อั้ม และพลอย ทำบุญชาตินี้แล้วสวยชาติหน้า กับหาเงินทำหน้าแล้วสวยชาตินี้ จะเลือกอะไรกันค่ะ
|
 |
ทำบุญชาตินี้แล้วสวยชาติหน้า กับหาเงินทำหน้าแล้วสวยชาตินี้ จะเลือกอะไรกันค่ะ
คำถามนี้มันเกิดขึ้นมาตอนได้ดูรายการ รายการหนึ่งค่ะที่เกียวกับการทำศัลยกรรมทางช่อง 5 ที่พิธีกรมี คุณ ได๋ ไดอาน่า และคุณหมออีกท่านหนึ่งเป็นพิธีกร ประกอบกับการอ่านกระทู้ ของคุณ กระเทยกลัวน้ำ ทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาว่า คนเราเอาเข้าจริงๆแล้วก็จะมองสิ่งแรกปราการณ์ ด่านแรกเลยคือ หน้าตา กริยา ท่าทาง
พูดได้เต็มปากเลยว่า เคยเห็นมากับตัวเองแล้วบนรถไฟฟ้าเมื่อไม่นานมานี้เอง เหตุการณ์เป็นแบบนี้ คือเราขึ้นมาจากสถานีปลายทางค่ะ ก็ยืนถือของมาตลอด เราชอบหลบไปยืนบนบริเวณริมๆ ประตูเปิดของบีทีเอสอีกด้านที่ไม่ได้เปิดใช้ค่ะ เพราะจะได้ไม่เบียดและไปรบกวนใคร เลยเห็นเหตุการณ์ตลอด
มีน้องนักศึกษาผู้หญิงคนนึงก้น่ารักนะหน้าตาก็ปกติอาจจะไม่เทรนดูไม่แบ่วแต่ก้ดูสมวัยค่ะขึ้นมาจากสถานนีหลังเราแค่นึงสถานีค่ะ น้องเค้าก็เข้ามาแล้วภายในขบวนรถที่นั่งมันก็เต็มค่ะ น้องก็ยืนผ่านมาหลายสถานีมาก แล้วน้องเค้าก็ถือของเต็มมือเลย พวกโน๊ตบุ๊ก กระดาษอะไรเยอะแยะเชียว แล้วถัดเลยจากน้องเค้าไป ก็จะมีผู้ชายเหมือนว่าจะทำงานอ๊อฟฟิศอยู่สองคนเค้าก้นั่งคุยกันไม่สนใจอะไรเลย
ในใจเราคิด แหม เป็นผู้ชายแท้ๆ ทำไม ไม่ลุกขึ้นหน่อยน่า นั่งคุยกันอยู่นั้นแหละ แสดง สปิริต นิดนึง ก็ไม่ผ่านไปสามสถานี มีน้องมหาลัยขึ้นมาจากสถานีนี้อีกสามคน เรายอมรับค่ะว่าน้องสามคนนี้สวย ดัดฟัน ตาแบ๋ว ผมสวย หน้าก็ใส และคงมีการโบท๊อก เสริมจมูกด้วย คือเราเป็นผู้หญิงเราก็มองออกนะค่ะ ว่าศัลยกรรม ก็เข้ามาปุ๊บคุยกันนุ่งนิง เลย น้องเค้าก็ยืนนะทั้งสามคน
สักไอ้ผู้ชายคนนึ่งมันสะกิดเพื่อนค่ะ เห็นจริงๆว่าเค้าสะกิดกัน สาบาน แล้วลุกขึ้นเลยเดี่ยวนั้นแล้วไปสนิทน้องสามสาวแบ๋วใส ให้ไปนั่ง เรางงไปหมด แล้วไอ้น้องคนที่ถือของพะรุงพะรัง คุณไม่มีสมองจะคิดไปสกิดให้น้องเค้านั่งเหรอไงค่ะ จาก ลาดพร้าว มาสยามนี้ไม่ได้ใกล้เลยนะ ... คืองง ไม่กล้าจะพูดอะไรกลัวหาว่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน
ในตอนนั้นในหัวคิดเลยว่าคนเรามันมองกันตรงนี้เหรอ ถามว่าตัวเราเองใจอยากจะสวยไหมก็อยากนะค่ะ เพราะไม่มีใครต้องการจะแก่ไปตามกาลเวลา อย่างเพื่อนๆที่คบหากัน ก็หันไปพึ่งศัลยกรรมกันหลายคน พอไปเดินไปไหนมาไหนด้วยกันกับเราก็เหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องไปเลย เมื่อมองเปรียบเทียบกับตัวเอง
