ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณที่เอามาฝากกันค่ะ ตามนั้นเลยค่ะ ยาเสริมความงามจะมีผลต่อฮอร์โมน แล้วถ้าฮอร์โมนผลิตเยอะไป ผญ เราจะเกิดเนื้องอก หรือ ซีส หรือ มะเร็งค่ะ สาวที่ลดความอ้วน เลี่ยงกินแต่พวกโปรตีนอย่างเดียวก็ระวังนะคะ เพราะโปรตีนเยอะไปก็จะไปเร่งการผลิตฮอร์โมนเหมือนกันค่ะ แล้วบางทีมันเยอะเกินเกิดเป็นผลเสียต่อร่างกาย (หมอบอกค่ะ) จากคุณ : bownie-wawee เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 13:37:09

ความคิดเห็นที่ 2 ยาอะไรคะอยากทราบ เป็นสิวหนักต้องไปรักษากับหมอผิวหนังเหมือนกัน และต้องผ่าเนื้่งอกที่เต้านมออกไปเมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกันจริงหรอคะ จากคุณ : ปลื้มคนดัง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 13:57:39

ความคิดเห็นที่ 3 เนื้องอกเนี่ยบางทีมันเป็นกันอยู่แล้วไม่รู้ก็ได้นะคะ จริงอยู่ที่ตัวยาอาจจะฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบ แต่ไม่ได้แปลว่าคนที่กินแล้วจะเป็นเนื้องอกกันทุกคน เนื้องอกก็มีหลายอยากทั้งแบบเนื้อร้าย (malignant) และที่ไม่ได้เป็นเนื้อร้าย (benign) เนื้องอกแบบเนื้อร้าย หรือมะเร็งจะมีกลไกการเกิดซับซ้อนมากโดยเฉพาะในคนอายุน้อยๆ ส่วนหนึ่งคนกลุ่มนี้มียีนผิดปกติที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว เราไม่ได้สนับให้กินหรือใช้ยา โดยเฉพาะยากลุ่มอันตรายโดยไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ แต่เราก็ไม่ชอบใจถ้าใครเผยแพร่อะไรที่ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ เผยแพร่ความรู้ที่ผิดๆมันคงไม่ดีนะคะ จากคุณ : ลูกแม่ดอกบัว เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 14:05:04

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบคุณ"ปลื้มคนดัง"ค่ะ ชื่อยานี่ไม่รู้นะคะหมอไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร แต่พิกัดของคลีนิค พอบอกได้ค่ะ ถ้าเป็นยามีตัวฮอร์โมนผสมด้วย หมอบอกว่าเกี่ยวกับเนื้องอก 90% ค่ะ เำพียงแต่ว่า จะโชคดีเป็นเนื้อร้ายรึป่าวเท่านั้นเอง จากคุณ : ชบาป่า เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 14:07:11

ความคิดเห็นที่ 5 เราเอง ก็ไม่เคยรู้ว่ามะเร็งของน้องสาวจะเกี่ยวกับยาที่กินลดสิวรึป่าวนะคะ แต่พอรู้ว่าน้องสาวเป็นมะเร็ง เราก็ตระเวนปรึกษาหมอหลายคนมาก เอายาที่น้องกินไปให้หมอดู  มีแต่โดนหมอว่าเอาแต่ห่วงสวยโดยไม่ศึกษาให้ดี จากคุณ : ชบาป่า เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 14:19:58

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณที่ร่วมแชร์ค่ะ เห็นด้วยกับเจ้าของทู้นะคะ ว่าอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ดังนั้น พูดเพื่อเตือนให้เราศึกษาเรื่องการรับยามาทานให้ดี จะได้มีความ ระมัดระวังในการทานยาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จากคุณ : dowlittlewing เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 14:41:55

ความคิดเห็นที่ 7 อยากรณรงค์ให้ใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ ไม่รู้ว่าจะฝืนกระแสเกินไปไหม เราแทบไม่เคยกิน supplementary  ไม่ใช้ยาลดสิว ยาทำให้หน้าขาว ลดฝ้า ไม่กินวิตามิน ฯลฯ คือคิดว่า ร่างกายได้รับสารพิษ หรือถูกก่อกวนด้วยฝีมือคนอื่น/หลีกเลี่ยงไม่ได้มากพอแล้ว เช่นสูดฝุ่นควัน รับยาฆ่าแมลงทางอาหาร หรือรับสารพิษในเครื่องสำอางบางชนิดโดยบังเอิญ เราไม่ควรกินอะไร หรือทำอะไรให้เสียสมดุลย์ทางธรรมชาติมาก ตัวเราไม่ได้กินอาหารออแกนิค ไม่เคยกินเจ  แต่แค่กินอยู่เหมือนที่รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นมา บางครั้งเราท้าทายธรรมชาติมากเกินไปหรือบังคับตัวเองมากเกินไปก็ไม่เกิดผลดี จากคุณ : FloraLilly เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 16:58:43

ความคิดเห็นที่ 8 น่ากลัวมากค่ะ เหงื่อตก คือเวลาเป็นสิวไม่ค่อยอยากไปรักษาค่ะ เพราะหมอชอบให้ทานยา แต่ไม่เคยให้ยาคุมมาทานนะคะ คงเป็นพวกแก้อักเสบ วิตามินไรพวกนี้ แต่คราวหลังสุดเป็นสิวเยอะมาก หมอเลยจัดเต็มให้ยาควบคุมการทำงานของต่อมไขมันมาด้วย แล้วก็ยาเม็ดกลมๆสีเขียว ไม่รู้ว่ายาอะไร แต่หมอบอกว่าช่วยเรื่องรอยแผลเป็น จะเป็นไรมั้ยเนี่ย แต่เค้าเป็นหมอจริงๆนะ ไม่ใช่พวกซี้ซั้วมาเปิดคลีนิค จากคุณ : ปลื้มคนดัง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 17:03:45

