ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อกี้รูปไม่ขึ้น จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 02:21:22

ความคิดเห็นที่ 2 1. Acqua di Parma: Colonia เป็นกลิ่นที่คิดค้นมานานเกือบร้อยปีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเก่าโบราณ เป็นแนวซิตรัสค่ะ เปิดมาก็มะนาวนำมาก่อน สดชื่นมาก ตามมาด้วยลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ ลดทอนความเปรี้ยวในตอนแรกไป เขาบอกว่ามีโน้ตกุหลาบด้วยแต่เราไม่ค่อยได้กลิ่น ตอนท้ายๆ ก็จะออกแป้งนิดๆ แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าแก่หรือว่าเป็นผู้หญิงเกินไป เป็นแนวที่ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ใช้ได้ เหมาะกับอากาศร้อนๆ มากๆ จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 02:28:25

ความคิดเห็นที่ 3 2. Annick Goutal: Un Matin d'Orage กลิ่นนี้เกิดขึ้นเพราะ Camille Goutal ลูกสาวของ Annick ไปได้แรงบันดาลใจมาจากสวนใน ญี่ปุ่น แต่กลิ่นมันไม่ได้ออกมาแนวตะวันออกนะ สวนนี้คงเต็มไปด้วยการ์ดีเนียกับแมกโนเลีย ชื่อน้ำ หอมนี้แปลได้ว่าเช้าหลังพายุฝน เป็นน้ำหอมที่สร้างได้ดีมากๆ เลยทำให้เรานึกภาพตามออก เหมือน เดินในสวนที่มีดอกไม้ขาวๆ (มีมะลิผสมมาด้วย) ที่เพิ่งหมาดฝนมาหยกๆ มันออกเป็นกลิ่นดอกไม้ เบาๆ ที่ไม่แห้งน่ะค่ะ (ออกแนวชุ่มชื้น ฉ่ำๆ หน่อย) ต่อมามันจะออกเปรี้ยวๆ ซ่าๆ จางๆ อาจจะเป็นเพราะใบชิโสะ (นี่แหละมั้งความเป็นญี่ปุ่น) แล้วก็ จางไปแต่กลิ่นช่อดอกไม้ขาวยังอยู่บางๆ ถึงตอนจบเลย ถ้าใครชอบแนวดอกไม้อ่อนๆ คงจะชอบค่ะ ทนพอสมควร (แต่ไม่กระจาย กลิ่นชิดผิวมาก) จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 02:36:07

ความคิดเห็นที่ 4 3. Annick Goutal: Eau d'Hadrien อันนี้เราดูจากเว็บของ Annick สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1981 แต่ก็นับได้ว่าเป็นตัวยอดนิยมตัวหนึ่งของ ยี่ห้อนี้ ออกแนวซิตรัสอีกแล้ว (เราชอบมะนาว) คราวนี้มาทั้งมะนาวทั้งส้ม (grapefruit) เบสเป็นสน กลิ่นมันสดใสมากเลย เหมือนกินน้ำมะนาวหวานๆ (แต่ไม่ได้ความรู้สึก "เย็น" เท่า Acqua di Parma Colonia) คือมันดูอบอุ่นกว่า เป็นผู้หญิงกว่า (แต่ผู้ชายก็ใส่ได้เหมือนกัน) เหมาะกับอากาศร้อนๆ อีกแล้ว แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 10:55:00 จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 02:44:44

ความคิดเห็นที่ 5 4. Annick Goutal: Ninfeo Mio ยังอยู่กับ Annick ขวดรูปผีเสื้อน่ารักสุดๆ (อันนี้ส่วนตัว 55) Ninfeo Mio เป็นกลิ่นแปลกอะค่ะ คือเราคิดว่ากลิ่นมันเป็นเอกลักษณ์มากๆ กลิ่นหนึ่งในจำพวกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสวน กลิ่นนี้จาก สวน Ninfa ใกล้ๆ โรม มันเป็นกลิ่นที่เขียวมาก เขียวแรง เขียวจริงจัง แต่ไม่ฉุนนะก็ยังสดชื่นอยู่ แต่เป็นออกสดชื่นแนวสมุนไพร ไม่ได้สดใสน่ารักอย่าง Eau d'Hadrien เปิดมาด้วยมะกรูด มะนาว ที่ชัดมาก มีลาเวนเดอร์ ซึ่งไม่ออกแนวนุ่มนวลแต่ไปเพิ่มความคล้ายยา สมุนไพรให้ Ninfeo Mio เข้าไปอีก (และไม่เป็นกลิ่นที่ "หวาน" เลย) พอถัดจากกลิ่นเปิด มันจะออกแนวดินชุ่มฉ่ำฝน คือมันจะเป็นเหมือนกลิ่นที่โชยๆ ขึ้นมาจากดินหลังฝนตกน่ะค่ะ เป็นกลิ่น ที่ไม่ค่อยเหมือนใครจริงๆ จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 02:56:39

