ความคิดเห็นที่ 1 ใส่ภาพไม่ได้ ทำยังงัยดีค่าาา จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:36:53

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพใหญ่เกินไปหรือเปล่าคะ  ลองปรับขนาด pixel  ดูนะคะ จากคุณ : costarica เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:37:48

ความคิดเห็นที่ 3 มารอเป็นเพื่อนค่ะ จากคุณ : สงสัยมากมาย เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:46:22

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ต้อง preview นะจ้ะ ไม่งั้น รูปไม่ขึ้น จากคุณ : รองเท้าแตะไฮโซ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:47:52

ความคิดเห็นที่ 5 ปาดค่ะ อยากรู้ มีเพื่อนเป็นไทรอยด์เป็นพิษเหมือนกัน จากคุณ : BiglittleBird เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:52:47

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวแรก calcium carbonate 1250 mg (แพทย์สั่ง) วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเย็น ผลลัพธ์ ไม่แน่ใจ คือมันน่าจะเป็นผลระยะยาว เพราะตอนนี้ก้ไม่ได้รู้สึกกระดูกเปราะอะไร ยังเอ๊าะอยู่ แต่ถ้าใครสนใจ ก้ลองดูได้ หรือลองทานนมวันละครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อสุขภาพตัวเองกันนะ สาวๆๆ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 16:56:03 จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:54:47

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบกินวิตตามินขอรอชม ^^ จากคุณ : Jacky-Indy เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:55:22

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวสอง vitamin D 20000 u (แพทย์สั่ง) วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด ทานสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหาร ผลลัพธ์ วิตามิน ดี ช่วยดูดซึมแคลเซียม ทุกคนอาจงง เพราะ ตากแดด ก้ได้ วิตามินดีแล้วเสียตังซื้อทำไม จขกท ก้ไม่เข้าใจ ต้องหมอสั่ง ก้ต้องกิน 55 หมอดุ แต่ คือต่อมไทรอยต์ เนี่ย มันลดแคลเซียมในร่างกายไปหมอเลยบอกกินไปเถอะ แก่ตัวกระดูกจะได้ไม่เปราะง่าย   ปล แคลเซียมและวิตามินดีไม่แนะนำให้กินพร่ำเพรื่อ แบบคิดเองเออเองนะคะ ทั้งนี้ต้องอยุ่ในความดูแลของแพทย์เพราะ อะไรมากไปก้ไม่ดีจ้าาา จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:03:24

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นเป็นเม็ดๆ มาก็เริ่มคอแข็งแล้วค่ะ จากคุณ : till_the_end เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:11:29

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวสาม bambee B1-B6-B12(แพทย์สั่ง) วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเช้า ผลลัพธ์ ตัวนี้เลิฟมากกกกก ก้อีกนั่นแหละ จขกท โรคแยะเจ็บออดๆแอดๆ คือเป็นปวดต้นคอเรื้อรังไม่หาย เป็นหนักมากนะคะ นั่งนานๆไม่ได้เลยและที่สำคัญ ชาแขนซ้ายๆบ่อยๆ บ่อยแค่ไหน ตอบว่า ทุกวัน สมองก้ช้าๆเฉื่อยๆ (ข้ออ้างจริงๆ จขกทโง่เอง 555 ขำขำนะ)กินตัวนี้ กระฉับกระเฉงขึ้น รุ็สึกตัวเอง เอคทีฟขึ้น ไม่ได้โม้นะ กินมา 4-5 เดือนแล้ว ปล1 จขกทโรคจิตเล็กๆ พวกวินตามิน บำรุงร่างกาย เชื่อใจที่หมอสั่งมากกว่าซื้อกินเอง แบบรู้สึกว่าปลอดภัยแล้วไม่ตกค้างไรงี้ แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่นะคะ เป็นความรู้สึกล้วนๆไม่อ้างวิชาการใด ปล2 คุณหมอแนะนำให้กินวิตามินรวมไม่ว่ายี่ห้ออะไรนะคะ เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า เรากินอาหารไม่ครบ 5 หมู่จริงๆๆ เพื่อนลองพิจารณาดูได้นะคะ ปล3 ไม่รุ้ว่าซื้อที่ไหนนะคะ มีในรพใรัฐทั่วไปค่าา แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 22:58:27 จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:14:18

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวสี่ Nat C วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเช้า ผลลัพธ์ รู้สึกเฉยๆมาก เพราะ ตั้งใจกินเพื่อผิวใส เด้งไรบ้างกะคนอื่นเค้า แต่ ผิวช้านนน ช่างเหมือนเดิม แต่เหมือนช่วยหวัดเล็กน้อย เพราะ จขกท เป็นหอบหืดและภูมิแพ้ตั้งแต่เด็กแล้ว จบกระทู้แล้วมานับกันดีกว่าว่าจขกท เป็นโรคอะไรบ้าง ทั้งหมดกี่โรค ทายถูกไม่มีรางวัลน้า 5555 จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:21:54

ความคิดเห็นที่ 12 แวะมารอดูด้วยคนค่ะ ^_^ จากคุณ : InGy เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:23:45

ความคิดเห็นที่ 13 จบส่วนที่บำรุงร่างกายแล้ว จขกท ก้เป็นผู้หญิงที่มีใจสวยมากกกกก อย่างเดียว ก็อยากกินอะไรที่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องปลอดภัย ชัวววว ไม่ขอเสี่ยงตายเด็ดขาด อยาก สวยต้อง มีสมอง ด้วยน้าาา ตัวห้า รกแกะอัดเม็ด 20000 mg วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเช้า ผลลัพธ์ เห็นว่าดัง ผิวนุ่มลื่น ดุจแพรไหมหน้าเอ๊าะเด็กเด้ง อยากลองมั่ง แต่ยี่ห้อดังเห็นถกเถียงว่าที่ ออสเตรียเรียไม่มีขาย มั่งไรงู้นงี้ ไอเราถือคติ สวยมีสมอง ก้ขอศึกษาข้อมูลก่อน เอาหวะ เอาที่มันประกาศขายของเจ้าถิ่นเลย ชัวแท้แน่นอน จขกทสั่งเอง ที่นิวซีแลนด์เลยนะคะ ดูเว่อนะ แต่เพิ่มความมั่นใจว่าปลอดภัย ผิวเรียบขึ้นจริงคะ แต่ก่อนผิวแห้งมากกกถึงมากที่สุด น้ำมันมะพร้าวเอาไม่อยู่ เบบี้ออย เด็กๆๆ เจอเกนกระเด็นไปให้ไกล และนี้คือเหตุผลที่ต้องเลือกกินยา มันแห้งจนตัวแตกผิวตึงๆๆ แสบ คัน สุดๆๆ ทรมานคะ ใครเปนลองดูได้นะคะ จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:33:44

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาเห็นใจนะคะ คนจำเป็นต้องกินยา(ขอเรียกยา)หลายๆเม็ดใน 1 วันเนี่ยะ แต่ก็นะ ถือว่าเป็น 1 ใน 10000000 ที่เป็นเรา จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:35:06

ความคิดเห็นที่ 15 ตัวหก primrose plus วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเช้า ผลลัพธ์ ด้วยเหตุผลผิวแห้งอย่างที่บอกและจขกท ปวดประจำเดือนมากกก มากผิดปกติคือ วันไหนปวดมากสมัยก่อน เรียนเนี่ยต้องหยุดเรียนเลยปวดมากจริงๆแต่จะปวดอยู่ สองวันนะคะ วันแรกกะวันที่สอง  ตัวนี้ลองก่อนกิน รกแกะนะคะ ไอเราก้หวังผลรวดเร็ว แต่ต้องบอกก่อน ว่า เรากิน ไป 30 กว่าวัน ไม่เห็นว่าจะดีขึ้นในเรื่อง ผิวแห้งนะคะ แต่เรื่องประจำเดือนนี้ โอเคคะ ไม่หายปวดแต่ ปวดน้อยลง สีของประจำเดือนก้ดูสุขภาพดีอมชมพู 5555 แต่เราใจเร็ว ช้านนน จะเอาผิวนุ่มชุ่มชื่น เลยลองไปสั่ง รกแกะ พอกินคู่กันเลยโอเคผิวนุ่มจริง จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:43:29

ความคิดเห็นที่ 16 ติดตามค่ะ จากคุณ : หมูกะปิกลิ้งกะโร่โท่ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:55:34

