ลดน้ำหนัก!! ยากจะตาย!! ชั้นจะทำได้ไหม??
นี่เป็นความคิดแรกที่เริ่มต้น ก่อนหน้านี้หนูเป็นคนหนึ่งที่กินเก่ง และก็น้ำหนักขึ้นง่ายมากกกกกกก
แต่วันหนึ่งมองตัวเองแล้วรู้สึกว่าชั้นจะกลิ้งได้แล้วแหละ เพื่อนฝูงรอบตัวต่างมากันแบบเพียวสลิม ไม่เว้นแม้กระทั่งเก้งกวางเพื่อนสนิทที่มันยังดูดีกว่าชั้นมากกกก โดยมีลูกเป็ดหลงฝูงมาหนึ่งตัว !! นั่นก็คือ "หนูเอง" แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอไขมันที่พุงเนี่ยมันไม่ได้สร้างมาภายในวันเดียว อาทิตย์เดียว รึเดือนเดียว จะให้หายไปในพริบตาก็ใช่เรื่อง
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณหนังสือเล่มหนึ่ง ที่สร้างความเข้าใจพื้นฐานให้ทุกอย่างเลยค่ะ ทำไห้เข้าใจมากขึ้น แท่น แทน แท้นนนน หนังสือเล่มนั้นคือ
"ถ้ารู้.....คงผอมไปนานแล้ว" ของคุณ โรสแมรี่ค่ะ และก็สูตร Banana diet ค่ะ
เมื่อก่อนเคยทานอาหารเสริมนู่นนี่นั่นเยอะมากกกกกก มันก็ลงนะ แต่พอเราไม่ได้เปลี่ยนนิสัยการกินอาหารเสริมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราได้เยอะมาก เช่น อาหารเสริมช่วยเผาผลาญอาจจะช่าวยเผาผลาญเราได้วันละ 100 cal ถ้าเราไม่เปลี่ยนนิสัยการกินควบคู่ไปด้วย เรายังรับประทานวันละ 2000 KG ปกติ เราต้องใช้เวลาถึง 77 วันน้ำหนกเราถึงจะลดลงไปได้ 1 กิโลกรัมค่ะ!! เลยเปลี่ยนใหม่ ซื้ออาหารเสริมไปกินเท่าเดิมก็เปล่าประโยชน์ เรามาเปลี่ยนแปลงวิธีดูซักตั้ง!!
วันนี้หนูทำได้แล้ววววว ลดไป 8 KG ใน 10 สัปดาห์ จาก 56 ตอนนี้เหลือ 48 แล้วค่ะ อาจจะไม่ได้ลดรวดเร็วฮวบฮาบแต่ก็ภูมิใจในความอดทนของตัวเองอยู่น้าา ก็เลยเอาเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน เผื่อใครจะเอาไปใช้ ช่วยกันคนละไม้ คนละมือ 55
เริ่มแรกเลยเราต้องเข้าในก่อนคร่าวๆ นะว่า ปริมาณอาหารกับปริมาณแคลลอลีไม่เหมือนกัน บางทีเรากินเยอะแต่ที่กินเข้าไปแคลลอลีต่ำมันก็ไม่อ้วนค่ะ แต่บางทีเราอาจจะกินแค่เค๊กชิ้นเดียวมันก็อาจทำไห้เราแอบอ้วนได้น้าาา โดยต้องเข้าใจอีกนิดนึงนะคะว่า ในหนึ่งวันร่างกายคนปกติเราจะเผาผลาญประมาณ 2000 cal ถ้าหากรับพลังงานมากกว่านั้นเราก็จะอ้วน หากน้อยกว่านั้นน้ำหนักเราก็จะลง โดยทุกๆ 7700 = 1 KG ค่ะ
ยกตัวอย่างนะคะ เช่น!! ถ้าเราทานอาหารวันละ 1000 cal จำนวน 8 วัน น้ำหนักเราก็จะลดลงประมาณ 1 KG เป็นต้นค่ะ หรือถ้าทานวันละ 3000 KG 7 วัน น้ำหนักเราก็จะเพิ่มขึ้น 1 KG เช่นกันค่ะ
เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้น้ำหนังเราลด!! คำตอบคือ... รับประทานให้ได้วันละ 800-1000 cal ค่ะ
แต่ติ๊ต่างหน่อยนะว่า ห้าม!! เด็ดขาดคือ การรับประทานน้อยกว่า 800 cal ค่ะ เพราะจะทำให้ร่างกายปรับเข้าสู่สภาวะจำศีล หรือ ก็คือการที่ร่างกายเผาผลาญน้อยลงค่ะ ทีนี้แหละเรื่องใหญ่!! 55
