ความคิดเห็นที่ 1 จขกท.ขออนุญาตไม่เรียงข้อนะครับ แอลกอฮอร์ในเครื่องสำอางค์ไม่ดีจริงหรือ ????? กระแสเครื่องสำอางผสมแอลกอฮล์นั้นมาแรงทีเดียว ทำให้ผู้ผลิตหลายราย ต่างทยอยปรับปรุงสูตรใหม่ หรือไม่ก็โจมตีผู้ต่อต้านชนิดที่รุนแรงไม่มีใยบัวเหลือเลยทีเดียว ก่อนอื่นขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้ทราบสักนิดค่ะว่า แอลกอฮล์นั้น จริงๆมีอยู่ประมาณ 2 ประเภทค่ะ • ประเภทแรกคือ แอลกอฮล์จริงๆเลยค่ะ มักใช้ชื่อ ในส่วนผสมว่า แอลกอฮอล์ดีแนท หรือ Alcohol denat. หรือชื่อเต็มคือ Alcohol denatured ค่ะ ส่วนมากจะเป็นแอลกอฮอล์ชนิดดื่มได้ แต่นำมาเติมสารอื่นเพื่อปรับคุณภาพหรือเพื่อแยกเกรดไว้สำหรับทำเครื่องสำอางค่ะ ไม่ให้นำมาดื่มค่ะ แอลกอฮอล์ชนิดนี้ มักทำให้ผู้ที่มีผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย มีอาการแสบแดง ผิวลอก ระคายเคืองได้ถ้าใช้เป็นเวลานาน หรือถ้าผสมในปริมาณสูง(พบในพวกโทนเนอร์กระชับรูขุมขน) มีแพทย์ผิวหนังหลายท่านกล่าวว่า การใช้ระยะสั้นเพื่อกระชับรูขุมขนหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า สามารถใช้ได้ แต่ถ้าการใช้ระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระและทำให้ผิวเสียสมดุลย์น้ำหล่อเลี้ยงได้ค่ะ อันที่จริงแอลกอฮอล์ประเภทนี้ ถ้าผสมไปนิดหน่อยนั้นไม่มีปัญหาหรอกค่ะ เพราะพิ้งกี้มองว่ามันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการตั้งตำรับให้เข้ากันได้ดี เนื้อสัมผัสน่าใช้ หรือเหตุผลอื่นๆ ดังนั้น ถ้ามีระบุข้างส่วนผสมอยู่กลางๆหรือท้ายๆตำรับนั้นสามารถใช้ได้ไม่ต้องกังวลค่ะ แต่ถ้าอยู่ต้นๆในตำรับ ก็อยากให้ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง พึงระวังไว้ก่อนซื้อมาใช้ด้วยค่ะ • ประเภทที่สองคือ อนุพันธ์ของแอลกอฮอล์ สูตรโครงสร้างไม่เหมือนกับแอลกอฮอล์เป๊ะค่ะ ดังนั้นคุณสมบัติจึงไม่เหมือนกันค่ะ เพราะใช้ผสมให้ตำรับเข้ากันง่ายขึ้นและส่งผ่านความชุ่มชื้น และส่งผ่านสารสำคัญจากครีมสู่ผิวได้ดีขึ้น ดังนั้นหากพบในตำรับแล้วไซร้ มิต้องวางแล้ววิ่งหนีเสมือนเจอผีอีเม้ยนะคะ ใช้ได้ปลอดภัยค่ะ สารเหล่านั้นเช่น กลุ่มไกลคอล (เช่น Butylene Glycol, Propylene Glycol) และกลุ่ม Fatty alcohol (เช่น Cetyl alcohol, Stearyl alcohol, Oleyl alcohol) ปัจจุบันยารักษาสิวหลายชนิด หรือแม้แต่เครื่องสำอางดูแลสิว มักผสมแอลกอฮอล์เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อและความคงตัวในตำรับ การใช้ระยะสั้นสามารถใช้ได้ค่ะ พอสิวหายก็หยุดใช้แล้วบำรุงผิวได้ตามปกติเลยค่ะ เครดิตภาพทุกภาพ www.google.co.th ครับ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:05:34