ความคิดเห็นที่ 17 ตัวเจ็ด Ivory caps วิธีทาน ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเช้า ผลลัพธ์ ขอออกตัวก่อนว่า จขกท เป็นคนผิวไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย คือ ไม่ขาววิ้งง ไม่ดำคือรู้อย่างเดียวไม่สวย 55 ในเมื่อมันไม่แทน สวยเหมือนคนอื่นเค้า ก้ขอ ขาวใสขึ้นมานิดนึงนะ วิตตามิน นี้เพิ่งลองทานนะคะ ทานมา เดือนนึงแล้ว ใสคะใสขึ้นอย่างเหนได้ชัด จากความเหนรอบข้าง แต่ไม่ได้ขาวขึ้นเท่าไรเลย ไม่เหมือนรีวิวที่เคยอ่านๆมา งอลเลย คงไม่ซื้อเเล้ว ปล ยี่ห้อนี้เป็นตัวที่ได้รับการรับรองแล้วจาก usa จขกทเลยไว้ใจ ถ้าเป็นตัวอื่นก็คงไม่กิน เเล้ว แลดูเสี่ยงเกิน ก้จริงนะ ถ้ากิน แล้วขาวผิดพ่อผิดแม่ ภายใน 3 วัน7วัน คงแอบหลอนนนน จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:58:50

ความคิดเห็นที่ 18 เราก็อยากลองกิน Evening Primrose มั้งง จากคุณ : marina_rain เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 18:00:13

ความคิดเห็นที่ 19 ตัวแปด Alpha lipoid acid 300 mg วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง เวลา หลังอาหารเช้า ผลลัพธ์ กินคู่กับ Ivory caps ก้อย่างที่บอกใสคะ แนะนำเลยสองตัวนี้ ใสไม่ผิดหวัง แต่ๆๆๆ ไม่ขาววิ้งแบบพริตตี้นะ แต่อาจเพราะพื้นผิวเราไม่ขาว ออกเหลืองเลยคงไม่เห็นผล เผื่อใครกินแล้วเห็นผลที่แตกต่างกัน จะได้ไม่ขัดแย้งกัน ปล กินตัวนี้ ฉี่เหม็นมากกกกกกก จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 18:04:45

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบคุนที่รับ ชม นะคะ หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ตัดสินใจจะกินวิตตามินนะคะ แต่ถามว่า ไม่กินดีกว่ามั้ย ตอบว่าได้ ถ้าคุณ สามารถจัดการกับการ กิน อยู่ ใช้ชีวิตประจำวัน ได้ อย่างดีเยี่ยม วิตตามินเป็นเพียงทางเลือกเสริมค่าาา จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 18:23:32

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นใจคนกินวิตามินเยอะๆ ค่ะ ขอให้แข็งแรงเร็วๆ นะคะ ส่วนเราทานวิตซีอย่างเดียว เป็นภูมิแพ้นิดหน่อยค่ะ จากคุณ : แอ๊บบี้ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 18:43:42

ความคิดเห็นที่ 22 @marina_rain ลองกินได้คะ อาจเห็นผลช้า เรื่องผิวแต่ถือว่าเห็นผล ต้องใจเย็ยๆหน่อย แต่ประจำเดือนเนี่ยผล ชัดเจน @ แอ๊บบี้ ตอนนี้ แฮปปี้ดีทุกอย่าง ตอนเป็นโรค ก็แฮปปี้ดีมากกก กำลังใจดี สุขภาพตอนนี้ก็โอเค ไม่มีอะไรน่าห่วงค่าา ขอบคุณนะคะสำหรับคำอวยพร @แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด โชคดีนะ เราว่า มีเรื่องที่พิเศษกว่าคนอื่น เปน story ของเราเอง 5555 จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 19:06:33

ความคิดเห็นที่ 23 Lipoid acid ซื้อที่ไหนหรอคะ หาซื้อลำบากจัง จากคุณ : by iPhone (MaRiMeKKo) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 20:21:11

ความคิดเห็นที่ 24 @(MaRiMeKKo เราสั่งจากเวปที่ usa เลยอะคะ จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:13:33

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่า Ivory caps รวมถึงกลูต้ายี่ห้อที่เราเคยกิน วิสตร้า...ไม่เวิร์คอ่ะค่ะ  ตอนนี้ไม่กินแล้วค่ะ เปลืองโดยใช่เหตุ แพงอ่า >< ทุกวันนี้กินแค่วิตซี กับ เกรปซี๊ดค่ะ เน้นช่วยเรื่องผิว..ส่วนวิตามินบีรวม เราทำได้แค่ดมค่ะ กลิ่นเป็นอันสลบกินไม่ไหว เอิ๊กกก...ให้สามีกินเลย 55 จากคุณ : jiradet เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:36:22

ความคิดเห็นที่ 26 เรากิน Nat C แล้วรู้สึกว่าผิวใสขึ้นนิดนึงนะ จากคุณ : นิฮงโกะ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:20:20

ความคิดเห็นที่ 27 จบข่าว ไม่ชอบกินยา ขนซื้อวิตามินมาหลายกระปุก ตอนนี้ยังไม่ได้แกะแม้แต่ซีล เห็นขนาดเม็ดแล้วจาเป็นลม ขอบคุณ จขกท.สำหรับรีวิว นะคะ จากคุณ : Namtannaka เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 02:17:38

ความคิดเห็นที่ 28 ว๊าว แต่ละตัว ดูน่าสนใจมากค่ะ ชื่นชมที่จขกท.เลือกที่มีที่มาที่ไป มียี่ห้อชัดเจน ลูกพี่ลูกน้องเราเมื่อก่อนขายพวกเครื่องสำอางค์ทางเน็ต เล่าให้ฟังว่าพวกกลูต้าที่ขายๆกันเม็ด80-90 จริงๆต้นทุนเม็ดยี่สิบกว่าบาท เค้าขายตั้งแต่มันเม็ดร้อยกว่าบาท  เวลาเห็นคนขายก็จะชี้แบบชั้นรู้นะต้นทุนมันเท่าไหร่ เราก็แบบ โห  กำไรเยอะจริงๆ ปลอดภัยป่าวก็ไม่รู้ จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 07:27:08

ความคิดเห็นที่ 29 เราก็เป็นโรคไฮเปอร์ธัยรอยด์เดียวกัน กินยาต้านวันละเม็ด ไจากเคยกินวันละสามเม็ด ไม่ขนาดต้องกลืนน้ำแร่เหมือน จขกท ตอนนี้ก็กินวิตรวมของเซเว้นซีซื้อ  แบบอารมณ์ขอเถอะอยากกินอะ ฉันเหนื่อยร่างกายต้องการกินแล้วต้องดี ชอบกินยา บ้า แล้ว จริง ๆ เราเคยกินวิตเยอะๆเพราะสิว เท่าที่จำได้กินซี สังกะสี อีฟนิ่ง กับยารักษาสิว ดอกซี่ สุดท้ายเป็นตับเป็นพิษเฉียบพลัน ไม่สรุปนะว่าเป็นเพราะวิตามิน หมอให้งดวิตามินและยาสิวทุกอย่างเฉย ๆ หมอบอกว่าวิตามินกินมากก็ไม่ดี หมอบอกหากผิดโทษหมอนะฟังหมอมาอีกที โดยเฉพาะคนเป็นโรคประจำตัวต้องระวัง จากคุณ : PUMAGIRL เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:07:26

ความคิดเห็นที่ 30 กราบขอบคุณทุกท่านที่ หลงเข้ามาชม ตื่นเต้น เป็นล้นพ้น ได้ขึ้นกระทู้แนะนำ ดีใจเหมือนได้สามี 5555 ได้ข่าวว่ายังไม่มีแฟน ฮุฮิ จขกทหวังว่ากระทู้นี้จะให้ความรู้ได้บ้าง หากอยากถามอะไรเพิ่มเติมก้ถามมาได้นะคะ น่ารัก ใจดี ค่าาาา @jiradet เห็นด้วยค่า คงไม่กินอีกแล้ว แค่อยากลอง พอลองแล้วไม่โอ ก้ เซ บายค่าา ส่วน วิตบี ยี่ห้อนี้ ไม่เหม็นนะคะ แต่มีกลิ่นนะแบบ ยังงัยดี กลิ่นแบบ ยาเด็กอะคะ @ นิฮงโกะ ดีใจด้วย คุณ เจอเนื้อคู่แล้ว 555 เราไม่เห็นผลจริงๆ แล้วแต่คนจริงๆ เนอะ @โยธิกาหน้าหนาว จริงคะ บางที่ โฆษณาซะเราเกือบเคลิ้ม รีวิว กันสวยงามยั่วยวนมากก แต่รักตัวเอง ขอไม่เสี่ยง ไม่ขอตายก่อนวัยอันควรค่ะ @PUMAGIRL วิตที่หมอสั่งก็ กินในความดูแลของหมอคะ ส่วนที่งอกเงย ออกมาก้ปรึกษาหมอก่อนกิน เป็นห่วงตัวเองเหมือนกัน ห่วง กลัว สวย ใส ตายเร็ว ก้ไม่เอา 5555 จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:40:34

