ความคิดเห็นที่ 1 เราก็เลยนั่งหาข้อมูลเรื่องทำเลสิคไปเรื่อย ๆ หามาหลาย ๆ ที่  ซึ่งสิ่งแรกที่เราดูคือ เรื่องชื่อเสียงของศูนย์เลสิค  ราคา และความสะดวกในการเดินทางค่ะ   พอหามาได้ก็ List รายชื่อทั้งหมดไปให้แม่ดู   พอแม่อนุมัติว่าโอเค  ให้ทำได้  พอสอบเสร็จก็ได้ฤกษ์ไปตรวจตาเลย   ซึ่ง จขกท. ได้เลือกทำเลสิคที่ศูนย์เลสิคแห่งหนึ่งแถวแจ้งวัฒนะค่ะ เป็นบริษัทที่มีร้านขายแว่นตาอยู่ทั่วประเทศ (ใบ้อย่างนี้จะผิดกฎมั้ยเนี่ย >.<) เราเลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้บ้าน ราคารับได้  แล้วเราก็เลือกทำกับคุณหมอผู้หญิงที่มีชื่อเสียงในนั้น   สนนราคาทั้งหมดประมาณ  47,000 บาท (ราคานี้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นค่ะ) จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:30:12

ความคิดเห็นที่ 2 รอนะคะ จากคุณ : หอมกลิ่นชมนาด เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:41:16

ความคิดเห็นที่ 3 วันที่ไปทำเลสิค  จขกท ก็ไปพร้อมกับแม่  เพราะเจ้าหน้าที่เค้าแจ้งว่าไม่ให้ขับรถมาเองค่ะ เพราะจะต้องมีการขยายม่านตา ซึ่งก่อนการทำเลสิคเราจะต้องมีการตรวจตาอย่างละเอียดก่อน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ   (จะบอกว่าทำเลสิคใช้เวลาทำต่อตาข้างนึงไม่ถึง 15 วินาทีเลยนะ) การตรวจก็จะวัดตั้งแต่ค่าสายตา กระจกตา จนถึงจอประสาทตา (ตรวจนานมั่ก ๆ 555) เราไปถึงประมาณ 9.00 น. เจ้าหน้าที่เค้าก็พาเราไปเริ่มตรวจเลยค่ะ  การตรวจสายตาก็มีตามลำดับประมาณนี้ค่ะ... -  ตรวจวัดค่าสายตา  เป็นแบบให้เราอ่านตัวเลข  เหมือนเวลาที่เราไปตัดแว่น -  หลังจากนั้นก็พาเราไปอีกห้องนึง  เค้าจะให้เราอ่านตัวเลขกับตัวอักษรภาษาอังกฤษ     แล้วก็จะมีการวัดแสงกระจายของตา   พอถึงห้องนี้มีตอนนึงเจ้าหน้าที่เค้าเอาไฟฉายมาส่องตาเราแล้วก็พูดว่า  “ชัดเลย ๆ”   เราก็งงว่า  อะไรชัดหว่า??? ซึ่งตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ -  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เค้าก็พาเราไปห้อง  Cornea Analysis  วิเคราะห์กระจกตาอย่างละเอียด   ดูความโค้งของลูกตา  มีการวิเคราะห์แสงกระจายกลางวันและกลางคืน     ปล. ห้องนี้เจ้าหน้าที่เค้าจะให้เราทำตาโตตลอดเวลา  O_O  เราแอบตลกเสียงเจ้าหน้าที่มาก     เค้าจะพูดว่า “โตอีก โตตตตตอีก  ดีมากกก ดี  โต ๆ ไว้ ”     แต่เราก็ไม่กล้าขำ อิอิ  เพราะกลัวขำแล้วจะต้องวัดใหม่ 555 -  ต่อจากนั้นเค้าก็ให้เราไปหยอดยาขยายม่านตา  อันนี้ก็จะใช้เวลาสักพักนึง  นอนเฉย ๆ จนกว่าม่านตาจะขยายค่ะ     บางคนไปหยอดก่อนเราแต่ยังไม่ขยายก็มี  พอม่านตาได้ที่แล้วก็ไปตรวจอีก   แต่อันนี้จำไม่ค่อยได้แล้วว่าทำอะไร  เหมือนให้อ่านตัวอักษรเหมือนเดิมมั้ง  ขออภัยด้วยค่ะ 555   ปล.  พอม่านตาขยายแล้วจะเห็นภาพเบลอ ๆ ฟุ้ง ๆ นิดหน่อย  จะมองไกลก็ไม่ขัด  มองใกล้ก็ไม่เห็น     แล้วพอเจอแสงจ้าก็จะแสบตามาก  แนะนำว่าเอาแว่นกันแดดไปด้วยก็ดีค่ะ -  ขั้นตอนต่อมาก็เป็นการตรวจวัดความหนาของกระจกตาค่ะ  เค้าจะเอาเครื่องมือมาจิ้มตาเราเบา ๆ 4-5 ที  ไม่เจ็บค่ะ -  ต่อมาเป็นขั้นตอนสุดท้าย  ก็คือการวิเคราะห์จอประสาทตาว่าปกติหรือเปล่า      หมอก็จะเอาไฟฉายมาส่องตาเรา  ให้เรานอนกลอกตาไป ๆ มา ๆ แล้วก็เป็นอันเสร็จ  เย้!!! จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:41:55