ความคิดเห็นที่ 2 • Eye cream ควรต้องซื้อแยกจาก Face Cream ????? ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ถ้าครีมที่ทาหน้า ทาแล้วไม่แสบแดงคัน ก็นำมาทาใต้ตาได้คะ บางแบรนด์อาจอวดอ้างว่า ส่วนผสมมันต่างกันนะเธอ ดูแลต่างกันนะเธอ ก็จริงค่ะ แต่ก็แค่บางแบรนด์เท่านั้น ส่วนมากหลายแบรนด์สูตรจะไม่แตกต่างกันมากระหว่างครีมที่ทาใต้ตาและครีมที่ทาหน้าคะ ลองมองหาครีมทาหน้าที่มีสูตรเจ๋งๆ(ตามที่เวป บล็อกเกอร์ เขารีวิวกัน) ที่อ่อนโยน ไม่มีสารก่อการระคายเคือง สามารถใช้แทนครีมทาใต้ตาได้ค่ะ แต่ถ้าความรู้สึกมันไม่ใช่ คิดว่า ตาก็ส่วนตา หน้าก็ส่วนหน้า ก็ซื้อแยกได้ค่ะ อิอิ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:09:29

ความคิดเห็นที่ 3 • มีครีมที่สามารถเปลี่ยนสีผิวจากคล้ำเป็นขาวได้อย่างถาวร ????? มีสิคะ เยอะแยะไป แต่เป็นครีมที่แอบผสมสารต้องห้ามค่ะ เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ(ไม่เหมือนกับวิตามินเอนะครับ) หรือแม้กระทั่งยาสเตียรอยด์ สารเหล่านี้(ยกเว้นสารปรอท) มักใช้ในวงการแพทย์ผิวหนังในการรักษารอยดำจากสิว ฝ้า กระ กันมานานแล้วค่ะ แต่สารเหล่านี้ ทางองค์การอาหารและยาไม่อนุญาตให้ผสมลงไปในเครื่องสำอางค่ะ เพราะอันตรายมากถ้าไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ผิวหนัง สารเหล่านี้สามารถทำให้หน้าขาวใสได้ไวมากจนน่ากลัว แต่ถ้าใช้ไปนานๆหรือไปออกแดดจัด หน้าจะกลับมาคล้ำหรือกลายเป็นฝ้าถาวรค่ะ แต่สารที่ปลอดภัยที่สามารถใส่ในเครื่องสำอางได้ แต่ผลจากความขาวกระจ่างใสนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณสารที่ใส่ว่าเข็มข้นมั้ยและความคงตัวของสารนั้นๆค่ะ สารที่ช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสเหล่านั้น เช่น Niacinamide (Vitamin B3) , Arbutin , Vitamin C, Tranexamic acid, Potassium Azeloyl Diglycinate, Kojic acid, Licorice และ Sepiwhite (Undecylenoyl phenylalanine) ค่ะ มีหลายท่านแอบคิดว่า สารเหล่านี้จะสามารถเปลี่ยนสีผิวได้อย่างถาวรเลยหรือไม่ ไม่หรอกค่ะ สุดท้ายเมื่อเลิกใช้ สีผิวก็จะกลับมาเป็นสีสภาพเดิมตามพันธุกรรมของเราค่ะ พิ้งกี้ว่า ขอแค่ผิวดูมีสุขภาพดี ไม่มีสิว ริ้วรอยหรือรอยดำ ก็พอค่ะ บางครั้งการที่เราวิ่งตามกระแสนิยมในเรื่องความขาวมากๆ อาจทำให้เราต้องไขว่ขว้า หรือฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆจนอาจทำให้บางคนท้อแท้และเป็นทุกข์ได้ค่ะ ถ้าเราวางสิ่งเหล่านี้ได้บ้าง บางทีเราอาจจะมีเวลาให้ความสนใจกับสิ่งที่สำคัญกับชีวิตเราจริงๆก็ได้นะคะ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:13:51