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณที่เอามาแชร์นะคะ ตอนนี้เรากิน Nat C เหมือนกันค่ะ ผิวเราดีขึ้นนะ แต่ไม่เท่าช่วงแรกๆ ที่กินใหม่ๆ แม่เราก็ผิวดีขึ้นจนมีคนทัก แต่สำหรับเราและยาย มันโอเค ตรงที่เราไม่เป็นหวัดง่ายเหมือนเมื่อก่อน อยากลองพริมโรสออยเหมือนกัน จากคุณ : Joie_Girl เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 08:44:02

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ^^ จากคุณ : ยูหยู่ยู่ยู้หยูว์ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:24:24

ความคิดเห็นที่ 33 สนใจรกแกะค่ะ  เพราะว่าเป็นคนผิวแห้งมากกกกกกก ถ้าช่วยเรื่องให้ผิวนุ่มไม่แห้งแตก ก็น่าสนใจมากเลยค่ะ คุณน้อง จขกท.สั่งซื้อจากเว็บไหนคะ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ  ขอบใจนะจ๊ะ ^^ จากคุณ : Maple Leaf Cream Cookies เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:32:30

ความคิดเห็นที่ 34 .           (◕‿◕✿)(◕‿◕✿)(◕‿◕✿) ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน นะคร๊ะ Thanking you so much for sharing ”THIS” จากคุณ : ปาดศรี เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 09:44:11

ความคิดเห็นที่ 35 bambee B1-B6-B12 .(ในความเห็นที่ 10) ตัวนี้ แพทย์สั่ง ให้เราทาน ตอนเป็นปลายประสาทหูอักเสบ นะคะ หมอบอกเอาไว้บำรุง ตอนนั้นต้องกิน Steroids ด้วย จากคุณ : คาปูชิโน่แก้วใหญ่ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:18:50

ความคิดเห็นที่ 36 ส่วนตัวเรียนวิทย์ด้านนี้อยู่นะครับ และเห็นว่าเป็นกระทู้แนะนำด้วย (คนเห็นเยอะ) เลยจะขออนุญาต ออกความเห็นเพิ่มเติมจากเจ้าของกระทู้นะครับ 1. การทาน Calcium เป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ ไม่ใช่เฉพาะผู้ป่วย แต่บุคคลทั่วไป ก็ทานได้ และทานครับ เพราะมีประโยชน์ครอบคลุมหลายเรื่องครับ แต่ไม่ใช่ไปซื้อทานพร่ำเพรื่อ และเหมารวมว่า จะดีเหมือนกันหมดนะครับ เพราะตัว Calcium เอง ก็มีหลายรูปแบบ หลายฟอร์มครับ โดยแต่ละตัว จะมี  Actual calcium concentration ( % ของแคลเซี่ยมจริงๆ ใน 100 % ) + Bioavailability (ร่างกาย ดูดซึมไปใช้ได้ มาก-น้อย) แตกต่างกันไป   ซึ่งตัวที่คุณเจ้าของกระทู้แนะนำ (แพทย์สั่ง) จะเป็นแบบ Calcium Carbonate ซึ่งเป็นรูปแบบที่ต้นทุนต่ำที่สุด (ผลิตจากก้อนหิน หรือพวกเปลือกหอย) มีความเข้มข้นประมาณ 40 % (แคลเซี่ยม คาร์บอเนต 100 กรัม จะมีแคลเซี่ยมจริงๆ ประมาณ 40 กรัม) และพบว่า การดูดซึมก็ไม่ค่อยดีนะครับ เพราะเป็นแบบอัลคาไลน์เบส ต้องใช้น้ำย่อยมาช่วยทำให้ดูดซึมครับ ในวงการอาหารเสริม จะจัด Calcium Carbonate เป็น Old Fashioned Calcium Supplement ไม่ค่อยมีใครแนะนำให้ทานแล้วครับ นอกจากโรงพยาบาลทั่วไป ที่นิยมสั่งรูปแบบนี้เข้ามา เพราะต้นทุนต่ำสุดครับ ถ้าบุคคลทั่วไปจะทาน แนะนำให้ทานแบบ Calcium Citrate หรือ Calcium Citrate Malate จะดีกว่านะครับ เพราะเป็นรูปแบบที่ดูดซึมดี ผ่าน cell membranes ได้ง่าย ไม่ต้องอาศัยกรดในกระเพาะครับ (เพราะมันผสม รวมตัวกับเกลือของ Citric Acid + Malic Acid มาเรียบร้อยแล้ว) ทำให้ไม่มีแคลเซี่ยมส่วนเกิน หลุดออกไปยังเส้นเลือดเยอะ เหมือนการทาน Calcium Carbonate ที่จะมีผลเสียได้ครับ (the calcium ion is dropped off outside the cell. It never really gets to the bones. When calcium is dropped off like this, it can exacerbate hypercalcemic conditions, a potentially dangerous situation for heart rate and heart metabolism, or it can lead to 'free calcium excess' in the blood.) ส่วนแคลเซี่ยม จากการทาน นมวัว นั่น เราจะได้รับในรูป Calcium Phosphate ครับ ซึ่งมี % ของแคลเซี่ยมสูงดีครับ แต่ต้องอาศัยวิตามิน D (โดยเฉพาะ D3) มาช่วยเพิ่มการดูดซึมครับ เพราะตัวมันเองเดี่ยวๆ จะดูดซึมได้ไม่ค่อยดี ( have not shown to be readily bioavailable ) และใน นมวัว จะมี Lactose ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ที่ขาด Enzyme ในการย่อยครับ และมีงานวิจัยว่า Lactose ในนมวัว มีผลวิจัยว่า จะทำให้คนเรา Aging หรือ แก่ก่อนวัยได้เร็วกว่าน้ำตาลรูปแบบอื่นๆ อีกด้วยครับ ส่วน Supplement ตัวอื่นๆ ก็มีข้อควรระวังอีกพอสมควรครับ ถ้ามีเวลา  จะแวะมาตอบให้อีกนะครับ ส่วนตัวทราบดีว่า เจ้าของกระทู้ไม่ได้เป็นคนเลือกทานเอง (แพทย์สั่งให้ทาน) ก็เลยต้องทานแบบนี้ เข้าใจครับ เข้าใจแพทย์ด้วยครับ ต้องจ่ายยา ตามที่โรงพยาบาลเลือกซื้อมาครับ  ด้วยความเคารพ KUNGINTER Master Degree Of Anti-Aging And Regenerative Science  MFU University จากคุณ : กุ้งอินเตอร์ (kunginter) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 11:00:38

ความคิดเห็นที่ 37 ทานเยอะขนาดนี้ จะมีผลต่อตับบ้างมั้ยคะ...ทานหลายตัวจัง...ถึงแม้จะเป็นวิตามินก็ตาม แต่ทานมากมายขนาดนี้ ... ก็น่าคิดอยู่... เผื่อจะหาตัวไหนมาลองทานตามค่ะ ^^ จากคุณ : Jina73 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:06:04

ความคิดเห็นที่ 38 คห. 36 ค่ะ เมื่อกี้ลองไปร้านขายยา พบว่า calcium ที่ขายอยู่  เป็น calcium carbonate หมดเลยค่ะ (mega, blackmore, cdr, etc.)   เลยอยากทราบว่ามียี่ห้อใดที่เป็นแบบ Calcium Citrate บ้างคะ   หลังไมค์ก็ได้ค่ะ  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : วันดีๆ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:21:07

