|
แวะมาเพิ่มเติมอีกนิดว่าสำหรับ Vit C หากใครที่ไม่ชอบหรือแพ้ซิลิโคน เจ้าตัว Cellular Skin Rx C + Firming Serum แบบที่ คห.4 บอกก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีนะคะ ... เราเคยตอบในกระทู้หนึ่งเรื่อง Vit C ของ Kiehl’s กับ Cellular Skin Rx ขอเอามาแปะให้อ่านอีกที เผื่อว่าอาจจะเป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจได้บ้าง ^__^
ทั้ง Kiehl’s และ Cellular Skin Rx ทั้งคู่เป็น Vit C ในรูปแบบ L-Ascorbic Acid
Kiehl’s เป็นเนื้อซิลิโคน ข้อดีของเนื้อซิลิโคนคือจะค่อยๆคายความเป็นกรดของ Vit C ออกมาทีละนิด โอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองกับผิวก็น้อยลง ความเข้มข้น 10.5% ก็ไม่เยอะเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ Vit C ด้วย แล้วบรรจุภัณฑ์แบบหัวปั๊มก็รักษาคุณภาพของ Vit C ได้ดีกว่า ไม่ทำให้เสื่อมคุณภาพเร็ว
ส่วน Cellular Skin Rx เป็นน้ำใสๆซึมลงสู่ผิวได้เร็ว มีความเข้มข้นที่ 12% แต่บรรจุภัณฑ์เป็นลักษณะขวดดรอป ทำให้ทุกครั้งที่เปิดใช้อากาศจะเข้าไปแล้วทำให้ Vit C เสื่อมคุณภาพได้เร็ว ก็ต้องรีบใช้ให้หมดก่อน Vit C มันจะเปลี่ยนสีค่ะ
ในเรื่องราคา Kiehl’s ปริมาณ 50 ml. 3,000 บาท / Cellular Skin Rx 30 ml. 1,100 - 1,300 บาท แล้วแต่เว็บที่ขาย
ตอนแรกเราเทใจให้ Kiehl’s ไปแล้ว เพราะไม่เคยใช้ Vit C มาก่อน เลยอยากเริ่มที่ความเข้มข้นที่ไม่เยอะเกินไป ผิวจะได้ไม่ระคายเคือง แต่ด้วยความที่กลัวว่าซิลิโคนอาจทำให้มีโอกาสเกิดการอุดตันได้ (เราเป็นสิวอุดตันง่าย) สุดท้ายก็เลือก Cellular Skin Rx มาแทน .. ตอนนี้ใช้มาแค่ไม่ถึงอาทิตย์หน้าก็ใสขึ้นเยอะเลย รอยดำจากสิวจางเร็วเว่อร์ๆ และไม่มีอาการระคายเคืองแต่อย่างใด
วิธีใช้คือ จะทาวันละ 1 หรือ 2 ครั้งก็ได้ (เราใช้เช้า - เย็นเลย เพราะกลัว Vit C มันจะเสื่อมก่อนใช้หมด) ให้ทาหลังจาก Toner หรือถ้าใช้ BHA/AHA ก็สามารถทา Vit C ตามหลัง BHA/AHA ได้เลย แล้วรอประมาณ 20 นาที จากนั้นค่อยลง Skincare ตัวอื่นๆต่อไป
.... ส่วนตอนนี้เราใช้ 8% AHA ของ Paula's + Vit C ของ Cellular Skin Rx มาได้ 1 เดือนเต็ม รอยสิวเก่าๆที่เป็นมานานหลายเดือนหายหมดเกลี้ยง ผิวดูเรียบเนียน ละเอียดและกระจ่างใสขึ้นเยอะมากๆเลยค่ะ ~
จากคุณ |
:
If Love Were All
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ต.ค. 54 19:53:33
|
|
|
|
|