ความคิดเห็นที่ 1 ลด เกือบ 9 โล  เริ่มจาก ประมาณปีครึ่ง   แต่เราลดเป็นยกๆ เราขี้เกียจออกกำลังกาย และกินอาหารครบสามมื้อ ตอนแรก ไม่ถึงเดือนลดไป 4 โล + -  เราใช้นับแคลไม่เกิน 700 ได้ (สูง153)  เราทำตอนปิดเทอมเลยสะดวก คือเช้ากินซีเรียลแบบไม่ผสมน้ำตาล กับนมธรรมดา กลางวันกินพวกแกงจืดทำเอง เย็นกินข้าวประมาณ 2 ช้อน กับ  กับข้าวที่ไม่อ้วนเลย คือผัก แกงจืด อะไรก็ตาม ก็ตามสูตรคืองดขนมทุกชนิด อะไรอ้วนๆมันๆไม่แตะเลย จำพวกผัด ทอด หลีกเลี่ยง แต่กินบ้าง   ออกกำลังกายโดยเต้นตามใจตัวเองแต่อันนี้ไม่แนะนำเลยอาจเป็นลมได้ คือเราปิดหน้าต่างทุกบานเลย เพื่อให้ร้อน แล้ว เต้นทุกบ่ายประมาณ 2-3 ชั่วโมง     ประมาณเกือบเดือน ก็ลดตามนั้นคะ ***แนะนำมากๆเลยว่าช่วงแรกห้ามกลับมากินปกติ เพราะร่างกายจะโยโย่ ต้องค่อยๆเพิ่มปริมาณการกิน จนอยู่ตัว หลังจากนั้นเปิดเทอม (ลดจริงจัง) 2 สัปดาห์ 1 โล รวม + - เช้า กินซีเรียล กับนมพร่องไขมัน กลางวันตามใจเลย อะไรก็ได้ เย็น ผลไม้ ไม่ออกกำลังกายเหมือนเดิมคะ แหะๆ แต่คือ หออยู่หน้าม.เลยต้องข้ามไปเรียนทุกวัน กับอาคารเรียน เรียนชั้น 3 บ้าง 4 บ้าง ก็ถือว่าได้ออกกำลังกายเล็กน้อย หลังจากนั้นน้ำหนักมันก็ลงเองเรื่อยๆ เรา ตอนนี้เราปีสอง ก่อนเข้ามหาลัย 4  เทอม1 1โล  เทอม2 1-2 โล ปี2 เทอม1 1-2 โล   ตอนนี้เทอม 2 ก็ยังทรงๆคะ ตามนี้แหละคะ :D  เราเพิ่งจะมาลดน้ำหนักตอนจะเข้ามหาลัย ก่อนหน้านี้คือ น้ำหนักเยอะเกิน ส่วนสูงลบ100  มาตลอด  5-6 ปี  น้ำหนักสูงสุดคือ 58  ต่ำสุดคือตอนม.1   เศร้า กับช่วงชีวิตวัยมัธยม จากคุณ : อินัง เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:59:06

ความคิดเห็นที่ 2 ลดประมาณ 12-15 กิโล ภายใน 1 ปีค่ะ (เริ่มต้นปีที่แ้ล้ว) แต่ 3 เดือนแรก ก็ หายไปประมาณ 5-7 โล ก็มีคนทักแล้ว อย่าไปคิดว่าลดความอ้วน ไม่ต้องตุนอาหารลดน้ำหนัก แค่ปิดปากตัวเอง กินให้น้อยลงค่ะ เมื่อก่อนกินเป็นพายุ กลับบ้านสี่ทุ่ม แม่ทอดไก่กองเป็นภูเขา กินกับส้มตำ เปิดโค้ก ตบด้วยขนมหวาน << นี่เป็นชีวิตปกติ หลัง ๆ ก็ กินน้อยมากค่ะ งดหวาน มัน ทอด กาแฟโบราณโบกมือลา กินแต่ อเมริกาโน่เย็น ใส่น้ำเชื่อมน้อยมากกกก แรก ๆ กินข้าว 1 มื้อ แล้วก็ขนมปังรสชาติห่วย ๆ ค่ะ น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล อะไรประมาณนี้ แต่ไม่หิวนะคะ ผ่านมาได้แบบสบาย ๆ มาก ผ่านไปซักอาทิตย์ กระเพาะจะหดอยู่ตัว ตอนนี้ก็แค่อยากจะลดเพิ่มอีกซัก 2 กิโล แต่ก็ใช้ชีวิตเกือบจะปกติแล้วค่ะ แต่จะพยายามกินแค่ 2 มื้อกับผลไม้ อะไรแบบนี้ค่ะ เสื้อผ้าเก่าบริจาคเกือบหมดค่ะ เปลี่ยนการแต่งตัวด้วย ผู้คนเห็นล้วนแต่ตกใจ  ฮ่า ๆๆ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : บลอนดี้ เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:22:47