ความคิดเห็นที่ 4 แอบปาดเล็กๆค่ะ สนใจอยากจะทำอยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : เด็กแว่นแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:42:14

ความคิดเห็นที่ 5 แอบปาดดดดดดด เคยได้ยินว่าน่ากลัว จากคุณ : เหมียวกุ๊งกิ๊ง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:43:20

ความคิดเห็นที่ 6 รอ่านจ้า จากคุณ : ชื่อเหมือนคนข้างล่าง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:45:19

ความคิดเห็นที่ 7 จบแล้วเหรอคะ แล้วหลังจากทำเสร็จแล้วอาการเป็นไงบ้างคะ จากคุณ : ฟ้าเคียงเดือน (ฟ้าเคียงเดือน) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:48:30

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ หอมกลิ่นชมนาด : สวัสดีค่ะ รอแป๊บน้าา พยายามจัดหน้าอยู่ค่ะ 555 ------------------------------------------------------------------------------------------------------         ซึ่งหลังจากตรวจเช็คตาเสร็จแล้ว เราเสร็จประมาณ 12.00 น. พอดี เค้าก็จะให้เราไปทานข้าวค่ะ   ซึ่งตอนนี้ม่านตาเราก็ยังไม่หดตัว  (ม่านตาเราจะขยายใหญ่มาก เกือบเท่าตาดำเลยค่ะ) ทำให้ออกไปข้างนอกนี่สู้แสงจ้าแทบไม่ได้เลย  แทบจะหลับตาเดินเลยค่ะ พอทานข้าวเสร็จแล้วเราก็จะได้เวลาเตรียมพร้อมสำหรับการทำเลสิคละ        หากผลการตรวจออกมาไม่มีปัญหา  เราก็สามารถทำได้ค่ะ  แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ในทันที   เราจะต้องรอให้ม่านตาพร้อมเสียก่อน  ถ้าม่านตาไม่พร้อมก็ทำเลสิคไม่ได้ค่ะ           เจ้าหน้าที่ก็จะเอายามาหยอดตาเราเผื่อให้ม่านตาหดตัว  ทีนี้เอาอีกแล้ว  รู้สึกเหมือนคนสายตาสั้นค่ะ   มองอะไรไม่ชัดเจน  แต่พอผ่านไปซักพักเราก็จะดีขึ้น (ยืด ๆ หด ๆ กันอยู่นั่น 555)          เราขึ้นมาที่ศูนย์เลสิคประมาณ 13.00 น. กว่าม่านตาจะพร้อมก็ต้องใช้เวลาอีกเป็นชั่วโมงค่ะ   ซึ่งหมอที่ทำเลสิคให้เราจะเข้ามา 15.00 น. พอดีกับที่ม่านตาเราพร้อมละ จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:49:24

ความคิดเห็นที่ 9 โอ้ว พอม่านตาขยาย กลายเป็นตาแบ๊วเลย จากคุณ : เหมียวกุ๊งกิ๊ง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:52:32

ความคิดเห็นที่ 10 นึกถึงเรื่อง final destination ภาคล่าสุดง่ะ ที่เพื่อนนางเอกไปทำเลสิคแล้ว.... >< รออ่านต่อค่ะ จากคุณ : มิคุริ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:53:35

ความคิดเห็นที่ 11 ยังไม่จบจ้าาา ยังอีกยาวเหมือนกันค่ะ สวัสดีทุก ๆ คนนะคะ ^^ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------           พอหมอเลสิคมาถึงก็เรียกเราเข้าไปตรวจ  หมอก็จะบอกว่ามีผลข้างเคียงอะไรในการทำบ้าง ซึ่งสำหรับเราหมอบอกว่า  เป็นคนที่ม่านตาค่อนข้างโต ขยายในตอนกลางคืนมากกว่าคนปกติ และตาข้างซ้ายแห้ง  ผลข้างเคียงคือ  ตอนกลางคืนจะเห็นแสงไฟเป็นออร่า (แต่หมอบอกว่าเราก็อาจจะไม่รู้สึกเท่าไหร่  เพราะปกติเราก็เห็นไฟเป็นออร่าแฉก ๆ อยู่แล้ว)   และจะต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยในช่วงแรก   แต่เนื่องจากสายตาเราสั้นไม่มาก  และเอียงน้อย หมอบอกว่าสายตาเท่านี้จะทำได้ผลดีค่ะ ซึ่งหมอก็เลือกเลสิคแบบ Wavefront ซึ่งช่วยลดแสงกระจายได้   ถ้าพร้อมแล้วก็ทำได้เลย  เพราะม่านตาพร้อมแล้ว  ซึ่งเราก็โอเค ตกลงทำค่ะ!            หลังจากนั้น  เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเข้าไปเตรียมตัวในห้องข้าง ๆ ห้องผ่าตัด   เราก็จะต้องล้างหน้าเอาเครื่องสำอางออกหมด (จริง ๆ แล้วเค้าจะห้ามแต่งหน้าไปค่ะ)   กินยาคลายเครียด  ยาแก้ปวด  และเจาะเลือดด้วยค่ะ  หลังจากนั้นก็นอนรอไปเรื่อย ๆ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 19:55:21 จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:54:31