ความคิดเห็นที่ 4 • ควรเปลี่ยนครีมบำรุงผิวทุก 2-3 เดือน เพื่อลดอาการผิวชินต่อเครื่องสำอาง ??? อันที่จริงแล้ว ใต้ชั้นหนังกำพร้าแต่ยังไม่ถึงชั้นหนังแท้ มีเซลล์บางประเภทที่จะผลักยาหรือครีมออกจากผิว เพราะนี่คือกลไกลที่ร่างกายปกป้องตัวเองจากสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมค่ะ บางคนใช้ครีม 1 เดือนก็ใสแล้ว บางคนอาจใช้เวลามากกว่านั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมีเจ้าตัวคอยผลักมากน้อยไม่เท่ากันแตกต่างกันตามพันธุกรรมผิวของแต่ละคน การที่บางคนบอกว่า ใช้ไปนานๆผิวจะชินกับครีม ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีใครหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้เลยค่ะ เหตุผลที่น่าจะอธิบายได้คือ ถ้าครีมที่มีส่วนผสมของสารพวก AHA หรือ BHA หรือ สารธรรมชาติที่ทำให้หน้าขาว เมื่อเราใช้แรกๆจะเริ่มดูขาวใสขึ้นเพราะเซลล์เก่าถูกผลัดออกไป แต่เมื่อใช้ไปนานๆเราอาจจะชินกับผิวหน้ากระจก จึงอาจอุปปาทานไปเองว่า ครีมเริ่มไม่ได้ผล จริงๆแล้วถ้าตัวไหนที่ใช้แล้วดี ไม่อุดตัน ไม่ก่อสิว แนะนำให้ใช้ไปเรื่อยๆได้เลยค่ะ มีบางท่านถามว่า ถ้าอยากเปลี่ยนยี่ห้อใหม่แล้วหยุดยี่ห้อเก่า หน้าที่เคยเป็นสิวหรือฝ้าจะกลับมาเห่อหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ค่ะ ถ้าเห่อ แสดงว่ามีสารต้องห้ามเช่น สเตียรอยด์หรือไฮโดรควิโนน ซึ่งสารพวกนี้จะอยู่ในความดูแลของแพทย์ผิวหนัง หากหยุดกระทันหันอาจเกิดการเห่อได้ค่ะ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:26:41

ความคิดเห็นที่ 5 • เพื่อหน้าสวยใสเด้ง ควรใช้ให้ครบเซ็ต????? มันก็ไม่เสมอไปหรอกค่ะ แต่ถ้าสารในตำรับเขาดีจริง จะใช้ครบเซตก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพียงแต่ทาบำรุงอย่างพอประมาณ ไม่ต้องเยอะค่ะ โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน ผิวที่เป็นสิว การบำรุงมากมายหลายขั้นตอนจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวได้ค่ะ เพื่อนพิ้งกี้บางท่านไปถอยยี่ห้อหนึ่งมาแบบยกชุดจัดเต็ม (พนักงานขายเก่งมากค่ะ สามารถโน้มน้าวให้คนงกๆท่านหนึ่ง รักการประทินผิวได้ถึงเพียงนี้) โฟมล้างหน้า ตามด้วยยารักษาสิว ยารักษาฝ้า(จากคุณหมอ) โทนเนอร์กระชับรูขุมขน ครีมปรับสภาพผิวหน้า ครีมบำรุงตอนเช้า ครีมทาลบริ้วรอยตีนกาและร่องแก้ม เมคอัพเบสก่อนลงรองพื้น ตามด้วยรองพื้น ตบด้วยแป้งผสมรองพื้น ทาอายชายโดว์ ปัดมาสคาร่า กรีดอายไลเนอร์ บรัชพวงแก้ม ดินสอเขียนคิ้ว ดินสอเขียนขอบปาก ลิปสติกอีก 4 สีที่อินเทรนด์ตามฤดูกาล และลิปกลอสเพื่อปากอิ่มเอิบ เฮ้อ เหนื่อยกันทีเดียว ณ จุดนี้ค่ะ เป็นพิ้งกี้คงต้องตื่นมาตีสี่กันเลยทีเดียว หากท่านมีบางอย่างอยู่แล้วที่บ้าน เราสามารถซื้อเพียงแค่สิ่งที่เรากำลังต้องการอยู่ก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้อครบเซ็ตขนาดนั้น เว้นเสียแต่ว่า เงินในกระเป๋ามันหนักเอาการก็สามารถใช้ได้ตามสไตล์คุณค่ะ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:31:57