ความคิดเห็นที่ 3 ลด 20 โล 2 ปี ทานข้าวมื้อเดียว ไม่ออกกำลังกาย ต่อมารู้ว่าผิดหลัก ตอนนี้ใช้วิธีนับแคลอรี่เพื่อรักษาน้ำหนักค่ะ และกำลังปรับวิธีทานอาหาร คือ "หนักมื้อเช้า เบามื้อเที่ยง เลี่ยงมื้อเย็น เว้นมื้อดึก" จากคุณ : kwangjang เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:47:48

ความคิดเห็นที่ 4 ออ เพิ่งออกกำลังกาย 6 เดือนที่ผ่านมาด้วยค่ะ เพื่อให้ร่างกายเฟิร์มขึ้นค่ะ จากคุณ : kwangjang เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:48:26

ความคิดเห็นที่ 5 ปรับปรุงนิสัยการกินอาหารเป็นเพื่อสุขภาพ ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ เยอะๆ ออกกำลังด้วยค่ะ เวลากินชาเย็น กาแฟเย็น ก็สั่งว่าหวานน้อยเลยค่ะ อาจจะช้าหน่อยแต่ไม่ทรมาน และผลอยู่คงทนค่ะ ^^ จากคุณ : bearair เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 00:57:29

ความคิดเห็นที่ 6 เราเกือบสามเดือน 5 โลแล้ว เป้าหมายอีก 10 โล ลดเรื่อยๆไม่รีบ ชอบออกกำลังกาย แต่ก็ชอบกินเช่นกัน พยายามปิดปากอยู่ จากคุณ : มุตุ๊ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 01:06:53

ความคิดเห็นที่ 7 ผมออกกำลังกายวันเว้นวัน (ครั้งละ 1 ชม) กินข้าวตามปกติ แต่เน้นผักกับโปรตีน ค่อยๆลดขนมลง จนตอนหลังไม่กินไปเอง แต่นานๆทีมีชิมนั่นนี่บ้าง เพื่อสีสันของชีวิต 3 เดือนลงไปอย่างยั่งยืน 5 กก ครับ แล้วมันก็ลงไปเรื่อยๆ เดือนที่ 4 - 5 ลงไปอีก 3 โล รวมเป็น 8 (จาก 80 เหลือ 72 กก) คนทักกันตรึม นีกว่าเราเป็นเอดส์รึเปล่า ทำไมผอมลง หน้าตอบไปเลย คือการลดหุ่นเนี่ย ผมว่าไม่ต้องเร่งรีบครับ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ทรมานตัวเองจนเกินไป แรกๆจะลำบากหน่อย อันนี้ยอมรับเลย แบบว่าขี้เกียจออกกำลังน่ะ แต่พอมาคิดว่าทีเวลาไปทำงานเราก็ขี้เกียจนี่หว่า แต่ทำไมยังไปทำ อ้อ เพราะมันสำคัญชิมิ ดังนั้นเราก็ต้องมองว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันด้วยสิ ถ้าทำแต่งานแล้วอนาคตสุขภาพแย่ อย่างงั้นทุกวันนี้เราจะทำงานไปเพื่ออะไร?? เพื่อเก็บเงินไว้รักษาตัวเองตอนแก่เหรอ?? ก็คงต้องสู้แล้วล่ะครับ ไม่ใช่เพื่อใครเลย เพื่อตัวเราเองและคนที่เรารักทั้งนั้น สู้ๆนะครับ ทำได้ทุกคนแหละ อยู่ที่ว่าจะทำรึเปล่าแค่นั้นเอง จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 01:12:01

