[แบ่งปัน] การซื้อดีลทำสวย
|
 |
ขอออกตัวก่อนค่ะ ข้อความที่แชร์เกิดจากประสบการณ์จริง และจากเพื่อนใกล้ชิดเท่านั้น ทุกร้านทุกดีลอาจไม่เหมือนกับที่นำมาเล่าก็ได้ แต่ก็หวังว่าจะเป็นข้อคิดที่ดี และทำให้ผู้ซื้อระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น เพื่อความสุขและความพอใจสูงสุดของตัวเอง ^^
ดีลทุกอย่างที่ผู้ซื้อต้องทำเหมือนกัน คือ ต้องอ่านเงื่อนไขอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะวันหมดเขต รูปแบบการให้บริการ เพราะทางเวบดีลจะไม่การันตีการให้บริการจากร้านได้เลย ถ้าหากการบริการไม่ตรงกับที่ปรากฏในคูปอง ผู้ซื้อก็ต้องร้องเรียนทางร้านเอง และที่สำคัญต้องปริ้นท์คูปอง จองล่วงหน้า และใช้บริการในวันเวลาที่ตรงกับที่ตกลงจองกับทางร้าน (อย่าไปสาย ก่อนเดินทางไปควรโทรยืนยันอีกที)
อย่างไรก็ตาม ทริคซิกแซกของการซื้อดีลเท่าที่เคยเจอก็มีค่ะ ขอแยกเป็นประเภทๆ ดังนี้
1. ดีลเกี่ยวกับทำหน้า ผู้ซื้อควรจะรู้ก่อนว่าบริการอะไรเหมาะกับหน้าเรา เช่น เลเซอร์บางชนิดก็จะเหมาะกับผิวหน้าบางชนิด เราต้องมีความรู้เรื่องนั้นๆ เพราะบางร้านจะมีหมอมาช่วยแนะนำ แต่บางร้านเค้าจะให้เราเลือกมาเลยว่าจะทำอะไร ถ้าเราเลือกแล้ว พอใจกับการให้บริการ และราคาก็ดีไป (ที่รู้สึกว่า ถูกว่ะ คุ้มว่ะกับแพคเกจนี้ก็ดีไป) แต่บางครั้ง ร้านเหล่านี้จะมีทริคค่ะ เช่น
โฆษณาจำนวนครั้งและราคาให้มีจำนวนครั้งที่ทำมาก และราคารวมแพง ทำให้ลดแล้วดูเยอะ หรือบางครั้งจะผสมแพคเกจเข้าไป เช่น แพคเกจ A เลเซอร์ XX จำนวน 7 ครั้ง แต่รายละเอียดข้างล่างเขียนว่า แพคเกจ A เลเซอร์ XX 2 ครั้ง มาสก์ 3 ครั้ง โฟโน 2 ครั้ง รวม 7 ครั้ง ---- อย่าเพิ่งวู่วามรีบกดซื้อนะคะ
คอร์สทำหน้าต้องเว้นระยะการทำแต่ละครั้ง บางที่อนุญาตให้ใช้บริการที่ยังเหลืออยู่หลังดีลหมดอายุได้แต่ต้องมาเปิดใช้ก่อนดีลหมดอายุ แต่บางที่ก็ไม่อนุญาตนะคะ ต้องสอบถามทางร้านให้ดี ยิ่งบางที่ป๊อบมาก คิวแน่น จะนัดไปทำก็ยากมาก เวลาเย็นๆ ส.อา.แทบไม่มีสิทธิ์ ต้องไปเวลางานบ้างไรบ้าง - -" จะทำให้ใช้ได้ไม่ครบ
หรือบางที่ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ใช้บริการได้ เช่น แพคเกจเหลือครั้งสองครั้ง จะให้เพื่อนไปทำแทนก็ไม่ได้
2. ดีลเกี่ยวกับสปา + สารพัดนวด ดีลแบบนี้จะแข่งกันด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้และเวลาที่ใช้บริการ บางที่บริการครบถ้วนดี มาโฆษณาขายแพคเกจนิดหน่อยไม่จู้จี้มากก็รับได้ค่ะ แต่ที่เราเคยเจอ
สมมติ ขัดตัว 30 นาที + นวด 60 นาที แม้ว่าเราไปถึงก่อนเวลานัดก็ต้องนั่งรอสักครู่ แล้วเค้าก็จะมาเรียกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นนอนรอนวดเกือบสิบนาที รอพนักงานอยู่นาน มีเปลี่ยนห้องอีก แล้วก็พอขัดเสร็จก็ไปอาบน้ำ อาบน้ำแล้วเตรียมนวดต่อ นอนรอๆๆๆ นวดๆ และเปลี่ยนเสื้อกลับบ้าน ออกมาดูนาฬิกาอ้าว เวลาเหลืออีก 15 นาที สรุปคือนวดไม่ครบตามเวลา....แต่เวลานั้นแล้วก็ไม่โวยวายดีกว่า เพราะคิดว่าจะไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อแล้วนวดต่อ 15 นาทีหรอก ก็ได้แต่จำไว้ ฮึ่ม...ถือว่าร้านนี้ได้มาทดลองแล้ว ผ่อนคลายตามเวลา (แม้ไม่ครบ) แต่ไม่ปลื้ม ไม่โดน เป็นอันจบ
