 |
หมดแล้วครับสำหรับการลงภาพรีวิว
บทสรุปของผม
สาเหตุหลักๆที่ผมซื้อกระเป๋าใบนี้คือ ผมเห็นเจ้านายญี่ปุ่นใช้กระเป๋ายี่ห้อนี้(แต่เป็นแบบหนัง)แล้วดูดีมาก แล้วเป็นช่วงที่ผมกำลังหากระเป๋าที่สามารถใส่ของได้ทีละเยอะๆพอดีอีก และอยากให้เป็นกระเป๋าที่ต้องดูดี เข้ากับผมได้ แล้วยังสามารถใช้ต่อได้นานๆเหมือนคู่หูที่น่าไว้ใจได้
ในความคิดของผมแล้ว หลังจากที่ผมซื้อมาแล้วใช้มาสองอาทิตย์แล้วนั้น ทดลองถือกระเป๋า ตอนแรกลองใส่ของที่ผมต้องการใช้เอาไปทำงานทุกวัน ต้องยอมรับว่ามันเป็นกระเป๋าที่หนักจริงๆ แต่ในเมื่อเป็นกระเป๋าที่ทำมาจากไนล่อน Ballistic ซึ่งแข็งแรงกว่าเส้นใยไนล่อนทั่วไป แล้วมันก็ต้องย่อมหนักกว่าปกติเป็นธรรมดา ผมจึงยอมรับในส่วนนี้ได้ แล้วตั้งใจจะใช้มันเป็นกระเป๋าหรือคู่หูของผมต่อไป และตอนนี้ผมชินกับน้ำหนักมันแล้ว ยิ่งใช้ยิ่งชอบ โดยส่วนใหญ่คนที่ซื้อทูมี่ที่อยู่ใน Product line เดียวกับยี่ห้อนี้ มักจะมีรถอยู่แล้ว จึงทำให้หลายคนพอตัดความกังวลเรื่องความหนักไปได้บ้าง (แต่ผมไม่มีรถ นั่งเรือนั่งรถเมล์แทน แต่ก็ดีคิดว่ามันระหว่างที่วางอยู่บนตัก ก็กอดมันราวกับหมอนข้างที่แสนนิ่มๆทึกๆแล้วกัน แม้จะดูแปลกๆก็ตาม)
และที่ผมชอบอีกอย่างนึงคือ กระเป๋าใบนี้ ผลิตในไทยครับ แล้วส่งขายไปทั่วโลกด้วย ทำให้รู้ได้ว่า ฝีมือแรงงานไทยไม่ด้อยไปกว่าสหรัฐเลย
ข้อดี 1. มีช่องให้เก็บตั้งแต่นามบัตรยันเสื้อผ้าสองตัว(หรือใส่กล้องถ่ายรูปที่มีขนาดใหญ่พร้อมเลนส์) 2. ถือแล้ว ทำให้คุณดูแล้วมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ดู Professional มากขึ้น 3. ช่องให้เก็บหรือจัดระเบียบเอกสารมากมาย และมีความเป็นเอนกประสงค์สูง 4. วัตถุดิบเป็นของเกรดพรีเมี่ยม 5. สามารถใช้เป็นกระเป๋าเดินทางได้ หากคุณจำเป็นต้องพักคืนสองคืน 6. ถือเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะว่าเป็นวัตถุดิบที่ไม่เสื่อมง่าย จึงทำให้ทนทานได้เกินสิบปีเป็นอย่างน้อย แม้จะไม่ค่อยได้ใช้ก็ตาม 7. เหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญให้เจ้านายหรือพ่อเป็นอย่างดี (หากให้เจ้านายคนญี่ปุ่นล่ะก็ เขาจะรักคุณอย่างมาก) 8. กันน้ำและฝนได้ แต่ควรระวังในเรื่องของตำแหน่งซิปด้วย เพราะน้ำจะไหลเข้าตำแหน่งที่ซิปประกบกันครับ 9. มี Tumi Tracer Tag (หมายเลข 20 หลัก) ซึ่งหากผู้ที่หวังดีเก็บได้ จะทำให้ตามตัวเจ้าของมารับคืนได้
ข้อเสีย 1. หนัก(จริงๆ) หากมีรถยนต์ อาจจะพอแก้ไขปัญหานี้ไปได้บ้าง 2. แพง เพราะวัตถุดิบที่ใช้นั้นคล้ายๆกับที่ใช้ในทางทหารสหรัฐ 3. หากคุณเข้าบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นคุณจะเป็นจุดเด่นอย่างแรงกับพวกเจ้านายญี่ปุ่นทั้งหลาย เพราะTumiที่ญี่ปุ่นดังและขายดีมากๆในอันดับต้นๆ และคนญี่ปุ่นที่ซื้อส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณตำแหน่งระดับผู้จัดการยันระดับประธาน 4. หากไปเมืองนอกอย่างยุโรปและอเมริกาก็ขอให้ระวังโดนขโมยด้วยครับ 5. ดูไม่เหมาะกับการไปเที่ยวช๊อปปิ้งกับคนที่คุณรักเท่าไหร่ เพราะมันดูทางการไปหน่อยจะทำให้ดูแปลกได้ 6. ต้องระวังตอนที่ฝนตกใส่ช่องใส่นิตยสาร เนื่องจากตรงนั้นไม่มีซิป
ราคาอยู่ที่ 18,500 บาท ราคาอย่างที่ผมบอก มันราคาแพงเกินไปหน่อย
ผมคิดว่าไม่ถือว่าแพงกว่าซื้อในอเมริกามากเท่าไหร่ หากเทียบกับราคาดั้งเดิมอยู่ที่ $475 ต่างกันราวๆ 3000 บาทกว่าๆเอง
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ นี้เป็นการรีวิวครั้งแรกของผม เห็นว่าใช้ดีเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ + ยังไม่มีกระทู้ไหนในนี้ที่รีวิวกระเป๋าทำงานผู้ชายเลยแม้แต่กระทู้เดียวเลยทำขึ้นมาครับ เนื่องจากเป็นครั้งแรกเลยใช้เวลาในการโพสท์ซักหน่อย และภาพอาจจะดูแปลกๆไปบ้าง เพราะผมทำคนเดียวครับ
ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ
แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 19:52:43
แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 19:37:07
แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 19:26:22
จากคุณ |
:
spartan
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ม.ค. 55 19:21:53
|
|
|
|
 |