ความคิดเห็นที่ 6 • เครื่องสำอางที่ระบุว่า Organic ปลอดภัย หายห่วง ??? สารที่ผสมในเครื่องสำอางออแกนิกส์ หมายถึง สารที่มาจากธรรมชาติ ถูกเลี้ยงมาโดยปราศจากยากำจัดศัตรูพืช เลี้ยงในที่สะอาด และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ด้วย จริงๆแล้วก็ไม่ถูกเสียทั้งหมดนะคะ สารสกัดจากธรรมชาติเขามีใส่กันมานานแล้วคะ วัตถุดิบส่วนมาก ถ้ามีแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ เราก็สามารถวางใจได้ค่ะ แต่อีกจุดหนึ่งที่น่ากังวลคือ แอลกอฮอร์ (Alcohol denatured) ก็จัดเป็นสารออแกนิกส์กับเขาด้วยเหมือนกัน อันที่จริงเจ้าแอลกอฮอล์นี้ มีผสมในเครื่องสำอางมานานแล้วค่ะ หลายกระแสก็ต่อต้าน บางกระแสก็เฉยๆ แต่ถ้าหากมีมากเกินไปในตำรับก็อาจส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระกับผิวในระยะยาวได้ค่ะ อีกทั้งผิวที่บอบบางแพ้ง่ายใช้แล้วก็จะลอกและแสบด้วยค่ะ ลองมองหาตำรับที่ปราศจากสารตัวนี้ ในผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือแพ้ง่ายนะคะ และอย่างสุดท้ายที่ต้องระวังในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายคือ น้ำมันจากดอกลาเวนเดอร์ น้ำมันจากยูคาลิปตัส น้ำมันจากมินต์ หรือแม้กระทั่งน้ำมันจากผิวส้มและเลมอน ซึ่งจัดเป็นน้ำหอมธรรมชาติทางออแกนิกส์ ก็อาจทำให้ผิวผู้ที่แพ้ง่ายระคายเคืองได้ค่ะ แต่ถ้าผิวปกติก็สามารถใช้ได้ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:33:20

ความคิดเห็นที่ 7 • Dermatologist Tested , Hypoallergenic และ For Sensitive Skin ใช่ว่า ผิวคุณจะไม่แพ้ ????? แม้ว่าคำเหล่านี้ จะถูกติดไว้ข้างกล่อง และได้รับการรองรับจากสถาบันต่างชาติมากมายแค่ไหน แต่ผิวคุณหนูหรือผิวไหนๆก็ควรที่จะทดสอบก่อนทุกครั้งค่ะ อย่าเชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เอ้ย เห็น นะคะ วิธีการทดสอบของแต่ละท่านก็จะไม่เหมือนกัน บางท่านแนะนำให้ทดสอบที่ท้องแขน ที่หลังหู ที่คอ หรือบางท่านก็ยอมที่จะทดสอบที่ผิวหน้าตัวเอง (ทาแค่บางจุดคะ ไม่ได้ละเลงทั้งหน้า) ด้วยเหตุผลที่ว่า ผิวที่อื่น ไม่ได้เป็นตัวแทนของผิวที่หน้า ก็เข้าท่านะคะ อย่างไรก็ตาม ทดสอบการแพ้ก่อนทุกครั้งเสมอค่ะ (รอสัก 15-30 นาที ไปเดินเล่นก่อน ถ้าไม่แพ้ ค่อยกลับมาซื้อค่ะ) จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:38:14

