Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"แนวทางสู้ตายกับพวก "จับลิขสิทธิ์" ... จากพ่อค้าโดเรมอนใจเพชร! ติดต่อทีมงาน

เรื่องมีอยู่ว่า.....

เมื่อ วันที่ 2 มิถุนายน 2554 เวลา 15.40 น. มีชายฉกรรจ์เข้ามาซื้อพรมเช็คเท้ารูปดอกไม้ราคา 69 บาทจากแม่ค้าที่กางแผงขายข้างทาง หลังจากนั้น ชายผู้นี้ก็กลับมาอีก บอกว่าแฟนไม่อยากได้ ขอเปลี่ยน พร้อม ๆ กับมีรถขับมาจอดและมีคนลงมาจากรถอีก 3 คนเป็นชาย 2 หญิงหนึ่ง พร้อมกับตำรวจหนึ่งคน ชายคนหนึ่งมีบัตรคล้าย ๆ บัตรบริษัทแขวนคอแล้วมาบอกว่า คุณมีโดเรมอนขาย เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์

จากนั้น......

ตำรวจ บอกให้เปิดรถ (เป็นกะบะมีแคปของฟอร์ด) แต่แม่ค้าไม่ยอมเปิด ตำรวจจึงเปิดรถออกพร้อมกับรื้อค้นพรมเช็คเท้าคิตตี้จำนวนสิบกว่าตัว พร้อมกับหญิงที่มาด้วยเอาถุงดำมารอรับจากตำรวจ

ส่วนชายสามคนที่เหลือรีบค้นด้านหลังรถ และได้พรมเช็คเท้ารูปโดเรมอนตัวใหญ่ 1 ตัว และตัวเล็ก 2 ตัว

แม่ ค้าบอกว่า คุณบอกว่าฉันละเมิดลิขสิทธิ์ แล้วคุณมาหมายค้นและหมายจับหรือเปล่า แต่ชายผู้นั้นบอกว่าไม่จำเป็น เพราะคุณมีพรมเช็ดเท้ารูปคิตตี้ที่เป็นเครื่องหมายการค้าที่สามารถจับกุมได้ ทันทีที่พบเห็น ดังนั้น คุณต้องไปโรงพัก

แม่ค้าบอกว่า ฉันจะไปโรงพักทำไม

ตำรวจบอกว่า คุณมีคิตตี้ที่เป็นเครื่องหมายการค้าที่สามารถจับเมื่อไรก็ได้ที่พบเห็น

แม่ ค้าจึงบอกว่า โรงงานที่ผลิตพรมเช็ดเท้าเป็นกลุ่มแม่บ้าน และเคยถูกจับขึ้นศาล และศาลยกฟ้องแล้ว จึงสามารถนำมาขายได้ จากนั้นแม่ค้าจึงยื่นโทรศัพท์ของเจ้าของโรงงานให้คุย แต่มันคุยกับเจ้าของโรงงานอย่างเดียวว่า ไม่ได้ เป็นลิขสิทธิ์

จาก นั้น ชายสามหญิงหนึ่งที่บอกว่ามาจากบริษัทแอนนิเมชั่น เจ้าของลิขสิทธิ์โดเรมอนกล่าวว่า "อย่างไงก็ต้องไปโรงพัก เพราะตำรวจมาจับคุณแล้ว"

แม่ค้าจึงกล่าวว่า "จะไปทำไม เอาหมายค้นหมายจับมาสิ จึงจะไปได้ อยู่ ๆ จะมาจับไปโรงพักได้อย่างไร"

ตำรวจที่ยืนอยู่ตรงนั้นจึงตะคอกใส่ว่า "คุณขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ผมต้องจับคุณ"

ตำรวจ จึงจับสองมือของแม่ค้าอย่างแน่นหนา (ตำรวจตัวใหญ่ และแม่ค้าตัวเล็ก) และชายหญิงทั้งสี่ก็มาล้อมแม่ค้า พร้อมกับใช้เข่าดันให้ขึ้นรถตัวเอง โดยมีผู้หญิงที่มาจากบริษัทร้องตะโกนว่า

"จับมันไปเลย ๆ มันทำความผิดแล้วยังไม่รู้ตัวอีก"

แล้วตำรวจจึงบอกว่า "ถ้าคุณขัดขืนผมจะใส่กุญแจมือ"