ความคิดเห็นที่ 12 รอจ้าา สนใจทำอยู่พอดี จากคุณ : บิดนู้นบิดนี่_จนเพลีย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:54:40

ความคิดเห็นที่ 13 ทำมาครบปีแล้วเช่นกันค่ะ โลกสว่างสดใสขึ้นเยอะะะ ตอนทำ เราสั้นข้างซ้าย 1000 ข้าวขวา 950 ผลเป็นที่น่าพอใจมากกกก ^^ จากคุณ : ล็อคอินนี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 19:58:26

ความคิดเห็นที่ 14 เราขอมาตอบทีเดียวนะคะ เดี๋ยวขอลงให้หมดก่อนค่า ^^ --------------------------------------------------------------------------------------------------------           พอใกล้จะถึงคิว  เค้าก็จะเอายาฆ่าเชื้อมาทาที่ตากับหน้าเรา  หยอดยาชา   แล้วก็อธิบายขั้นตอนการทำเลสิคทั้งหมด  เราก็แอบนอนฟังคนที่เข้าไปทำก่อนเราด้วยนะ   เราได้ยินเสียงเครื่องทำเลสิคจนรู้สึกแบบว่าแอบเริ่มป๊อดละ ก็เลยขอเค้าไปห้องน้ำก่อน  555 ปล. แต่เจ้าหน้าที่ที่นี่เค้าอัธยาศัยดีมากค่ะ   มีพี่คนนึงตลกมาก      พูดจาตลกแล้วก็ชอบแกล้งตลอดเวลาเลย   ก็จะทำให้เราไม่เครียดค่ะ      (พอดีเราเป็นหลานของพนักงานในนั้นด้วยค่ะ เค้าก็เลยมาแกล้ง) พี่เจ้าหน้าที่ : จะเข้าละ  มีไรอยากถามมั้ย? เรา : (นิ่งไปแป๊บ) พี่ ๆ ในห้องนั้นเปิดแอร์กี่องศาอะ?  (เพราะมันหนาวมาก) พี่เจ้าหน้าที่ : (หันไปดูแอร์ที่ผนัง) 22 เอง  ไม่หนาวหรอก  พอดีเครื่องเรามาจากเยอรมัน  ก็ต้องเปิดให้เย็นเหมือนเยอรมัน (เกี่ยวมั้ยเนี่ย!)           ได้เวลาไคลแมกซ์ละ!  ถึงคิวเราซะที  เค้าก็จะให้เราไปนอนที่เตียงผ่าตัดค่ะ  ห่มผ้าให้ เพราะห้องหนาวมาก   แล้วก็เอาลูกยางมาให้เราบีบเพื่อคลายเครียด  หยอดยาชา (ซึ่งจะทำให้แสบตานิดหน่อย เป็นขั้นตอนที่เจ็บที่สุดแล้ว)   บอกให้นอนหลับตารอหมอ  ซึ่งพี่เจ้าหน้าที่เค้าก็ฮาอีกแล้วอะ พี่เจ้าหน้าที่ : เนี่ย! อยู่ในนี้หลายคนก็หนาวหลายคน  งั้นพี่เสียสละไปรอข้างนอกนะ  (อ้าวไรวะ 555)                           พอหมอมาก็ฮาอีก พี่เจ้าหน้าที่: เนี่ยเห็นมั้ย  พี่กลัวน้องรอนาน  ก็เลยไปจิกหมอมาเลยนะเนี่ย  เอาใจกันสุดริดเลยนะ!  (คือจริง ๆ แล้วหมอตรวจเสร็จพอดี  เรารู้ อิอิ) จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:05:15

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อถึงเวลาเริ่มทำ  หมอก็จะเอากระดาษมาแปะตา  และก็จะบอกตลอดว่าตอนนี้จะทำอะไร   สิ่งที่เราต้องทำคือ  หากต้องการสื่อสารอะไรกับหมอต้องพูดเท่านั้น  ห้ามขยับตัว และต้องทำตาให้นิ่งที่สุดค่ะ จ้องมองไฟเขียว ๆ ข้างบนไว้            ขั้นตอนแรก  จะเป็นการเปิดกระจกตาก่อนค่ะ  หมอก็เอาเครื่องมือมาถ่างตาเราออก เจ้าหน้าที่ก็จะหยอดยาชาให้ตลอด ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บเลย  จะรู้สึกแค่ว่ามีอะไรกดตา   ซึ่งเราก็จะต้องทำตานิ่ง ๆ และมองจ้องไฟสีเขียวด้านบน            พอเปิดกระจกตาออกแล้ว  เราก็รู้สึกแหมะ ๆ ที่ตา แล้วก็จะเห็นภาพเป็นเบลอ ๆ เหมือนทีวีไม่มีสัญญาณค่ะ   หลังจากนั้นหมอก็จะเริ่มยิงเลเซอร์ใส่ตาเรา  เราก็จะต้องพยายามทำตาให้นิ่งที่สุด  และลืมตาให้โตที่สุดค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาทีต่อตาหนึ่งข้าง  หลังจากนั้นหมอก็จะปิดกระจกตาค่ะ                       อีกข้างนึงก็จะทำเหมือนกัน  ประมาณว่าทำสองข้างใช้เวลาไม่เกิน  30 วินาทีเลยค่ะ   และไม่รู้สึกเจ็บเลย  เพราะเค้าหยอดยาชาตลอด  ซึ่งคุณหมอก็อัธยาศัยดีมาก   จะพูดให้เราขำตลอด  แต่ว่าห้ามหัวเราะนะคะ  เพราะเดี๋ยวตำแหน่งการทำจะขยับ  และกระจกตาจะย่น   ปล. จริง ๆ คลิปนี้เราก็เพิ่งได้ดูหลังทำเสร็จเนี่ยแหละค่ะ 555 จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:13:12

