วันแรกเกิดเรื่องที่เอ็มโพเรี่ยม วันที่ 6 สิงหาคม 2011
จุดประสงค์ ซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อน โดยให้ทดลองเครื่องสำอางค์และเลือกของที่เคาท์เตอร์แมคเลย ต้องการเซอร์ไพร์สเพื่อนเราค่ะ เพราะเพื่อนไม่ค่อยแต่งหน้า แต่งตัวและอกหัก+ต้องไปงานแต่งเพื่อนอีกสองงาน ไม่อยากให้เศร้า
+++ ไม่คิดจะขอให้แต่งหน้าฟรี เพราะแต่งหน้าเป็น +++ ย้ำเพราะพนักงานขายแมค มักจะคิดกับลูกค้าที่เดินเข้าเคาท์เตอร์แบบนี้
ถึงเคาท์เตอร์ ประมาณเกือบเที่ยง ไม่มีลูกค้า มีพนักงานประมาณ 3-4 คน สภาพการแต่งตัวซอมซ่อม กางเกงยืนส์ รองเท้าแตะ เสื้อเก่าๆ
เรา: มาแต่งหน้าค่ะ 2 คน
พนง: ไม่ได้ค่ะ ต้องซื้อสินค้าครบ 2,500 บาท ถ้าจะแต่งฟรี ต้องจองล่วงหน้า และเป็นสมาชิกด้วยค่ะ
เรา: ค่ะ งั้นจะซื้อสินค้า
พนงที่ 1 มองเราตั้งแต่หัวจรดเท้า จนเรารู้สึกแปลกๆ พนงที่ 1เดินกลับไปที่เคาท์เตอร์ หาพนงที่ 2 ซึ่งมี พนงขายแมค รวมอยู่อีกประมาณ 3 คน และไม่มีลูกค้า ทั้งกลุ่มมองมาที่เรา ด้วยสายตาแบบที่... ใครเคยเข้าเคาท์เตอร์แมคมาก่อนจะรู้ แต่เรายังไม่เคยเจอแบบนี้ เพราะมักจะเจอคนที่เคยใช้บริการและซื้อของด้วยประจำ
เรา: คุณเปิ้ลไม่อยู่เหรอคะ ?
พนงที่ 2: ย้ายไปตั้งนานแล้ว วันนี้แต่งหน้าฟรีไม่ได้ ต้องนัดล่วงหน้า และเป็นสมาชิก
ตอนนี้เริ่มหงุดหงิด เพราะเราตั้งใจมากๆๆๆจะมาซื้อของ และมูลค่ามากกว่าที่พนงที่ 1 แจ้งมาหลายเท่า ภาพที่เราเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อน เริ่มหายไปจากหัว
เรา: จะแต่งวันนี้
พนงที่ 2: ไม่ได้ จะแต่งวันนี้ ก็ไปที่อื่น
ความโกรธของเราเพิ่มขึ้น เพราะก่อนที่ พนง ขายจะตอบ มองเราหัวจรดเท้า และไม่ตรวจสอบข้อมูลตารางการนัดหมายของลูกค้าเลย หากที่เคาท์เตอร์มีลูกค้า เราเข้าใจว่ายุ่ง แต่ตอนที่เราไปไม่มีลูกค้าเลยสักคน
เรา: ฉันจะแต่งหน้าวันนี้แต่ไม่ใช่ตอนนี้ และซื้อของด้วย แกมีสิทธิ์อะไรมาปฎิเสธลูกค้า
พนงที่ 2: ค่ะ ขอ ชื่อ นามสกุล ด้วยค่ะ
เรา: เอาไปทำไม
พนงที่ 2: จะตรวจสอบว่าเคยซื้อแมคบ้างหรือเปล่า ???