ความคิดเห็นที่ 8 คุณย่ามาตอบคุณยาย แต่ย่าคนนี้ อายุ สว. แล้ว เริ่มจะมาเอะอะลด เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เดือนแรก ลดได้สองกิโล เดือนสอง ลดไม่ลงสักกิโล เดือนสาม ลดได้อีก สองกิโลมั้ง เดือนที่สี่ ลดได้อีก สองกิโล เดือนที่ห้า (เดือนนี้ ) ลงๆ ขึ้นๆ ไม่รู้จะลดได้อีกไหม แต่ก็พยายามอยู่ หลักๆ คือ หากเราทำกินเอง ไม่ว่าอาหารหรือเครื่องดื่ม ปลอดน้ำตาลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ของทอด ระยะสี่ห้าเดือน กินนับครั้งได้ กินอาหาร ไม่เน้นรสชาด อร่อยไม่อร่อยก็กิน พออิ่ม ( แต่วันนี้ฟาดข้าวกับปลานึ่งใส่ผัก แต่เอาซอสต้มยำผสมลงไป แซ้บบบบบบ ) นานๆจะกินของอร่อยที หากกินบ่อยๆ มันเบรคไม่อยู่ คิดอยู่ตลอดเวลา วันนี้ เรากินอะไรลงไปบ้าง ชาเขียว กาแฟดำ แอ้ปเปิ้ล กินบ่อยมาก หลังๆมา บีบน้ำมะนาวใส่ชาเขียวลงไปด้วย สี่ห้าเดือน ลดได้ หกโลกว่าๆ ก็พอใจแล้ว แต่จะลดไปเรื่อยๆ แต่งตัวง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ สุขภาพดีขึ้น ให้เวลา และใจเย็นที่จะรบกับ ไขมันค่ะ มาลดด้วยกันค่ะ อย่างน้อยสุขภาพเราก็ดีขึ้น จากคุณ : ย่าครับ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 03:04:55

ความคิดเห็นที่ 9 10 กิโล 1 ปี ... กินบุกผงแทนข้าวเย็น ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ค่ะ  ตอนนี้พยายามออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 -3 ครั้ง (แก่ ขี้เกียจ อิอิ)กินข้าวเย็นแต่พยายามไม่กินหลังหกโมง ... น้ำหนักคงที่มา 10 ปีแล้วค่ะ จากคุณ : พุดดิ้งช๊อคโก้ตาโตกล้วยหอม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:13:41

ความคิดเห็นที่ 10 สองปี ลดไป 10 กิโลค่ะ จาก นน. 62 ตอนนี้เหลือ 52 เปลี่ยนจาก size L เป็นสาว size S ไปเลย ใส่เสื้อผ้าอะไรตัวเล็กๆ แล้วรู้สึกดีมากๆ - มื้อเช้ากินเยอะ กินขนมด้วย กลางวันกินพอสมควร แล้วก็กินมื้อบ่าย ประมาณ 3-4 โมงเย็น (ทดแทนข้าวเย็น) แต่ไม่เน้นกินพวกแป้ง เพื่อให้มื้อเย็นไม่ต้องกินอะไรอีก - ตอนเช้ากินข้าวโอ๊ตค่ะ ส่วนใหญ่เป็นข้าวต้มกับ กินมาได้ เกือบ 2 ปีแล้ว แต่ปลายปีที่แล้วเพิ่งเริ่มกินอาหารมังสวิรัติเป็นข้าวเช้าอ่ะ คือกินข้าวต้มข้าวโอ๊ตกลับกับอะไรก็ได้ที่เป็นอาหารมังสริวิรัติ - ไม่กินข้าวเย็นเลย กินแต่น้ำเปล่า หรือผลไม้บ้าง ถ้าโหยมากๆ - ออกกำลังกายไม่ค่อยได้ออกเป็นจริงเป็นจัง แต่มีกิจกรรมงานบ้าน พาน้องหมาไปเดินเล่น รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้านถูบ้าน แต่เรากินน้ำเยอะ พยายามเลือกอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น กินผักผลไม้เยอะๆ ทำกับข้าวกินเองพยายามลดน้ำมัน แล้วก็นอนหลับแต่หัวค่ำ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 08:02:46 จากคุณ : ทะเลตะวัน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 09:18:28