แม่ ค้าจึงตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ที่ขายของอยู่ระแวกนั้นให้มาช่วย พ่อค้าจึงรีบวิ่งมาสองคน อีกคนหนึ่งยืนดูอยู่ที่แผง แต่ตอนนั้นแม่ค้าถูกผลักดันและกลุ้มรุมขึ้นรถไปแล้ว แม้จะขัดขืน แต่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะสามารถสู้แรงตำรวจและพวกบริษัททั้งสี่ได้อย่างไร เธอจึงเอาขาเกี่ยวกับรถไว้ เพื่อไม่ให้ปิดประตูได้

จากนั้น แม่ค้าจึงต่อรองให้เพื่อน ๆ เดินทางไปด้วย แต่ตำรวจอนุญาตให้ไปได้เพียงคนเดียว พ่อค้าคนหนึ่งจึงไปด้วย แต่ในขณะที่อยู่ที่รถ ผู้หญิงก็นั่งกำกับไปด้วย


ที่โรงพักจังหวัดสมุทรปราการ........

ตำรวจ นายนั้นบอกว่า "ผมไม่เอาเรื่องคุณหรอกเรื่องคิตตี้ ผมสงสารแม่ค้า คุณขึ้นไปโรงพักโดยดีก็แล้วกัน" จากนั้นตำรวจนายนั้นก็เดินจากไป

ส่วนชายหญิงสี่คนจากบริษัทก็มาล้อมไว้ และพาไปนั่งในโรงพัก จากนั้นมันก็ถามว่า

"คดีอย่างนี้สามารถยอมความได้ คุณจะยอมความไหม" แต่แม่ค้าก็ไม่ยอมความ และยืนยันว่าไม่ผิด และบอกว่า ไปเจอกันที่ศาลเลย

ผู้หญิงจึงสวนขึ้นไปว่า

"เป็นแค่แม่ค้าธรรมดา จะมีความรู้อะไร จับมันเข้าห้องขังไปเลย ไม่ต้องยอมความ"

แม่ค้าจึงยื้อเวลาไว้เพื่อรอสามี โดยบอกว่า "เดี๋ยวขอคิดดูก่อน"

"คุณ ต้องการไม่ให้เรื่องจบใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นคุณโดนแน่ ศาลก็ศาล ผมไม่ได้จับเพื่อต้องการเงินนะ คุณทำผิดผมก็จับ" ชายคนหนึ่งในพวกนั้นจึงกล่าวขึ้น เพื่อหวังจะทำให้สถานการณ์คลี่คลาย

"ถ้า อย่างนั้นฉันขอให้แฟนฉันมาก่อน" แม่ค้าต่อรองอีก มันจึงขอชื่อและบัตรประชาชนแม่ค้าเพื่อมากรอกข้อมูลในใบของมัน แต่แม่ค้าไม่ให้ มันจึงรออยู่สักพัก มันจึงเอากระดาษและปากกามา พร้อมกับกล่าวว่า

"เขียนเถอะ มันไม่มีผลอะำไรหรอก แค่ชื่อและนามสกุล ถ้าคุณโดนจับเข้าคุก เขาไม่มีชื่อ แล้วเขาจะมาประกันตัวใคร ผมขออีกครั้ง ถ้าคุณไม่เขียน ผมจะจับมือเขียนนะ"

แม่ค้าจึงยอมเขียน


หลังจากนั้น.....พวกมันจึงนำไปกรอกแบบฟอร์ม แล้วไปยื่นเรื่องให้ร้อยเวรที่ชื่อ ร.ต.ท. วุฒิพงศ์  หอมดี


เมื่อ ยื่นเรื่องให้ร้อยเวรเสร็จ พวกมันก็พาแม่ค้าขึ้นไปชั้นสองเพื่อขึ้นไปหาร้อยเวรที่หน้าห้องขังชั้นสอง ของโรงพัก พวกลิขสิทธ์ก็บอกให้แม่ค้านั่งรอที่หน้าห้องขัง แต่แม่ค้าไม่ยอมและขอร้อยเวรไปยืนหน้าระเบียง

"คุณอย่ามายืนตรงนี้สิ ไปยืนหน้าห้องขังสิ" ชายคนหนึ่งที่มีบัตร(มีบัตรคนเดียว) กล่าวขึ้น

"ไม่นั่ง ข้างในบรรยากาศไม่ดี" แม่ค้ากล่าวขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า "ขอนั่งข้างนอกดีกว่า เพราะเดี๋ยวแฟนก็มาแล้ว"

มันจึงผลัดกันมานั่งเฝ้่า มีคนหนึ่งกล่าวว่า "แล้วแฟนคุณมาหรือยัง ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นนะ"