ความคิดเห็นที่ 16 คลิปไม่ขึ้นแฮะ เราตั้งใจจะใส่คลิปทำเลสิคอะค่ะ ลองอีกที ถ้าไม่ขึ้นก็ช่างมันเต๊อะ! จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:15:17

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าว คลิปขึ้นละ ดันขึ้นสองอันเลย 555 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------           หลังจากทำเสร็จแล้ว  เราก็จะต้องออกมานอนพัก  ซึ่งเราสามารถลืมตาได้เลยนะคะ   แต่จะเห็นภาพเป็นฟุ้ง ๆ เบลอ ๆ หน่อย  เวลานอนพักก็ให้หลับตานิ่ง ๆ   ถ้ารู้สึกแสบตาหรือเคืองตาก็ห้ามจับตา  และห้ามขยับตัวมาก เพราะเดี๋ยวกระจกตาจะย่น เราใช้เวลานอนพักประมาณ 20 นาทีค่ะ  เจ้าหน้าที่ก็จะทำการหยอดยาแก้อักเสบและน้ำตาเทียมให้เราตลอด   เราก็รู้สึกแสบตาเคืองตานิดหน่อยและมีน้ำตาไหลออกมาค่ะ            ซักพักหมอก็จะมาทำการตรวจแผลที่ทำไป  ซึ่งของเราหมอก็ทำการรีดกระจกตาซ้ายเพิ่มให้นิดหน่อย   ถ้าหมอรู้สึกว่าโอเคแล้ว  ก็จะครอบตาเรา และให้กลับบ้านได้เลยค่ะ   (ซึ่งหมอบอกว่าเพราะตาเรานิ่งมาก เลยทำให้ผลการทำออกมาได้ดังใจหมอ) จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:19:11

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนแรกอยากทำมาก ๆ เลยคะ  คิดนานมาก ๆ  แล้วพอมาดูหนังเรื่อง Final Destination ภาคล่าสุด จบ จบกัน ไม่เอาอ่ะ กลัว   แต่น่ากลัวอยู่นา  เพราะแค่อะไรบินผ่านตา ก็จะกระพริบตาทันที เสียวอ่ะคะ จากคุณ : color story เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:20:50

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากทำเสร็จเราก็รู้สึกเคืองและแสบตา  ลืมตาแทบไม่ขึ้น มีน้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ว่าน้ำตาไหลไปสักพักก็จะหยุดไหลเองค่ะ   วันนั้นเค้าก็จะไม่ให้เราใช้สายตา  และห้ามแกะที่ครอบตาออก ซึ่งเรากลับบ้านมาเราก็กินยาแก้ปวด และยาที่กินแล้วทำให้นอนหลับสบาย (เค้าว่างั้น) แล้วก็นอนเลย  ซึ่งก็ไม่มีปัญหาปวดตาอะไรค่ะ              ในวันต่อมา  หมอก็จะนัดเปิดที่ครอบตาให้เราค่ะ  เรามีปัญหาเคืองตาซ้ายนิดหน่อย   เนื่องจากเป็นผลจากการที่หมอรีดกระจกตาซ้ายซ้ำให้เราค่ะ  แต่แผลผ่าตัดก็ออกมาดีมาก   และไม่มีปัญหาอะไร  ซึ่งหมอก็บอกว่าห้ามล้างหน้าและห้ามน้ำเข้าตา 1 สัปดาห์ค่ะ   ควรใส่แว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอกประมาณ 1 เดือน ห้ามว่ายน้ำ 1 เดือน และนัดตรวจอีกทีคือหนึ่งอาทิตย์หลังผ่าตัด  ถ้าแผลหายแล้วก็สามารถทำทุกอย่างได้ตามปกติเลยค่ะ จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:20:59

ความคิดเห็นที่ 20 อยากทำเหมือนกันค่ะ คงต้องเก็บตังค์รอทำเลยละ ขอทราบค่าเสียหายหน่อยค่ะ >< จากคุณ : โฮ่งฮับตังเม เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:23:35