ปล. แถมนิดนึงค่ะคือเรื่อง yoyo effect มันคือผลจากการที่ร่างอยู่ในสภาวะจำศีลค่ะ คือร่างกายเผาผลาญน้อยมากกกก จนพอหยุดลดน้ำหนักแล้วกลับไปกินปกติทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น!! ทางที่ดีก็อย่าลืมทานให้มากกว่า 800 cal นะค้าาา!! แต่อย่าเกิน 2000 ล่ะ
สำหรับเทคนิคของหนู หนูเอา Banana diet หรือการไดเอทด้วยกล้วยมาปรับใช้ด้วย!! (การไดเอทด้วยกล้วยเป็นการทานกล้วยในมือเช้าเพื่อปรับสมดุลของระบบการขับถ่ายให้เป็นปกติค่ะ และก็สามารถย่อยได้ง่ายด้วยค่ะ ^^)
นี่ก็คือ
ตารางการทานอาหารคร่าวๆ ค่ะ
- ตอนเช้า รับประทานกล้วยหอม 2-3 ลูกค่ะ จากนั้นตามด้วยน้ำ 1 แก้วค่ะ
(โดยปกติแล้วกล้วยหอมจะให้พลังงาน 100-120 cal ต่อผลค่ะ)
ปล.ถ้าไม่อิ่มอนุญาตให้แอบดื่มนมเปรี้ยวที่ไขมัน 0% หรือ ให้พลังงานไม่เกิน 120 cal ได้ค่ะ แต่หลังจากทานกล้วย 20 นาทีนะคะ
- กลางวัน เป็นอาหารอะไรก็ได้เต็มที่ค่ะ แต่ห้ามเกิน 400 cal นะคะ ถ้าเป็นไปได้พยายามทานเป็นผัก ปลา และลดข้าวลงค่ะ (ตารางแคลลอลีอาหารสามารถดูได้ทั่วไปในอินเตอร์เนตค่ะ)
- มื้อเย็น เป็น สลัด(ถ้าเป็นไปได้เปลี่ยนน้ำสลัดเป็นโยเกิร์ต low fat ได้จะดีมากค่ะ เพราะน้ำสลัดส่วนใหญ่แคลลอลิสูง), ก๋วยเตี๋ยว หรือ ผลไม้ โดยพยายามไม่ให้เกิน 250 cal ค่ะ และทานก่อนนอนอย่างน้อย 5 ชั่วโมงน้าาา แต่แนะนำว่าถ้าก่อน 5 โมงเย็นได้จะดีมากค่ะ
พยายามงดของทอดและขนมจุ๊กจิ๊กชั่วคราวค่ะ รึถ้าเผลอทานไปแล้วในแต่ละวันก็นั่งคำนวนแคลอลีให้ตัวเองนิดนึงว่าวันนี้ทานไปเท่าไรแล้ว !!! และออกกำลังกายเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยค่ะ
แรกๆ บอกได้เลยว่าโอ๊ยทรมานมากกก!! เห็นเค๊ก เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยวแทบจะวิ่งเข้าใส่ พอเริ่มลดได้ซัก 3 กิโลกำลังใจเริ่มมา สติเริ่มมี พอใกล้ๆ จุดหมายอีกทีตบะเริ่มแตก 555 และตอนนี้ก็ยังพยายามลดต่อไปค่ะ จะแอบบอกว่าตอนแรกๆ ที่ลดน้ำหนักจะลงง่ายมาก 55 พอเริ่มลดลงเยอะร่างกายจะค่อยๆ อยู่ตัวเริ่มลงยากขึ้นๆ แต่ก็พยายามกันต่อไป!!
ปล. ปกติระหว่างวันหนูก็แอบทานจุ๊กจิ๊กไปเรื่อยค่ะ แหะ แหะ มีสติแตกเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่จะคว้าไอติมมาเข้าปากบ่อย แต่ก็จะเลือกที่แคลลอลีต่ำๆ เช่น ฟรุตทาเร่ค่ะ เพราะแค่ 60 cal พอแก้ขัดได้ 55 และก็พวกบ๊วยเค็ม กันปากว่างไปเรื่อยค่ะ แต่อย่าลืมดู cal ด้วยน้าาา
ใครที่กำลังมองหาเทคนิคก็สู้ๆ กันต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้!! ใครมีปัญหายังไง หรือเทคนิคอะไรก็มาช่วยกันแชร์นะคะ ^^ แบ่งปันๆ : นู๋พราว