"ถ้าคุณจะยอมความก็ยอมได้ เอาเหมือนเดิมนั่นแหละ"

\\แม่ค้าเคยโดนจับครั้งหนึ่ง และยอมความกับมัน มันจะเอาสามหมื่น จึงต่อรองเหลือหมื่นห้า เมื่อปลายปีที่แล้ว\\

แม่ค้าจึงบอกให้รอแแฟนก่อนเพื่อปรึกษา พวกมันจึงให้ลงมาชั้นแรก บอกว่า ร้อยเวรเรียก

เมื่อ ลงมาข้างล่าง ร้อยเวรก็แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า คุณละเมิดลิขสิทธิ์โดเรมอน จะต้องถูำกดำเนินคดีตามกฏหมาย แต่ถ้าไม่อยากให้ดำเนินคดีก็ต้องยอมออมชอมกับเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่ถ้าไม่ยอมมาออมชอมก็ต้องหาเงินมาประกันตัวห้าหมื่น


สักครู่.....

สามี ของแม่ค้าก็มาถึง และโวยวายเรื่องที่พวกมันจับมั่วโดยไม่มีหมายค้นหมายเรียก พร้อมกับยึดคิตตี้ที่ไม่ใช่สิทธิ์ของพวกมันมาด้วย โดยบอกว่าจะแจ้งกลับ และลักทรัพย์ พวกมันจึงเย้ยหยันขึ้นว่า

"ตำรวจเอาคิตตี้มา อยากแจ้งจับก็ไปแจ้งจับตำรวจสิ" แล้วพวกมันก็ลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้น ทั้ง ๆ ที่มีทั้งตำรวจ และผู้ที่มาติดต่อราชการอยู่กันมากหน้าหลายตา

แม้ ว่าสามีแม่ค้าจะขอดูบัตรประจำตัว และใบลิขสิทธิ์ของพวกมัน พวกมันกลับบอกว่า ให้แม่ค้าดูแล้ว เมื่อมาขอร้อยเวร ร้อยเวรก็บอกว่า ให้เฉพาะตัวต้องหาดู

เมื่อ สามีแม่ค้าเห็นดังนั้นจึงรู้ว่าโดนรุมแล้ว จึงบอกกับร้อยเวรเพื่อแจ้งกลับในเชิงขอคำแนะนำ ร้อยเวรจึงบอกว่า ให้ศาลตัดสินก่อนค่อยแจ้งกลับ สามีแม่ค้าจึงพูดคุยเรื่องประกันตัว ร้อยเวรบอกต้องห้าหมื่น และถ้าเป็นตำรวจก็ต้องระดับร้อยตรีขึ้นไป สามีแม่ค้าจึงขึ้นไปหาผู้กำกับแต่ท่านเลิกงานแล้ว จึงไปหารองผู้กำกับฝ่ายสอบสวน

รองผู้กำกับบอก กรณีลิขสิทธิ์มันแรง แต่เมื่อสามีแม่ค้าขอร้อง ก็บอกร้อยเวรทางโทรศัพท์ให้ลดให้หน่อย โดยบอกว่า ทางเขาเป็นชาวบ้านเดือดร้อน


แต่ทว่า.....

เมื่อสามีแม่ค้ากลับลงมาถึงหน้าห้องขัง กลับมีเสียงเรียกอยู่ในห้องขัง และพบว่า แม่ค้าถูกจับขังคุกแล้ว

สามี จึงรีบลงมาหาร้อยเวรเพื่อต่อว่า ทำไมถึงจับขัง เพราะอยู่ในช่วงเจรจาค่าประกัน ร้อยเวรบอกว่า เพราะเมื่อมีคนแจ้งจับก็ต้องจับตามหน้าที่ เมื่อจับและมีหมายคดีก็ต้องขัง ถ้าไม่ขังก็ผิดกฏ 157

สามีจึงบอกว่า ถ้าผมแจ้งความจับพวกมัน คุณจะจับพวกมันขังไหม พวกลิขสิทธิ์คนหนึ่งที่ยืนคุมเชิงอยู่จึงบอกว่า ไปแจ้งจับเลย อย่าแจ้งก็แจ้งไป เพราะคนที่จับแฟนคุณเป็นตำรวจ

สามี ผู้นี้ยังไม่แน่ใจในข้อกฏหมายจึงนิ่งเฉย เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำ และรู้ตัวว่า ในช่วงนี้ยังเป็นรองพวกมันอยู่มาก จึงขอคุยกับร้อยเวรส่วนตัวเพื่อขอประกันตัว โดยบอกว่า ไม่มีเงิน ร้อยเวรจึงบอกว่า ถ้ามีสองหมื่นมาก็อาจจะขอร้องทางผู้ใหญ่ให้