ความคิดเห็นที่ 21 ซึ่งเราก็ได้ถามหมอว่า  มีโอกาสที่จะสายตาสั้นอีกมั้ยคะ?   หมอบอกว่า  การที่สายตาจะสั้นมี 3 ปัจจัยค่ะ 1.  อายุ : หากเราอายุน้อย สายตาก็มีโอกาสจะกลับมาสั้นได้อีก 2.  การใช้ชีวิต : หากเราเรียนหรือใช้ตามากในชีวิตประจำวัน สายตาก็จะสั้นได้อีกค่ะ                         ซึ่งหมอก็บอกว่า  เดี๋ยวหมอจะคอย ๆ เตือนก็แล้วกันนะ ( คุณหมอน่ารักมากเลยค่ะ ) 3.  ค่าสายตาที่สั้นอยู่ก่อน : ถ้าสายตาสั้นมากแต่เดิม  โอกาสสายตาสั้นอีกก็จะมีมากค่ะ            ดังนั้น  การที่เราจะกลับมาสายตาสั้นได้อีก  ก็มีโอกาส 2/3 ค่ะ (คือข้อ 1 และ 2) หากเราสายตาสั้นอีกครั้ง  จะมีโอกาสทำเลสิกซ้ำได้มั้ย? คุณหมอตอบว่า  ขึ้นอยู่กับความหนาของกระจกตา  ซึ่งสายตาเราทำได้ เพราะว่ากระจกตาเราหนาค่ะ  (โชคดีจริง ๆ เลย 555)          เล่ามาตั้งยาว  เลยไม่รู้ว่าจะจบว่าอะไรดีเลยเนี่ย  ยังไงก็แล้วแต่  เราอยากจะบอกว่าการทำเลสิคไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยค่ะ   เพราะว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีในการทำนั้นดีมาก (เราว่างั้นนะ)   และเราก็รู้สึกดีที่ได้ทำ  เพราะทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นมากเลยทีเดียวค่ะ จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:26:26

ความคิดเห็นที่ 23 อุ๊ย มันซ้ำอะค่ะ แหะๆ -------------------------------------------------------------------------------------------------------- สรุปข้อควรปฏิบัติในการทำเลสิค -  งดใส่คอนแทคเลนส์ก่อนตรวจ 1 อาทิตย์ -   ในวันตรวจตาห้ามขับรถไปเอง  และจะต้องมีเพื่อนไปด้วยเพราะจะมีการขยายม่านตา     ทำให้มองไม่ชัด และหลังผ่าตัดก็จะแสบตาและเคืองตา  แทบลืมตาไม่ขึ้น -  ในวันตรวจตาให้นำแว่นกันแดดไปด้วย  เพราะเมื่อม่านตาขยาย   ตาเราจะสู้แสงจ้าไม่ได้ -  ในวันตรวจตาไม่ควรแต่งหน้าไป เนื่องจากฝุ่นละอองจะรบกวนการทำงานของเลเซอร์ (ถึงแต่งไปเค้าก็จะให้ล้างออกค่ะ) -  ใช้เวลาในการตรวจและรอการทำเลสิคก่อนข้างนานค่ะ  (เราไปตั้งแต่ 9.00 น. ได้กลับบ้านตอน 19.00 น.)      แนะนำว่าหากเพื่อนไปด้วยก็ให้หากิจกรรมให้ทำก็ดีค่ะ -  ระหว่างการทำเลสิคควรทำตาให้นิ่งที่สุด  เผื่อคุณภาพในการทำที่ดี  และปฏิบัติตามคำสั่งของหมอและเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด            ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  ออกจะยาว (มาก) ไปหน่อย  เพราะอยากเล่าให้ละเอียดไปเลยค่ะ   เราหวังว่าประสบการณ์ของเราจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจของใครหลายคนนะคะ  ขอบคุณอีกครั้งค่ะ อ้อ! หากมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม ถามมาได้เลยค่ะ เผื่อเราเขียนอะไรไปไม่ครบ จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:31:09

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ เหมียวกุ๊งกิ๊ง : จริง ๆ มันไม่น่ากลัวเลยค่ะ เพราะมันไม่เจ็บเลย หยอดยาชาตลอด^^ คุณ มิคุริ, คุณ color story : เราก็เพิ่งได้ดูคลิปนั้นเหมือนกัน จริง ๆ แล้วในห้องไม่ได้มีหมออยู่คนเดียวหรอกค่ะ  มีคนอยู่ในห้องเยอะมาก ครึกครื้นกันเลยทีเดียว 555 คุณ โฮ่งฮับตังเม : เราทำ 47,000 อยู่ในช่วงโปรโมชั่นค่ะ ^^ จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:35:57

ความคิดเห็นที่ 25 ดูในคลิปยังน่ากลัวเลยอ่ะ ><! จากคุณ : till_the_end เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:39:57

ความคิดเห็นที่ 26 อยากทำมั่ง รอเก็บตังก่อน.... จากคุณ : ตัวเล็กฟันเหล็กรักเด็กใส่แว่น เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:40:18

ความคิดเห็นที่ 27 ดูclipแล้ว  แอบกลัวอ่ะ ขอบคุณ จขกท ค่าที่มาแบ่งปันประสบการณ์^^ จากคุณ : pink day&pink night เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:49:08

ความคิดเห็นที่ 28 สั้น 600 เชียวคะ อยากทำอยู่เหมือนกัน ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ จากคุณ : Cinderella_Me เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:51:39

ความคิดเห็นที่ 29 เราส่งพ่อไปทำที่คลินิคพิเศษศิริราช 39,000 ทำเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง พ่อบ่น หมอทำเร็วไปหน่อยไม่ค่อยคุ้ม ชวนคุยได้แป๊บๆ หมอบอกเสร็จแล้ว ตอนทำร้อนๆ ที่ตานิดหน่อย กลับบ้านมาตาใสแจ๋วเลย แต่ก่อนต้องเอาแว่นขนายส่องหนังสือพิมพ์เวลาอ่าน ตลกดี อย่างกะโคนัน พ่ออายุ 70 แล้ว จากคุณ : เขียนบน iPhone (ปีศาจลูกแมวสีชมพู) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 20:51:46