ในใจก็อยากทำอยากสวยนะค่ะ เพราะก็เคยประสบปัญหาแฟนนอกใจเหมือนกันเมื่อหลายปีก่อน ตอนแรกโกรธมากๆ ตอนที่รู้เรื่อง แต่พอไปเห็นรูปคนที่แฟนไปชอบก็สะท้อนใจเพราะเป็น เพื่อนกันห่างๆสมัยเรียนค่ะ แต่ในรูปหน้าตาเปลี่ยนไปมาก คงไปยกเครื่องมาใหม่ อายุเค้าพอกันกับเรา แต่ความแตกต่างมันต่างกันเหลือเกิน เราดูเป็นป้าไปเลย สมัยก่อนทาแค่บำรุง โอเลย์ กับครีมพอนส์ก็จบ เรียกว่าดูแลตัวเองแทบไม่เป็นเลย
จนเวลาผ่านไปแฟนเค้าก็เลิกรากันไปกับกิ๊กเค้านะค่ะ แต่ทุกวันทุกวินาทีที่ทนมันช่างยากลำบากเหลือเกินในเวลาขณะนั้น หากจะบอกว่าความดีมันพิสูจน์และชนะทุกอย่างอาจจะใช่นะค่ะ แต่ถ้าไม่ต้องมาพิสูจณ์ให้มันเจ็บช้ำน้ำใจจะดีกว่าไหม
จนปัจจุบันสองปีที่ผ่านมาหันมาดูแลตัวเองแบบสุดโต่งกันเลยทีเดียว เรียกวันเวลาที่เราละเลยตัวเราเองชดเชยให้กับตัวเอง จะบอกว่าส่วนหนึ่งที่เราเลือกที่ใช้เครื่องสำอางบำรุงพื้นๆ ประหยัด หลอกตัวเองว่าไม่จำเป้นและไม่สำคัญก็เพราะ ต้องการประหยัด อยากเก็บเงินไว้ใช้สำหรับชีวิตในอนาคต
แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ความคิดเราก็เปลี่ยนเลย เพราะช่วงที่แฟนไปมีกิ๊กตอนนั้น สรุปกลายเป็นเราประหยัดจนหาความสุขใส่ตัวได้น้อยนิดเหลือเกิน แต่แฟนก็เอาเงินส่วนที่เค้าหาได้ในส่วนของเค้าที่เหลือจากการแบ่งให้เราเก็บออมไปดูหนัง ไปทานข้าวกับกิ๊ก ซึ่งเรามาสืบรู้เอาเอง เสียใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมี 100 ก้จะเก็บ 100 เลยก็ว่าได้
เลยคิดว่าคนเราหน้าตามันก้สำคัญจริงๆ เมื่อก่อนเราแทบจะเป็นป้า แก่ไปตามวันและเวลาที่มันกำหนดตัวเราไม่เคยขัดขืนฝืนมันเลย จนเราลืมไปเลยว่า เราไม่ได้มองตัวเราคนเดียว ยังไงเราก็ยังต้องแคร์คนรักเราบ้างไม่ใช่ปล่อยตัวปล่อยหน้าแก่แห้งเหี่ยว สังคมของผู้ชายเราก็เข้าใจได้แฟนสวยแฟนไม่แก่ เพื่อนชมแฟนเราก็ภูมิใจ ไม่ใช่ไปออกงานด้วยกันแล้วเหมือนแฟนเราเดินคู่กับแม่
แต่ช่วงหลังสองสามปีมานี้ตั้งแต่เรารู้จักดูแลตัวเอง แต่งหน้าเพอได้บ้าง ไม่คิดแคบๆเหมือนเมื่อก่อน ว่าจะแต่งไปทำไมจะแต่งไปให้ใครดู วันๆก็เจอแต่เพื่อนเย็นก็ กลับบ้าน มันไม่ใช่จริงๆ
เพราะใจเขาใจเราถ้าเราเองเดินออกงานกับแฟนเราเองถ้าแฟนแต่งตัวหล่อภูมฐานเจอเพื่อนเราก็ไม่อาย
จนทำให้เราเข้าใจว่ามำไมตอนนั้นเพื่อถึงมีกิ๊กซะได้ แต่ตอนนั้นก็โกรธไม่ได้ใจกว้างขนาดนี้หรอกค่ะ ทะเลาะกันบ่อยแต่ก็รอดพ้นมาได้
