Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"จะทำเลเซอร์ทั้งที อย่ายอมให้โดนหลอก" ทำแล้วไม่ได้ผลหรือได้ผล"ที่แย่กว่าเดิม"{แตกประเด็นจาก Q11773122} ติดต่อทีมงาน

สิ่งที่อยากบอกเกี่ยวกับทำเลเซอร์

เลเซอร์นั้นมีหลายชนิด ไม่ใช่บอกว่า "กำจัดขน" เหมือนกัน
แล้วจะเหมือนกันเสมอไป อย่าเลือกเพราะถูก และไม่ใช่แพงจะดีกว่า
สำหรับผู้ที่พอรู้ว่า เลเซอร์นั้นมีหลายชนิด และพอรู้จักชนิดของเลเซอร์เช่น
ถ้าจะยิงฝ้าใช้ เครื่อง Q-switched yag แล้วเลือกที่ถูกกว่้่า
หรือคิดว่า ถ้า  Q-switched yag เหมือนกันแล้วจะรักษาได้เหมือนกันนั้นคิดผิด
เพราะ Q switch Yag มีหลายรุ่นตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งทำอะไรได้ไม่เท่ากัน รวมถึงมีหลายแหล่งผลิต เช่น ไทย จีน USA Europe
สำหรับผู้ที่ รู้ว่าต้องใช้เลเซอร์ชนิดไหน แล้วเชื่อคลีนิคที่บอกว่า "รุ่นใหม่"
"มาจาก USA" แล้วเลือกที่ถูกกว่า หรือเลือกแพงๆก็ตาม นั้นก็คิดผิด
เพราะปัจจุบันมีหลายที่บอกว่า USA แต่จริงๆ มาจาก China

ขอสรุปประเด็นเกี่ยวกับเลเซอร์นะครับ


ผมขอพูดง่ายๆแบบนี้ว่า ให้มองเครื่องเลเซอร์ เป็น "รถ" ครับ

ที่มีทั้ง รถเก๋ง รถกระบะ รถอีแต๋น เอาไปใช้งานต่างกัน ก็เหมือนเลเซอร์มีหลายประเภท

พอไปดูรถเก๋งก็เหมือนเลเซอร์ประเภทนึง เอาไว้ใช้อย่างนึง
แต่รถเก๋งเองก็มีหลายยี่ห้อครับ ทั้งจากจีนที่พังง่าย
จากยุโรปที่ทันสมัย หรือรถที่ไม่ได้มาตรฐานก็มี มันเหมือนเหมือนเลเซอร์ชนิดเดียวกันนี้
ก็มีหลายผู้ผลิต ถ้าใช้ของไม่ดีหน้าอาจจะไหม้
หรือยิงไปเหมือนยิงไฟฉายเข้าที่หน้าไม่ได้ผลแต่เสียเงิน

แต่ถึงกระนั้นถึงแม้จะเป็นเลเซอร์ประเภทเดียวกัน จากบริษัทและประเภทเดียวกันแล้ว
แต่ก็ยังมีหลายรุ่น เหมือน toyota corolla ที่ก็มีมาหลายสิบปี
ก็เหมือนเลเซอร์ประเภทเดียวกันชื่อเดียวกัน บริษัทเดียวกันแต่
อายุต่างกันเป็นสิบปี ความสามารถมันก็ไม่เท่ากัน อันนึงยิงแล้วได้ผลมากกว่าเป็นต้น



และสุดท้ายรถต้องพึ่งคนขับดีๆ เลเซอร์ก็ต้องพึ่งหมอผิวหนังดีเช่นกัน
ยิงเลเซอร์นั้นไม่ง่ายเลย บางทียิงไปไม่ได้ผลนึกว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องยิงเยอะๆ แต่หารู้ไหมว่า คนที่ผิดของแพทย์


สรุปแล้ว เวลาจะทำเลเซอร์อะไรซักอย่างนึง ควรพิจารณา


เราจะรักษาอะไรหาข้อมูล ของเลเซอร์ก่อนว่าใช้เลเซอร์ประเภทไหนจะดีที่สุด แล้วเลเซอร์ชนิดนั้น มันมีหลายรุ่นไหม เช่น Medliteที่เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Hoya,USA ของเลเซอร์ Q switched ND yag ที่ใช้รักษากระ มีตั้งแต่รุ่น  Medlite C-1 - C-6   แต่ถ้าเราเห็น คำว่า Q switch yag อาจจะเป็นเลซอร์ที่มาจากจีนก็ได้
บางทีเห็นคำว่า Medlite อาจจะถูกหลอกเพราะทำให้เข้าใจไปเองว่ามาจาก Hoya,USA ที่แท้อาจจะมาจากจีน เนื่องจากคงไม่มีใครขอดูเครื่องจริง การใช้ชื่อ Medlite อาจจะช่วยอัพราคา