ความคิดเห็นที่ 39 ขอเพิ่มเติมข้อมูลของ calcium carbonate นะคะพอดีเราเรียนเภสัชค่ะ :) ตัว calcium carbonate เนี่ยจะให้ปริมาณ calcium สูงกว่าตัวอื่นๆเช่น citrate นะคะ ถึงแม้ว่า calcium carbonate จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายน้อยกว่าตัวอื่นๆแต่ปริมาณ calcium ที่ให้แก่ร่างกายนั้นมีมากกว่าและทำให้ประสิทธิภาพในการได้รับ calcium เข้าสู่ร่างกายนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวอื่นค่ะ (มีการศึกษาออกมายืนยันด้วยนะคะ) วิธีการกิน calcium ให้ดีที่สุดคือกินหลังอาหาร อาจให้กินพร้อมกับน้ำส้มค่ะ เพราะว่ากรดช่วยเพิ่มการดูดซึม แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 20:07:11 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 19:48:58 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 13:40:35 จากคุณ : ไอเนะกิจัง เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 13:37:16

ความคิดเห็นที่ 40 เพื่อนที่เรารู้จักเป็นโรคเดียวกับ จขกท ค่ะ บางทีเราก็เห็นใจเค้าจริงๆ ไปออกกำลังกายด้วยกัน   แล้วเค้าก็ค่อนข้างดูแลตัวเอง  แต่บางอาทิตย์ที่หมอบอกให้หยุดฮอร์โมน น้ำหนักเค้าก็เพิ่ม  บวมขึ้นเลยค่ะ  ทั้งๆที่ดูแลตัวเองมากกว่าเราอีก เค้าบอกว่าเป็นเพราะโรคนี้แหละ จากคุณ : BeautyDiet เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:07:02

ความคิดเห็นที่ 41 @ ไอเนะกิจัง //  เห็นด้วยครับ ว่าเราสามารถทานฟอร์มไหน อะไรยังไงก็ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่า ตัวผมเอง คงไม่สามารถสะดวกจะหาน้ำส้ม มาทานคู่แคลเซี่ยมคาร์บอเนต ได้ทุกวัน ทุกครั้งที่ทานแคลเซี่ยมไปตลอดชีวิตครับ อันนี้ไม่ได้ประชดนะครับ แต่ในทางปฎิบัติ มันทำได้ยากจริงๆครับ แต่ในน้ำส้มก็มีประโยชน์กับการดูดซึมจริงๆ คือมี  Citric Acid และ Ascorbic Acid แต่ !! ก็ยังมีน้ำตาลเป็นของแถมด้วย โดยถ้าตัวเราสามารถคั้นสดได้เอง ก็จะได้ Fiber เป็นช่วยซับน้ำตาลไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนค่า GI : Glycemic Index ของน้ำส้มจะอยู่ที่ประมาณ 52-54 (ถ้าทานทั้งผล ค่าจะต่ำกว่านี้) ซึ่งถือว่า Low แต่ในทางปฏิบัติ เราคงไม่สามารถคั้นน้ำส้มมาทาน สดๆ ได้ทุกเมื่อเชื่อวันกระมังครับ ? ส่วนใหญ่ คงจะทานน้ำส้มแบบกล่อง UHT สำเร็จรูปมากกว่า เพราะสะดวกดี ซึ่ง Fiber ต่ำ ทำให้ค่า GI เพิ่มสูงขึ้นไปอีก ซึ่งคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่อยากรับประทานแคลเซี่ยมแบบฟอร์มเก่าแน่ๆ ครับ  สรุปครับ : ท่านใด สะดวก หรือใคร่ทานตัวไหน แบบเก่า แบบใหม่ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและตามคำแนะนำของแพทย์ครับ ไม่ใช่วิ่งไปหาซื้อ เพราะเพียงแค่ ได้ยินเค้าบอก ...."ว่ามันดี" จุดประสงค์ของผม มีเท่านี้ครับ  จากคุณ : กุ้งอินเตอร์ (kunginter) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:29:09

ความคิดเห็นที่ 42 @คห. 38 ขออนุญาตแปะบอกตรงนี้เลยนะครับ นี่คือตัวอย่างของแคลเซี่ยมรูปแบบ Calcium Citrate Malate นะครับ ส่วนใหญ่จะมีขายที่ต่างประเทศครับ แต่จะมีของ GNC นะครับ ที่น่าจะพอมีโอกาส หาซื้อทาน ได้ง่ายหน่อย (แต่ไม่ทราบว่า ใน Shop ของไทย จะนำตัวนี้เข้ามาหรือเปล่านะครับ) ** จะทานแบบไหนก็ได้ครับ แต่เน้นว่า ควรมีการเสริม Vitamin D (โดยเฉพาะ D3) และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการดูดซึมเข้าไปด้วยนะครับ จะได้ไม่เสีย โดยปล่าวประโยชน์ครับ ปล. ผมเป็นนักวิทย์ แต่ไม่ใช่เภสัชกร  พนักงานขายยา หรือเซลล์ขายยา นะครับ :) แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 14:38:45 จากคุณ : กุ้งอินเตอร์ (kunginter) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:34:40

ความคิดเห็นที่ 43 กินเยอะจัง ตับไม่พังแย่หรอคะ จากคุณ : Enchantment~หลงใหล เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 14:47:16

ความคิดเห็นที่ 44 I've been looking for Kratoo which's about supplement for a while Thanks you all for sharing na ka PS. 1. still waiting for your supplement's kratoo na ka K.Kung 2. have no Thai keyboard ka so that's why I typed in English. Sorry na ka จากคุณ : kkhunying เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 15:21:10

ความคิดเห็นที่ 45 ต๊กกะใจ !!!!! กับกระทู้ตัวเอง เข้ามาอีกที กระทู้แลดูมีสาระมากกก 5555 ดีใจนะคะ ที่ให้ความสนใจ เพิ่มเติมข้อมูล แบ่งปันความรู้ ไอเราคนเดียว ก็ไม่ได้รอบรู้เสียทุกอย่าง เรียน  ด้าน ศิลป์ คำนวณมาตลอดชีวิต วิทย์เนี่ยลาขาด ตั้งแต่ มอ 3 แระ @กุ้งอินเตอร์ (kunginter) แนะนำได้คะ นอกจากวิตามินที่หมอสั่ง เราก้หา ซื้อเอง หารีวิว เอง บางที่อาจยังไม่ได้ข้อมูลเรื่องข้อระวังอะไรบ้าง แต่ ก็พยายามหาวิตามินที่ได้การรับรอง เพื่อความปลอดภัยได้ส่วนหนึ่งคะ @ไอเนะกิจัง เรียน เภสัช นี้ดีนะคะ เวลากินยา หรือวิตามินอะไร คงมั่นใจแน่ 555 มีวิตามินตัวไหนแนะนำมั้ยคะ อยากสวยยย 555 @BeautyDiet เป็นกำลังใจให้คะ โรคนี้ ไม่น่ากลัว ทำใจ ชิวชิวไป @ Enchantment~หลงใหล  ไม่รู้สิคะ แต่ก้ไม่ได้กินติดต่อกันนะเว้นบ้างคะ กลัวเหมือนกัน555 @ kkhunying  แค่เข้ามาชม ก็ดีใจแล้วค่า จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 18:40:56

ความคิดเห็นที่ 46 ขอเสริมนิดนึงนะคะ การที่อาหารเสริมได้รับการรับรองจาก US อย่างในกรณีของIvory caps ที่จขกท.ทาน คืออยู่ในหมวด Generally recognized as safe GRAS แปลว่าปลอดภัย ไม่ได้หมายความว่ามีประโยชน์  จัดอยู่ในหมวดอาหาร ไม่ใช้ยา กลูต้าไทโอน ถูกย่อยในทางเดินอาหารนะคะ และในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพ และประโยชน์ของกลูตาไธโอนในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจที่กลูตาไธโอนไม่ผ่านการรับรองข้อบ่งใช้โดยองค์การอาหารและ ยาประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย สำหรับทำให้ผิวขาว ปวดท้องเมนส์ primrose มีหลักฐานว่าช่วยได้คะ ผิวแห้ง Vit.E มีหลักฐานว่าช่วยได้คะ แต่ placenta นี่ก็น่าจะบอกว่าเป็นพวกคอลลาเจน ไรพวกนี้ปะคะ อย่างไงก็แล้วแต่พวกนี้เป็นโปรตีน ย่อยได้ในกระเพาะนะคะ เหมือนพวกหมูปิ้ง กินไปไม่มีประโยน์ และเกรงว่าจะมีพวกสารเจือปนอะไรรึป่าว นะคะ หมายถึงจากแกะน่ะคะ เพราะถ้าแกะป่วย มีเชื้อโรค ปนเปื้อนจากโลหะหนัก ส่วนตัวคิดว่าไม่คุ้มเสี่ยง เพราะไม่น่าจะมีประโยชน์ แต่มีความเสี่ยงที่จะมีอันตรายได้นะคะ Alpha lipoid acid อันนี้ไม่เคยอ่าน เรื่องของ calcium อย่างที่คุณกุ้งพูดนะคะ แต่ละแบบมีการดูดซึมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นจะมีmg ที่ควรรับประทานต่างกัน เช่น calcium carbonate 2.5 g = 1 g ของcalcium ดังนั้นทานformไหนก็ได้คะ ขอให้ทานตามขนาดที่คุณหมอสั่ง ดื่มน้ำตามมากๆคะ ปกติเราไม่ค่อยตอบกระทู้ ขอมาแชร์ความรู้ด้วยความห่วงใย หายไวๆ ใส่ใจสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง และปลอดภัยสำคัญที่สุดนะคะ จากคุณ : roselamoon (Roselamoon) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 19:56:21

