|
ปกติถ้าเลี่ยงได้ ไม่อยากจะเดินแถวนั้นเลยค่ะ เพราะว่าคนเบียดกันมากจริงๆ ยิ่งตอนช่วงเย็นๆ เบียดกันถึงขนาดได้กลิ่นสาปเหงื่อไคลกันเลยทีเดียว -_-! (อ่านแล้วอย่าเพิ่งสยองนะ เพราะคนดมสยองกว่า)
ประสบการณ์ส่วนตัวแล้วเคยโดนล้วงเหมือนกันค่ะเมื่อหลายปีมาแล้ว สถานที่เป็นที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งแถวถ.หลังสวน ช่วงเที่ยงพักกลางวันไปช๊อปปิ้งตามประสาสาวๆ OL
เดินไปถึงร้านหนึ่ง มีกระโปรงถูกใจเราเลยเข้าไปลอง ตัวเราเองถือกระเป๋าเล็ก ที่ใส่ทั้งกระเป๋าตังค์ แล้วก็มีมือถือ 2 เครื่องค่ะ คล้องไว้ที่แขนแล้วก็ลองไปทั้งอย่างนั้น
คนขายหญิง (ซึ่งน่าจะเป็นลูกจ้าง) พูดภาษาไทย -มะชาดด- ก็บอกเราว่า "ไม่ได้ๆ มาๆเอากระเป๋ามาฝากไว้ตรงนี้ก่อน" แล้วก็ฉวยกระเป๋าถือเราไปวางไว้ตรงชั้นวางเสือด้านหลังเค้า...
......เราก็โง่มากค่ะ ปกติเป็นคนที่จะไม่ยอมให้กระเป๋าอยู่ห่างตัว แต่อันนี้ดั๊นนนนนน เห็นว่าเค้าหวังดี ก็เลยให้ไปแบบงงๆ
.....เสียดายมากที่ลองแล้วไม่ถูกใจ เลยไม่ได้เปิดกระเป๋าเพื่อจ่ายเงินซื้อ หาไม่แล้วจะรู้ตัวว่า โทรศัพท์อันตรธานหายไปแหล่ว
กลับถึงออฟฟิส ก็เพิ่งรู้ตัวค่ะว่า โทรศัพท์หายไป แต่ด้วยที่ตอนนั้นเพิ่งพกโทรศัพท์ 2 เครื่อง แล้วเลยหลงๆลืมๆว่า อีกเครื่องพกมาด้วยรึป่าว เลยปล่อยไป นึกว่าลืมไว้ที่บ้าน (โง่อีก...)
จนกระทั่ง 2 วันแน่ใจแล้วว่าหาที่ไหนก็ไม่เจอ ถึงได้โทรไปแจ้งกับบริษัท ดี๊ดี (นามสมมติ) ซึ่งทาง Call center แจ้งว่า "อ๋อ คุณไม่ต้องแจ้งระงับสัญญาณหรอกค่ะ เพราะทางบริษัทได้ตัดสัญญาณไปแล้ว เพราะว่ามียอดค่าใช้จ่ายเกินวงเงินที่กำหนด"
ไอ้เราตอนนั้นก็โล่งใจเข้ามาวูบนึง (ทำไมเป็นคนมองโลกในแง่ดีอย่างนี้นะ -"- ว่าตัดสัญญาณไปแล้วคงไม่มีค่าใช้จ่ายมากมายอะไร) เลยถามต่อว่า มียอดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ?
Call center : 3,3xx บาทค่ะ แม่จ้าววววววววววววววว~~~~~~~~!!!!
ไม่เคยใช้เยอะขนาดนั้นมาก่อนเลยค่ะ เพราะปกติแล้วเครื่องที่ซื้อมาเนี่ย เพื่อเอาไว้โทรหาคนในครอบครัวอย่างเดียว เพราะใช้เครือข่าย ดี๊ดี กันหมด ยอดปกติอยู่ที่ 300 กว่าบาท/เดือน
มาเจอคนล้วงโทรศัพท์ไป แถมยังทิ้งภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆแถมให้อีกตะหาก มันปวดกระดองใจเหลือแสน! สุดท้ายก็ต้องจ่ายค่ะ เพราะทางบริษัท ดี๊ดี บอกว่า คุณไม่แจ้งตัดสัญญาณเอง คุณผิด ถ้าคุณไม่จ่าย บริษัทฟ้อง....(ก้มหน้ารับกรรม)
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. หากเดินในที่ชุมชน ไม่ว่าเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ อย่าปล่อยให้กระเป๋าและของมีค่าห่างมือ ถึงแม้คุณจะอุ้มมันมากอดไว้ข้างหน้า ถึงคุณจะคิดว่ามันดูตลกก็เถอะ(ฉันเองคิด) แต่ขอโทด.... ถ้าของคุณหาย / กระเป๋าโดนกระชาก จะตลกไม่ออก
2. กรณีโทรศัพท์หาย / หาไม่เจอ ไม่รู้อยู่ไหน สิ่งแรกที่จะต้องคิดพร้อมๆกับว่าจะโทรเข้าเบอร์ตัวเองคือ => โทรไปแจ้งค่ายโทรศัพท์ ให้ตัดสัญญาณการโทรออก แต่ยังโทรเข้าได้ หาเจอแล้วค่อยไปยกเลิกที่หลังก็ได้ไม่เสียหาย
2.1 กรณีโดนขโมยไปแล้ว ต้องจ่ายเงินค่าโทรด้วย กรณีเรา ยืนยันกับทางบริษัทฯเลยค่ะ ว่าฉันจะจ่ายตามวงเงินที่กำหนดเท่านั้น มากกว่านั้นฉันไม่จ่าย
-เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ
-โทรไป ตปท. ประเทศเวียดนาม แพงมากค่ะ! แค่ภายใน 20 นาที ยอดพุ่งเป็น สองพันเจ็ด
-เพิ่มเติมค่ะ: เราถาม Callcenter ว่าเราไม่เคยเปิดใช้บริการโทรไปต่างประเทศ สามารถโทรได้ด้วยหรือ? ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า เวียดนาม(กรณีที่เราโดน) เป็นประเทศในกลุ่มที่ทางบริษัท ดี๊ดี ให้โทรถึงกันได้โดยไม่ต้องแจ้งเปิดใช้บริการ และเราก็ถามอีกว่า ทำไมถึงตัดสัญญาณตอนที่ค่าโทรมันสามพันกว่าแล้ว? (อันที่จริงเราจ่ายเป็นโปร โทรได้ประมาน 700 กว่าบาท และมีวงเงิน 1,500 บาท) ก็ได้รับคำตอบว่า เพราะทางบริษัทใช้สัญญาณดาวเทียม ของอะไรซักอย่างเนี่ย ซึ่งต้องรอรับข้อมูลจากดาวเทียมก่อน เลยทำให้ล่าช้าในการตัดสัญญาณ กว่าจะตัดอีกทีก็ปาเข้าไปสามพันกว่าแหล่ว ขอให้สาวๆทุกท่านระวังเนื้อระวังตัว มีสติตลอดเวลาค่ะ
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 22:13:31
จากคุณ |
:
นางสาวไทยใจรักเด็ก
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.พ. 55 22:05:47
|
|
|
|
|