10 บัญญัติไปงานลดทะลุพิกัดของ The Mall
|
 |
มีโอกาสไปแวะเฉี่ยวโฉบงานลดทะลุพิกัด ของ The Mall ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เจอประสบการณ์งานลดแปลกที่ชวนให้เกิดข้อคิดและแนะนำต่อ
ลองดู
1. แต่งตัวทะมัดทะแมง ไปลุยของถูก ไม่ใช่ไปเดินห้างเฉิดฉาย แต่งตัวสวยหรูแค่ไหน ก็ต้องถูกเบียดรัศมี ไม่มีคนดู นุ่งชุดทะมัดทะแมง จะเป็นเสื้อตัว กางเกงตัว(มีกระเป๋า) และรองเท้าเดินสบาย สำหรับบางคนที่ต้องการหากระโปรง /กางเกง และอยากลอง ขอให้ใส่กระโปรงหรือเดรสไป เพราะจะถกจะถอดก็ลองต่อหน้าไปเลย (ไม่มีห้องลอง) เห็นบางคนเอาขอบกระโปรงมาคล้องคอ เอ..จะใส่ได้มั้ยเนี่ย ให้แน่ใจยิ่งขึ้น หาสายวัด ตลับเมตรไปด้วยก็ยิ่งดี
2. ใช้รถสาธารณะ พยายามนั่งรถเมล์ รถสองแถว รถตู้หรือเรียกแท๊กซี่ไปถึงอิมแพ็ค เพราะจะได้ไม่กังวลเรื่องการจอดรถ ขอเรียนว่าที่จอดรถหาลำบากมาก และจะต้องวนหาที่จอด ถ้าขับรถมา เพราะเป้นครอบครัวใหญ่ ให้สมาชิกที่เหลือลงมาก่อน หากไม่เกรงว่าต้องเดินไกล แดดร้อน ให้ไปจอดที่ตลาดสดร่วมใจ เสียค่าจอดชั่วโมงล่ะ 10 บาท หากต้องแย่งที่จอดกับใครก็ต้องถือว่าเป็นฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ว เพราะเดี๋ยวอาจจะต้องแย่งของกับคนอื่นอีกในงาน อิอิ
3. หิ้วกระเป๋าล้อลาก/เป้ไปเอง ในงานมีรถเข็นแบบซูเปอร์มาร์เก็ตให้ แต่ดูท่าจะไม่ไหว เนื่องจากบู๊ท/ผังที่ออกขายจะเป็นซอกเล็กซอกน้อย ไม่ได้เป็นบู๊ทเรียงเป็นแถวแบบงานทั่วไป ฉะนั้นรถเข็นจะแวะเวียนเข้าซอกได้ยากมาก แถมบางครั้งเราต้องตอดเข้าดูโน่นนิดนี่หน่อย เข้าหน้าบ้าง หลังบ้าง เข้าสีข้างก็เอา จะทิ้งรถเข็นไว้ข้างนอกไหวหรือ (อย่าลืมของที่อยู่บนรถเข็น ล้วนจ่ายตังค์แล้วทั้งนั้น) หิ้วกระเป่าล้อลากมาเองดีกว่า อยู่ใกล้ๆตัวตลอดเวลา ถ้าเจอบู๊ทไหนแน่นๆก็กระชับกระเป๋าแนบชิดได้อีก
4. ตาสับปะรด ไม่ต้องซื้อสับปะรดเข้าไป เราก็มีตาแบบเดียวได้ ก่อนอื่นกวาดตามองรอบฮอลล์ก่อน อะไรอยู่ทีไหน จะมีป้ายเขียนบอกไว้ว่าเป็นสินค้า Beauty Fashion แขวนไว้เหนือสุด เมื่อเราสนใจหมวดไหนจะได้เดินไปถูก อย่าเดินเอื่อยๆตั้งแต่บู๊ทล็อคแรกจนถึงล็อคสุดท้าย เพราะนอกจากจะเสียเวลาและแรง(โดยไม่จำเป้น)แล้ว จะทำให้เราหลุดความสนใจแต่แรกเริ่ม เผลอๆเงินอาจจะหมดจากกระเป๋าไปก่อนถึงหมวดที่เราตั้งใจ