สามี จึงพยายามเก็บเงินที่ขายของได้ และเงินในบัญชีได้มาสองหมื่น แต่ระหว่างที่ไปหาร้อยเวรก็เห็นกลุ่มพวกมันกำลังคุยกับร้อยเวรอยู่ เมื่อสามีไปถีงพวกมันก็เดินเลี่ยงหนี

"คดีนี้มันขั้นต่ำที่ห้าหมื่น ผมเ้ป็นคนกลางพยายามช่วย ถ้าหากออมชอมกับเขาได้ก็จะดี" ร้อยเวรพยายามชักจูงให้ออมชอม สามีแม่ค้าบอกไม่ยอมออมชอม ร้อยเวรจึงกล่าวว่า

"งั้นเรื่องเงินค่าประกัน ผมพยายามช่วยเต็มที่ พบกันครึ่งทางก็แล้วกัน เหลือสามหมื่น" แม้สามีแม่ค้าจะพยายามขอร้องก็ไม่สำเร็จ จึงโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากญาติ ๆ เพื่อขอยืนเงิน จึงได้มาเพิ่มหนึ่งหมื่น

เมื่อกลับมา ก็พบเห็นอย่างเดิมในห้องทำงานของพนักงานสอบสวนคือ พวกนั้นอยู่กันเต็ม นั่งโต๊ะราวกับเป็นเจ้าพนักงาน และมีคนหนึ่งเดินเลี่ยงออกมาจากโต๊ะร้อยเวร

"มัน มีคิตตีที่เป็นเครื่องหมายการค้าที่สามารถจับได้ทันที คุณบอกว่าจะแจ้งจับเรื่องที่ทางเราเอาคิตตี้มา ทางเราไม่มีทางเลี่ยงจึงส่งเืรื่องไป ดังนั้น ในตอนนี้จึงมีสองคดี เงินประกันสามหมื่นจึงไม่พอ" ร้อยเวรมันบอก สามีแม่ค้าจึงพยายามต่อรอง คราวนี้ร้อยเวรเลี่ยงไม่ได้จึงบอกว่า สามหมื่นห้าก็แล้วกัน นี่พยายามช่วยเต็มที่แล้วนะ

ตอนนี้ สามีแม่ค้าจึงมาปรึกษากับแม่ค้า เพื่อหาทางออก เพราะหมดหนทางแล้ว เนื่องจากหาเงินไม่ทัน ทั้ง ๆ ที่ขอยืมจากญาติ ขอยืมจากพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน ก็ได้แค่สามหมื่น จึงคุยกันว่าจะออมชอม


เมื่อสามีแม่ค้าเรียกพวกลิขสิทธิ์มาเพื่อ ต่อรอง พวกมันก็บอกว่า จะให้เท่าไร สามีแม่ค้าบอกว่า เท่าเดิม มันบอกว่า พวกคุณทั้งด่าทั้งขู่จะฟ้องกลับ ต้องสามหมื่น จากนั้นพวกมันสองคนก็มารุมด่าว่าในลักษณะสั่งสอน พอดีกับตอนนั้นมีคนที่ไปเยี่ยมผู้ต้องขังมาบอกว่า แฟนคุณเรียก

เท่านั้นเอง สามีแม่ค้าก็ลุกพรวดพราดไปโดยไม่หันไปมองหน้าพวกมันแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้พวกมันนิ่งอึ้ง (พ่อค้าที่ไปด้วยบอกเล่าทีหลัง)

แม่ ค้าบอกว่า ผู้หญิงที่มาด้วยกันเดินมาเย้ยว่า ออมชอมแต่แรกก็จบไปแล้ว เธอจึงไม่ยอมออมชอม สามีแม่ค้าจึงถามว่า แล้วเธอจะทนอยู่ในห้องขังได้ไหม แม่ค้าบอกว่า ได้ !!!

