูกใจแล้ว รีบจองได้เลย



2 หาช่างแต่งหน้าแถวร้านทำผมที่บ้าน

หรือใกล้ๆมหาวิทยาลัย ข้อดีก็คือ ความสะดวกค่ะ
เอฟเฟกอาจจะแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนแต่งหน้าหนามาก หน้าหมอง หน้าลอย
หรือทำทรงผมไม่ถูกใจ ดูแก่ไป ทั้งนี้แนะนำให้ลองก่อนแต่งสักครั้งค่ะ
ลองไปลองวันที่คุณจะไปงานแต่งงานญาติๆหรือไปงานเลี้ยงที่ไหนก็ได้ค่ะ
เราจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ ถ้าจะดีมาก ยิ่งลองแต่งไปงานที่ทั้งวันต้องลุยหรืองานเอาดอร์
จะสังเกตเอฟเฟกที่เกิดขึ้นบนใบหน้าได้เลย ว่าร้านนั้นแต่งหน้าติดทนมั้ย ชอบรึเปล่า ถ้าชอบแล้วก็กดไลท์แล้วรีบจองได้เลยค่ะ



3. หาช่างจากคนรู้จัก

พี่ๆน้องๆหรือเพื่อนๆบางคนอาจจะแต่งหน้าเก่ง ฝีมือขั้นเทพ สามารถโฟโตช๊อปหน้าเราได้แบบสามมิติกันเลยทีเดียว
ก็ล๊อกตัวเอาไว้เลยค่ะ อย่าลืมให้เพื่อนทดลองแต่งหน้าเราก่อนวันจริงนะค่ะ
เพื่อให้เค้าชินกับโครงหน้าเรา บางครั้งคนที่แต่งหน้าตัวเองเก่งแต่แต่งหน้าคนอื่น ไม่เริดเท่าก็มีค่ะ
เพราะเค้าอาจจะไม่ชินกับการแต่งหน้ากับโครงสร้าง ตา จมูก คิ้ว แบบอื่น ชอบไม่ชอบเราจะได้บอกเพื่อนได้ทัน
ลองจับเวลาที่เค้าจะแต่งหน้าให้เรา เราจะได้คำนวณเวลาแต่งหน้าในวันจริงได้
เพียงแค่นี้ก็หน้าสวยแบบชอบใจไปรับปริญญากันแล้วค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมปลุกเพื่อนมาแต่งหน้าด้วยน้า เพราะแต่งหน้ารับปริญญา ต้องตื่นเช้ามากๆ กำหนดเวลาให้แน่นอนค่ะ เวลาที่เสร็จจะได้ตรงตามแผน

4 หาช่างแต่งหน้าจากสตูดิโอเวดดิ้ง

ข้อนี้คล้ายๆกับการหาช่างแต่งหน้าแบบที่ร้านค่ะ
ลองตกลงกับเค้าว่าจะให้พี่เค้ามาแต่งให้เราที่บ้านได้มั้ย หรือเราต้องไปหาพี่เค้าที่ร้าน
คุยให้ละเอียด และทางที่ดี มัดจำด้วยนะค่ะ กันมีปัญหาเบี้ยวภายหลังค่ะ นัดเวลาเค้าให้ดี เพราะถ้าเลท เราจะเสียเวลามากค่ะ

5 หาช่างแต่งหน้าจากบีเอ

ข้อดีคือ ถ้าเราชอบบีเอคนไหน เราไปลองเทสที่เคาเตอร์นั้นๆได้
อาจจะซื้อคูปองหรือ เครื่องสำอางค์เค้า ถ้าชอบแล้วก็ขอเบอร์ นัดเวลาได้เลยค่ะ
ลองถามพี่เค้าดูด้วยว่าพี่เค้าสามารถทำผมให้ด้วยได่รึเปล่า หรือเราอาจจะต้องไปร้านทำผมอีกต่อ
นัดสถานที่ให้แน่ชัดด้วยนะค่ะ และที่สำคัญที่เหมือนกันกับข้อที่แล้วก็คือ แนะนำให้มัดจำก่อนนะค่ะ เพื่อเซฟตัวเองค่ะ