ความคิดเห็นที่ 47 ความจริงแล้วการกิน calcium carbonate เนี่ยกินหลังอาหารก็มีประโยชน์แล้วนะคะ ไม่ต้องกินกับน้ำส้มก็ได้ตามที่พี่กุ้งอินเตอร์บอกค่ะ เพราะว่าอาหารจะกระตุ้นการหลั่งกรดออกมาอยู่แล้วทำให้ calcium ถูกดูดซึมได้ดีขึ้นค่ะ ประเด็นที่พี่กุ้งบอกเกี่ยวกับน้ำส้มนั้นเราลืมคิดไปจริงๆค่ะว่าส่วนประกอบในน้ำส้มส่วนใหญ่ที่มีนั้นมีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบมากกว่า ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิดไปกันใหญ่ว่าต้องกินกับน้ำส้มเท่านั้นเนี่ย เราขอน้อมรับเลยค่ะว่าเราลืมคิดถึงประเด็นอื่นไปจริงๆ คิดแต่ว่ากรดจะช่วยเพิ่มการดูดซึม แล้วกรดที่เพิ่มการดูดซึมเนี่ยไม่ต้องกินน้ำส้มก็ได้ค่ะ แค่กินพร้อมอาหารหรือกินหลังอาหารก็ช่วยได้แล้ว จากคุณ : ไอเนะกิจัง เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:05:37

ความคิดเห็นที่ 48 เด็กที่ไม่สูงทานแคลเซียมช่วยได้จริงรึเปล่าคะ เพราะเคยถามหมอเฉพาะทาง(กุมารแพทย์) หมอบอกว่าไม่ได้ช่วยเรื่องสูง แต่ช่วยเรื่องการทำให้กระดูกแข็งแรงมากกว่า รบกวนถ้าใครทราบช่วยตอบด้วยนะคะ  แล้วจริงๆต้องทานวิตามินอะไรคะที่ช่วยส่งเสริมด้านความสูงของเด็กวัยรุ่น จากคุณ : karita เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:21:04

ความคิดเห็นที่ 49 แคลเซียมมีผลช่วยเรื่องเสริมมวลกระดูกคะ อายุมากขึ้นความสามารถในการดูดซึม calcium จะลดลงเลยต้องทานเสริม ไม่มีผลช่วยในการเพิ่มความสูงคะ อาหารที่ช่วยเพิ่มความสูงก็คือ โปรตีน คะ ต้องถามว่า karita อายุเท่าไรคะ ปลายกระดูกจะปิด(ที่จะยืดให้กระดูกสูง) ประมาณ 18-22ปี ถ้ายังไม่ปิดก็ต้องออกกำลังกายคะ กระตุ้นปลายกระดูกให้ยืด จะได้สูงๆคะ จากคุณ : Roselamoon เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:33:49

ความคิดเห็นที่ 50 วิตามินบีรวม สามารถกินได้อย่างปลอดภัย เนื่องจาก เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ  เทคนิคการกินคือ กินจนกว่าปัสสาวะจะเป็นสีเข้ม แสดงว่าวิตามินบีรวม ได้ level อาจารย์ผมสอนแบบนั้น แต่ผมกินทีไรไม่เหนจะเข้มสักที แคลเซียม ผมว่ากินฟอร์มไหนก็ได้ผลที่ใกล้เคียงกัน ร่างกายได้รับแคลเซียมจากสารอาหารในปริมาณหนึ่งต่อ วัน และร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้มากสุดๆ วันละประมาณ  1000 mg ดังนั้น ผมคิดว่า แม้เราจะกินในฟอร์ม แคลเซียมคาร์บอเนต ก็สามารถให้คุณค่าได้เพียงพอเช่นกัน และการรับประทานแคลเซียม ในวัยรุ่น หรือวัยทำงาน ที่แข็งแรง ทางการแพทย์แทบจะไม่เคยแนะนำ เนื่องจาก ร่างกายได้จากอาหารที่ครบ 5 หมู่ ก็โอเค แต่สำหรับ จขกท.อายุเท่านี้ที่ได้รับแคลเซียม เพราะคิดว่าหลังจาก จขกท กลืนน้ำแร่ไปแล้วนั้น โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่จากมีไทรอยด์ฮอร์โมนเกิน จะกลับมาเป็นฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ซึ่งต้องกินฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน ซึ่งผลของฮอร์โมนทดแทน นี่ต่างหากถึงเป็นสาเหตุของการได้รับ แคลเซียมเสริม ส่วนที่ว่ากินแคลเซียมแล้วจะกระดูกแข็งแรงนั้น ความจริงมี 2 ประการ คือ ประการแรก การได้รับแคลเซียมในช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโต ทั้งสองเพศ เฉลี่ยประมาณไม่เกินอายุ 25 ปี ผู้หญิงอาจจะเร็วกว่าหน่อยนั้น การได้รับแคลเซียมในช่วงนี้จะช่วย เพิ่มความแข็งแรงของกระดูก หรือ bone density ประการที่ 2 การได้รับแคลเซียมหลังอายุ 25 ปีไปแล้ว นั้นไม่ได้หวังผลให้กระดูกหนา หรือแข็งแรงมากขึ้น แต่เป็นการหวังผลว่าถ้าในเลือดมีปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอ ร่างกายจะไม่ไปสลายแคลเซียม ที่สะสมในกระดูกออกมาใช้ จนทำให้กระดูกบาง หรือกระดูกพรุนก่อนวัยอันควร ส่วนเรื่องผิวสวยและความเข้าใจสำหรับ Glutathione นั้น ในธรรมชาติ เราสามารถได้รับ กลูต้าไธโอน ได้จากผักสดๆ ซึ่งเรายังได้วิตามินแถมมาด้วย ผิวสวย ได้กากใย ได้วิตามิน ผลดีกว่ากินยาเม็ดเห็นๆ ครับ จากคุณ : zhoU_POP เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:48:32

ความคิดเห็นที่ 51 คิดว่าคนที่มาอ่านส่วนใหญ่ก็จะลองทำตามกัน ยังไงคนที่มีความรู้เฉพาะทางก็ช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจง่ายหน่อยนะ เพราะเราคนนึงล่ะที่ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ พอได้มาอ่านก็เริ่มสนใจขึ้นมา แถมได้ทั้งนักวิทย์และเภสัชมาเม้นความรู้ยิ่งปึ้ก มีประโยชน์และน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วยอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 55 20:54:47 จากคุณ : สองหมูป่าพาสวาปาม เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 20:50:41

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณ คุณ Roselamoon ค่ะ เด็กอายุครบ 16 ปีเต็มค่ะ เมื่อเดือนที่แล้ว เค้าก็ดื่มนมเยอะมากค่ะ ทานไข่เยอะด้วยแต่ไม่ค่อยสูงเลยค่ะ จากคุณ : karita เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 21:03:43

ความคิดเห็นที่ 53 จขกท เองนะคะ ต๊กใจค่าต๊กใจ (รอบสอง เราขี้ตกใจ 555)   @zhoU_POP  คุณเป็นครายยยค่ะ คุณเป็นครายย  จขกท 2 thumbs up เลย อธิบายดีกว่าหมอเราอีก 555  เรียนหมอแน่เลย ดีคะ ช่วยกันแชร์ความรู้ เผื่อคนที่สนใจ อย่างที่เคยบอก ต้องกินในความดูแลของหมอคะ บางอย่างไม่จำเป็นต้องเสริมก็ได้ @ karita น้องเราเคยหาหมอเรื่อง โรคสูงเหมือนกัน คุณหมอ ให้นอนก่อน 3 ทุ่ม เพื่อให้ growth hormone ได้ทำงาน และให้เล่นกีฬาประเภท โหนบาร์ หรือบาส  น้องเราได้แคลเซียมเสริมแต่ไม่ได้ทานนะคะ เค้าไม่ชอบกิน ยาเม็ด บอกน้องลองดูนะคะ จากคุณ : khaofaang_pp เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 21:24:43