เรา: จะซื้อของอยู่แล้ว ทำไมต้องตรวจสอบ แต่ถ้าอยากรู้ ก็เอาไปเลย
ตอนนี้เราโกรธมาก พนงที่ 2 และกลุ่มพนง แมค มารวมตัวที่เคาท์เตอร์เอาชื่อและนามสกุลเราเช็คประวัติ
เรา: ถ้าเช็คแล้ว ชั้นไม่เคยใช้แมค มาก่อนเลย พวกแกจะไม่แต่งหน้าให้อย่างงั้นเหรอ ปกติชั้นซื้อของไม่เคยให้ข้อมูล เพราะ ชั้นซื้อของนะ ไม่ได้มาขอ ส่วนลดสักบาทก็ไม่เคยขอ แค่พวกแกแค่ทำงานตามหน้าที่ของพวกแกไป เทวดา นางฟ้ามาจากไหนเหรอ ก็แค่พนงขายของ ทำตัวซะ ชอบเหวี่ยง ชอบดูถูกลูกค้ามากนักเหรอ เป็นไง โดนดูถูกบ้าง รู้สึกยังไง อย่างพวกแกก็แค่พนักงาน ทำเป็นเรียกตัวเองว่า Make up artist แค่ได้มีโอกาสอยู่กับเครื่องสำอางค์ทุกวัน ใช้บ่อยๆ มีการฝึกอบรม ควายที่ไหนก็ทำเป็น ยังมาสะเออะไปดูถูกคนอื่น โดนซะมั่งเป็นไงล่ะ
ตอนนี้พนักงานคงโกรธ ช่วยไม่ได้ อยากดูถูกเราก่อน อย่างน้อยเราก็จ่ายเงินซื้อของ
เรา: มาขอแต่งหน้าเพราะอยากทดลองสินค้า ก่อนจะจ่ายเงิน แล้วก็ไม่ได้แต่งเดี๋ยวนี้ เคยถามบ้างมั้ย ปฎิเสธก่อนอย่างเดียว ถ้าจะบอกว่านัดลูกค้าอื่นไว้ หางตาที่จะเช็คตางรางนัดยังไม่มีเลย ใช้สมองที่มีอยู่น้อยนิดให้ทำงานบ้าง
พนงที่ 2: ว่างกี่โมงคะ ?
เรา: ประมาณบ่ายสองครึ่ง
พนงที่ 2: บ่ายสองสิบห้าได้มั้ยคะ?
เรา: ได้ เดี๋ยวชั้นกลับมา จะเอาแบบแต่งหน้า มาให้ดูเป็น Reference แล้วถ้าแต่งไม่ได้ไกล้เคียง ชั้นไม่ซื้อของ เป็นเพราะตัวแกเองนะ ทีหลังอย่ามาสะเออะ เรียกตัวเองว่า Make up artist อีก ก็แค่พนง ขาย
หลังจากออกจากเคาท์เตอร์ โมโหมาก โทรไปหาเพื่อน บอกไปแต่งหน้ากันที่ พาราไดส์เถอะ เพื่อนไม่ไป เพราะโรงแรมที่จะไปงานแต่งเพื่อนๆ อยู่ในเมือง เดี๋ยวรถติด ไม่ทัน เราอยากให้เพื่อนมีความสุขบ้าง เพราะเพิ่งอกหัก แล้วต้องไปงานแต่งงานอีก มันสะเทือนใจนะ + พรุ่งนี้วันเกิด ก็เลยอยากให้ของวัญเป็นเครื่องสำอางค์ อยากให้รักตัวเอง ดูแลตัวเอง ทำตัวเองให้สวย เพื่อนเราไม่ค่อยแต่งตัว ดังนั้นเวลาซื้อ ต้องซื้อทั้งชุด ตั้งแต่แป้ง บลัช คิ้ว มาสคาร่า อาย ชาร์โดว์ ลิป ไฮไลท์ ฯลฯ เลือกที่เคาท์เตอร์แมคเพราะ
1. เวลาเราแต่งหน้า เพื่อนชอบถามว่าใช้ของอะไร เราใช้ลิปแมค