เท่านั้นเอง เหมือนได้ไฟเขียวให้เดินหน้า สามีก็โทรขอยืมเงินจากโรงงานมาห้าพันเพื่อทำเรื่องประกันตัวก่อน เพราะแม้ว่าแม่ค้าจะทนอยู่ในห้องขังได้ แต่สามีบอกว่า "พี่ไม่ยอมให้เธออยู่ในห้องขังให้เสียเกียรติหรอก แต่ก็ต้องไม่ออมชอม"

ทันที ที่ได้เงินมาห้าพัน สามีก็นำมาให้กับร้อยเวร ซึ่งจำใจรับไว้ แต่ก็ยังพูดเรื่องออมชอมเรื่้อย ๆ แต่สามียืนยันว่าจะประกันตัวไปก่อน ค่อยพูดเรื่องนี้ทีหลัง (เริ่มฉลาด ให้ความหวังกับพวกมันก่อน ให้มันตายใจเพื่อประำกันตัวให้ได้ก่อน) ร้อยเวรจึงให้ประกันตัว แต่ก็ต้องรอจนถึงสามทุ่มถึงได้ทำเรื่อง และเข้าห้องสอบสวน

ในห้องสอบสวน......

หลักฐานคือ พรมเช็ดเท้ารูปโดเรมอนชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้น ชิ้นเล็กหนึ่งชิ้น ซึ่งแม่ค้าตีราคาให้ว่า 120 บาท

และแม่ค้าให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยบอกว่า ซื้อมาให้ลูกสาว


ร้อย เวรและคนสอบสวนก็ให้กลุ่มลิขสิทธิ์ทั้งสี่มาเขียนเป็นพยาน ในขณะที่แม่ค้าก็ถูกสอบปากคำ ซึ่งกว่าจะเสร็จก็เกือบ ๆ เที่ยงคืน และก่อนจาก ร้อยเวรก็กล่าวว่า "เป็นคนกลาง อยากให้เรื่องจบ ๆ ถ้าหากจะออมชอมจะช่วยตอรองให้เหลือหมื่นห้าให้"

แต่ทั้งสาีมีและแม่ค้าก็เบ่งรับเบ่งสู้ ร้อยเวรจึงให้เบอร์โทรศัพท์ไว้


ตอนนี้.......

กำลังหาทนาย และศึกษาข้อกฏหมายเพื่อฟ้องร้อง

1. ฟ้องตำรวจที่จับข้อหา   ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  บังคับข่มขืนใจ  กักขังหน่วงเหนี่ยว  และมีพฤติกรรมร่วมกับพวกเพื่อขู่เข็ญเพื่อเรียกเรียกร้องเอาทรัพย์สินโดยมิ ชอบด้วยกฏหมาย

2. ร้อยเวร ข้อหา 157  ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  บังคับข่มขืนใจ  กักขังหน่วงเหนี่ยว  และมีพฤติกรรมร่วมกับพวกเพื่อขู่เข็ญเพื่อเรียกเรียกร้องเอาทรัพย์สินโดยมิ ชอบด้วยกฏหมาย

3. กลุ่มลิขสิทธิ์ทั้งสี่คน  ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ลักทรัพย์ บังคับข่มขืนใจ และมีพฤติกรรมร่วมกับพวกเพื่อขู่เข็ญเพื่อเรียกเรียกร้องเอาทรัพย์สินโดยมิ ชอบด้วยกฏหมาย


ถ้าหากชนะคดีจะฟ้องทางแพ่งกับพวกลิขสิทธิ์ทั้งสี่ และหากเป็นไปได้จะฟ้องร้องถึงบริษัทต้นสังกัด


ผม มีความรู้น้อย จึงอยากจะขอคำแนะนำ และหากมีทนายดี ๆ ที่ไหนก็ช่วยแนะนำด้วย เพราะงานนี้ผมกับแฟนตั้งใจไว้ว่า จะทำเพื่อสังคม ให้สังคมสมุทรปราการที่พวกผมอาศัยค้าขายปราศจากตำรวจที่ไม่ดี และพวกลิขสิทธิ์ที่หากินบนหลังคน


ปล. ตอนนี้พยายามศึกษาข้อมูล และหาทนายอยู่ครับ แม้ร้อยเวรจะมีกำหนดนัดพบสามครั้งตามตารางประกันตัว แต่คุยกับแฟนแล้วว่า
1. จะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ กับตำรวจ
2. จะไม่แสดงอาการอาฆาตมาดร้ายกับใคร แม้พบเจอพวกมันก็จะนิ่งเฉย
3. คุยเฉย ๆ ยิ้ม ๆ ราวกับไม่รู้อะไรเลย แต่จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดในด้านการกฏหมายเอาผิดกับพวกมัน



http://ict.in.th/24320

ผมโพสจากความเห็นคุณ tamada สามีแม่ค้าในกระทู้ดังกล่าวนะครับ

แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 12:26:04

จากคุณ : Top27
เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 12:13:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com