ความคิดเห็นที่ 9 น้องหายหรือยัง? คนเราทุกคนมีเชื้อมะเร็งอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะไปเร่งให้มันเกิดหรือเปล่า อย่าน้องคุณคงเป็นไปได้ ต้องตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ2ครั้ง เพราะมะเร็งจะเกิดได้อีก การรักษาด้วยคีโมเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ระวังเรื่องอาหารความเครียดอย่างมาก ถ้ายังไม่หายมีคุณหมอแนะนำคับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 54 17:51:52 จากคุณ : ลอมบอก เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 17:46:45

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นกำลังใจให้น้องสาวนะคะ และขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : candy_pinkmie!! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 19:42:46

ความคิดเห็นที่ 11 ขอให้น้องสาวหายไวๆนะคะ คนเป็นมะเร็งเต้านมแล้วหายมีเยอะค่ะ โชคดีที่เราเป็นคนไม่ชอบกินยาหรืออาหารเสริมใดๆ ขอบคุณที่เอามาเตือนนะคะ จากคุณ : สติไม่มาปัญญาช้อปเกิด เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 20:11:50

ความคิดเห็นที่ 12 ขอให้น้องสาวหายไว ๆ และขอบคุณที่มาเตือนสติสาว ๆ หลาย ๆ คนที่ห่วงสวยจนลืมหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนค่ะ จากคุณ : ยูหยู่ยู่ยู้หยูว์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 20:19:38

ความคิดเห็นที่ 13 ทุกวันนี้น้องสาวไปพบหมอ 4 เดือนครั้ง   ๆ ตรวจทั้งเมโมแกรม อัลตร้าซาวด์ และตรวจเลือด หมอบอกว่าไม่พบสิ่งผิดปกติใดค่ะ   ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ จากคุณ : ชบาป่า เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 08:57:52

ความคิดเห็นที่ 14 ขอให้น้องสาวคุณพี่ จขทก หายไวๆนะคะ โห กลัวเลยตอนแรกว่าจะไปซื้อยามากินเสริมอก เลิกไปคิดอย่างถาวรเลยค่ะ ขอบคุณที่แชร์เรื่องนะคะ จากคุณ : หนูพิม (SASSY_PIM) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 10:33:34

ความคิดเห็นที่ 15 ยาฮอร์โมนพวกนี้มันเร่งพวกเนื้องอก ซีส ที่อยู่ในตัวเราให้ใหญ่ขึ้นค่ะ บางคนเป็นอยู่แต่แบบเล็กๆ ไม่มีอาการ แต่พอยาพวกนี้ไปเร่งเข้าก็เลยใหญ่ขึ้นค่ะ จากคุณ : Sweet~Jasmine เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 12:05:29

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วก็กลัว เราเคยหมอจะให้ทานยาฮอโมน เพื่อปรับให้ประจำเดือนมาปกติ + ยาคุม แต่ด้วยความขี้เกียจ และกลัวผลข้างเคียง ก็เลยไม่ได้ทาน ขอบคุณ จขกท ที่มาเล่าให้ฟังนะคะ ขอให้น้องสาวหายไวๆ นะคะ จากคุณ : ไอแดดยามเช้า เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 12:06:04

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นกำลังใจให้ จขกท และ น้องสาวนะคะ ขอบคุณที่นำประสบการณ์มาเตือนค่ะ จากคุณ : lovetonsine เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 12:22:23

ความคิดเห็นที่ 18 ขอให้น้องสาวหายเร็วๆนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับข้อมูล สาเหตุของมะเร็งจะเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่อย่างน้อยก็ได้เตือนสติสาวๆหลายคนที่ได้อ่าน อย่างน้อยก็เราคนนึงหละค่ะ^___^ จากคุณ : นิลลี่ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 12:55:24

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นกำลังใจน้องสาวเจ้าของกระทู้หายเร็วๆ นะค่ะ ขอบคุณที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : เช้าวันใหม่กับใจดวงเดิม เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 13:20:52

ความคิดเห็นที่ 20 พี่ค่ะ ช่วยหลังไมล์คลีนิคให้หน่อยได้มั้ยค่ะ อยู่เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ เพื่อนๆ ก็ไปคลินิกกันเยอะ...เพื่อนก็ชวนแต่ยังไม่อยากเสี่ยงเพราะหน้าไม่ได้เป็นอะไรมาก ... อ่านแล้วกลัวเลยค่ะ ^^ จากคุณ : คุณหนูล้านนา เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 13:30:03

ความคิดเห็นที่ 21 เราเป็นอีกคนที่มีเนื้องอกที่มดลูกและหน้าอกเพิ่มขึ้นมาหลังจากที่ทานอาหารเสริมเกี่ยวกับความงามสั่งซื้อท่างเน็ต อ่่านในห้องแป้งนี้แหละแล้วซื้อมาทาน  หลังจากไปพบแพทย์ตรวจทุก 6 เดือน ตรวจมดลูกจากที่มีเนื้องอก (ของเดิม) 3 จุด  เพิ่มขึ้นมาอีก 6 จุด เลยเลิกทานอาหารเสริมพวกนี้ และ evening primrose  หลังจากนั้นอีก 6 เดือนไปตรวจเนื้องอกลดขนาดลง แต่ยังอยู่ก็ต้องทำใจและ ทานผักผลไม้ ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและหวังว่ามันจะหายไปในที่สุด ุ จากคุณ : whiteIris (WhiteIris) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 13:41:37