บางทีใช้คำว่า Medlite 6 แต่ความจริงอาจจะไม่ใช่เช่น ที่ผมเคยโดนมาคือบอกว่ามาจากอเมริกาแต่จริงๆมาจาก จีน และบอกว่า c6 แต่จริงๆมาจากจีนมันจะมีรุ่น C6 ได้อย่างไร ยิงไปก็ไม่ได้ผล เช่นรอยดำจากสิวต้องใช้รุ่น c6 เป็นต้นไปเท่านั้น โดนหลอกก็เชื่อแต่จริงๆรุ่นเก่าจากจีน ยิงไปไม่ได้ผลแถมได้รอยไหม้กลับบ้าน
สรุปเลยนะครับ การจะไปรักษาด้วยเลเซอร์หรืออื่นๆนั้น ควรศึกษาข้อมูลให้ดีมาก ไม่งั้นหน้าจะพัง เงินจะหายได้


บางคนอาาจจะถามว่าหาข้อมูลไม่ได้ ไม่เข้าใจทางที่ง่ายกว่านั้นคือ การศึกษาว่าหมอที่ทำให้เราคือใคร จบอะไรมา เป็นหมอผิวหนังไหม เรามีสิทธิรู้ตามสิทธิผู้ป่วยนะครับ


ก่อนอื่นขอให้ความรู้เกี่ยวกับแพทย์ผิวหนังนะครับ


คำว่าเเพทย์ผิวหนังเนี้ย จริงๆมันก็ไม่ได้มีนิยามแน่นอน ตอนนี้ก็ใช้กันทั่วไปหมด


แต่จริงๆตามระบบการเรียนนะครับ


จบ แพทยศาสตร์บัณฑิต 6 ปี
ใช้ทุน 3 ปี
ไปเรียนต่อ ซึ่งการเรียนต่อมีหลายแบบครับ


1.เรียนต่อผิวหนังแบบ 4 ปี เรียกว่า Board of Dermatology
เรียนทุกอย่างครับ ผิวหนังน่าเกลียดตคิดเชื้อ เอดส์ ทั้งหลายเรียนหมดพวก
เรื่องสิวฝ้ากระเลเซอร์ ก็ไม่ได้เน้นมากนัก
2.เรียนต่อแบบ 2 ปี ได้วุฒิ ปริญญาโทด้านผิวหนัง MS.c
มีเปิดที่ มศว จุฬา แม่ฟ้าหลวง และต่างประเทศ
อาจจะเรียนน้อยกว่าแบบแรกหน่อย
3.เรียนต่อแบบ 1 ปีได้ Diploma เรียนน้อยมาก
ปฎิบัติจริงแทบจะไม่มีเลยครับ
สรุปตั้งแต่ ข้อ 1-3 ถ้าจบสองแบบเเรกก็ยังพอผ่านเครื่องเลเซอร์มาบ้าง
แต่ถ้าแบบที่ 3 ไม่เคยจะได้ยิงเท่าไหร่หรอกครับ ดูและอ่านเอามากกว่า
ไม่มีประสบการณ์พอที่จะทำจริง ครับ

แต่แย่กว่าคือหมอส่วนใหญ่ที่เรียกว่า หมอผิวหนังหรือ หมอผิวพรรณ หมอสิว
หรือพวกประจำคลีนิคเสริมความงาน ส่วนใหญ่ 90% ไม่ได้จบอะไรมาเลย
เป็นแพทย์ที่เรียน 6 ปีจบแล้วมาทำงานเลย โดยไม่มีเรียนเรียนแม้แต่ปีเดียว
ไม่มีความรู้พื้นฐานที่ถูกต้อง มีแต่การอบรมที่คบีนิคทำเอง
ขาดมาตรฐานทำให้ให้คำปรึกษามั่วๆ ยิงเลเซอร์ไม่ได้ผลครับ
เพราะขนาดแพทย์ที่จบ ทั้ง 4 3 และ 1 ปีมาถ้าอยากเรียนรู้เรื่องเลเซอร์จริงๆ
ยังต้องไปเรียนต่อ เฉพาะทางเข้าไปอีก ประมาณว่า เฉพาะของเฉพาะทาง
เรียกว่า Fellow ครับ หรือ Visiting Fellow แล้วแต่เวลาที่เรียน
ลองคิดดูนะครับขนาดคนจบผิวหนังยังต้องมีเรียนต่อและแพทย์ทั่วไป
ก็ยิงตามเจ้าของคลีนิคบอกและรับเงินเดือน 2-5แสนบาทไป
โดยที่การยิงงนั้นอาจจะหน้าไหม้ หรือไม่ได้ผลก็ตาม

สุดท้ายเลยบอกว่าให้ถามหมอทุกครั้งว่าหมอที่คุณกำลังรักษาด้วย
ได้จบผิวหนังมาไหม จบแบบไหนมา
Board
ป.โท
Diploma
หรือไปเรียนต่อเลเซอร์อีก 1-3 ปี
หรือไม่ได้เรียนเลย แค่อบรมมากัน


จำไว้อย่างนึงว่าแพทย์ที่ดีจะเลือกเครื่องมือที่ดีและรักษาคุณให้ดีได้เองครับ มันก็เหมือนการรักษาโรคแหละครับ

แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 55 15:43:51

จากคุณ : Rechew9915
เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 55 01:06:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com