 |
บางท่านนี่ผมว่าไม่ทราบ Anatomy ของผิวหนัง แถมหาสาเหตุของการแพ้ไม่เจอ แล้วโทษมั่วหรือเปล่าครับ? วงรอบการผลัดเซลล์ผิวของมนุษย์ ตาม cycle of time อยู่ราวๆ 4 สัปดาห์ เป็นกระบวนการตามธรรมชาติ เป็น Natural Exfoliate แต่การใช้สาร AHA/BHA เป็นการใช้ทางลัดก็คือ Chemical Exfoliate ความแตกต่างก็คือ การผลัดเซลล์ปกติมันช้า สิวอุดตันกว่าจะโผล่ให้คุณเห็นก็นานมาก (4สัปดาห์) สิวอักเสบก็น้อยทะยอยขึ้น หลงคิดว่าหน้าดีอยู่ แต่สารพวก AHA/BHA มันทำงานรวดเร็ว ทำงานเชิงระบบคือ ล้างชั้นขี้ไคลออก ต่อด้วยการดึงไขมันในรูขุมขน กระชับรูขุมขน
ดังนั้นความหมายคือ ถ้าใครใบหน้าชั้นบน(Epidermis)สะอาดจริง ใช้กรดพวกนี้ หน้าคุณจะยิ่งใส รูขุมขนยิ่งเล็ก ผิวดีกว่าเดิมมาก แต่คนที่มีแบคทีเรีย ไขมัน สิวอุดตันสะสมเยอะๆ พอใช้จะเจอเอฟเฟคตรงข้าม สิวผุดเป็นดอกเห็ด เพราะชั้นที่บดบังถูกเอาออกไป (แต่นั้นแปลว่าหลังจากสิวชุดนี้หมดไปแล้ว และใช้ BHA อย่างพอเหมาะต่อเนื่อง สิวจะมีน้อยลงมาก)
เวลานั้นแหละครับ จึงควรใช้สารกลุ่ม Retinoid(Retin-A,Differin), Antibiotic(Clindamycin), Peroxide(Benzac) รักษาต่อ
ถ้ามีรอยดำ ก็ใช้รักษาด้วย Niacinamide(Vit B3), MPS เช่นใน Hiruscar รักษาต่อก็จะลดลงครับ
มันมีกรณีที่น้อยจริงๆครับที่จะแพ้ BHA แล้วเกิดอักเสบกระทันหัน ผมว่าลองดู Ingredient ดีๆว่าแพ้ตัวอื่นในเวชภัณฑ์ตัวนั้นหรือไม่ ที่บอกแบบนี้เพราะ AHA/BHA มันเป็นผลผลิตที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ ผลไม้รสเปรี้ยว ผักหลายชนิดที่ทานๆอยู่ก็มีครับ ร่างกายมีโอกาสสร้างภูมิต้านทานสารเหล่านั้นไม่ได้เลย (เพราะมีคงแพ้ตลอดเวลา)
อีกประการที่เข้าใจผิดคือเรื่องหน้าบางครับ การใช้กรด AHA/BHA ไม่ได้ทำให้คุณหน้าบางตามภาษาชาวบ้านแต่อย่างใด เพราะ มันแค่ยุ่งกับชั้นนอกสุดจริงๆ พอชั้นนอกสุดถูกผลัดออก ผิวต่อมาที่โผล่มันบอบบางมาก ถ้าดูแลรักษาดี ก็จะเป็นชุดผิวที่ดี แต่ถ้าปล่อยปะละเลยไม่ทากันแดด ผิวก็ย่อมคล้ำแดดลงครับ
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 17:54:11
จากคุณ |
:
UrmiaRest
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ค. 54 17:52:19
|
|
|
|
 |