ความคิดเห็นที่ 30 แวะมาแชร์บ้างค่ะ เราอายุ 30 แล้ว ใส่คอนแท็ค ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ปี1 ก็ สิบกว่าปีได้ บวกกับใช้คอมเยอะ ด้วยการทำงาน ราวๆ ครึ่งปีที่แล้วเริ่มตาแห้ง จริงๆ คงแห้งมานานแล้วแต่เราไม่รู้สึก พอเกิดอาการระคายเคืองไปหาหมอ หมอถามเลยว่าใส่คอนแท็คมากี่ปีแล้ว ก็สรุปว่ามันแห้งเพราะเราใส่มานานหลายปี วันละหลายชั่วโมง เกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน แล้วช่วงนั้นงานเราจะหนักมาก คือกลับอย่างต่ำ 4 ทุ่ม ทุกคืน ราว ๆ 3 ถึง 4 เดือน เราเลยตัดสินใจหยุดคอนแท็คเลนส์ และคุยกับแฟนเดี๋ยวทำเลสิคดีกว่า ไว้งานหายยุ่งค่อยไปตรวจ ว่าสามารถทำได้มั้ย แล้วระหว่างนั้นเราก็หาข้อมูลว่าที่ไหนราคาเท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 21:03:29 จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:02:17

ความคิดเห็นที่ 31 ก็สรุปว่าได้ที่ รพ รัฐแห่งหนึ่งค่ะ ใบ้ว่าลงรถไฟฟ้าสถานีศาลาแดงก็ถึงพอดี (จะเป็นไรมั้ยอ่า เค้าเปล่าเป็นม้านะ) ทีนี้ก็ต้องไปตรวจก่อนค่ะ ว่าสั้นเท่าไหร่ กระจกตาหนาพอมั้ย ปริมาณน้ำตาเป็นไงบ้ง ตาแห้งรึป่าว ถ้าแห้งต้องรักษาให้หายแห้งก่อน เพราะคนไข้ที่่ผ่าตัดเลสิคมา จะมีอาการตาแห้ง ตอนไปตรวจก็โทรไปจองไว้ก่อนค่ะ จะเป็น ศูนย์เลเซอร์ แยกโซนต่างหากกับผู้ป่วยตาทั่วไปนะคะ อารมณ์ คล้ายๆ คลีนิกทำฟันของเอกชน เราไปเช้าเลยค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าตรวจนาน และอย่างที่ จขกท บอกค่ะ ว่าจะต้องมีการขยายม่านตา เพราะฉะนั้นต้องมีคนไปด้วยค่ะ ตรวจเสร็จจะเหมือนกระสือค่ะ สู้แสงไม่ได้เลย ขับรถไม่ได้ ต้องเดินเหมือนคนหาเหรียญตามพื้นค่ะ ก้มหน้าตลอด เรานะ เดินมองปลายรองเท้าแฟนเราตลอดเลย ตอนกลับบ้าน โทรศัพท์นีี่ หน้าจอจะเบลอมากนะคะ อ่านมองไม่เห็นเลย แนะนำว่าถ้าไปตรวจควรไปวันศุกร์ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ประมาณ 2 วันถึงจะหาย จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:11:59

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ อยากทำบ้างจัง แต่แอบกลัว เราก็สายตาสั้นตั้งแต่ตอนเด็กๆอายุพอๆประมาณกับ จขกท เลยค่ะ แต่เราสั้นมากกว่าประมาณ 650 ค่ะ แต่ตอนนี้ใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ ถ้าอยู่บ้านก็ใส่แว่นตามปกติ >< จากคุณ : บัวบุษราคัม เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:19:08

ความคิดเห็นที่ 33 ตรวจประมาณ ครึ่งวันค่ะ ตรวจเสร็จ คุณหมอก็จะเรียกเข้าไปคุย ว่าผลเป็นไงบ้าง อย่างของเรา ทุกอย่างโอเคทำได้ ทีนี้ก็มาเลือกวิธีการทำค่ะว่าจะทำแบบไหน คุณหมอก็อธิบายให้ฟังค่ะ ว่าถูกสุด ประมาณ 3 หมื่นกว่า จริง ๆ มีตารางให้เลยค่ะ แต่เราจำไม่ได้ 3 หมืนกว่าเรียกว่า prk ถ้าสายตาสั้นน้อย และกระจกตาไม่บางสามารถทำแบบ prk ได้ แต่ การทำแบบ prk จะคล้ายๆ กับการฝานกระจกตาออกไป หรือยังไงนี่แหละค่ะ เราจำไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ คือ จะใช้ระยะเวลาฟื้นตัวนานกว่าเลสิค คือใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ อย่างเราสั้นเยอะเกิน prk สั้นประมาณ เกือบ 5 ร้อย เพราะฉะนั้นต้องเป็นแบบเลสิค ซึ่งจะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 2 วัน และโชคดีที่กระจกตาเราไม่บาง ถ้าบางแต่คนไข้จะทำ ก็จะอีกราคานีง ราวๆ 6 หมื่น กว่าๆ เราจำไม่ได้แน่นอน มีเรทราคาอยู่ราวๆ 4-5 เรท ของเราอยู่ที่ 52,000 ค่ะ อ้อ ลืมบอก ตอนมาตรวจนี้ค่าตรวจ ประมาณ 800 ไม่เกินนี้ค่ะ สามารถให้คุณหมอเขียนในใบรับรองแพทย์ว่ามาตรวจโรคตาแห้งได้นะคะ ถ้าใครจะไปเบิก จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:21:03