ความคิดเห็นที่ 6 5. l'Artisan Parfumeur: Thé Pour Un Été เป็นกลิ่นเบาๆ น่ารักมาก มีโน้ตมินต์ มะนาว มะลิ ชาเขียว กลิ่นออกมาเป็นชามะลิเย็นๆ มีมินต์จางๆ สมชื่อ ชาสำหรับหน้าร้อนจริงๆ เลย แต่มันก็เป็นกลิ่นที่เบาบางจริงๆ แทบไม่ได้กลิ่นแน่ะ และไม่ทนเลยแม้แต่น้อย ละลายหายไปกับอากาศ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 03:04:00 จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 03:03:41

ความคิดเห็นที่ 7 6. Atelier Cologne: Oolang Infini เนื่องจากเราชอบกลิ่นแนวชามาก เลยอดไม่ได้ที่จะลองอันนี้ ชื่อเป็นชาอูหลง แต่มีมะกรูดจางๆ มะลิ หนัง หญ้าแฝก แถมมาให้ด้วย โน้ตดูแมน แต่กลิ่นนี้ก็เวิร์กสำหรับผู้หญิงเหมือนกันค่ะ (และมันจะเวิร์กมากถ้าอยู่บน ตัวผู้ชาย จริงๆ นะ เอาให้พ่อใส่แบบ โอ้ มันเป็นกลิ่นที่เหมาะกับผู้ชายมาก) หอมกลิ่นชากรุ่นๆ ควันๆ smoky หน่อยๆ ตรงกลางจะนุ่มนวลลงมากเป็นกลิ่นควันจางๆ ที่จะอยู่กับ ผิวเราไปเรื่อยๆ คือมันทนดีมาก ถึงชื่อจะเป็นโคโลญแต่เป็นโคโลญที่ตั้งใจให้มีความเข้มข้นของกลิ่น สูง (Cologne Absolue) ซึ่งก็คือเก้าชั่วโมงแล้วยังได้กลิ่นอยู่เลย ไม่ฉุนไม่แรง ออกแนวน่าค้นหา อิอิ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 10:55:45 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 03:19:48 จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 03:18:48

ความคิดเห็นที่ 8 7. Creed: Love in White เราเคยรัก Royal Water มากจากแซมเปิลมาแล้ว (นานแล้วเลยไม่เขียนรีวิว แต่จำได้ว่าชอบ มาก) พอมาคราวนี้ก็เลยลองน้ำหอมสำหรับผู้หญิงของ Creed ดูบ้าง โน้ตมีไอริส แดฟโฟดิล แมกโนเลีย เบสเป็นข้าว แก่นจันทน์ วานิลลา ดูน่าจะน่ารัก แต่อาจจะเป็นเพราะเคมีผิวเราหรือเปล่าไม่รู้เลยเฉยๆ กับ Love in White เขาบอกว่าท็อปโน้ตเป็นส้มก็ไม่ค่อยได้กลิ่น มันก็ออกเป็นกลิ่นดอกไม้รวมๆ กัน แนวน้ำๆ หน่อย กลิ่นไม่ค่อยเปลี่ยนนะคะสำหรับเราจากเปิดสู่จบ ก็เป็นช่อดอกไม้แนวน้ำๆ เหมือนเดิม ไม่ติดใจเท่าไหร่น่ะอันนี้ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 10:56:15 จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 03:29:13

ความคิดเห็นที่ 9 8. Eau d'Italie: Jardin du Poete คิดว่าต้องลอง Eau d'Italie สักกลิ่นเลยคว้าเอาอันนี้มาเพราะชื่อเพราะ (มีเหตุผลมาก 55) เป็นสวน (ส้ม) ของกวี กลิ่นเป็นส้มฉ่ำๆ ผสมดอกไม้ ไม่หวานเกินไปสำหรับผู้ชาย แต่ดูสดใสพอที่ จะเป็นกลิ่นของผู้หญิง คือมันออกแนวสดชื่นๆ ดูมองโลกในแง่ดีแต่ก็ไม่ใช่เป็นกลิ่นแบบแนวฝันๆ เจ้าหญิงๆ มี basil (ใบโหระพาหรือเปล่า) กับพริกไทยมาตัดทำให้ไม่หวานจนเกินไปนัก เบสเป็นสนกับหญ้าแฝก   Eau d'Italie ไม่ยักกะทำขวด 50 ml - -" จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 03:44:52