ความคิดเห็นที่ 54 แคลเซียมของ GNC มีผสมวิตามิน D มาให้ในตัวเรียบร้อยแล้วค่ะ จากคุณ : ข้าวปั้นตัวอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 22:20:55

ความคิดเห็นที่ 55 แวะมาชมค่ะ เป็นไทรอยด์พิษเหมือนกันเลยค่ะ ตอนนี้ตา่เราเบี้ยวมาก คอก็บวม แต่ดีที่เราไม่แพ้ยาไทรอยด์ แต่ยังไงก็ต้องกลืนแร่อยู่ดี เดี๋ยวหายไม่ขาด ข้อมูลของ จขกท.ดีมากเลยค่ะ ส่วนตัวซื้อวิตามินมากินโดยไม่รู้อะไรไม่เคยปรึกษาหมอเลย เดี๋ยวต้องเอาไปใช้ดูบ้างค่ะ เผื่อจะได้หายจากโรคนี้เร็วขึ้น :)))) จากคุณ : Special Christmas เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 22:53:08

ความคิดเห็นที่ 56 การเลือกรับประทาน Calcium ในรูปเกลือแต่ละชนิด น่าจะดูที่ความเหมาะสมต่อตัวผู้ป่วยเป็นรายๆ ไปมากกว่านะคะ ในกรณีของ จขกท. ที่จำเป็นต้องรับประทาน Calcium เสริม เนื่องจากมีโรคประจำตัว คือ Hyperthyroidism ซึ่งก็ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกพรุนมากกว่าคนปกติอยู่แล้ว และ จขกท. เองก็ไม่ได้มีภาวะความผิดปกติของการหลั่งกรดในกระเพาะ แต่ประการใด นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่แพทย์น่าจะเลือกสั่งจ่าย Calcium carbonate มากกว่า เพียงแค่จะเห็นว่า เพราะ Calcium carbonate มีราคาถูกกว่าแค่นั้นนะคะ   ถ้าหากจะพูดในเชิงเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่าง Calcium carbonate กับ Calcium citrate ในด้านต่างๆ Calcium carbonate ก็ด้อยกว่าเกือบทุกด้านค่ะ ทั้งในด้าน ผลข้างเคียง (อาการท้องผูก) และ การต้องรับประทานหลังอาหารทันที  สิ่งที่ Calcium citrate ด้อยกว่ามีเพียงด้านเดียว คือ การมีปริมาณของ Calcium น้อยกว่า เท่านั้น  แต่เหตุผลที่ รพ. ยังนิยมใช้ Calcium carbonate อาจเพราะ ยังมีผลการศึกษาในด้าน Cost-effectiveness ของแคลเซียมในรูปต่างๆ มากกว่าค่ะ แต่หากผู้ป่วยมีความต้องการจะรับประทาน Calcium ในรูปแบบใดๆ นั้น ก็เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถเลือกได้เอง ซึ่งก็แล้วแต่ทุนทรัพย์และความพึงพอใจของผู้ป่วยแต่ละคน เพราะการรักษาผู้ป่วยคนหนึ่งๆ ไม่ได้แค่ดูเฉพาะว่ายาราคาถูกต้นทุนต่ำเท่านั้น ถึงสั่งจ่าย แต่เป็นการมองผู้ป่วยอย่างรอบด้านมากกว่านะคะ จากคุณ : taressential เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 23:26:00

ความคิดเห็นที่ 57 ที่ไอเนะกิจัง และ คุณกุ้งอินเตอร์บอก ถูกทั้งคู่ครับ แต่แนะนำ Calcium carbonate มากกว่า เหตุผลไม่ซับซ้อนเลยครับ ราคาถูกกว่ามาก ให้ปริมาณแคลเซียมที่สูงที่สุด การศึกษา งานวิจัยเยอะแยะมากมายด้วยครับตัวนี้ ทานกับวิตามินดีเพิ่มการดูดซึมได้ด้วย (ผลิตภัณฑ์สมัยนี้เลยมักผสมวิตามินดีไปด้วย) ทานหลังอาหารหรือพร้อมอาหาร เพราะตอนทานอาหารกรดในกระเพาะจะหลั่งออกมามาก และช่วยให้แคลเซียมดูดซึมได้ดี พอดูดซึมเข้าไปแล้วจะกลายเป็นไอออนละครับ ก็ไปช่วยเสริมสร้างกระดูก (แคลเซียมมีประโยชน์อื่นๆนอกจากกระดูกด้วยครับ แคลเซียมที่อยู่ในเลือดก็มีประโยชน์ในการทำงานของกล้ามเนื้อ และที่สำคัญถ้าแคลเซียมในเลือดเยอะมากพอ ร่างกายจะไม่มีการสลายแคลเซียมกระดูกมาให้กระแสเลือดครับ กระดูกเราก็จะไม่พรุนง่าย แต่กินมากไปก็ไม่ดีนะครับ กินวันละครั้งก็พอละ) จริงๆแล้วตัวที่ดีที่สุด ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเป็น Calcium lactobionate นะ จำไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงดีสุด 555 (แต่ปริมาณที่ให้แคลเซียมมากสุดก็ยังเป็น Calcium carbonate อยู่ดี ราคาถูก หาซื้อง่าย ตามโรงพยาบาลใช้กันมากมาย งานวิจัยเยอะแยะ) เดี๋ยวมีเวลาจะลองดูให้อีกทีครับ จขกท.ทานเยอะนะครับเนี่ย แต่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก เพราะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน ขอปรบมือให้คร้าบ ^^ ปล.ผมพึ่งจบจากคณะที่ไอเนะกิจังกำลังศึกษาอยู่ครับ ^^ จากคุณ : คลับโค้ก (cokeclub) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 23:26:35

ความคิดเห็นที่ 58 แวะมาให้กำลังใจ จขกท.ค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ   กิน อิฟนิ่ง พริมโรสมา4-5 ปีแล้ว ผิวดีขึ้นจริงค่ะ กินช่วงแรกๆผิวดูอิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ น้ำหนักก็ขึ้นตามด้วย แต่ก็นิดหน่อย สงสัยต้องไปหาแคลเซียมมากินเพิ่มแล้วหล่ะ จากคุณ : ni-iskan เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 23:27:46

ความคิดเห็นที่ 59 ออกของกันใหญ่เลย จากคุณ : PCHREX เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 01:08:27

ความคิดเห็นที่ 60 เหมือนอ่านโต้วาที ได้ความรู้ดี ชอบๆๆๆ จากคุณ : หนูได้อมยิ้มแล้วค่ะ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 02:30:03

ความคิดเห็นที่ 61 มาร่วม  ลงชื่อ พร้อมกับคุณ ไอเนะกิจัง กับ คุณ คลับโค้ก (cokeclub) ครับ วิชาชีพพวกเรา  อยากให้มาเล่นห้องนี้เยอะๆนะครับ ผู้คนห้องแป้ง  จะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นครับ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:50:14

ความคิดเห็นที่ 62 ดีใจนะฮะ ที่มีเภสัชเก่งๆ ออกมาช่วยกันตอบแสดงความเห็น เยี่ยมฮะ ! .................. ยังแอบคิดว่า พวกท่านน่าจะทำ Blog เขียนบทความออนไลน์ เอาไว้เผยแพร่ความรู้ที่ร่ำเรียนมา และให้คำปรึกษาเพื่อนๆชาวห้องแป้ง ก็จะดีมากเลยฮะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 09:45:22 จากคุณ : กุ้งอินเตอร์ (kunginter) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 09:43:02

ความคิดเห็นที่ 63 ตอนนี้ เราทานของ NOW อยู่  เห็นว่ามีทั้ง Cabonate และ Citrate ตามที่ท่านอภิปรายกัน^^ Supplement fact ดังนี้ Vitamin D3   600 IU (from Lanolin) Calcium Cabonate and Citrate 1.0 g Magnesium (frm Magnasium oxide) 500 mg. Zinc (from Zinc oxide)  10 mg เป็นแบบsoft gel เห็นเค้าว่า easily absorbed ค่ะ จากคุณ : Plaboo เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 10:24:51