ยิ่งมาเจอช่วงหลังกระแสหนังที่พลอยกับอั้มเค้าเล่น ก้ทำให้คิดขึ้นมาเลยบวกกับเรื่องน้องบนรถไฟฟ้า
มันสำคัญจริงๆใช่ๆหม คือเราต้องสวยชาติ เพราะหัวใจ กริยา นิสัยมันวัดกันไม่ได้จริงๆกับการพบเจอกันแค่แว๊บเดียว ไม่เหมือนหน้าตาที่ทำให้คนหลงรัก แอบชอบ เพียงชั่ววินาที ใช่ไหมค่ะ
อย่างคุณอั้ม เราเองไปเดินที่พารากอน ก็รู้เลยค่ะว่าอั้มเค้าก็ศัลยกรรม เจอเค้านั้งกับคุณโน๊ตมั้ง แฟนเค้าในขณะนั้น เค้าสวยไม่น่าเชื่อว่าสามสิบปีเลยในเคาเตอร์ เอสเต้ เห็นเลือของวุ่นวาย พนักงานไปนั่งออ กันเต็ม นอกจากศัลยกรรมดีแล้วก็ยังพึ่งบำรุงดีๆแบบเอสเต้ เค้าก็เลยยิ่งสวย แอบยืนดูจนเค้าซื้อของเสร็จโดยไม่รู้ตัว เชื่อไหมค่ะว่ายืนไปได้ไง สองชั่วโมงแล้วดูไม่เบื่อเลย จนตกใจเมื่อคุณอั้มเดินถือถุงออกไปจากเคาเตอร์ งงตัวเองมาก
คุณ พลอย ก็เหมือนกันเคยห็นที่เคาเตอร์ ดิออร์ ล่าสุดมีบุญมากได้เจอแบบใกล้ชิดในเคาเตอร์ด็อกเตอร์เลวิ่น เห็นพนักงานขายวิ่งมุงไปขอถ่ายรูปกันใหญ่สงสัยคงไปซื้อของที่เคาเตอร์เพราะเรารู้ว่าเค้าใช้ยี่ห้อนี้ วันนั้นกะไปถามราคา ก็ไม่นึกว่าดวงจะสมพงศ์ แต่พอเจอรัศมีคุณพลอยเรารีบหลบเลยโดยสัญชาติญาณอีกเช่นเคย
สรุปก็ดูแป็บๆค่ะ กลัวคุณพลอยวีนใส่ เพราะเราเคยอ่านข่าวมาว่าคุณพลอยจะวีนแรงมาก เพราะเธอแรงจริงๆเหมือนตอนที่วีนพนักงานที่พารากอนจนออกข่าวจำได้ค่ะ เลยไม่กล้าดูนาน ที่หลบมันก็ไม่ค่อยมี ห้างที่นั้นมันโล่งไม่เหมือนพารากอน กลัวเค้าจะหาว่าโรคจิตไปซะอีก
ก็ไปเดินซื้อของที่ซุปเปอร์สักพักก็ลงมาเคาเตอร์อีกทีก็ซื้อได้มาแค่แต้มสิวอันเดียวเพราะไม่นึกว่าของมันจะแพง ปกติเราซื้อในเวปมันไม่บอกราคาไงค่ะ ถามพนักงานว่าคุณพลอยมาซื้อของเหรอ พนักงานเค้าก็บอกว่าซื้อไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไรต่อมากมาย ใจจริงๆแค่อยากไปดูเคาเตอร์ว่ามันมีจริงๆ เหมือนเห็นแล้วอุ่นใจสบายใจว่ามันมีขายจริงๆในประเทศไทยนะค่ะ
เหมือนอยากวิ่งออกกำลังกายแล้วซื้อเครื่องวิ่งมาค่ะ ซื้อมาแล้วอุ่นใจ เเผื่อวันไหนคึกอยากออกกำลังกายจะได้วิ่ง สะดวก ปัจจุบันเครื่องวิ่งออกกำลังกายพาดผ้าขนหนูไว้เพียบค่ะ ยังใหม่อยู่เลย ไม่ค่อยได้ใช้ แต่ซื้อมาแล้วสบายใจ
ทั้งคุณอั้มคุณพลอยมันทำให้เราเห็นว่าแค่เครื่องบำรุงเริ่ดๆดียังไม่พอยังไงก็ต้อศัลยกรรมช่วยด้วยอยู่ดี
สรุปเพื่อนคิดว่าไงค่ะ สวยชาตินี้ด้วยศัลยกรรมดีไหม
จากคุณ |
:
นางเอกเลขสาม
|
เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ย. 54 00:36:54
|
|
|
|