ในฐานะผู้ให้บริการ
ตอนนี้งานที่เราทำ เกี่ยวข้องกับ "สปา" ทั้งสปาที่อยู่ในโรงแรมห้าดาว ห้างสรรพสินค้า หรือตั้งอยู่เดี่ยวๆทั้งในและนอกประเทศ
ซึ่งหัวใจที่สำคัญสุดๆ ในธุรกิจนี้ คือ "การบริการ"
เราเองมีส่วนช่วยให้คำแนะนำเจ้าของกิจการ ในการเลือก และฝึกอบรม พนักงานตั้งแต่ Maid, รีเซฟชั่น, เจ้าหน้าที่ให้บริการและนวดบำบัด(Therapist) ไปจนถึงManager สิ่งที่เราพยายามเน้นย้ำเสมอๆกับลูกค้าของเราคือ การเลือกพนักงานให้เขามาอยู่ในองค์กร บริษัท หรือธุรกิจของผู้ประกอบการเอง คือ "ทัศนคติที่ดี" ค่ะ เพราะหากพนักงานในองค์กรทีทัศนคติมองว่า ลูกค้าคือตัวสร้างปัญหา ภาระในการทำงานแล้ว อย่าได้คิดเปิดธุรกิจจะดีกว่า เพราะแววเจ๊งมันมาแต่ไกล
เราเองก็ให้บริการ ลูกค้าที่เจอก็มากมายหลายแบบ แต่หากลูกค้ายังจ่ายเงินตรงตามเวลาอยู่ไม่ว่ายังไงก็ยังถือเป็นลูกค้า มีพระคุณกับเรา ให้เรามีงานที่เราชอบทำ มีโอกาสดีๆ มากมายในชีวิตค่ะ
ครั้งนึงนานมาแล้ว เราเคยทำหน้าที่เป็น specialist ให้กับมือถือยี่ห้อดัง สมัยนั้นหน้าจอมือถือยังเป็นขาวดำแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหน้าจอสี แล้วกลายมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
งานของเราคือ อยู่ตามศูนย์มือถือ หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายมือถือยี่ห้อที่เราทำงานอยู่ ให้คำแนะนำในการใช้งานมือถือรุ่นต่างๆ ในยี่ห้อนี้ ช่วงนึงที่จากจอสีเป็นจอสีเสมือนจริง เครื่องมือถือมักมีปัญหาที่มาจากการผิดพลาดของซอฟแวร์ที่ยังไม่เสถียรของเครื่องเอง
ครั้งนึงที่วันนี้เรายังจำได้ดี เราโดนลูกค้าที่โมโหมากๆ จากการผิดปกติของมือถือที่มาจากเหตุดังกล่าว มาถึงศูนย์ที่เราทำงานอยู่แต่เช้าตั้งแต่ห้างเพิ่งเปิด เข้ามาถึงปามือถือใสหน้าเราจนแตกกระจาย ยังไม่ทันพูดอะไรเลย เราทักแค่ "สวัสดีค่ะ" เท่านั้นเอง เลือดเราออก เพราะโดนที่หางคิ้วแตกจนต้องเย็บ เราทำอะไรไม่ถูก งง หยิบฝ้าเช็ดหน้ามาซับเลือด คุณผู้ชายที่เป็นลูกค้าที่ปามือถือก็คงตกใจ รีบขอโทษเรา และบอกว่าตัวเองโมโหรุนแรงไป เราตอบว่า ไม่เป็นไร เข้าใจดีว่ามือถือที่ซื้อไปมีราคาแพงมาก แล้วคงหงุดหงิดที่ไม่ได้ใช้ซะที
เขาเล่าว่า เขาโทรไป Call center ทาง Call Center ก็ตอบคำถามจนทำให้คุณคนนี้รู้สึกว่า เขารู้สึกว่าโดนกล่าวหาไม่ฉลาดใช้มือถือไม่เป็น เลยยิ่งโกรธมาก
นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จาก Call center คือส่งเครื่องซ่อมที่ศูนย์ไม่มีเครื่องสำรองระหว่างซ่อมอีก
ผู้จัดการสาขาเข้ามาดูแลลูกค้าต่อจากเรา โดยเราไปคลีนิคเพื่อเย็บแผล รู้สึกเจ็บมาก โดยคุณลูกค้ายินดีที่จะช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แต่ทางต้นสังกัดเราดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ไม่รู้ตอนนั้น ทำไมเราไม่รู้สึกโกรธ หรือคิดเอาเรื่องใดๆกับคุณลูกค้าเลย นอกจากนี้บริษัทที่เราทำงานอยู่ ยังออกเอกสารแสดงความขอโทษในความไม่สดวกในการใช้งานมือถือ และขอบคุณที่ลูกค้ายังแจ้งปัญหาให้ได้ปรับปรุงแก้ไขนโยบายเครื่องสำรองระหว่างส่งมือถือมาซ่อมอีก
หลังจากนั้นคุณลูกค้าแวะมาที่ศูนย์ที่เราทำงานอยู่เอาขนมมาให้ และชักชวนใครๆ ให้ใช้มือถือยี่ห้อนี้ และตลอดระยะเวลาที่เราทำงานอยู่ตรงนั้นคุณลูกค้าคนนี้ เปลี่ยนมือถือต้องยี่ห้อนี้เท่านั้น และยังชักนำทั้งคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงมาใช้และซื้อมือถือยี่ห้อนี้เช่นกัน (ช่วงนั้นคนนิยมเปลี่ยนมือถือกันบ่อยมากๆ)
ต้องขอขอบคุณพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่ได้มีโอกาสทำงานและมีประการณ์ร่วมกันในช่วงนั้น ที่ได้ฝึกวิธีในการคิดและปฎิบัติในการให้บริการที่ดีติดตัวเรามาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนแผลเป็นที่หางคิ้ว เย็บไปสองเข็ม เราก็ไม่ได้ไปฉีดฟิลเลอร์ หรือทำอะไร เก็บมันเอาไว้ เพื่อคอยเตือนใจตัวเอง เวลาเกิดอารมณ์หงุดหงิดกับลูกค้าในวันนี้ เพราะวันนั้นถึงขั้นเลือดตกยางออกเรายังทนมาได้
เวลาประชุมกับ พนง เวลาเจอลูกค้าไม่น่ารักเข้ามาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน เรามักจะบอกพนักงานเสมอๆ ลูกค้าเข้ามาเป็นบททดสอบ ให้เราหาวิธีได้คิดและหาทางเอาชนะและแก้ไข และฝึกตัวเอง วัดความอดทนให้ได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว ตัวเองมีความเหมาะสมกับอาชีพนี้หรือไม่
นอกจากนี้ลูกค้ายังมีน้ำใจจ่ายเงินเป็นค่าประสบการณ์ให้พวกเราได้เรียนรู้อีกด้วย แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไปโกรธ แค้น เก็บประสบการณ์แบบนี้เอามาฝังใจตัวเองในด้านลบอีกล่ะ
แต่ถ้าเราเป็นผู้ใช้บริการ แล้วเจอผู้ให้บริการที่บกพร่อง ไม่รู้จักความหมายคำว่า "หน้าที่ ความรับผิดชอบ" ถ้าไม่หนักหนามากมายนัก ก็ผ่านๆ ไป
แต่ถ้า "เยอะ" เกิน ก็คงต้องสะกิดให้ได้รู้สึกตัวบ้างว่า ตอนนี้ตัวเอง สวมหมวกใบไหนอยู่ ^^