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณนะคะ ที่นำมาแบ่งปัน ขอให้น้องสาวหายไว ๆ นะคะ จากคุณ : นิ้วก้อยที่ไม่มีแหวน (หน้าตาน่ารักเหมือนนิสัย) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 14:05:08

ความคิดเห็นที่ 23 มะเร็งที่เกิดในคนที่อายุยังน้อยส่วนมากแล้วมักจะมีพื้นฐานมาจากการที่มียีนผิดปกติค่ะ ซึ่งการที่มียีนผิดปกติเนี่ยมันก็มาได้จากหลายสาเหตุทั้งกาีรถ่ายทอดทางครอบครัว  และการกลายพันธุ์แบบผ่าเหล่า สำหรับกลไกการเกิดมะเร็งมันเป็นโรคที่อาศัยปัจจัยส่งเสริมประกอบค่ะ  แต่ถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆก็คือด้านยีนและสิ่งแวดล้อม หากเราไปได้รับสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมต่อยีนมะเร็งหรือกดการทำงานของยีนต้านมะเร็งติดต่อกันไปเรื่อยๆเป็นเวลาหนึ่งจนเจ้ายีนตัวร้ายชนะ  ก็จะเกิดเป็นเซลล์มะเร็งขึ้นค่ะ สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการเป็นมะเร็งก็มีหลายอย่างค่ะ  อย่างหนึ่งก็คือยา ยาฮอร์โมนบางตัว  ถ้าผู้ป่วยมีประวัติมะเร็งที่ถ่ายทอดในครอบครัวแล้ว  แพทย์ก็จะไม่สั่งยาชนิดนั้นให้ค่ะ ทางที่ดีจะทานยาอะไร  อย่าไปซื้อกินเองตามร้านขายยา  ให้แพทย์สั่งให้จะดีที่สุดค่ะ  อย่างพวกกรดวิตามินเอทั้งหลายเป็นต้นค่ะ ขอให้น้องสาวเจ้าของกระทู้แข็งแรงไวๆนะคะ ^^ จากคุณ : Le Canne เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 14:30:25

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมามากๆค่ะที่นำเล่า จะได้ระมัดระวังการกินยา จากคุณ : yo look kaew เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 14:43:55

ความคิดเห็นที่ 25 ว่าแต่ คลินิกที่ว่า พิกัดแถวไหนค่ะ ใช่ที่เรากำลังไปหาอยู่หรือป่าวหนอ .. แอบกลัวน่ะเนี๊ยะ ==" คิดอยู่ว่าจะไปหาหมอ เพราะเจ้าสิวผดกำลังมาเยือนเชียว ขอเป็นกำลังใจให้น้อง จขกท.ด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : นส.อ้วนล่ำ (gigoahh) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 14:45:59

ความคิดเห็นที่ 26 คนปกติเวลาหาหมอ หมอให้อะไรมาก็จะวางใจไปเกินครึ่งแล้วว่าทุกสิ่งที่หมอสั่งให้ปลอดภัยใช้ได้ แต่สมัยนี้มันไม่มีแล้วคำว่า "จรรยาบรรณ" มีแต่ "พาณิชย์" ยาที่ก่อนจ่ายให้ผู้ป่วยที่ควรจะสอบประวัติให้ดีถามอาการและบอกข้อระวังต่างๆ แต่หมอสิวเดี๋ยวนี้กลับให้มากินเหมือนเป็นลูกอมกินเล่นและสั่งให้กินต่อเนื่องเกินจำเป็น กระทู้นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของหมอที่เอาแต่เงินและไม่นึกถึงผลเสียที่ผู้ป่วยจะได้รับ ปล.แต่ก็ยอมรับนะว่าเดี๋ยวนี้พวกอยากสวยจนยอมตายมีเยอะ ก็พวกไปฉีดนั่นนี่ กินยาลดความอ้วนอะไรแบบนี้ทำตัวเองอันนี้ก็ต้องแบ่งคำด่ากันไป จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 14:54:15

ความคิดเห็นที่ 27 ขอเป็นกำลังใจให้จขกท และครอบครัวมากๆๆเลย จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 15:09:07

ความคิดเห็นที่ 28 ขอชื่อคลินิคทางหลังไมค์หน่อยค่ะ  อยู่เชียงใหม่เหมือนกัน จากคุณ : ลูกชิ้นเห็ดหอม เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 15:40:52

ความคิดเห็นที่ 29 ขอทราบชื่อคลีนิคด้วยได้มั้ยคะ? อยู่เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ ปกติไปหาหมอสิวตลอด แต่ตอนนี้งดแล้ว จากคุณ : ziinnuf เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 16:17:33

ความคิดเห็นที่ 30 จขกท เราขอหลังไมค์ชื่อคลีนิคได้ไหมคะ << ผิดกฎไหมเนี่ย -_-" คือเราก็รักษาสิวอยู่กับคลีนิคหนึ่งเหมือนกัน เคยกินเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ทาอย่างเดียว เรากลัว,,,, จากคุณ : Bakery_lovely เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 16:20:25

ความคิดเห็นที่ 31 ขอพิกัดด้วยได้มั้ยคะ เราก็อยู่เชียงใหม่ตะเวนหาหมอสิวมาหลายที่แล้ว (แทบทุกที่ๆดังๆในเชียงใหม่เลย) จะเคยเจอไปแล้วมั้ยเนี่ย จากคุณ : momomojimoja เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 16:23:01