ความคิดเห็นที่ 8 • มีครีมชะลอวัยที่ดังและแพงๆ สามารถทดแทนการฉีด Botox หรือ Derma Filler ได้ ????? ปัจจุบัน เครื่องสำอางชะลอวัย ผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด มีหลายแบรนด์ ที่แอนตี้ การฉีดโบท๊อกซ์ (โบท๊อกซ์ คือ สารพิษที่ได้จากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ซึ่งช่วยในการคลายริ้วรอยที่หดเกร็งบนใบหน้า และอื่นๆอีกมากมาย) และการฉีดสารเติมเต็ม หรือ Derma Filler (ปัจจุบัน นิยมใช้ Hyaluronic acid ฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ในบริเวณที่แพทย์เห็นสมควร)แต่จะไปโทษแบรนด์นั้นๆไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเขาก็อยากขายครีมเขา  (ถ้าเขาขายโบท๊อกซ์ ก็คงจะไม่โจมตีหรอก จริงมั้ยคะ) แม้ว่าผลข้างเคียงจากการฉีดสารชนิดนี้ คือ ปากเบี้ยว หนังตาตก ปากห้อย แสดงสีหน้าเหมือนหุ่นยนต์ แต่ผลที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญจากแพทย์นั่นเองค่ะ(ก็ต้องหาหมอเก่งๆ ฉีดคะ อย่าไปให้หมอเถื่อนฉีด อิอิ) ผลจากการฉีดนี้สามารถเห็นผลได้รวดเร็วมาก เช่น รอยตีนกาหาย ร่องแก้มตื้นขึ้น รอยย่นที่หน้าผากหายไป หางตาชี้ได้รูปสวยงาม ผลที่ได้ก็คงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งเครื่องสำอางทั่วไปนั้น ถ้ามีส่วนผสมพวกอนุพันธ์วิตามินเอและอะมิโนเปปไทด์ รวมพลังกันแล้ว ผลที่ได้เต็มที่ ไม่เกิน 50% หรือ แม้กระทั่งเครื่องสำอางที่ผสมสาร Hyaluronic acid ก็ช่วยเติมเต็มได้ไม่เกิน 50% เช่นกัน นั่นหมายความว่า ต่อให้คุณซื้อเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมดีเว่อร์แค่ไหน แพงมากจนกระเป๋าสตางค์ฉีกเพียงใด สารเหล่านั้น มิอาจเทียบเท่า กับฉีดโบท๊อกซ์หรือ สารเติมเต็ม ได้เลยค่ะ เผลอๆค่าใช่จ่ายจากการทุ่มทุนซื้อครีมอาจสูงกว่าการทำศัลยกรรมด้วยซ้ำ แต่ถ้ากลัวเจ็บตัว ไม่อยากเจอแจ๊กพ๊อตจากผลข้างเคียงของการฉีดโบท๊อกซ์ ก็สามารถใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมอย่าง Acetyl Hexapeptide-3 หรือ Argireline ที่ออกฤทธิ์ใกล้เคียงโบท๊อกซ์ (แต่ไม่เทียบเท่าค่ะ) ส่วนการทาครีมที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic acid นั้น ลองมองหาตำรับที่มีคำโปรยว่า โมเลกุลเล็ก จากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือคะ แต่ผลของมันหลังจากที่ทาต้องรออย่างน้อย 1-4 เดือน (ถ่ายรูปก่อนใช้และหลังใช้ไว้ด้วยสิคะ จะได้แนะนำคนอื่นๆได้ว่า ดีไม่ดีอย่างไร) แต่ผลลัพธ์หลังจากทาครีมทั้งหมดทั้งมวลย่อมไม่เท่าการฉีดโบท๊อกซ์และสารเติมเต็มอย่างแน่นอนค่ะ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:41:15

