 |
เพื่อน ๆ เคยมั้ย เวลาซื้อเครื่องสำอางมา พอลองใช้แล้วรู้สึกว่าดับ!
|
 |
เพื่อน ๆ เคยมั้ย เวลาซื้อเครื่องสำอางมา พอลองใช้แล้วรู้สึกว่าดับ! หรือว่าซื้อมาผิดสี คนนู้นทาแล้วสวย แต่ทำไมเราทาแล้วไม่ขึ้นเลย...เมื่อก่อนเราก็เป็นอย่างนั้นค่ะ
เราค่อนข้างสับสนทุกครั้งเวลาเราไปซื้อรองพื้นตามเคาเตอร์เครื่องสำอาง เพราะหลายๆ ครั้ง BA จะเลือกให้ผิดสี ไม่ดำไป ก็ขาวไป ...ทำให้เราต้องไปซื้อยี่ห้อเดิม แต่สีใหม่ ซึ่งเปลืองเงินโดยใช่เหตุ >*< หรือจะไปซื้อบลัชออนสักอัน หรือลิปสติกแท่งใหม่ซักแท่ง ก็มีสีให้เลือกเยอะเกินไปจนมึน ไม่รู้จะเลือกสีไหนดีด้วยความหงุดหงิดนี้เอง ทำให้เราเริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับสีรองพื้นอย่างจริงจัง และจะหาสีรองพื้นที่เข้ากับผิวด้วยตัวเองทุกครั้ง โดยดูรีวิวเอาจากเว็บต่างประเทศเพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้น ก่อนจะไปซื้อที่เคาเตอร์
ทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างนึงในการเลือกสีรองพื้นให้ถูกต้องนั้น คือต้องรู้อันเดอร์โทนสีผิวตัวเองให้ได้ซะก่อนนะจ๊ะ! ซึ่งก็จะมี Neutral, Pink, Yellow, Beige, Olive ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราอันเดอร์โทนผิวสีอะไร... ทุกเคาเตอร์ที่เมืองไทยจะบอกว่าเราผิวขาวเหลือง ยกเว้น Bobbi Brown (Central Chidlom) บอกว่าเราผิวโทนชมพู แต่ๆ ทุกเคาเตอร์ที่ประเทศญี่ปุ่นกลับบอกกลับกันว่า เรามีผิวโทนขาวชมพู และตอนที่เราไปซื้อรองพื้น Lunasol ที่เคาเตอร์คาเนโบ้ญี่ปุ่น เค้าเคยวัดสีผิวเราด้วยเครื่องเช็คสีผิว ปรากฏว่าเรามีอันเดอร์โทนผิวชมพูจริงๆ! อยู่ในกลุ่ม light pink แต่ก็ไม่ได้ขาวเวอร์ หรือชมพูจ๋า เค้าเลยเลือก Lunasol OC-02 ให้เรา ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เราหันมาสนใจเรื่องวิธีการดูอันเดอร์โทนสีผิวมากขึ้น เพราะมันจะช่วยให้เลือกสีเครื่องสำอางได้ง่ายขึ้นมาก
และเราเป็นคนชอบเค้าไปดูเว็บรีวิวเครื่องสำอางของต่างประเทศ เค้าจะอธิบายละเอียดมาก เราเห็นคำว่า blue-based กับ orange-based และ silver sparkle กับ gold sparkle ในสีลิปสติกบ่อยมาก อย่างเช่นลิปสคติกสีแดง ก็จะมีแยกเป็น Blurish red or Orange red หรือ ลิปสติกสีชมพูก็ Blue Pink or Orange Pink ซึ่งพออ่านบ่อยๆ ทำให้เรารู้ว่า blue-based and silver sparkle นั้นเหมาะกับคนที่มีสีผิว cool tone ซึ่งก็คือคนที่มีอันเดอร์โทนสีผิว neutral, pink, beige ส่วน orange-based and gold sparkle ก็จะเหมาะกับคนที่มีสีผิว warm tone หรือ อันเดอร์โทน yellow กับ olive