ความคิดเห็นที่ 34 หลังจากนั้นก็เลือกวันทำค่ะ ว่าคุณหมอคิวว่างวันไหน แล้วเราสะดวกวันไหน แต่คุณหมอก็จะแนะนำว่าหลังทำ ก็แนะนำให้พักสายตาก่อน ไม่แนะนำให้ใช้สายตาเยอะ และหลังจากทำเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นต้องไปหาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอดูแผลค่ะ เราเลยเลือกช่วงวันหยุดตอนวันพ่อที่ผ่านมา ทำวันศุกร์ วันเสาร์เช้าไปตรวจ และ ได้หยุด ส-อท อย่างที่ จขกท บอกค่ะ เวลาทำจริงๆ แป๊ปเดียวค่ะ คนนึงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วันนั้นที่เราไปทำ มีเคสเลสิคทั้งหมด 7 เคส เราก็ตกใจทำไมเยอะจัง เราได้คิวที่ 2 ก็เลยหายสงสัยตอนคนแรกเข้าไป เรายังไม่ทันอะไร ออกมาแล้ว ก่อนทำ ก็จะมีหัวหน้าพยาบาลที่จะอยู่ในทีมผ่าตัด มาอธิบายและแนะนำขั้นตอนในการผ่าตัดว่า เป็นยังไง 1 รอบ หลังเปลี่ยนชุด คลุมเสื้อเขียวๆ ระหว่างนั่งรอเข้าห้อง คุณหมอที่เป็นผู้ทำ ก็จะมาอธิบายอีกที (ของเราทำกับอาจารย์หมอค่ะ เราไม่ได้เลือกหมอ แต่เราเลือกตามวันที่เราสะดวก เรื่องหมอเราไม่มีข้อมูลว่าท่านไหนเป็นอย่างไร เอาเราสะดวกอย่างเดียว แหะแหะ) จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:32:08

ความคิดเห็นที่ 35 ตอนทำไม่เจ็บนะคะ แต่เราจะรู้สึกฝืนธรรมชาตินิดนึงตอน แรกเลยที่คุณหมอเอาเครื่องถ่างตามาถ่างเปลือกตาเราอ่ะค่ะ อารมณ์คล้ายๆ เราต้องโหนบาร์ แล้วรู้สึกแขนโดนยืด แนวๆ นั้นอ่ะ แต่อันนี้มันเป็นที่ตา นอกนั้นไม่มีอะไรค่่ะ ทำเสร็จตอนลงจากเตียง มันจะมัว ๆ นะคะ และรู้สึกเคืองๆ ตา เหมือนมีอะไรอยู่ในตา แต่ของที่นี่ ไม่ต้องปิดตานะคะ แต่คุณหมอจะให้อยู่ในโซนคลินิกนั้น ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เราคุ้นๆ เหมือนกับเพื่อให้ กระจกตามันสมานกันพอสมควร เพื่อลดการที่เราออกไปข้างนอกเลยแล้วจะมีโอกาสติดเชื้อ อะไรประมาณนี้ค่ะ หลังจากนั้นกลับบ้านได้ค่ะ แต่ใส่แว่นตาดำตลอด และ ที่สำคัญห้ามโดนน้ำ เพราะฉะนั้นก่อนไปทำสระผมไปก่อนค่ะ หลังจากนั้นถ้าถึงรอบสระผมอีก ก็เข้าร้านเลยค่ะ แต่สำหรับเรา ร้านบางทีสระแรงน้ำกระเด็น เราเลยให้แม่สระให้ แต่เรามีอุปกรณ์ช่วย คือ เราเอาหมวกคลุมผมที่แถมจากพวกโรงแรม ที่มันใสๆ อ่ะ มาเจาะรูตรงตำแหน่งรูจมูก แล้วแทนที่จะเอามาคลุมผม เราก็เอามาคลุมหน้าแทน แล้วก็นอนให้แม่สระผม ไม่ต้องไปร้านให้เปลืองเงิน อ้อ เมื่อห้ามโดนน้ำแล้ว คุณหมอสั่งห้าม ทาครีม ทาแป้ง ล้างหน้า ใดๆ ก็ตาม บนหน้า 2 อาทิตย์ แต่เราไม่ทราบว่าที่อื่นเป็นยังไงนะคะ เพราะงั้น ถ้าใครจะทำที่นี่ แต่ต้องแต่งหน้าไปทำงานด้วยหน้าที่การงานอาจจะไม่เหมาะค่ะ เราก็อาศัยกระดาษเปียกเช็ดหน้าเอา แต่เว้นรอบดวงตา แต่พวกครีมเราไม่กล้า ก็งดไป 2อาทิตย์ เวลาอาบน้ำก็เอาอุปกรณ์หมวกที่เราทำมาคลุมหน้าอาบน้ำ จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:43:56

ความคิดเห็นที่ 36 รอชมค่ะ เราทำแน่นอน เหลือแค่รอเวลา และรองบ ^^ จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:49:33