2. คุณเปิ้ล Make up artist ของแมค ที่เราเคยมาใช้บริการด้วย คนนี้ฝีมือเข้าขั้น คิดว่าจะต้องช่วยเพื่อนเราเลือกเครื่องสำอางและสอนวิธีใช้ได้เป็นอย่างดี แล้วคุณเปิ้ลก็เป็นคนน่ารัก เราอยากให้เพื่อนเรารู้จักคุณเปิ้ล เผื่อว่าวันหลังเพื่อนอยากแต่งหน้า จะแวะมาหาคุณเปิ้ล จะได้คุยกันแบ่งปันความมั่นใจกันบ้าง เพราะออฟฟิศไม่ไกลจากที่นี่มาก แต่ไม่ดทรมาถามว่าคุณเปิ้ลจะอยู่มั้ย เพราะปกติ เวลามาก็เจอ ถึงไม่เจอ พนักงานก็น่าจะให้บริการ หากได้รับการอบรมมาบ้าง เหมือนๆกัน แต่นี่ แสดงอาการดูถูกลูกค้า ทั้งคำพูดและสายตา ไม่ทำงานอีก มันเกินไป เราไปกินข้าว เพื่อนเรามาถึง เราไม่อยากไปเคาท์เตอร์มันแล้ว แต่เราต้องอดทน เพราะนัดเพื่อนไว้ จริงๆ เราแต่งหน้าให้เพื่อนเราได้ แต่เราอยากซื้อของให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนเราด้วย
อดทน อดทน อดทน เราท่องไว้ อยากถนอมความรู้สึกเพื่อนเรา
เพื่อนเรารอที่เคาท์เตอร์ พนง 1 กำลังคลีนหน้าอยู่ เรามาถึง รีบวางมือ วิ่งไปต่อสายให้เราคุยกับคุณ ช เราเข้าใจว่าเป็นหัวหน้าพนง ขาย
เนื้อเรื่อง จะให้ พนง แต่งหน้าให้ตามแบบเป็นไปไม่ได้ เพราะ บลา บลา บลา และสิ่งที่ยิ่งทำให้เราโกรธคือ
"ลูกค้าที่เข้าเคาท์เตอร์ 70% มาขอแต่งหน้าแบบ full make make up แล้วก็ซื้อลิปแค่แท่งเดียว พนง เสียเวลาเป็นชั่วโมง แถมบริษัท เสียผลิตภัณฑ์อีกเท่าไหร่ ไม่ใช่คนเดียวนะคะ เพราะแมคมีลูกค้าเยอะมาก คุณลองคิดดูสิ"
คุณแชมป์บอกเราว่า พนงได้ส่งคลิปเสียงของเราไปให้ เราถามว่ารู้มั้ย ทำไมเราพูดแบบนี้ เพราะพนงของ คุณบอกเราให้ไปแต่งหน้าที่เคาท์เตอร์อื่นนะสิ ทั้งที่เราตั้งใจมาซื้อของ ยังไม่รวมถึงกิริยามารยาทที่ดูถูกลูกค้าอีก ไม่ใช่พึ่งซื้อของคุณครั้งแรก แต่ที่ไม่เคยมีปัญหาสงสัยดวงยังไม่ตก เราบอกคุณแชมป์ว่า เราใช้บริการแมค พาราไดซ์ประจำ ให้ลองดูสาขาพาราไดส์เป็นตัวอย่างสิ
ยังไม่พอคุณแชมป์ยังมาใช้เราอีก "วันหลัง คุณ ... ไปใช้บริการที่เคาท์เตอร์เจอ พนง บริการไม่ดี โทรมาบอก แชมป์ด้วยนะคะ" เราไม่ได้เป็นผู้ช่วย หรือพนง ของคุณนะ นี่มันงานของคุณ บริษัทฯ นี้จ้างคุณให้มาทำงาน คุณมาใช้ลูกค้าต่อเนี่ยมันสมควรเหรอ (บอกไว้ เผื่อคุณแชมป์จะมีเวลาเข้าว่างเข้ามาอ่าน) ในเมื่อหัวหน้าคิดแบบนี้ ลูกน้องจะเป็นแบบนี้ ก็ไม่แปลก เราเข้าใจเลยว่า ทำไมถึงมีกระทู้บ่นเกี่ยวกับ พนง แมคเยอะ และคุณแชมป์ก็วางสายไป เสียเวลาคุยด้วยตั้งนาน คำขอโทษสักคำจากปากคุณแชมป์ ยังไม่มี ยังจะมีหน้ามาใช้งานเราอีก ทั้งที่เป็นหน้าที่ตัวเอง