อย่างส่วนตัวเราเองนั้น (ก่อนที่จะรู้อันเดอร์โทนสีผิวตัวเอง) เราเป็นคนแต่งตัวสีชมพูได้ขึ้นมาก! ใช้เมคอัพสีชมพูจะเกิดมาก ใช้อายชาโดว์ที่มีประกายสีเงินได้สวยกว่าประกายสีทอง บลัชออนสีชมพูสวยกว่าสีส้ม ลิปสติกก็ต้องเป็นโทน Blue-based lipstick :- Blue Pink, Blueish Red, Pink Mauve etc. และใส่เครื่องประดับเงินได้เจิดกว่าทอง ตรงข้อมือมีเส้นเลือดฝอยสีม่วง ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของคนที่มีอันเดอร์โทนผิวชมพูตามที่เค้าบอกกันมาทุกข้อเลย แต่...ทำไมมองด้วยตาเปล่าแล้ว เราถึงดูเหลืองล่ะ Bobbi Brown, Kanebo, Three, Giogior Armani, Ipsa, YSL และ Chanel -all in Japan- (ชั้นไปมากี่เคาเตอร์เนี่ย!) บอกเราว่า ตรงหน้ากับแขนนั้นเป็นส่วนที่โดนแดดมาก ผิวจะไหม้เล็กน้อย ทำให้ดูเหลืองๆ แต่เค้าสังเกตที่หน้าอก กับ ท้องแขนของเราซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ค่อยได้โดนแดดแล้ว จะขาวอมชมพู และก็มองเห็นเส้นเลือดม่วงๆ ใต้ผิวด้วย นอกจากนี้ เวลาเอาแปรงปัดๆ บนหน้าเรา หน้าเราจะแดงง่ายมาก ซึ่งเป็นลักษณะของคนที่มีผิวโทนชมพู
พอเรารู้อันเดอร์โทนผิวที่ถูกต้องของตัวเองได้แล้ว หลังจากนั้นก็ทำให้เราเลือกสีเครื่องสำอางได้ง่ายมากกกกก ไม่เคยซื้อมาแล้วผิดหวังหรือเสียใจเลย ถ้าเราซื้อสีที่เข้ากับโทนสีผิวเราแล้ว ทายังไงก็สวยค่ะ 
แต่อนิจจา BA เก่งๆ เมืองไทยมีน้อยค่ะ - -'' น้อยคนที่จะมีความรู้เรื่องนี้ เราค่อนข้างจำเบอร์รองพื้นสีบลัชและลิปสติกได้เกือบทุกยี่ห้อ ว่าเบอร์ไหนสีไหนมีเบสสีอะไร เและเราเคยไปทดสอบถามหลายเคาเตอร์ BA หลายคนตอบมั่วมาก ไม่ตรงเลย - -'' อย่างลิปสติกก็เหมือนกัน เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามี blue-based กับ orange-based หรือพอรู้บ้าง แต่ก็ตอบผิด แง้ว มั่วสุดๆ สีไหนขายดีก็แนะนำให้ลูกค้า แต่ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นถ้าเราบอกเค้าว่า ช่วยแนะนำลิปสติกสีชมพูที่เป็น blue-based pink ให้หน่อย เค้าจะเลือกให้เราได้เลย หรือลิปอันไหนที่มีสี orange-based red เค้าก็จะรู้
แต่ละคนอันเดอร์โทนสีผิวไม่เหมือนกัน ก็จะทาสีแต่ละสีออกมาได้สวยไม่เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่าไปไว้ใจบีเอให้มากนักนะคะ สำรวจสีผิวด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ
ปล. เราเองไม่ได้เป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสีสันแต่อย่างใด แค่ผู้หญิงคนนึงที่รักเครื่องสำอางและการแต่งหน้า ทุกอย่างที่เรารู้มาได้มาจากการอ่านสะสมจากรีวิวของเว็บต่างประเทศ และเป็นความรู้ที่ได้มาจาก BA และ Make Up Artist ชาวญี่ปุ่น หลายๆท่าน หากผิดพลาดประการใด ได้โปรดช่วยแก้ไขด้วย เรายินดีที่จะฟังเสียงของทุกๆคนค่ะ เพราะเราเองก็อยากจะรู้ให้มากขึ้นอีก และจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อเครื่องสำอางครั้งต่อไปของเพื่อน ๆ นะคะ และไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ใครค่ะ 
จากคุณ |
:
momomiko
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ก.ย. 54 16:23:43
|
|
|
|  |