ความคิดเห็นที่ 9 • ขจัดสิวเสี้ยนให้หมดไปอย่างถาวร ทำได้จริงหรือ ????? สิวเสี้ยน ปัญหากวนใจวัยทีนอย่างคุณผู้อ่านและพิ้งกี้มากค่ะ อันที่จริงสิวเสี้ยนนั้นสามารถเกิดได้ที่แก้มข้างจมูกได้ด้วย ไม่เฉพาะที่จมูกอย่างเดียว หลายท่านลองมาหมดทุกวิธีแล้ว ไม่ว่าจะใช้ยาหรือวิธีธรรมชาติหลายร้อยวิธี สุดท้ายก็ปลง (เหมือนพิ้งกี้เลยคะ อิอิ) อันที่จริงถ้าเรายังบำรุงผิวที่จมูก หรือแต่งหน้าทาครีมที่จมูกอยู่ มันก็สามารถอุดตันหรือเกิดได้ใหม่ตลอดเวลาค่ะ เราสามารถทำให้มันน้อยลงได้แต่ไม่สามารถขจัดออกไปจนไม่เห็นรูขุมขนได้ค่ะ พิ้งกี้เองเคยลองแม้กระทั่งยิงเลเซอร์กระชับรูขุมขน สุดท้ายก็แพ้พันธุกรรมที่กำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิดคะ ผ่านไป 6 เดือนกลับมากว้างอีกแล้ว (แงๆๆๆๆๆ) หลายท่านถามว่าแล้วยา หรือเครื่องสำอางอะไรที่ช่วยในเรื่องนี้ได้บ้างหล่ะค่ะ • กรดวิตามินเอ (Tretrinoin) มีหลายยี่ห้อมากค่ะ แนะนำให้ใช้ที่ความเข้มข้นอ่อนที่สุดก่อน ทาบางๆที่มีสิวเสี้ยนก่อนนอน ทำให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ความมันน้อยลงค่ะ สิวเสี้ยนจึงแลดูลดลง แต่จมูกอาจแห้งลอกได้ ก็สามารถหยุดได้ 2-3 วันแล้วกลับมาทาใหม่ก็ได้ค่ะ หรือบางท่านสามารถทาทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกก็ได้เช่นกันค่ะ ถ้ากลัวจมูกแห้งลอก (เริ่มเห็นผลในสัปดาห์ที่ 2-3 ว่าเริ่มลดลง แต่ถ้าหยุดใช้ยาก็สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมค่ะ) • สารในเครื่องสำอางที่ช่วยขจัดสิวเสี้ยนได้เช่น Salicylic acid หรือ BHA 2% เพราะสารชนิดนี้สามารถละลายไขมันในรูขุมขนได้ สามารถลดการอักเสบของสิวได้ เช่นกัน ทาบางๆวันละ 1-2 ครั้ง ถ้าผิวลอกสามารถเว้นระยะการใช้ได้ค่ะ • ส่วนวิธีอื่นๆที่สามารถทำร่วมกันได้ เช่น ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน (สะดวกมาก อาจไม่ต้องใช้ไข่ขาวติดกับกระดาษทิชชู่ให้วุ่นวาย) ลดการบริโภคอาหารทอด ผัดและอาหารมันให้น้อยลง ไม่ทาเครื่องสำอางที่จมูก หรือวิธีธรรมชาติเช่น ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำอย่างละช้อนโต๊ะ(หรือมากกว่าถ้าต้องการ)คนให้เข้ากันแล้วรีบนำมานวดบริเวณจมูกและแก้มข้างจมูกแล้วล้างออก(สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง) หรือนำน้ำมะนาวมาขัดผิวและขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกแล้วตามด้วยน้ำผึ้งอุ่นสัก 2 ช้อนโต๊ะ นวดเบาๆจนจมูกรู้สึกนุ่มแล้วล้างออกด้วยน้ำคะ ลองทำดูนะคะ • ส่วนวิธีที่ห้ามทำ!! เช่น ใช้พลาสเตอร์ผ้าแป๊ะ ใช้กาวตราช้างกับกระดาษ บีบเองหน้ากระจก แหม จบเสียที ครั้งหน้าถ้ามีอะไรดีๆ พิ้งกี้จะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกนะคร้า บ้ายบาย..... จขกท. ก็ขอบ๊ายบาย ด้วยเน้อออออ  ใครผ่านไปผ่านมา  ไปอุดหนุนเวบ http://www.pleasehealth.com/ ด้วยเน้อ ของเค้าดีมากๆ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:46:22

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ความรู้เยอะแยะเลย สูตรกำจัดสิวเสี้ยนน่าสนใจมาก ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ปุลิน (ปุลิน) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:06:43

ความคิดเห็นที่ 11 ดีจริง อะไรจริง ขอบคุณ คุณ พิงกี้ มากมาย จากคุณ : GermanShapherd เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:09:13

ความคิดเห็นที่ 12 ได้ความรู้เยอะแยะเลยค่ะ  ชอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : pice_alrm เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:11:09

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : dowlittlewing เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:37:05

ความคิดเห็นที่ 14 ว้าวๆๆๆ ต้องลองวิธีกำจัดสิวเสี้ยนซะแล้ว ^^ จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 20:46:30

ความคิดเห็นที่ 15 โอ้ววว สุดยอดๆๆๆๆๆ จากคุณ : ice apisto เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 21:02:44