ความคิดเห็นที่ 32 หลังไมค์มาบอกคลีนิค ด้วยได้ไหมคะ อยู่เชียงใหม่เหมือนกัน แอบกลัววว วอ่ะ จากคุณ : Judie_Majang เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 16:36:19

ความคิดเห็นที่ 33 สำหรับคนที่เข้าวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนเอง การรับประทานฮอร์โมนเพื่อบรรเทาภาวะอาการหมดประจำเดือน เช่น ร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย เหงื่อออกมาก เป็นต้น ซึ่งเป็นอาการที่พบเมื่อเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน การที่รับประทานฮอร์โมนเพื่อบรรเทาอาการมีผลการศึกษานะคะว่าเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ดังนั้นบอกคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทานฮอร์โมนนะคะ ถึงแม้ยาบางตัวจะเคลมว่าไม่ใช่ฮอร์โมนแต่หลังทานเข้าไปก็มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมน คือจะจับกับ Estrogen recepter ในร่างกายอยู่ดี ยังไงศึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อนรับประทานนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (pretty tt2) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 16:40:06

ความคิดเห็นที่ 34 ขอหลังไมค์คลีนิคด้วยได้ไหมครับ กลัวเหมือนกัน อยู่เชียงหใม่ด้วยครับ จากคุณ : Aezlogez เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 18:46:31

ความคิดเห็นที่ 35 น่ากลัวจังค่ะ อายุยังน้อยนะคะน้องสาว จขกท ขอให้หายไวๆนะคะ ขอบคุณที่เอามาแชร์กันค่ะ จากคุณ : SpinachSoup เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 19:15:00

ความคิดเห็นที่ 36 ขอเดานะคะ เราเป็นเภสัชกรค่ะ อาจได้พวกฮอร์โมนมากินค่ะ เพราะบางทีก็จ่ายยาคุมกำเนิดรักษาสิว แต่จ่ายเฉพาะเคสที่น่าจะเกิดจากฮอร์โมนนะคะ เรื่องเนื้องอกหรือมะเร็งมดลูก/เต้านม ถ้าเป็นอยู่แล้ว หรือมีโอกาสเป็น การได้รับฮอร์โมนอาจเป็นการกระตุ้นได้ค่ะ ทว่าไม่ได้หมายความว่าคนกิน "ต้องเป็น" ทุกคน ที่เป็นห่วงคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีทะเบียนค่ะ เราจ่ายยาทีร้าน บางทีลูกค้าอยากได้แบรนด์แปลกๆ ราคาถูกๆขายตามร้านเสริมสวย/ในเน็ต ซึ่งไม่มีทะเบียน อาจจะเป็นยาปลอมหรืออะไรไม่ทราบ บอกไป แต่ลูกค้าไม่กลัวค่ะ ยังหาซื้ออยู่ บางอย่างก็บอกว่ามาจากเมกา เกาหลี เอ่อ เคยดูแล้ว เถื่อนทั้งนั้นค่ะ = =" อีกอย่างคือไปหายารักษาสิวโรแอคกินเองค่ะ ปกติต้องตรวจการทำงานของตับ ไต ด้วยค่ะ ทว่าปัจจุบันกินกันเหมือนขนมเลย อีกเรื่องที่เกิดในคลินิค หรือร้านยา บางร้านในห้างหรือบางคลินิคก็ใช้ยาเถื่อนค่ะ แถมอีกนิด เวลาจะใช้อะไร ต้องดูเรื่องขนาดที่ใช้ด้วย อย่างกลูตาเนี่ย ปกติให้ใช้ในคนป่วยเกี่ยวกับตับ สมมติว่าให้ใช้ปริมาณหนึ่ง แต่การเอาไปใช้เพื่อให้ผิวขาวเนี่ย ใช้มากกว่าโดสปกติหลายเท่า บางคนฉีดซะสิบเท่า มันอันตรายค่ะ ไม่มีผลวิจัยด้วยว่าปลอดภัยไหม เพราะไม่มีข้อบ่งใช้ค่ะ ถ้าถามว่ามีเคสเสียชีวิตไหม เป็นโน่นเป็นนี่ไหม ไม่ค่อยมีรายงานค่ะ เพราะว่าไม่มีการวินิจฉัย ชันสูตรศพไงคะ กว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ผ่านไปนานแล้ว กินไปแล้วเป็นอะไร ก็จบแค่นั้น อีกอย่างหมอที่มีจรรยาบรรณเขาก็ไม่จ่ายกัน ที่ๆไม่มีจรรยาบรรณก็จ่าย แต่พอคุณไปโรงพยาบาล เค้าก็ไม่มีประวัติ ไม่ทราบหรอก ว่าก่อนหน้าคุณได้อะไรมาก ทำอะไรมา กินอะไรมา เค้าก็จะรักษากันไปตามอาการ สาวๆดูแลตัวเองดีๆด้วยค่ะ ปล. ขนาดเพื่อนเรา เราเตือน ยังไม่ฟังเลย บอกว่าของเกาหลี กินแล้วสวยแน่ๆ = =" แต่เราอ่ะ เป็นเภสัช หน้าเน่า เคยคิดจะกินโรแอคเหมือนกัน แต่เด็กข้างบ้านกินแล้วไตวายก่อนเรากินสองสามวัน เราเลยหลอนค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 54 20:15:48 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 20:11:42