ความคิดเห็นที่ 64 ตกลงเราควรทาน calcium cabonate หรือ calcium citrate ดีอะคะ ? สรุปแบบสั้น ๆได้ใจความให้หน่อยจิ อ่านมากเลยสับสนเลย ฮ่าๆ จากคุณ : chiza_love เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 11:59:58

ความคิดเห็นที่ 65 สงสัยอย่างนึง ใครเป็นหมอ ตอบหน่อย คือ เป็น hyperthyroid แล้วกินแร่ มีการทำลายไทรอยด์ แล้วทำลาย Parathyroid ด้วยรึเปล่าค่ะ งั้นทำไมต้องทาน Calcium ?  หรือว่า Hyperthyroid กระตุ้น Osteoclast ทำให้มีการสลายกระดูก ว่าแต่ Parathyroid ดูดเอา ไอโอดีนด้วยป่าว >.< จะสอบแล้วววว ยังไม่แม่นเรื่องต่อมเลย ถ้าใครจะแก้ข้อสงสัย ก็ขอบคุณค่ะ จากคุณ : kolanya เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 12:01:01

ความคิดเห็นที่ 66 ขออนุญาตถามนิดนึงค่ะ ว่าแล้วคนปรกติถ้าจะทานแคลเซียมเสริม ควรจะทานกี่ mg. แล้ว ยี่ห้อใด ที่ได้ผลดีหรือค่ะ จากคุณ : แม่โกลเดนค่ะ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 13:11:06

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณกระทู้ดีๆ มีสาระมากค่ะ จากคุณ : lavilin เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 13:27:09

ความคิดเห็นที่ 68 เหมือนจะเคยมีกระทู้ที่แนะนำเรื่องการกินวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ถูกต้อง จากใครสักคนหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว จำได้ว่าเป็นกระทู้ที่ดีมากกระทู้หนึ่ง เพราะมีข้อมูลเชิงเคมีและคลีนิคประกอบ กินตัวไหน อย่างไร ให้มีการดูดซึมได้ดีที่สุด บางชนิดควรกินร่วมกันเพื่อเสริมกัน ชนิดไหนกินแล้วควรเว้นช่วงระยะเวลาเท่าไรเพื่อให้ร่างกาย (โดยเฉพาะตับ) ได้พักและลดการสะสมส่วนเกินในร่างกาย เรื่องพวกนี้คนกินวิตามินต้องใส่ใจ แต่ปกติเราเป็นคนไม่กินวิตามินเสริม เน้นกินอาหารครบ 5 หมู่พอแล้ว เพราะมีความเชื่อ (ส่วนตัว) ว่าวิตามินในรูปที่มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติส่วนใหญ่ ดูดซึมง่ายและร่างกายเอาไปใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 14:34:39

ความคิดเห็นที่ 69 อันนี้สงสัยส่วนตัว คุณ After Sunset_Before Sunrise กินครบ5หมู่ยังไงคะ อยากทำบ้างอะ  อยากจัดเป็นsetให้แม่+ตัวเองกินด้วย จากคุณ : Niorn เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 15:05:01

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าไม่ใช่หมอที่ศึกษาทางวิตามินอาหารเสริมโดยตรง ก็จะไม่ค่อยรู้อะไรมากมายอย่างที่เราเข้าใจหรอก คือรู้บ้างบางเรื่อง แต่ไม่ใช่ว่าจะเชี่ยวชาญปรึกษาได้ทุกเรื่อง หมอบางคนแอนตี้อาหารเสริมเอาเป็นเอาตาย อ้างแต่ "5 หมู่ๆ ๆ ๆ " สมัยนี้น่าจะ 6 7 8 หมู่มากกว่านะ แถมสารกันบูด ยาฆ่าแมลง สารเคมีสารพัดเข้าไปด้วย จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 17:46:40

ความคิดเห็นที่ 71 จริงๆ การกินอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ นี่เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ กันเลยนะคะ อาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ (และรวมใยอาหารด้วย) เพียงแต่ เราอาจไม่ได้มานั่งใส่ใจจริงจัง และด้วยชีวิตที่เร่งรีบ เราก็ทานอาหารที่มันง่ายๆ เร็วๆ บวกกับกระแสของการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มักจะชี้นำผู้บริโภคว่า การกินอาหารตามปกติได้สารอาหารไม่เพียงพอ เราก็เลย "กลัวขาดสารอาหาร" ขึ้นมา จริงๆ ถ้ามานั่งพิจารณาจริงๆ เราอาจจะค้นพบเองว่า "จริงๆ เราจะไม่ขาดอะไรเลย ถ้ารู้จักเลือกกิน" หลักมีอยู่ว่า วันหนึ่งกิน 3 มื้อ ก็พยายามให้ได้ทุกอย่างครบ อาจจะไม่ครบทั้งหมดใน 1 มื้อ แต่ก็ควรชดเชยส่วนที่ขาดไปในมื้ออื่น ยกตัวอย่างนะคะ มื้อเช้ารีบๆ ก็ cereal กับนม ครบมั้ย? เกือบครบนะ โปรตีน ไขมัน และแคลเซียมจากนม คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และใยอาหารจาก cereal ถ้ากลัวใยอาหารน้อยไป เลือกมูสลี่ที่มีผลไม้แห้งผสมก็ยิ่งได้มากขึ้น มื้อกลางวัน ส่วนใหญ่ก็กินอาหารจานเดียวกัน ก๋วยเตี๋ยวอะไรก็ได้  ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า อาหารไทยส่วนใหญ่สารอาหารครบอยู่แล้ว ลองพิจารณาจากส่วนประกอบดูค่ะ มื้อนี้เราจะได้ผักสดเพิ่มเข้ามานิดหน่อย บางคนอาจเพิ่มผลไม้ มื้อเย็น คนรักสุขภาพและควบคุมน้ำหนักทั้งหลายมักจะเลือกทานแป้งน้อยๆ จะได้ไม่มีพลังงานส่วนเกิน สะสมกลายเป็นไขมันให้อ้วน เน้นกินผักจะเป็นสลัดผักสดหรือ ผักลวกจิ้มน้ำพริกก็ว่ากันไป ผลไม้สดอีกนิดก็ยิ่งดี ได้ชนิดของสารอาหารครบ แล้วปริมาณล่ะ ครบรึเปล่า? อันนี้ไม่มีใครชั่ง ตวง วัด สารอาหารที่เราได้รับในแต่ละวันได้อย่างแท้จริงหรอก (บริษัทขายวิตามินบอก...เห็นมั้ย? ถ้ามาซื้อวิตามินเม็ด ชั้นบอกได้เลยว่ามีกี่ mg กี่ IU ก็ว่าไป) (ไม่เถียงค่ะ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปริมาณที่แท้จริงที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปอยู่ดี) เราอาจมีวิธีดูคร่าวๆ ได้จาก"ฉลากโภชนาการ" ของบรรจุภัณฑ์อาหารได้ทางหนึ่ง แต่อาหารที่ปรุงขายทั่วไปเราคงพิจารณาเอาจากส่วนประกอบ ทางหนึ่งที่เราจะได้สารอาหารครบทั้งชนิดและปริมาณก็คือ อย่าทานอาหารซ้ำซาก ควรมีการสับเปลี่ยนหรือหมุนเวียนเมนูให้ทีส่วนประกอบที่หลากหลาย และจะบอกว่าเมนูอาหารไทยทั่วไป ต้ม ผัด แกง ทอด นี่แหละค่ะ สลับสับเปลี่ยนกันไปทุกวัน ได้สารอาหารครบทั้งชนิดและปริมาณค่ะ (สำหรับคนปกติทั่วไป ที่ไม่ใช่คนป่วยบางกลุ่มอาการ กำลังฟักฟื้นหรือคนตั้งครรภ์ ที่อาจต้องการวิตามินบางชนิดเสริมจริงๆ) ส่วนที่บอกว่า อาจจะมีอาหารหมู่สารกันบูด ยาฆ่าแมลง สารเคมี เข้ามาด้วย นั่นคงพูดคนละประเด็นแล้วค่ะ ปล. เราไม่ได้แอนตี้วิตามินนะคะ และไม่ได้มีวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับทางเภสัชหรือการแพทย์ แต่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การอาหารค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 21:45:45 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 21:39:26 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 21:37:26 จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 21:34:13