ความคิดเห็นที่ 10 9. Serge Lutens: Jeux de Peau ชื่อเซ็กซี่นะ skin games ดูถึงเนื้อถึงตัวดี แต่มันไม่ใช่กลิ่นแนวยั่วยวนแต่อย่างใด Serge Lutens บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากคิดถึงตอนเด็กๆ ชอบขนมปังปิ้งทาเนย แต่จริงๆ มันก็ ไม่ใช่กลิ่นแนว gourmand ปกติอีกเหมือนกัน มันออกเป็นแนวไม้หอมๆ (และไหม้ๆ นิดๆ) ผสม เครื่องเทศ ผสมผลไม้แห้งๆ ที่เราก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร แต่มีรีวิวอื่นบอกว่าแอปริคอต เอาเป็นว่าถ้าได้กลิ่นนี้เราจะไม่นึกถึงร้านขนมปังในฝรั่งเศสอย่างที่คนสร้างอยากให้นึก 555 แต่หอม มากนะ คิดถึงน้ำเชื่อมข้นๆ สีทองที่ทำด้วยเครื่องเทศแทนน้ำตาลกำลังจะราดลงบนไม้ไหม้ๆ ที่ชุ่ม เนย (อะไรน่ะ - -" มันเป็นกลิ่นที่อธิบายยากมากจริงๆ ค่ะ แต่ก็ประมาณนั้นแหละ) แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 10:57:09 จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 04:03:14

ความคิดเห็นที่ 11 10. Serge Lutens: Féminité du Bois สุดท้ายละ (สำหรับล็อตนี้ และล็อตหน้ายังไม่มี 555) กลิ่นนี้เคยอยู่ในไลน์ของ Shiseido เมื่อ เกือบสิบปีที่แล้วและ Serge Lutens ก็หยิบมา relaunch เป็นกลิ่นไม้สนซีดาร์บวกกลิ่นดอกไม้ มี โน้ตน้ำผึ้งกับพลัมด้วย แล้วก็อบเชย รวมๆ มันก็เป็นไม้ผสมเครื่องเทศที่หอมมากอยู่ กลิ่นค่อนข้างเข้มข้น มากค่ะ ฟืดแรกมานี้ถ้าร้อนๆ ไม่ไหว เหมาะใส่อยู่ในห้องแอร์ แต่พอทิ้งไว้สักพักจะหอมมาก กลิ่นนี้มันได้กลิ่นแล้วดูแพงยังไงบอกไม่ถูก (ไม่ใช่กลิ่นจำพวก "อ่อนเยาว์" ด้วย) แบบดูเป็นผู้ บริหารวัยสักประมาณหนึ่งแล้ว ถ้าจะพบต้องติดต่อเลขาก่อนอะไรอย่างนั้น กลิ่นแบบเป็นคนที่เข้าถึงได้ไม่ ง่าย มันจะดูหรูๆ หน่อย หมดแล้วค่ะ ถ้าถามว่าจะซื้อขวดเต็มจะเลือกขวดไหนจากล็อตนี้เราคิดว่าคงเป็น Eau d'Hadrien กับ Jardin du poete นะ ใส่ง่ายได้หลายโอกาส (ยกเว้นงานกลางคืนอาจจะต้องเข้มขึ้นมา หน่อย) แต่ยังไม่ซื้อ ยังอยากลองกลิ่นอื่นๆ ไปก่อน น้ำหอมในโลกก็ช่างมีเยอะแยะมากมายจริงๆ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 10:57:40 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 04:27:34 จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 04:26:20

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบ creed มาก ^^ แต่ไม่ใช่รุ่นนี้ จากคุณ : belleja เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:15:25

ความคิดเห็นที่ 13 น่าสนใจมากเลยค่ะ อ่านจบแล้วอยากได้บ้างเลย >< จากคุณ : mangporr เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:30:55

ความคิดเห็นที่ 14 หาซื้อได้ที่ไหนมั่งอ่ะครับ ส่งหลังไมค์ก็ได้คับ จากคุณ : kovkov (kovkov) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:08:15

ความคิดเห็นที่ 15 รีวิวได้ดีมากเลยครับ ขอบคุณที่เอามาฝากกัน แต่ถ้าเข้าสู่วงจรน้ำหอม Niche แล้วจะถอนตัวไม่ขึ้นนะครับ แล้วถ้าคุณ จขกท.ชอบกลิ่นชา แนะนำไม่ควรพลาด L'Artisan Parfumeur Tea for Two ครับ จากคุณ : ผมงง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 14:23:13