ความคิดเห็นที่ 37 ยาคุมก็เป็นฮอร์โมนตัวนึงเหมือนกัน พูดง่ายๆคือ ทุกอย่างมันมีทั้งโทษและดีหมด การเจาะจงว่าเป็นเพราะยาที่กินจากคลินิคนี้ทำให้เป็นมันจะทำให้คนแตกตื่นได้นะคะ ขนาดยาแก้อักเสบยังต้องกินตามโดสแล้วน้องคุณกินติดต่อกันเป็นปีๆๆๆไม่มีพัก มันก็เกินกว่าร่างกายจะรับได้ ต่อให้เป็นยาสามัญทั่วไปก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้ได้เหมือนกัน หากไม่มีความพอดี จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 20:55:39

ความคิดเห็นที่ 38 ขอให้หายไว ๆ นะคะ จากคุณ : chalanda เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 20:56:40

ความคิดเห็นที่ 39 อยากให้ผู้รู้มาชี้แจงค่ะ ว่าฮอร์โมนชนิดใดที่ช่วยรักษาสิวได้ เพราะจากหลายๆความเห็นดูเหมือนจะเชื่อ และกลัวมาก มันดูไม่แฟร์ ถ้ามันไม่เป็นความจริง ....... มะเร็งเต้านม สัมพันธ์โดยตรงกับการexposeต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ถ้าเป็นขณะอายุน้อยกว่ากลุ่มอายุเสี่ยง มักสัมพันธ์กับยีนที่ผิดปกติ ....... คห. 26 "แต่สมัยนี้มันไม่มีแล้วคำว่า "จรรยาบรรณ" มีแต่ "พาณิชย์" มองโลกในแง่ร้ายไปมั๊ยคะ หมอดีๆมีมากมายค่ะ ด้วยความหวังดีค่ะ จากคุณ : chuleedr เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 21:52:50

ความคิดเห็นที่ 40 ขอหลังไมค์คลินิคด้วยค่ะ หลานกำลังจะไปรักษาสิวค่ะ จากคุณ : พี่น้องผองเพื่อน เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 21:52:51

ความคิดเห็นที่ 41 เราว่าหมอที่เน้นเชิงพาณิชณ์เกินไป ไม่ควรจะเรียกว่าหมอแล้วนะคะ หมอ"จริงๆ"คงไม่ทำอะไรแบบนั้น - -* จากคุณ : SpiritDraconis208 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 22:10:43

ความคิดเห็นที่ 42 ขอใ้ห้น้องจขกท.หายไวไวนะค่ะ  เพื่อนเราก็กินพวกโรแอครักษาสิว เรานี้กลัวมันจะตายก่อนเห็นผล จากคุณ : หงส์ฟ้า ตาเหล่ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 23:49:12

ความคิดเห็นที่ 43 ว๊าย!!! ขอหลังไมค์ด้วยคนค่ะ หน้าตกกระและเป็นสิวตั้งแต่เด็ก รักษามาหลายคลีนิคในเชียงใหม่ กินยาแต่เด็กด้วยเลยค่ะ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งอยู่ด้วยค่ะ ปล.แม่เราเคยบอกว่ามะเร็งถ้าเรายิ่งต่อสู้กับมัน มันยิ่งแข็งแรงขึ้น แม่เราบอกว่า ต้องอยู่ร่วมกับมันอย่างสันติ แล้วมะเร็งจะทนเราไม่ได้เอง แล้วไปจากเราเองในที่สุดค่ะ ผู้ป่วยจะอยู่ได้เป็นปกติถ้ามี จิตใจที่เข้มแข็งและกำลังใจดีค่ะ เป็นกำลังใจให้อีกคนนะค่ะ จากคุณ : หนูล่องลอยค่อยรัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 02:37:03

ความคิดเห็นที่ 44 ที่ว่าเป็นยาฮอร์โมนเนี่ย  มันคือยาคุมหรือเปล่าคะ เพราะเป็นสิวเหมือนกัน หมอก็จะแนะนำให้กินยาคุม แต่เรากินแล้ว สิวก็ขึ้นอยู่ดี  แบบว่าสิวเราขั้นเทพ ยาอะไรก้เอาไม่อยู่ นอกจากโรแอคฯ ขนาดกินโรแอค สิวก็ยังขึ้นเลยคะ จากคุณ : ทะเลไม่มีคลื่น เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 08:27:35

ความคิดเห็นที่ 45 ขอคิดต่างได้ไหมค่ะ สาเหตุอาจจะมาจากการทำงาน เพราะต้องทำงานเกี่ยวกับเอกสารที่เป็นฝุ่น (เผาเอกสารทางราชการที่เก็บมา 10 ปี)  หมึกพิมพ์กระดาษเวลาเผาและการสูดดมกลิ่นและฝุ่นเป็นเวลานานมันก็มีส่วนนะค่ะ อันตรายมากเลย   ส่วนเรื่องการหาหมอเราไม่มีความรู้เรื่องยาพวกนี้ แต่เราคิดว่าทุกคนรู้ว่าการทานยาชนิดใดชนิดหนึ่งในระยะเวลานานมันส่งผลต่อเราร่างกายเราแน่นอนอยู่แล้วนะค่ะ ใครเป็นสิวแล้วเป็นสิวแล้วจำเป็นต้องไปหมอก็ไปเถอะ  หากไม่แน่ใจในตัวยาที่หมอให้ก็ถามได้ว่ามันคือยาอะไร  มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง หากกลัวก็ถามดีกว่า อยากให้สาวๆ ห้องแป้งคิดอย่างรอบครอบและมีสติในการรับข้อมูลนะคะ เป็นกำลังใจให้น้องสาวเจ้าของกระทู้หายป่วยไวๆ เปลี่ยนที่ทำงานหรือยังเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเถอะ จากคุณ : ~ P r i C h ~ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 10:32:52