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบกระทู้นี้จังเลยค่ะ ขอบคุณ จขกท มากที่ตั้งคำถามแบบนี้ ขอบคุณทุก คห เป็นกำลังใจให้เรา ว่าเราจะ ทำได้ แบบทุกๆคน ^ ^ จากคุณ : แพนด้าแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 09:47:53

ความคิดเห็นที่ 12 กำลังลดอยู่ค่ะ ขี้เกียจออกกำลังกายเหมือนกันเลยค่ะแต่จะใช้ทำงานบ้านเอาคะ ไม่ทานข้าวเย็นทานเป็นสลัดผักกับน้ำแครรอทแทนค่ะ ทำมาได้ 4 วันแล้วค่ะ แต่น้ำหนักก็ยังไม่ลงสักที สู้ สู้ จากคุณ : oaoh_lovely เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:54:38

ความคิดเห็นที่ 13 จาก 62 กก.เหลือ 49 กก. ค่ะ ใช้เวลา 6 เดือน ตั้งใจมากค่ะเพราะอยากใส่กางเกงยีนส์สวยๆได้เหมือนเมื่อก่อน ทานข้าวเช้าและกลางวันตักข้าว 1 ทัพพี ทานผักต้ม + น้ำพริกเยอะๆทุกวันค่ะแจมกับกับข้าวอย่างอื่นด้วย ผักช่วยให้อิ่มนานๆอยู่ท้องนานๆ เราทานเยอะมากค่ะ เพราะเราหิวบ่อย ทานจุด้วย ช่วงเดือนแรกระมัดระวังเรื่องอาหารที่ไขมันเยอะๆ ไม่แตะเลย ข้าวขาหมู ต้มข่าไก่ ไก่ทอด ฯลฯ ระหว่างวันถ้าหิวก็ทานฝรั่งไม่จิ้มอะไรเลย ทานได้เท่าไหร่ไม่จำกัดเลยค่ะ มื้อเย็นงดค่ะ ทานแอ๊ปเปิ้ลและฝรั่ง ออกกำลังกายด้วยการวิ่งอยู่กับที่ซัก 20 นาทีให้เหงื่ออกมากๆ แล้วค่อยไปซิทอัพบ้าง เตะขา หมุนเอว ซักพักก็มาวิ่งอีกทำสลับไปมาจนครบ 1 ชั่วโมงค่ะ ถามว่าท้อมั๊ยช่วงที่ลดน้ำหนัก ... ท้อมาก แต่พยายามคิดถึงอนาคตที่รูปร่างสวยงามก็จะฮึดค่ะ ก็จะมีแรงออกกำลังกายและมีกำลังใจงดมื้อเย็น ภายในเดือนแรก เราลดเหลือ 55 กก.ค่ะ ดีใจมาก เริ่มแต่งตัวสวยได้แล้ว.. เดือนต่อๆมาก็ทานอาหารที่อยากทานมากๆ เช่น พิซซ่า ข้าวขาหมู ไก่ทอด ซึ่งเป็นของโปรดเราค่ะ ก็อนุญาตตัวเองให้ทานได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ลดลง 1 กก.จะให้รางวัลตัวเองตามใจปาก 1 มื้อ เราชั่งน้ำหนักทุกวันค่ะ จะได้รู้ตัวเองตลอด วันไหนหนักมากไปก็ลดมื้อถัดไป จะทานขนมหรืออาหารอะไรก็ทานได้ แต่ต้องมีลิมิตควบคู่ไปกับการออกกำลังกายทุกวัน ตอนนี้เราหนัก 49 กก. สูง 164 ( ค่อนข้างผอม ) เรายังไม่ขาดการออกกำลังกายแม้แต่วันเดียว แต่ลดเหลือวันละ 20 นาที เพื่อให้สุขภาพดีด้วย ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เราไปเที่ยวเขาใหญ่ค่ะ Enjoy Eating มากที่สุด เดินเที่ยวซื้อของที่เอาท์เลทเขาใหญ่เหนื่อยๆ เดินไปทานอาหารที่ร้านในเอาท์เลท พิซซ่าถาดใหญ่มาก เสต็คหมู ซีซาร์สลัดไก่อบ แคนตาลูปปั่น เราโซ้ยเรียบ แต่มื้อเย็นตั้งปณิธาณว่า .. หยุดกินนะจ๊ะ.. เหมือนให้รางวัลตัวเองน่ะค่ะ .. ตอนนี้อยากทานอะไรก็ทาน มื้อเช้าเราจัดหนักเลย มื้อเย็นงดค่ะ แค่นี้น้ำหนักก็คงที่เท่าที่เราต้องการแล้ว ขอป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังจะลดน้ำหนักนะคะ เราทำได้ คุณก็ทำได้ค่ะ สู้สู้ !! จากคุณ : ทะเลสีฟ้าจัง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 13:25:45