6. หาช่างแต่งหน้าจากในอินเตอร์เนต

ข้อดีก็คือ เราจะสามารถเห็นงาน หรือสไตล์การแต่งหน้าได้เลยว่าเราชอบรึเปล่า
บางคนอาจจะรีทัชเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเห็นถึงสไตล์การแต่งหน้าอยู่ เป็นตัวเลือกการตัดสินใจที่ดีทางหนึ่งเลยละค่ะ
วิธีการตัดสินใจก็คือ ลองดูประวัติของช่างเหล่านี้ ว่ามีความน่าเชื่อถือพอมั้ย ดูฟีดแบคต่างๆค่ะ
และเวลาจองแนะนำอีกเหมือนกันนะค่ะว่าให้มัดจำก่อน ใครเป็นคนแต่งหน้าให้ นัดเวลาให้แน่ชัด
เพราะบางคนที่แนนเคยได้ยิน ว่าไปเลทมาก หรือสายเลย หรือเบี้ยวเลยก็มี นัดสถานที่ให้เคลียค่ะว่าให้แต่งที่ไหน มาแต่งให้ที่บ้านรึเปล่า

หรือบางคนอาจจะได้ยินคำว่า เปิดกรุ๊ปแต่งหน้ารับปริญญา
ก็คือ ช่างจะไปเปิดห้องโรงแรมใกล้ๆมหาลัยแล้วใก้เราไปแต่ง ประดุจร้านทำผมย่อมๆนี่เอง
ข้อดีก็คือ จะสะดวกเรามากค่ะ แต่ถ้าช่างนัดเวลาเรากี่โมง ควรจะไปตรงตามเวลา เผื่อเวลาหลง
หาที่ไม่เจอ หรือเวลาเดินทางก้ดีค่ะ เพราะถ้ามาสาย ช่างเหล่านี้จะรันคิวตลอด จะทำให้คนที่ต่อคิวเราสายไปอีกค่ะ


7. แต่งหน้าด้วยตัวเอง

แนนอยากแนะนำให้สาวๆแต่งด้วยตัวเองนะค่ะ เพราะแนนคิดว่าวันรับปริญญา คือวันที่ยินดีกับความสำเร็จของตัวเอง
ควรเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุด บางครั้งการเเต่งหน้าเว่อไป ผมแรงไป มันดูมากเกินวัยยังไงไม่รู้
อันนี้ความเห็นส่วนตัวแนนนะค่ะ พยายามหาโทนสีที่เป็นตัวเองและธรรมชาติที่สุด เเละเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุดค่ะ

อาจจะลองซ้อมแต่งบ่อยๆก่อนวันงาน เวลาแต่งหน้า ถ้าฟ้ายังมืดอยู่ แนะนำให้ใช้ไฟแสง Day light แต่งหน้าค่ะ
วางเอาไว้ฝั่งซ้าย ขวา และหน้าเรา หรืออาจใช้วิธียิงขึ้นเพดานค่ะ ทริกนี้ไม่จำเป็นจะต้องแต่งหน้าตัวเองเท่านั้น
แม้แต่การเตรียมห้องให้ช่างแต่งหน้าแต่งก็ด้วยค่ะ หาห้องที่สว่างที่สุด และเลี่ยงแสงสีเหลืองให้ได้มากที่สุดค่ะ
หามุมแต่งหน้า พยายามหามุมแสงที่ไม่ทำให้เกิดเงาตกบนใบหน้า และแสงที่ตกบนหน้าเฉลี่ยเท่ากัน
ไม่เข้มข้างสว่างข้าง เพราะมีผลกับการเฉดดิ้งและคัดเบ้าตามากๆค่ะ

ราคาอาจจะแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ตั้งแต่ 500 - 5000 เลย ดูงบของเราด้วนะค่ะ บางทีอย่าเวอร์มากถึงขั้นทุ่มเงินหลายหมื่นกับการรับปริญญา หรือทำอะไรเกินตัวมากเกินไป ความภูมิใจของพ่อแม่ไม่ได้อยู่ที่ลูกตัวเองสวย แต่อยู่ที่เราเรียนจบ มีการการที่ดีทำ มีชีวิตที่ดี แนนว่าถ้าเรามีอนาคตที่ดี ทำตัวให้พ่อแม่ภูมิใจ จะสวยกว่าแต่งหน้าประโคมหลายล้านเท่าเลยละค่ะ

ถ้าถามว่าช่างคนไหนสวยถูกใจ ก็แล้วแต่สไตล์คนขอบเลยค่ะ ลองsearch อากู๋อ่านดูนะค๊า

พูดมาซะยืดยาว เบื่อกันรึเปล่ามาต่อกันอีกเลยนะค๊า

 
 

จากคุณ : KaraJiNannaN
เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 10:44:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com