ที่สำคัญคนจะเยอะมากจนทำให้เรารู้สึกอึดอัด วุ่นวายและหมดความอดทน กลับดีกว่า
5. หากบู๊ทแน่นเกิน ละเว้นไปก่อน ถ้าเราไม่ใช่ลูกอีช่างคุ้ย เจอบ๊ทไหนคนมหาศาลเหมือนได้ของฟรี เดินเลี่ยงไปก่อน แล้วค่อยกลับมาอีกที เพราะคนยิ่งเยอะ สินค้าถูกคุ้ยกระจาย (เช่นบู๊ทกระเป๋าสตางค์แบรนด์ดัง) ก็ยิ่งหาของถูกใจยาก พนักงานก็ต้องคอยมองว่ามีอะไรหลุดหายไป(ในกระเป๋าผู้มาชมงาน)บ้าง จะไม่มีเวลามาตอบข้อซักถามของเรา
และระวังต้วให้ดี กับภัยอื่นๆที่จะฉวยโอกาสในบู๊ทที่คนมุงขนัด
6. ลดเท่ากับห้าง ยังไม่ต้องรีบ สินค้าหลายตัวลดไม่ทะลุพิกัด(จริงๆ) โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ ถ้าเราตั้งใจจะเป๋นนักล่าของถูกไม่ให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล หมวดหมู่ที่ลดแค่ 10-30% อาจจะมองข้ามไปก่อน เพราะที่ห้างก็ลดประมาณนี้อยู่แล้ว แถมยังมีสินค้าให้เลือกแบบเต็มชั้นกว่า
นอกเสียจากคิดว่า ไหนๆก็มาแล้วก็ซื้อไปทีเดียวเลย (จะได้ไม่ซื้ออีกนาน)
เสื้อผ้าบางยี่ห้อจะมีรายการลดประจำอยุ่แล้ว ตามห้างหรืองานอื่นๆ (เช่นในกลุ่มของ ICC ทั้งหลาย) หากอยากจะเมียงมองดูก็ไม่ผิดกติกาอะไร แต่ถ้าไม่ได้ทาบ ไม่ได้ลอง ก็คอยโอกาสต่อไปก็ได้ เพราะเพิ่งเห็นชุดเสื้อผ้าทั้งกลุ่มยกมาจาก Terminal 21 อาทิตย์ที่แล้วเอง
7. สินค้าอ่อนไหว ดูให้ละเอียดอีกนิด พวกเครื่องสำอางทั้งหลาย รวมทั้งเครื่องประทินโฉม สปา ซึ่งขนเข้ามาลดทะลพิกัด มากมายหลายยี่ห้อ ดูวันผลิต/วันหมดอายุ ให้ถี่ถ้วน เพราะหลายแบรนด์เหลืออีกไม่กี่เพลาก็จบอายุขัยแล้ว หากมีโอกาสได้ใช้ก่อนหรือหาคนมาช่วยใช้ด้วยกันก็พอไหว แต่หากซื้อแล้วอยากจะยืดอายุไว้ในตู้เย็น จะเสียของเปล่า
ส่วนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ตรวจสภาพและทดลองไฟด้วย พร้อมดูใบรับประกันให้เรียบร้อย แบรนด์ดังๆไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนใหญ่ที่เอามาลดเพราะเป็นรอยตำหนิ หรือตัวผลิตภัณฑ์เองเป็นตัวโชว์ผ่านมือมาแล้วแต่ยังใช้งานได้ดี
8. หนึ่งมือลากกระเป่า หนึ่งมืออิสระ ซื้อของได้แล้ว ควรเก็บในกระเป่าล้อลาก อย่าหิ้วพระรุงพะรังถุงพลาสติกห้อยโตงเตง หรือถือถุงเต็มสองข้าง ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ห่วงโน่นห่วงนี่ เดี่ยวต้องจ่ายเงิน รับเงินทอน เดี๋ยวมีโทรศัพท์ดังเข้ามาก็ต้องรับ เอ้าเจอของถูกใจ เลี้ยวเข้าไปอีก