ความคิดเห็นที่ 14 ลดจาก63จนเหลือ51 ใช้เวลา1ปีเจ้าค่ะ ส่วนวิธีที่ใช้ในการลด - เราเป็นคนกินจุมาก กินชาบูเสร็จต่อด้วยEarthquakeสเวนเซ่นได้สบายๆ ช่วงไดเอท ความอยากอาหารมันก็ยังเท่าเดิมค่ะ คืออยากลองกินนั่นนู่นนี่ไปเรื่อยเหมือนเดิม อยากกินอะไรก็กิน เน้นหลากหลายแต่ปริมาณน้อย จะเน้นทานกับเพื่อนๆค่ะ ก็สั่งอาหารตามใจอยาก ตอนเริ่มไดเอทใหม่ๆแต่ละอย่างตักไม่เกิน5คำ ดื่มด่ำรสชาติฟ้าประะทานให้เต็มที่ใน5คำ(คำพอดีปากนะ ไม่ใช่ตักซะพูนช้อน) แล้วค่อยๆลดเหลือ4 3 2 1ขึ้นอยู่กับจำนวนอาหารด้วย การนับจำนวนคำเหมือนกับเราต้องนั่งนับเลขใช่ไหมล่ะคะ *** เหมือนเราเตือนตัวเองให้มีสติตลอดเวลาค่ะ นี่คำที่1 อื้มมมมมมม สุดยอดดดดด คำที่2 อร๊ายยยยย สวรรค์มาโปรดดดดด คำที่3 เฮ่ย เริ่มใกล้ลิมิทแล้ว ขออินกับรสชาติให้เต็มที่ คำที่4 ซรี้ดดด หย่อย คำที่5 คำสุดท้าย ขอดื่มด่ำปิดท้าย........บ๊ายบาย มาย เลิฟ - หลัง6โมงเย็นอยากกินไรก็กิน มื้อดึกก็มีค่ะ ชอคโกแลต ขนมจุกจิก แต่ห้ามทานเกินอย่างละ2-1คำ ปริมาณ/คำก็1ช้อนเท่านั้นค่ะ   - แต่ถ้าต้องสั่งอาหารจานเดียว เราจะเน้นผัก+แกงจืด+ต้มยำค่ะ นั่งซดน้ำซุปพร้อมข้าวซักทัพพี หรือเครื่องดื่มตามคอฟฟี่ชอป เราจะสั่งเป็นเอ็กเพรซโซ่แทน(มันก็คือกาแฟไร้สิ่งปรุงแต่งนั่นเอง ไม่ใส่นมหรือน้ำตาลเลย) ดื่มเพื่อสุขภาพได้ด้วยค่ะ - อันไหนทานที่ร้านไม่หมด เราใส่ถุงมาทานต่อที่บ้านค่ะ อย่าดันทุรังหรือกินเพราะเสียดายเด็ดขาด ตอนเราอิ่มสุดๆ เราจะติดนิสัยว่าต้องทานให้หมดเพราะเสียดาย+คิดถึงชาวนาชาวไร่ใช่ไหมล่ะคะ แต่พ่อเราสอนมาแบบนี้ค่ะ "อิ่มแล้วก็พอ พ่อจ่ายเงินมื้อนึงเป็นพันเพื่อให้ครอบครัวได้นั่งกินสบายๆ ไม่ได้จ่ายเพื่อให้เรามานั่งฝืนไม่เป็นสุขแบบนี้ ใส่ถุงไปกินตอนหิวๆดีกว่า" ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ - เก็บตังค์ชอปแบบเสียสติ เดี๋ยวสิ้นเดือนนี้คงมีงานเซลล์เยอะ เก็บเงินค่าขนมรอดีกว่า วะฮ่าๆๆๆ.....ที่ไหนได้ ถึงเวลาดันไม่มีเซลล์โดนๆเลย ----> เปลี่ยนเป็นเงินเก็บ/ค่าอาหารมื้อหรู ให้รางวัลตตัวเองซักมื้อ/บุฟเฟ่ชาบูส่งท้ายเดือนร้านแหล่มๆซักร้าน   - เราจะมีลิสท์ขนมเก็บไว้เป็นท่าไม้ตายเวลาหิวขนมหวานสุดทนค่ะ เช่น ปลาเส้นฟิชโช่ ทาโร่แทนมันฝรั่งทอด/เอกเพรซโซ่แทนชอคโก้ปั่น/ ขนมปังโฮลวีตแทนโดนัท/ชาบูแทนหมูกระทะ.....เราชอบสั่งแต่เบคอน เนื้อติดมันค่ะ แต่จะไม่แตะน้ำในหม้อชาบูเด็ดขาด เพราะตอนแช่เนื้อลงไป เหล่ามันก็เยิ้มลงหม้อไปด้วย/ดาร์คชอร์คโกแลตแทนชอคโกแลตนมทั่วไป/กินเยลลี่รสผลไม้แทนพุดดิ้ง/กินขนมปังทาแยมแทนเค้กผลไม้/กินขนมปังราดดาร์คชอคโกแลตร้อนๆแทนเค้กชอคโกแลต/ดื่มน้ำชาแทนชานมไข่มุก/ดื่มน้ำผสมยาอุทัยหอมๆแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน ประมาณเนี้ยค่ะ จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 14:31:57