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างนี้ เราก็ซื้อป้าพอลล่า มาใช้ได้เลยน่ะสิ เพราะมี BHA 2% สิวเสี้ยน หายชัวร์??? จากคุณ : เพชรน้ำสุด เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 21:04:51

ความคิดเห็นที่ 17 ความรู้เยอะดีค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : SpinachSoup เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 21:24:01

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคะ ^^ จากคุณ : inkja เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 21:47:55

ความคิดเห็นที่ 19 จะสิวเสี้ยนลดลงก็คราวนี้แหละ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่เอามาแบ่งปันค่ะ จากคุณ : milkn เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 21:56:57

ความคิดเห็นที่ 20 เหมือนเคยอ่านที่ไหนมาก่อนแล้วค่ะ แต่ก็ดีนะคะจะได้รื้อฟื้นความจำอีกที จากคุณ : One to watch เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 22:46:14

ความคิดเห็นที่ 21 โหวตให้ครับ มีประโยชน์มากๆ จากคุณ : ฮาตะมงบะ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 00:16:38

ความคิดเห็นที่ 22 ผมไม่ใช่ เภสัชกร พิงกี้นะครับ   ส่วนที่บอกเคยอ่านที่ไหนมาแล้วนั่น  ยืนยันว่า  specialists ทุกท่านในเวบ  เขียนบทความ  ลงคอลัมใหม่เอง  ทั้งหมดครับ ส่วนอาจจะคล้ายๆ  ก็คงเป็นคำถามเหล่านี้มั้งครับ  ที่อาจจะพบได้บ้าง จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 01:50:39

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆจ้า จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 08:59:05

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากค่ะ :) จากคุณ : หยดหมึกบนกองดิน เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 11:48:03

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แพท ภัทรียา เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 08:55:17

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อมูลแน่นมาก ขอบคุณมากๆเลยนะคะ จากคุณ : tooktakyu's เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 14:13:08

ความคิดเห็นที่ 27 ^________________^ โหวต!!!! จากคุณ : คุ๊กกี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 22:29:40

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคณมากค่ะ ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย จากคุณ : hmeaw_nb เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 23:19:56

ความคิดเห็นที่ 29 กดโหวตอย่างไม่ต้องลังเลเลย จากคุณ : Noon_Ja_Zaa_TuK_TeE เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 10:16:17

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : *~ดอกเดซี่สีชมพู~* เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 10:18:18

ความคิดเห็นที่ 31 มีประโยชน์สุดๆ อยากให้มีกระทู้แนวนี้อีกเยอะๆค่ะ ว่าแล้วก็ตามไปเว็บโลด จากคุณ : yorei เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 14:22:02

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ดีๆ มัประโยชน์มาก จากคุณ : konrakkook เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 15:26:22

ความคิดเห็นที่ 33 เริ่ดค่ะ ชอบความรู้เรื่องแอลกอฮอลมาก^^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (nudjaeing) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 18:32:15

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบกระทู้นี้มากกกกกกกกกกกกกกกก โหวตๆๆๆๆๆ จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 18:45:33

ความคิดเห็นที่ 35 เข้าไปอ่านในเว็บแล้วค่ะ เนื้อหาสาระเยอะมากแต่ติดตรงที่เรา email ไปถามไม่ได้แฮะ สงสัยระบบการส่งเมล์ของเครื่งอเราไม่ดีอะ ชอบมากค่ะ เหมือนเป็นสังคมของหมอ เค้ามาพูดคุยแบ่งปันสาระให้เลยอะค่ะ จากคุณ : bunnycute เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:02:30

ความคิดเห็นที่ 36 ได้ประโยชน์มากๆเลยค่ะ จากคุณ : hotcapucino เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:50:38

ความคิดเห็นที่ 37 คล้ายๆของพี่ปูเป้เลย จากคุณ : กลัวคนจับได้ว่าน่ารัก เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 21:42:31

ความคิดเห็นที่ 38 ดีจัค่ะได้ความรู้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : ichy เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 21:57:10

ความคิดเห็นที่ 39 วิธีกำจัดสิวเสี้ยนของเรา.....ใช้"แหนบ"ดึง อิอิ  ไม่มีในวิธีห้ามทำ แสดงว่า ทำได้ ฮิๆๆๆๆ จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 02:20:29