อิริยาบถที่ไม่สามารถคอนโทรลตัวเองได้เช่นนี้ จะถูกเฝ้ามองจากมิจฉาชีพมืออาชีพเลยล่ะ
อ้อ ขอร้องขาช้อปที่เลือกเสื้อผ้าในราวไป โทรศัพท์ไป แล้วก็เลือกวนไปมา ไม่จบเสียที โดยไม่สนใจคนอื่นๆ ควรเลิกพฤติกรรมเช่นนี้เสีย เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญใจแล้ว ก็เป็นอีกเป้าหนึ่งที่ควรแก่การจารกรรมได้ง่าย เจ้าตัวกำลังอยู่ในภวังค์ที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ (ก้อกำลังเม้าท์กระจายอยู่นี่)
9. ได้ของครบ ตังค์(ที่เหลือ)อยู่ครบ เมื่อช้อบจนหมดโควต้าแล้วก็จบ จะได้มีสตางค์เหลือใช้จนถึงสิ้นเดือน อย่าลืมนี่แค่กลางเดือนเองนะ ปลายเดือนก็จะมีเซลล์จ้าวอื่นๆมาอีกเป็นกระพรวน หมดงานนี้แล้ว อีกสองสามวันก็จะเป็น OTOP อีกล่ะ แล้วจะปั๊มเงินมาทันมั้ยเนี่ย
หากใช้เกินไปแล้ว ก็ปลอบใจตัวเองหน่อย เดือนนี้กุมภาพันธ์ วันสิ้นเดือนมาเร็วกว่ากำหนดต้อง 2 วัน เมื่อเงินเดือนออกก็เก็บตังค์ชดเชยส่วนที่เกินโควต้าไปนั่นแหละ พร้อมสัญญากับตัวเองว่า จะเลิกช้อป เลิก..ช้อป และเลิกกก....(ไม่)ช้อป อีกนาน
10. ตรวจสมบัติทุกชิ้นก่อนออกจากฮออล์ โอกาสสุดท้ายที่จะได้ดูว่าสินค้าที่ซื้อมาอยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือไม่ เพราะต้องไปแย่ง รื้อ คุ้ย ไม่มีโอกาสได้กางจะจะ เห็นแจ้งแจ้ง แสงในบู๊ทก้ไม่เพียงพอ มานั่งข้างนอกที่สว่างขึ้นก็จะเห็นร่องรอยทั้งหมด สีเสื้อที่ดูว่าแจ๊ดจ๋า อาจจะหม่นเมื่อเห็นในที่สว่าง จะเปลี่ยนก็ยังทัน (ถ้าเพิ่งซื้อไปและพนักงานยังจำได้) แม้จะมีป้ายเขียนว่า ไม่มีนโยบายเปลี่ยนหรือคืนเงิน เท่าที่ดู พนักงานหลายร้านก็อะลุ้มอะล่วยให้
หลายคนเมื่อกลับมาถึงบ้าน อยากรู้ราคาจริงเท่าไหร่ (เช่นคนเขียนกระทู้) เปิดเวปไซค์หาดู หากได้ราคาถูกกว่าก็กระหยิ่มยิ้มย่อง หากเจอราคาเท่ากัน...ก็บ่นไม่น่าเลยตรู อุตส่าห์แหวกวงล้อมเข้าไป
เอาเถอะ เอาเถอะ ไหนๆก็ได้มาแล้ว ก็เอามาใช้ให้คุ้มดีกว่า ว่าแล้ว....ก็ขอใช้เวลาไปทดลองของที่โฉบมาเสียหน่อย กราบสวัสดี
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 55 14:47:01
จากคุณ |
:
กูรูขอบสนาม
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.พ. 55 14:06:09
|
|
|
|