ความคิดเห็นที่ 15 ^ โอ้ว เก่งจังครับ กลายเป็นไอดอลเกาหลีไปแล้ว จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:53:38

ความคิดเห็นที่ 16 @Mea Culpa ขอบคุณค่ะ มานั่งพิมพ์ต่อค่ะ - เราเป็นโรคขี้เบื่อค่ะ ชอบออกกำลังกายหลากหลาย จากการยกดำเบล จักรยานกลางอากาศ บางวันก็นั่งเสิร์ชข้อมูลตามเวปหรือยูทูป ฝึกเล่นคาราเต้ เทควันโด ต่อยมวย หรือมาเทียลคอมแบทค่ะ ได้ออกกำลังกายด้วย ได้ฝึกวิธีป้องกันตัวด้วย แถมเพลินอีกตะหาก(บางทีก็อยากลองท่าแปลกๆแบบในการ์ตูนแหละ) - เวลาหิวจัดเราจะซัดข้าวแบบเสียสติ หรือทนไม่ไหวสั่งอาหารมานั่งจ้วงเยอะแยะ..... วิธีที่เราใช้แล้วได้ผลสำหรับเราคือ.....หยิบหนังสืออะไรก็ได้ที่ชอบมากที่สุดมา1เล่ม หรือจะแวะซื้อนิตยสาร การ์ตูนเล่มโปรดก็ได้ค่ะ เน้นว่าต้องตื่นเต้นที่สุด และถ้าเป็นหนังสือที่คุณยังไม่เคยอ่านจะยิ่งดีมาก ลองเอาหนังสือมานั่งอ่านไปด้วย ทานไปด้วย และสั่งอาหารทีละจานค่ะ ข้อดีคือ......เหมือนเวลาเราเครียด เราฟุ้งซ่าน เราต้องมีสมาธิและมีสติใช่ไหมล่ะคะ การที่เราเพ่งสมาธิกับการอ่านหนังสือส่วนนึงคือดึงความสนใจไปที่หนังสือค่ะ อ่าวเฮ้ย พระรองจะตายเหรอวะ เฮ้ย เฮ้ย ม่ายยยยยยย   พร้อมกันนั้น คุณจะลืมความหิวโดยทันที....เผลอๆจะอ่านเพลินจนลืมตักอาหารเข้าปาก ธรรมชาติของมนุษย์ คือทานข้าวหมด1จานจะเริ่มคิดแล้วค่ะ ว่าอิ่มประมาณนี้ควรหยุดดีหรือจะสั่งต่อจานที่2 อืม......พอดีกว่า มันก็ยังหิวอยู่นะ แต่ใกล้อิ่มแล้วอ่ะ สั่งจานที่2ก็กลัวกินไม่หมด จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 21:39:36