ความคิดเห็นที่ 46 เจ้าของกระทู้เองนะคะ ขอบคุณทุกความเห็นที่ให้กำลังใจน้องสาวค่ะ การที่น้องสาวป่วย ทำให้ครอบครัวเรารักกันมีเวลาให้กันมากขึ้น ครอบครัวเรามี แม่ เรา น้องสาว และลูกสาวเรา (มีแต่ผู้หญิง)  เวลาไป รพ.ที ก็ยกโขยงกันไป ตอนน้องสาวไปรับคีโมก็ต้องค้างคืน ก็เอาที่นอนไปนอนด้วยกันเต็มห้องพัก มีอยู่วันหนึ่งขณะเราขับรถพากันไป รพ. แม่เราพูดขึ้นประมาณว่า ..ดีนะทีีน้องสาวยังไม่แต่งงานยังไม่มีครอบครัว งั้นลำบากแย่เลย...    แต่เจ้าลูกสาวเรา (10 ขวบ) เถียงว่า  "ยายพูดอย่างงั้นได้ไง   ก็พวกเรานี่ไงครอบครัว ยายก็คือแม่ของน้า..   เราก็คือพี่สาวของน้า..  แล้วหนูก็เป็นหลานไง ทุกคนก็รักน้า..กันหมดไง"     เรางี้ไปไม่เป็นเลย..   ไ้ด้แต่น้ำตาไหลคนเดียว จากคุณ : ชบาป่า เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 12:02:01

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาเป็นกำลังใจให้น้องสาว จขกท และ ทุก ๆ คนที่เป็นสิวแล้วรักษาที่คลีนิคนะคะ ของอย่างนี้เป็นเรื่องไม่แน่นอนค่ะ ทุกคนมีโอกาสเป็น ขอบคุณที่มาร่วมแชร์ความรู้ให้นะคะ จากคุณ : Giewzaa เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 12:13:53

ความคิดเห็นที่ 48 จขกท หลังไมค์ คลีนิก ที่ว่า ระวังโดนฟ้องหมิ่นฯ นะจ๊ะ จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 12:39:59

ความคิดเห็นที่ 49 หลังไมค์จะขอไม่บอกชื่อคลีนิคนะคะ จากคุณ : ชบาป่า เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 13:53:21

ความคิดเห็นที่ 50 ขอพิกัดอีกคนค่า >< จากคุณ : NooMintZy เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 16:09:57

ความคิดเห็นที่ 51 เราว่าสิ่งแวดล้อมของน้องสาวจขกทก็มีส่วนให้ป่วยเหมือนกันนะคะ เพราะเผาเอกสารนี่มันก็เป็นฝุ่นและมีสารพิษที่เป็นไอระเหยออกมา เพราะเอกสารต่างๆก็มีทั้งน้ำหมึกน้ำยาเคมีอยู่นะคะ เราว่าคล้ายๆกับจราจรที่ต้องสูดฝุ่นสูดไอเสียจากรถยนต์เลยค่ะ จากคุณ : ยัยใบเตย เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 16:59:03

ความคิดเห็นที่ 52 เราขอยืนยันอีกเสียง รักษาที่ต้นเหตุเลยจะดีที่สุด โดยพบหมอผิวหนังที่เป็นแพทย์รักษาด้านผิวหนังที่ โรงพยาบาลจะดีที่สุดคะ อันนี้เป็น คหสต ของเราเอง เนื่องจากหน้าเราก็หวิดแหกจากการไปหาหมอ รักษาสิวตามคลีนิคมาเหมือนกัน เราทายาหมอ ฉีดสิว กินยา นู่นนั่นนี่ จนเกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติมันเสียไป มารู้ตัวอีกที หน้าอ่อนแอมากเป็นผดๆขึ้นเต็มไปหมด คันมาก สุดท้ายมารู้ตัวจาก จากคุณหมอที่สถาบันโรคผิวหนังคะว่า เราเป็น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ SEBDERMนั่นเอง นอกจากนี้หมอยังบอกว่าผิวของเรามีอาการผิวติด สเตีรรอยด์ด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากการฉีดสิว ทายาสิว ต่างๆนานา หมอบอกว่าผิวหน้าไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งนี้รวมถึงการทายาสิวติดต่อกันเป็นเวลานานเป็นเวลาหลายปีด้วย จะบอกว่า เราเสียใจมาก เราเป็นคนรักผิวมาก แต่การรักผิวแบบที่เคยทำมัน เป้นการทำร้ายผิวเราโดยไม่รุ้ตัว ใช้เวลารักษาจนถึงตอนนี้ รวมแล้ว ประมาณ 10เดือนคะ ตอนนี้หน้าเรากลับมาดีแล้วคะ ดีในที่นี้คือดีจากต้นกำเนิดจริงๆ ขอบอกเลยว่า ช่วงเวลานั้นเราทรมานมากที่สุด เรียกได้ว่าข้อมูลแน่นมาก ว่า จะรักษายังไง กินอะไร ทำยังไงให้มันดีขึ้น ดีใจมากๆ เราคิดว่าเราจะไม่หายแล้ว จิตตกไปพักใหญ่ สุดท้ายเหมือนกระบวนการทางธรรมชาติและความพยายาม ของเรามันเห็นผล เราหาย  T_T ทั้งนี้ต้องขอบคุณคุณหมอ ที่รักษาเราอย่างตั้งใจด้วย ขอบอกเลยคะว่า อย่าใช้อะไรเพียงแค่ใครๆบอกว่าดี หรือ ตะบี้ตะบันหาหมอโดยไม่รู่ว่า หมอที่รักษาเรา เค้ารักษาจากต้นเหตุรึเปล่า  พอหน้าพัง เสียหลายอย่างนะคะ เสียเงิน เสียเวลา เสียใจ เสียความรู้สึก........... เราเชื่อว่าสาวๆหลายคนรักผิว แต่ต้องรักให้ถูกวิธีด้วย ไม่งั้น บางทีเราอาจทำร้ายหน้าเราโดยไม่รุ้ตัว ก็ได้คะ จากคุณ : punro937 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 20:49:28