คุณอี่จะทราบบ้างมั้ยคะ ว่าพนักงานของคุณทำแบบนี้ ไม่คุ้มเงินที่คุณจ้างเลยจริงๆๆๆ
เราเดินกลับมาหาเพื่อนที่คุณ ก พนงแมค แต่งหน้าอยู่ เพื่อนเราบอกมีไรวะ ทำไมคุยนานจัง เรื่องที่เกิดขึ้น เราไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง เพราะมันไม่น่าจะใช่เรื่อง ที่จะทำให้เพื่อนเราไม่สบายใจเพิ่ม
เรา: แต่งหน้านานแค่ไหนคะ ?
คุณเก่ง พนง แมค: 10 นาที
เราอารมณ์ขึ้นทันที แต่งหน้าแบบ full make up ใช้เวลา ประมาณชั่วโมง ครึ่ง ถึงสองชั่วโมง 10 นาที แค่ล้างหน้า
เรา: งั้นไม่ต้องแต่งแล้วแก ไปแต่งที่พาราไดส์เถอะ
เพื่อน: ทำไม ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวรถติด กลับมาไม่ทัน
เรา: มีร้านผมไง ทำดีนะแก ช้านพาไป จะได้เปลี่ยนชุดบ้านชั้น
เพื่อน: ไม่เอาอ่ะ นี่แหละ เดี่๋ยวชั้นหาร้านผมแถวนี้ แกรีบไปแต่งหน้าแกไป
ในใจเราโกรธพวกพนงของแมคมากๆๆๆ ก่อนที่เราจะมาที่นี่ มาด้วยความรู้สึกอีกแบบแต่จบด้วยแบบนี้ แต่เราทนเพราะเพื่อนเรา เราไม่มีทางที่จะยอมให้แมคที่นี่ แต่งหน้าให้อีกแน่นอน จะไปเคาท์เตอร์นาร์ส มีแต่ พนง ผู้ชาย มายืนรอเพื่อนที่เดิม "แกเป็นไร" เพื่อนเราถาม ไม่มีไร ชั้นไม่พอใจพนง นาร์ส (เราแถ) เพราะเพื่อนเรานั่งแต่งหน้าที่แมคอยู่ "งั้นแกก็อย่าไปเสียเงินให้มันสิ" เออๆ เราก็ว่างั้น เราไม่แต่งหน้ากับแมค แต่เราแกล้งถามคุณเก่ง "ถ้าจะแต่งต้องรอนานมั้ยคะ"
"ไม่ว่างค่ะ" คุณเก่งตอบ
สรุปเหตุการณ์นี้ : เพื่อนเราแต่งหน้ากับคุณเก่ง บีเอ แมค เสียเองซื้อกลอสแมค 1 แท่ง เกือบพัน ไม่มีใบเสร็จ เราไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมด ให้เพื่อนเราฟัง วันนี้เราจะเล่าและไปยืมไปเสร็จกับกลอสถ่ายรูปให้ดูค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
แก้ไขพิมผิดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 54 09:36:53