|
สาว ๆ สวย ๆ ห้องนี้เตรียมตั้งรับกับสัตว์ประหลาดมีพิษไว้บ้างดีกว่าค่ะ
|
|
***ขอตั้งกระทู้ในนี้อีกห้องค่ะ เพราะเป็นห่วงสาว ๆ เหมือนกัน เดี๋ยวจะสวยสลบถ้าโดนสัตว์มีพิษกัดช่วงนี้มันชุกชุมนะคะ*** ช่วงนี้ฝนตกหนัก บางที่น้ำท่วม บ้านจขกท.เพิ่งเจอตะขาบเข้าบ้านโชคดีที่หลบทัน ก็ไล่มันออกไปแล้วเอาน้ำผสมผงซักฟอกราด ๆ ที่พื้นไม่ให้มันกลับเข้ามา จึงมาคิดว่าถ้าโดนกัดขึ้นมาจะทำยังไงดี เลยมาหาความรู้ไว้ นึกถึงเพื่อน ๆ เลยเอามาฝากค่ะ วัยรุ่นทั้งหลายต้องติดตัวไว้ เวลาเจอเหตุการณ์จริงเราต้องเป็นหลักให้คนในบ้านได้ (ถ้าไม่ใช่เราโดนกัดนะ 555)
- หลังจากถูกงูกัดให้หลีกให้พ้นตัวงูโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการถูกกัดซ้ำ ระยะที่ปลอดภัยประมาณระยะทางยาวเท่ากับตัวงู - อย่าตกใจกลัว ดิ้นรน โวยวาย เพราะจะทำให้อาการจากพิษของงูรุนแรงและรวดเร็วขึ้นไปอีก - ถอดเครื่องตกแต่งบริเวณที่ถูกกัด เช่น แหวน - หากมีเลือดออกให้ปล่อยให้เลือดออก เพื่อให้พิษออกให้มากที่สุด - พยายามให้บริเวณที่ถูกงูกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด - ล้างแผลด้วยนํ้าสะอาดห้ามกรีดแผล ใช้ไฟจี้ ใส่ยา พอกยา หรือพอกน้ำแข็งที่แผลเป็นอันขาดเพราะจะทำให้แผลหายช้าและติดเชื้อแบคทีเรีย - อย่าให้ผู้ป่วยดื่มสุรา หรือยาที่มีสุราเจือปนอยู่ - อย่าให้ยาระงับประสาท,ยาที่ออกฤทธิ์ต่อประสาท ยาแก้ปวดจำพวก morphine และยาแก้ปวดพวก aspirin เพราะจะไปเสริมฤทธิ์กับพิษงู hemotoxin - เคลื่อนไหวผู้ป่วยให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ควรจะให้นอนพักและรีบหามผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลไม่ควรนั่งเพราะจะทำให้ผู้ป่วยปวดศีรษะ หากผู้ป่วยอยู่นิ่งพิษจะดูดซึมช้า เนื่องจากพิษจะถูกดูดซึมผ่านทางระบบน้ำเหลือง - จัดตำแหน่งอวัยวะส่วนที่ถูกงูกัดอยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ - ให้นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลก่อนที่จะพบตัวงู หากไม่พบต้องจำสี ลักษณะพิเศษของง ถ้าเป็นไปได้ ญาติควรพยายามหางูตัวนั้นให้พบ โดยตีที่คอแล้วนำซากงูไปโรงพยาบาล - การรัดด้วย touniquet จะทำการรัดด้วยเชือก ไม่จำเป็นต้องเป็นเชือกกล้วย เข็มขัด สายยาง หรือผ้าผูกคอ วิธีการมีดังนี้
รัดให้หลวมๆโดยสามารถสอดนิ้วเข้าไปได้หนึ่งนิ้ว หากรัดแน่นเกินไปจะมีการดูดซึมพิษในหลอดเลือดดำใต้ผิวหนัง และเมื่อปล่อยสายรัดพิษจะกลับเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ตำแหน่งที่เหมาะสมคืออยู่เหนือแผล 2-4 นิ้ว ใช้เชือก หรือผ้า รัดเหนือแผลที่ถูกกัดแน่นพอควร ให้สอดนิ้วมือได้ 1 นิ้ว และทุก 15-20 นาที ควรคลายเชือกหรือสายรัดออกประมาณ 1 นาที จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล การรัดแน่นเกินไปอาจทําให้บวมและเนื้อตายมากขึ้น หากผู้ป่วยสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้ภายในครึ่งชั่วโมง อาจไม่จําเป็นต้องใช้เชือกหรือผ้ารัด ถ้าแผลบวมมากก็เลื่อนสายรัดขึ้นไปได้ หรือปลอดออก ถ้าถูกงูกัดมาแล้วเกิน 30 นาทีการใช้สายรัดได้ประโยชน์น้อยมาก
กรณีไม่เห็นสัตว์ที่กัด
กรณีเช่นนี้จะเป็นปัญหาในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา การพิจารณาคงต้องอาศัยประวัติช่วย เช่นถ้าถูกกัดบริเวณกิ่งไม้ให้สงสัยว่าจะเป็นงูเขียวหางไหม้ ถ้าถูกกัดตามทุ่งนาให้สงสัยว่าเป็นงูเห่า ถูกกัดบริเวณซอกไม้อาจเป็นงูหรือตะขาบ แมงป่อง ถ้าถูกกัดตามพงหญ้าโดยมากเป็นงูกัด นอกจากนั้นยังต้องดูแผลที่ถูกกัดด้วย ถ้าถูกงูพิษกัดจะต้องมีรอยเขี้ยว 1-2 แผลเสมอมีเลือดออกซึมๆ ถ้าดูแผลแล้วไม่พบรอยเขี้ยวแสดงว่าไม่ใช่งูพิษ
สัตว์มีพิษอีก ๒ ชนิด คือ ตะขาบและแมงป่อง ให้สังเกตบาดแผล ดังนี้
- ตะขาบ แผลมี ๒ รู คล้ายงูพิษกัด มีอาการปวดและบวมที่บริเวณแผล และเหนือแผลขึ้นไป แต่ไม่มีอาการตามระบบซึ่งไม่เหมือนภาวะงูมีพิษกัด - แมงป่อง แผลเป็นจุดเดียว ในบางครั้งอาจมีอาการปวดและบวมที่บริเวณแผลมากแต่ไม่มีอาการตามระบบ
การปฐมพยาบาลควรทำ ดังนี้
ทาแผลด้วยแอมโมเนีย หรือครีมเพร็ดนิโซโลน ถ้าปวด กินยาแก้ปวด หรืออาจใช้น้ำแข็งประคบ ถ้าปวดมาก พาไปหาหมอ
**ข้อมูลดี ๆ จากเวบหมอชาวบ้านค่ะ**
ดูแลตัวเองและคนข้าง ๆ ดี ๆ นะคะทุกคน
จากคุณ |
:
หมาแม่กลอง
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ต.ค. 54 15:56:46
|
|
|
| |