ความคิดเห็นที่ 53 ขอให้น้องสาวและเพื่อนคนอื่นๆหายไวนะคะ จขกท เราหลังไมค์ไปแล้วนะคะ อยากทราบพิกัดค่ะ จากคุณ : อยากเลี้ยงน้องไซแต่ไม่มีตัง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 21:18:06

ความคิดเห็นที่ 54 เป็นกำลังจัยให้นะค่ะ จากคุณ : แม่น้องมิวนิค เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 22:06:33

ความคิดเห็นที่ 55 รับฟังแล้วก็วางเป็นกลางนะคะ จขกท.ช่วยบอกตัวยาที่คุณหมอบอกว่ามีส่วนได้มั้ยเอ่ย   เผื่อคนที่รักษาคลีนิกอื่นจะได้ระวังด้วย จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 00:35:01

ความคิดเห็นที่ 56 ขอหลังไมค์ชื่อคลีนิคด้วยได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : น้องเพลิน (น้องเพลิน) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 12:36:21

ความคิดเห็นที่ 57 อยากทราบพิกัดด้วย หลังไมค์ได้มั้ยคะ จากคุณ : DeAiCafe เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 12:40:01

ความคิดเห็นที่ 58 ค้านสุดพลังครับ เนื้องอก มะเร็ง เกิดได้จากหลายสาเหตุ ตาม อ.ลูกแม่ดอกบัว ที่อธิบายไว้ครับ สำหรับยาพวกรักษาสิวไม่เคยมีรายงานนะครับว่าทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ คนละเรื่องเลยครับ ขอให้ทุกท่านเข้ามาอ่านอย่างมีวิจารญาณ นะครับ ยิ่งถ้าจะไปขุดคุ้ยคลินิกหมอที่รักษา ยิ่งไปกันใหญ่แล้วครับ ห้องแป้งนี่นับวัน ยิ่งประหลาดไปทุกที จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 22:53:53

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านอย่างมีวิจารญาณ มะเร็งเป็น multi factor นะคะ อย่างไรก็ตามขอบคุญเจ้าของกระทู้มากๆๆค่ะ ปล ที่pantipไม่ใช่ journalทางการแพทย์คงไม่ต้องถึงกับมีเอกสารทางวิชาการก็ได้มั้งคะ จากคุณ : white lily 4 me เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 23:53:47

ความคิดเห็นที่ 60 หน้าเราเป็นสิวตลอด เป็นๆ หายๆตลอด อ่านแล้ว คิดว่าเป็นสิวต่อไปดีกว่าเรา จากคุณ : สลัดผักรวม เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 00:39:30

ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อก่อนเราติดหาหมอสิวมาก อะไรๆก็แพ้ ต้องใช้ของหมอตลอด ขนาดใช้ Cetaphil ยังแพ้ ผิดกับน้องสาวเราโชคดีที่ขุมขนละเอียด ทำให้ไม่มีสิว เลยไม่เคยต้องหาหมอ ที่สำคัญ น้องสาวเราไม่เคยแพ้เลย ทำให้เราท้อมากๆ จุดหักเหในชีวิตเราก็เกิดขึ้นค่ะ เรียนต่างประเทศ ไม่มีหมอสิวเหมือนบ้านเราหรอกค่ะ ถึงมีก็แพงม๊ากกก และก็ธรรมดา เลยไม่ได้ไปหาค่ะ ทน แพ้น้ำ แพ้สาระพัด อากาศหนาวไม่ทาครีม ผิวนี่ลอกออกมาเป็นแผ่นๆ สุดท้ายหลังจากที่ทนมาปีนึง ผิวเรากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ทุกวันนี้ใช้อะไรก็ไม่ค่อยแพ้ค่ะ มีความสุขที่สุด กลับมาทาครีม แต่งหน้า (ล้างหน้าดีๆหน่อย) อยากบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ เลิกหาหมอสิวเถอะค่ะ หน้าจะบาง ทำให้ผิวหน้าไม่แข็งแรง ทนเอาหน่อย ทนจนผิวกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง ส่วนเรื่องยา ขนาดยาแก้อักเสบที่บ้านเราหาซื้อได้ง่ายดาย ที่เมืองนอกนี่ ต้องมีใบรับรองจากหมอนะค่ะ เล่าให้หมอที่นู่นฟัง เค้าตกใจมาก เค้าบอกยานี้อันตรายมากนะ Thailand only ค่ะ ฮาหน้าหมอ จากคุณ : loVeLyAnGel เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 08:23:13