หรือแพคเกจนวดไทย 1 ชม. เกิดกับร้านที่คนซื้อดีลเยอะมาก คิวยาวเหยียด มีผลต่อการให้บริการ ซื้อของถูกต้องทำใจ ถ้าไม่ทำใจก็ต้องโวยเอง ฮ่าๆๆๆ คนซื้อ พี่คะ...ลงหนักได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ทนได้ค่ะ พนักงาน น้องทนได้ แต่หมอนวดไม่มีแรงแล้วค่ะ ไม่ได้พักเลย
3. ดีลประเภท Hair Removal ดีลพวกนี้เน้นเลเซอร์ แต่ละร้านจะต่างกันที่จำนวนครั้ง และมักให้จำนวนครั้งประมาณ 3-5 ครั้ง ซึ่งบางคนไปทำแล้วยังไม่หมดก็ด้วยนิสัยผู้หญิง...ไหนๆก็ไหนๆ เอาให้หมดต้องซื้อแพคเกจต่อ หรือทำต่อเป็นจำนวนครั้งๆไปอีก อาจจะ 2-3 ครั้งกับทางร้าน ดังนั้นก่อนซื้อดีลประเภทนี้ ควรศึกษาราคาเต็มของทางร้านด้วยว่า หากเราจำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง ต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่
4. ดีลBotox Filler แน่นอนว่าคนซื้อต้องรู้ตัวเองก่อนว่า ต้องการทำตรงไหน และแต่ละที่ควรประมาณการจำนวนยูนิตที่ใช้ ดีลส่วนใหญ่จะให้จำนวนยูนิตน้อยกว่าที่คนซื้อทั่วไปต้องการใช้ เช่น โบท๊อกซ์อาจจะให้สัก 20 ยูนิตแต่ถ้าจะลดกรามก็มักจะใช้มากกว่านี้ หรือ ฟิลเลอร์ให้สัก 3 ยูนิต แต่ถ้าจะอัพดั้งเต็มรูปแบบก็อาจจะใช้มากกว่านี้ (ขึ้นอยู่กับจมูกแต่ละคน เป็นต้น) และยิ่งการไปทำศัลยกรรมก็มักจะเลือกจ่ายเพิ่มกับทางร้านไปเลย (เจ็บทีเดียว ไหนๆก็ไหนๆแล้ว) ดังนั้น เราก็ต้องสอบถามก่อนซื้อนะคะว่า หากต้องเพิ่มจำนวนคิดยูนิตละเท่าไหร่
นอกจากนี้ต้องตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้และแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย (ทำอะไรกับหน้า ต้องรอบคอบสุดๆค่ะ)
5. ดีลทำเล็บ ฮิตมากๆๆ เยอะมาก (และชอบมาก อิอิ) ส่วนใหญ่คล้ายๆกัน คือ สปามือเท้าและทาสีเล็บ ส่วนบริการอื่นๆ เช่น เพ้นท์ หรือต่อเล็บก็ไปจ่ายเพิ่มเอง
ดีลทำเล็บไม่ค่อยเสี่ยงมาก เพราะขั้นตอนการให้บริการ และผลิตภัณฑ์คนซื้อรู้และเห็นกันจะจะ เอาสีอะไรมาทาให้เรามั่ง เอาอะไรมาขัดเท้า ตัดหนังให้ด้วยรึเปล่า เป็นต้น
6. ดีลประเภท Carboxy และลดสัดส่วน ที่น่าสนใจก็จะเป็นแบบเลือก 1 จุด บุฟเฟ่ต์ 2-3 เดือน แบบนี้ผู้ซื้อควรเลือกที่ที่ใกล้บ้าน หรือเดินทางไปทำบ่อยๆได้สะดวก และต้องนัดเวลาด้วย แต่แบบบุฟเฟ่ไม่ได้หมายความว่าจะไปทำทุกวันได้ ต้องมีเว้นระยะบ้าง ดังนั้น จะต้องศึทราบระยะห่างที่เหมาะสมของการทำแต่ละครั้ง และต้องเผื่อเวลาด้วยหากต้องเข้าไปทำเวลาพีคๆ เช่น ช่วงเย็น บางร้านทุ่มสองทุ่มก็ปิดละ ใครเลิกงานช้า อาจจะลำบากหน่อยค่ะ
ส่วนดีลลดสัดส่วน ส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์และเวลาตามที่ระบุในคูปองได้ ผู้ซื้อจะทราบว่าเอาอะไรมาใส่ตัวเรา กี่นาที (เครื่องพวกนี้ ส่วนใหญ่ต้องตั้งเวลา) ส่วนผลที่ได้รับก็แล้วแต่ร่างกายแต่ละคน
แชร์เท่านี้ละกันค่ะ ตอนนี้ก็ยังคงติดตามเพลิดเพลินทดลองและหาของถูก (ทางใจ) ต่อไป ฮ่าๆๆ แต่ก็จะระมัดระวังให้มากขึ้นค่ะ
สิ่งที่ต้องรอบคอบ นอกจากที่ระบุในคูปอง คือ ต้องศึกษาให้ดีก่อนรับบริการ !!! รู้จักสิ่งที่เราจะไปใช้บริการให้มากที่สุด
แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 22:16:20
จากคุณ |
:
penny_pea
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ต.ค. 54 22:14:32
|
|
|
|