ความคิดเห็นที่ 16 เราไม่กล้าแม้แต่จะไปลองดมค่ะ กลัวห้ามใจไม่อยู่ เพราะปกติเราสะสมน้ำหอม ซื้อมันอยู่นั่น กลัวว่าถ้าได้เริ่มเล่น niche แล้วจะหมดตัว  ไม่เอาดีกว่า ขออยู่กะแค่พวกน้ำหอมดีไซเนอร์ทั่วไปดีกว่า แต่ถ้าเป็น Annick Goutal อาจจะลองซื้อมาดมดูค่ะ เพราะราคาไม่แพงกว่าพวกดีไซเนอร์แบรนด์ปกติ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 16:35:18 จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 16:28:06

ความคิดเห็นที่ 17 จริง ๆ น้ำหอม Niche ไม่จำเป็นว่าจะแพงเสมอไปนะครับ เพียงแต่แนวทางการทำน้ำหอมไม่ได้เน้นตลาดทั่วไปเท่านั้น แต่จะเน้นเอกลักษณ์ สร้างความต่าง หรือเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเท่านั้น น้ำหอมดีไซเนอร์ถ้าซื้อที่เคาเตอร์ 2,000-4,000 บาท น้ำหอม Niche ตามเว็บออนไลน์ที่เชื่อถือได้ราคาประมาณนี้มีเยอะแยะ เพียงแต่อาจต้องเสียค่าส่งด้วยอีกเท่านั้นเอง จากคุณ : ผมงง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 17:25:38

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบน้ำหอมnicheเหมือนกันค่ะ แนะนำยี่ห้อtoccaค่ะ หอม กลิ่นดีมาก เราชอบที่สุดเลย จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 20:12:58

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำหอม niche คือ??? จากคุณ : Lady_Panko เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 21:03:47

ความคิดเห็นที่ 20 @K'Lady_Pankoน้ำหอม Niche คือน้ำหอมที่จับตลาดบน เน้นคุณภาพเเละส่วนผสม ไม่มีการโฆษณา เป็นใบปิดต่างๆค่ะ ราคาก็ค่อนข้างสูงนิดนึง เเล้วเเต่เเบรน เเละกลิ่นค่ะ จากคุณ : Sensu เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 21:54:25

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ belleja ชอบกลิ่นไหนของ creed คะนี่ คุณ mangporr ลองดมๆ ดูค่ะแล้วจะติดใจ ^^ น้ำหอมพวกนี้น่าสนใจจริงๆ คุณ kovkov เราสั่ง decant จากเว็บน้ำหอมในเยอรมันน่ะค่ะ (พอดีตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ) ส่วนแหล่งซื้อในไทยเราไม่ทราบเหมือนกันอะค่ะ ยังไม่ได้หาข้อมูลเลย คุณ ผมงง ขอบคุณมากเลยค่ะ ยังมีอีกหลายกลิ่นมากๆ ที่อยากลอง (ท่าทางจะถอนตัวไม่ขึ้นจริงๆ อย่างที่ว่า เก็บ tea for two อยู่ในลิสต์ที่ต้องลองแล้วค่ะ ^^ คุณ Doraemon no fushigi na POKKE เริ่มจาก niche ที่ไม่ได้ราคาแรงมากก็ได้ค่ะ อย่าง Annick กับ l'artisan นี่เลยมีน่าลองหลายตัว เพราะจริงๆ ต่อไปถึงเราจะชอบกลิ่นไหนก็ตามแทบตายขึ้นมา เราก็คงคิดหลายตลบมากถ้าจะซื้อน้ำหอมขวดเดียวเฉียดหมื่น (หรือกว่านั้น) สำหรับเราการใช้น้ำหอมคือความสุขเราก็ต้องหาราคาที่เรารับได้และมีความสุขกับมันด้วย คุณ the pretty pill ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยแนะนำ น้ำหอมมันมีมากมายจนดมไม่หวาดไม่ไหวแล้ว คุณ Lady_Panko อย่างที่คุณ Sensu มาช่วยตอบให้เลยค่ะ น้ำหอม niche สร้างสรรค์ผลงานเหมือนงานศิลปะให้ออกมาเป็นเอกลักษณ์ (บางอย่างถึงได้แปลกมาก อย่างกลิ่นเลือด กลิ่นอะไรประหลาดๆ ก็ไม่ได้คิดถึงว่าคนส่วนใหญ่น่าจะชอบจะได้ขายได้เยอะๆ) แล้วบางแบรนด์ก็หายากหน่อยต้องไปตามในร้านของเขาเองอะไรอย่างนี้ จากคุณ : Kacey เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 01:49:49