ความคิดเห็นที่ 72 สรุปเรื่อง Calcium นะคะ ทั้ง calcium carbonate และ citrate ดีเหมือนกันคะ ทั้งคู่ให้ calcium ได้ดีเหมือนกัน ร่างกายดูดซึมในเหมือนกัน carbonate หาง่าย สะดวก และไม่แพง แต่ต้องทานพร้อมอาหารหรือทานในภาวะที่กระเพาะอาหารเป็นกรด ทานร่วมกับอาหารร่างกายจะดูดซึมได้ดีคะ เพราะงั้นจะเหมือนไอกิเนะจังบอกว่าทานกับน้ำสัมจะช่วยการดูดซึมคะ แต่ เพราะความที่เป็นcarbonate อาจจะทำให้มีอาการอึดอัดมีลมในท้อง ท้องอืด ซึ่งไม่ได้พบได้ทุกคนนะคะ ต่อมาจึงมีการพัฒนาออกมาในรูปของ citrate form 1. เพื่อความสะดวกทานตอนไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องหลังอาหาร 2. ลดอาการท้องอืดในบางคน แก้ปัญหาสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคเกี่ยวกับการดูดซึมคะ ทานรูปไหนก็ได้ ตามความสะดวก ปกติส่วนตัวจะแนะนำcarbonate นะคะ ประหยัดสตางค์ เลือกแบบที่เป็นเม็ดฟู่ ก็แพงขึ้นมาหน่อย(แทนน้ำส้มช่วยการดูดซึม อยู่นรูปที่ละลายแล้ว แต่ถ้าเป็นโรคกระเพาะก็ไม่แนะนำคะ) สิ่งสำคัญคือ ทานร่วมกับอาหาร ทานน้ำเยอะๆ และทาน calcium ไม่เกินครั้งละ 500 mg คะ เช่น ถ้าต้องทานวันละ 1000 mg ก็แบ่งทาน 2 เวลา อันนี้ไม่ว่าจะอยู่ในรูปไหนร่างกายก็ดูดซึมได้แค่นี้คะ เวลาดูก็ดูฉลากเทียบได้เลยว่า 1 เม็ด เทียบกับ calcium กี่ mg เพราะ calcium แต่ละแบบ ก็ให้ calcium สุทธิไม่เท่ากัน อ่านจากฉลากได้เลยไม่ต้องคำนวนเอง คะ ถ้าสนใจไว้วันหลังจะมาเขียนให้เพื่อนๆอ่านนะคะ (ช่วงนี้งานท่วมตัว) ข้อมูลอาหารเสริมในinternet เยอะมาก ตัวเองเป็นเภสัชกรอ่านแล้วยังเคลิ้มเลย อ่านแล้วต้องระมัดระวังที่ไปที่มาด้วยนะคะ ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อนคะ จากคุณ : Roselamoon เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 21:43:14

ความคิดเห็นที่ 73 ตอนนี้วิตามินที่เรากินใก้ลเคียงกับ จขกท.เลย 1. caltrate calcium supplement (Plus) จาก Aus. 2. evening primrose จาก Aus. 3. Zing supplement    "   Aus. 4. fish Oil                  "    " 5. Vit-C                    "     " 6. Vit รวม                  "    " 7. อีกตัวเพิ่งได้มาเกี่ยวกับละลายแคเลสตอรอลในหัวใจ ทำไม่ให้เลือดแข็งตัว   (ยังไม่ได้เปิดขวด เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ จาก Aus.) ทั้งหมดทั้งมวลกินเพราะรู้ว่าตัวเองกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่นั่นเอง จากคุณ : ninjavillasanchez เขียนเมื่อ : วันสตรีสากล 55 15:43:47

ความคิดเห็นที่ 74 เข้าใจข้อมูลทั้งสองด้านนะคะ เพราะกับตัวเองนี่เวลาเรียนกับเวลาทำงานแตกต่างกัน เวลาเรียนก็ตามทฤษฏีค่ะ แต่เวลาปฎิบัติงานจริงต้องมองหลายๆด้าน จากคุณ : BIOTOMNEG เขียนเมื่อ : วันสตรีสากล 55 16:59:46

ความคิดเห็นที่ 75 ผมมายืนยัน กิน vit B รวม สู้ตาย ดีต่อสุขภาพทุกระบบ ทั้งผิวหนัง สมอง ประสาท เม็ดเลือด กระดูก เยอะแยะตาแป๊ะไก่ แถมผลเสียก็น้อย ราคาก็ถูก แต่ถ้าเรื่องผิวสวย vit C จะดีเรื่องช่วยให้คอลลาเจนแข็งแรง แต่ต้ังแต่ผมเรียนมาว่าคอลลาเจนเนี่ยเลิกสร้างตั้งแต่อายุ 25 ปี และจะลดลงปีละ 1% ทุกปีหลังจากนั้น แต่ผมไม่มีความรู้จิงๆว่ากินคอลลาเจน แล้วมันไปช่วยสร้างใหม่ได้จิงรึป่าว อันนี้ต้องขอข้อมูลด้วยนะครับ   ส่วน zinc เค้าเชื่อว่า กินแล้วจะทำให้ผิวดี สิวน้อยลง แต่ก็มีผลแค่เฉพาะสิวเม็ดเล็กๆ และจำนวนไม่ได้เยอะมาก นะครับ แต่ zinc เองก็มีประโยชน์เรื่องอื่นที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจ ว่า zinc ช่วยให้บริเวณเยื่อเมือกรอบปาก รอบทวารหนัก แข็งแรง ไม่อักเสบ และยังช่วยสร้างเสริมการสร้างสเปิร์มในชายหนุ่ม ให้แข็งแรงกำยำ เจาะไข่ได้ทะลุทะลวงด้วยนะครับ บางคนมีลูกยาก การกิน zinc ช่วยเสริมความแข็งแรงของสเปิร์มได้ดีทีเดียว จากคุณ : zhoU_POP เขียนเมื่อ : วันสตรีสากล 55 21:44:34

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่ได้เป็นไทรอยด์แบบจขกท. ค่ะ แต่เราเป็น sle หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันคือโรคพุ่มพวงค่ะ นอกจากยาเป็นเกือบสิบเม็ด "ต่อมื้อ" แล้วก็กินวิตามินตามหมอสั่งเหมือนกันเลยจ้า ของเราทาน A, C, E บีรวมของnuerobian , D, แคลเซียม, zinc แล้วก็มีทานคอลลาเจนผงเพิ่มร่วมกับevening primrose แต่ตอนนี้ผมร่วมเยอะมากเลยมี biotinเพิ่มมาอีกตัว กับurea cream20% สำหรับทาผิวด้วยค่ะ อยากบอกว่าคอลลาเจนกับevening primrose กินด้วยกันแล้วช่วยเรื่องผิวได้เยอะเลยเพราะเรามีปัญหาผิวแห้งมากๆเลยอ่ะค่ะกับยาบางตัวที่กินจะทำให้ผิวไวต่อแดดมาาาาาาาาาก ถ้าถามว่ามากขนาดไหนเอาเป็นว่าต้องบอกว่าเราไม่ออกแดดแต่ผิวยังกะคนอยู่ทะเลอ่ะ แต่ถ้าวันไหนออกแดดก็แสบไปทั้งตัวประหนึ่งคนเดินผ่านซะฮาร่า อยากเตือนเพื่อนๆด้วยค่ะว่าวิตามินบางตัวห้ามทานติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไปนะคะ ควรศึกษาก่อนนะจ๊ะ จากคุณ : Ms.MoJiTo~* เขียนเมื่อ : วันสตรีสากล 55 22:21:08

ความคิดเห็นที่ 77 เข้ามาอ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ส่วนตัวเราตอนนี้กินแคลเซียม (คาร์บอเนต) กับวิตามินซีเป็นประจำค่ะ เรื่องกระดูกไม่รู้ว่าช่วยมั๊ย แต่หลังจากินวิตามินซี (blackomre's) ติดต่อกันหลายปี ก็รู้สึกว่าช่วยเรื่องภูมิต้านทาน และ ผิวสดใสค่ะ เวลาเลือกซื้อแคลเซียม เราก็จะเลือกที่มีวิตามิน D อยู่ในนั้นด้วยค่ะ จะดูส่วนประกอบด้วย ช่วงนี้ก็กินโฟลเลท และ FBC บำรุงเลือดด้วย เพราะตรวจเลือดมาแล้วจางไปหน่อยนึง จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 11:28:15