ความคิดเห็นที่ 62 ก่อนอื่นต้องขอให้กำลังใจน้องสาวคุณชบาป่านะคะ  สู้ๆค่ะ คุณชบาป่าคะอยากทราบพิกัดคลินิกด้วยเหมือนกัน ไม่บอกชื่อก็ได้ค่ะกลัวผิดกฎ เรื่องที่ว่ายาสิวนั้นมีผลต่อการเป็นเนื้องอกกับมะเร็งนั้น ส่วนตัวเราไม่รู้หรอก   เมื่ออ่านโพสต์เจ้าของกระทู้แล้วแบบว่า  ที่เราเป็นเนื้องอกนั้นมีสาเหตุมาจากยาสิวรึเปล่า เราเป็นสิวมานานมากกกกกกก  เกินสิบปีได้ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่  หมอในเชียงใหม่หามาหมดแล้ว เคยทานยาที่แรงที่สุด  ทำหน้าคอร์สที่แพงที่สุด ถ้าให้รวมเม็ดเงินที่เสียไปประมาณล้านบาทคงถึง เราว่ายาตัวนั้นเราเคยทานแน่นอน  แต่จะเป็นสาเหตุให้เเป็นเนื้องอกรึเปล่าไม่แน่ใจ เราเพิ่งผ่าตัดเดอร์มอยซีสต์  เป็นก้อนไขมันขนาดใหญ่มาก  13*17 cm นน. 1.2 kg  ที่ปีดมดลูกซ้ายต้องผ่าแบบเปีดหน้าท้อง  หมอบอกว่าไม่เป็นมะเร็ง แต่มีโอกาสเกิดได้อีก เราถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร หมอบอกว่าเกิดจาก ความผิดปกติของร่างกายเราเอง เราถามว่าแล้วมีทางป้องกันมั้ย หมอบอกไม่มี คงต้องอยู่ที่พฤติกรรมของเราเอง เราไม่อยากโทษใคร หรือยาอะไร แต่อยากรู้ไว้จะได้รู้ทางหลีกเลี่ยง และที่สำคัญน้องชายเรากำลังรักษาอยู่ เลยอยากป้องกันไว้ก่อน ทุกวันนี้ไม่ไปหาหมอละค่ะ  ปลง!  หน้าแหกก็รับได้ค่ะ เบื่อทานยา ทาครีมแล้ว จากคุณ : Missbiotim เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 10:26:04

ความคิดเห็นที่ 63 เราก็มีประสบการณ์อย่างนี้เหมือนกัน มีอยู่ช่วงหนึ่งเป็นสิวเยอะ หมอผิวหนังเลยให้ทานยา สิวหายค่ะ ทานอยู่ประมาณ 6 เดือนได้ เริ่มรู้สึกมีก้อนที่เต้านม เลยไปหาหมอ อาจารย์หมอที่ศิริราชตรวจแล้วบอกว่าต้องผ่า อาจารย์ซักประวัติ ถามไปถามมาเราบอกอาจารย์ว่าทานยารักษาสิวอยู่ อาจารย์โมโหแล้วสั่งให้เราหยุดกินทันที (จำไม่ได้ว่าอาจารย์พูดว่าอะไร แต่ใจความคือ กินยาเพื่อรักษาสิวแล้วเป็นมะเร็งมันไม่คุมกันเลย) แต่เราโชคดีผ่าเนื้องอกออกมาตรวจไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ยังมีเนื้องอกก้อนเล็กๆ อยู่อีก 2 ก้อนที่เล็กมาก ต้องคอยตรวจอยู่เป็นประจำว่าจะใหญ่ขึ้นหรือเปล่า เราเลยไม่เคยกินยารักษาสิวอีกเลย ผ่านมา 8 ปีแล้วเจ้าก้อนเล็กๆ 2 ก้อนนั้นก็ไม่โตขี้น ใครจะไม่เชื่อก็ได้นะ แต่เราเชื่ออาจารย์หมอค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 54 11:23:48 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 54 11:22:17 จากคุณ : very baby เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 11:17:21

ความคิดเห็นที่ 64 เราเคยมีประสบการณ์เหมือนกันค่ะ คือปกติแล้วเราจะมีก้อนซีสท์เล็กๆ ที่เต้านมอยู่ 2-3 ก้อน ไม่มีอาการเจ็บใดๆ และเป็นมานานแล้วค่ะ แล้วเราก็มากินยาเกี่ยวกับบำรุงผิว เพิ่มฮอร์โมน..ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเพิ่มฮอร์โมนก็ดี เพราะเราเป็นคนฮอร์โมนน้อยอยู่แล้ว...กินไปได้สัก 2 อาทิตย์ สิวเราขึ้นเยอะมาก และที่สำคัญที่สุดคือ ไอ้ก้อนซีสท์ที่มีอยู่มันโตขึ้น และเจ็บขึ้นด้วยซิคะ...ทำให้เรากลัวมาก ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ก็ลองหาสาเหตุ จนมาจบที่ยาบำรุงนี่แหล่ะค่ะ เราพึ่งจะนึกออกว่ามันเกี่ยวกับฮอร์โมน เราจึงหยุดกินทันที...ปรากฎว่าหยุดกินได้ 2-3 วัน...ก้อนซีสท์มันเริ่มเล็กลง และเจ็บน้อยลง พอหยุดกินได้สักอาทิตย์นึง ก้อนมันก็กลับมาเล็กเท่าเดิม และไม่เจ็บอีกเลยค่ะ...เราเลยไม่กล้ากินต่อเลยค่ะ...และก็คิดว่า ยาอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับฮอร์โมน เราจะไม่กินอีกเด็ดขาดค่ะ. เพื่อนๆ ก็ลองพิจารณาเอาเองละกันเนาะ เราก็แค่มาแชร์ประสบการณ์ตรงให้ฟังกันค่ะ... จากคุณ : namojang เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 20:02:07