ความคิดเห็นที่ 17 ^  น่ารักมากเลยค่ะ >__< ออกกำลังกายด้วยนี่เอง ถึงได้ดูกระชับ อันที่จริงตอน63ก็น่ารักนะคะ  แอบคล้ายเจ้ลูกพี่ลูกน้องเราเลย จากคุณ : โบยบินเหนือท้องทะเล เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 06:11:10

ความคิดเห็นที่ 18 Pon Pon Pata Pon! เรายกให้เป็น Idol เลยค่ะ เห็นแล้วมีแรงฮึด!!!! >.< จากคุณ : alnlnle เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 06:04:18

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทั้งคุณMea Culpa/ คุณโบยบินเหนือท้องทะเล/และคุณalnlnleค่ะ นานๆจะออกกำลังกายทีค่ะ ขออภัย ลืมบอกความถี่ เราทำอาทิตย์ละครั้งเองค่ะ(พวกขี้เกียจ) ส่วนใหญ่เลยจะเดินช้อปเป็นหลักค่ะ เน้นเดินเร็วด้วย บางทีก็ลองใส่ส้นสูงแล้วเดินเร็วๆบ่อยๆเป็นการฝึกบุคลิก และหิ้วกระเป๋าพร้อมไอแพดคู่ใจรวมกระเป๋าหนักเกือบ3โล ในชีวิตประจำวันเราก็แนวๆนี้ค่ะ ลองปรับเปลี่ยนวิธี แก้ไปทีละจุดๆ ความจริงไม่ต้องใช้วิธีแบบเราก็ได้ค่ะ ขอแค่สังเกตพฤติกรรม+นิสัยของตัวเองแล้วมองหาข้อเสียให้เจอค่ะ ค่อยๆแก้ไปทีละจุดๆ เช่น ชอบกินของหวานมาก ในเมื่อเราหยุดกินมันไม่ได้ก็ไม่ต้องไปหยุด แต่หาของหวานที่ใกล้เคียงกันแต่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า+แคลอรี่น้อยกว่าแทน มันย่อมดีกว่าเก็บความหิวไว้ในใจเยอะ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณมีโอกาสแตะของหวาน เมื่อนั้นคุณจะกินแบบขาดสติทันทีค่ะ เสริมต่อ(อีกแล้ว) ตราบใดที่มีความคิดว่าช่วงนี้งดของหวานเพราะกำลังไดเอท....คุณจะเฟลทันทีค่ะ ช่วงไดเอท เรางดทานเค้กเนยสด แล้วถ้าคิดต่อไปอีก หากหมดช่วงไดเอทไปแล้วล่ะ? นี่เป็นกฏเหล็กที่เราค้นพบเลย อย่าไดเอทเป็นช่วงๆ แต่ให้เปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนความคิดไปเลยค่ะ มิฉะนั้นพอหมดช่วง คุณจะต้องมีรางวัลให้ตัวเองบ่อยเกินไป แถมเสี่ยงที่จะกลับมีพฤติกรรมการทานเหมือนเดิมสูง ถ้าเทียบให้เห็นง่ายๆก็คล้ายกับคนที่นอนตื่นสาย วันไหนต้องทำงานตอนเช้าก็ตื่นแต่เช้า วันอื่นก็นอนตื่นสายเหมือนเดิม.....กลับกัน หากคุณนอนตื่นแต่เช้าจนเป็นนิสัยอยู่แล้ว จะวันทำงานรึวันหยุดคุณก็นอนตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม การไดเอทก็เช่นกัน อย่าทำเป็นช่วงๆเฉพาะอารมณ์คนอยากผอม แต่ขอให้ทำจนมันติดเป็นนิสัยไปเลยจะดีกว่าค่ะ จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 03:35:32