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นคนสายตาสั้น อยากทำบ้างจัง คงต้องเก็บตังค์ก่อนแถมอยู่ต่างจังหวัดด้วยนี่สิ จากคุณ : เปิดรับความสุข เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:50:50

ความคิดเห็นที่ 38 คุณหมอ จะมียามาให้ 2 ขวดนะคะ ซึ่งราคารวมอยู่ใน 5หมื่นนั้นแล้ว และมีที่ครอบตาให้ไว้ครอบตอนกลางคืน กันคนไข้ เผลอขยี้ตาตอนหลับ ส่วนน้ำตาเทียมต้องซื้อต่างหากนะคะ ช่วงแรกนอกจากหยอดยาตามหมอสั่งแล้ว ก็หยอดน้ำตาเทียมเยอะๆ ค่ะ ตอนตื่นมาตอนเช้าอีกวัน คุณพยาบาลจะบอกว่ามันจะตึงๆ เหมือนลืมตาไม่ค่อยขึ้น ห้ามไม่ให้ กระชากฝืนลืมตาอย่างรวดเร็ว ให้หยอดน้ำตาเทียม ไปเยอะ ๆ แล้วค่อยๆ ลืม มันคล้ายๆ เหมือนเวลา เพื่อนๆ มีแผลจากหกล้ม แล้วพอทำแผลไปแล้วแล้ววันรุ่งขึ้นมันจะตึง ๆ แล้วเราก็ต้องค่อย ๆ เอาน้ำเกลือล้่าง ๆ เช็ดๆ อย่างนั้นเลยค่ะ ช่วงนี้ก็ต้องระวังหน่อยค่ะ เพราะมันก็เหมือนแผลผ่าตัดอย่างนึง ห้ามโดนน้ำ หรืออะไรก็ตามที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ วันรุ่งขึ้นก็ไปหาคุณหมอค่ะ ท่านก็จะดูว่าเรามีอาการติดเชื้อรึป่าว แผลดูโอเคมั้ย ซึ่งวันนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ ตอนวันรุ่งขึ้นนี่ ไม่ระคายแล้วนะคะ แต่การมองเห็นภาพมันยังไม่คมชัด 100% ค่ะ ประมาณ 90% ได้ ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ อีก ราวๆ 2 วันจะเป๊ะ จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 21:53:20

ความคิดเห็นที่ 39 หลังจากนั้น ครบ 2 อาทิตย์ คุณหมอนัดมาอีกทีค่ะ ทดสอบการมองเห็น ให้อ่านตัวเลข วัดความดันลูกตา อะไรประมาณนี้ค่ะ ตรวจว่าตาแห้งมั้ย ถ้าโอเคไม่มีอะไร ก็จะกลับมาทาครีม ทำสวยได้เหมือนเดิม ที่สำคัญและดีใจสุด ๆ คือ ไม่ต้องใส่แว่น หรือ ต้องมาใส่คอนแท็คอีกแล้ว เย่ เย่ แต่ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรมีกิจกรรมทางน้ำในช่วง 1 เดือนนะคะ ว่ายน้ำ หรือ ถ้าโป๊ะเชะ ตรงช่วงสงกรานต์ก็ไม่ควรค่ะ เสี่ยงไปหน่อย และคุณหมอก็จะนัดมาตอนครบรอบ 1 เดือนค่ะ และอีกทีก็ 3 เดือน 6 เดือน ไม่รู้ 1 ปีจะต้องด้วยรึป่าว เพราะเราเพิ่งไปตอนครบ 3 เดือนมา และคุณหมอนัด ตอน 6 เดือน ลืมบอกไปค่ะ ว่าตอนเราตรวจครั้งแรก เราเพิ่งรู้ค่ะ ว่าเราเป็นคนตาดำโต ซึ่งคนที่ตาดำโตหรือใหญ่ จะมีปัญหาอยู่แล้วคือเวลามองไฟตอนกลางคืนมันจะเป็นดาวๆ ค่ะ ไม่เป็นกลม ๆ เราก็ไม่เคยได้สังเกตุ อย่างเวลาเราขับรถตอนกลางคืน เราจะเห็นไฟรถคนอื่น เป็นดาว ๆ ซึ่งเราคิดมาตลอดว่าคนอื่นเค้าเห็นเหมือนเรา พอเราไปตรวจ เราเลยกลับมาถามน้องหรือคนอื่น ๆ ว่าเค้าเห็นเหมือนเรามั้ย เค้าบอกไม่ เห็นเป็นกลม ๆ เราก็เลยสังเกตุด้วยว่าเออ ตาดำเราใหญ่จริงด้วย พื้นที่ตาขาวมันน้อยอ่ะ ถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ทีนี้การทำเลสิค คุณหมอให้ข้อมูลว่า ต้องมีการเปิดกระจกตาเพื่อยิงเลเซอร์ ซึ่งการเปิดนั้นจะทำให้มีผลข้างเคียงคือเห็นแสงไฟแตกตอนกลางคืน ซึ่งเรามีปัญหาอยู่แล้วก็จะแตกเยอะขึ้น แต่ลักษณะการผ่าตัดที่คุณหมอใช้จะช่วยลดอาการแสงแต่ได้พอประมาณ แต่ต้องใช้เวลา แต่เราไม่แน่ใจว่าไอ้เรทราคาแพงๆ สุด ๆ นั้น เพิ่มเทคโนโลยีอะไรเพื่อช่วยลดอาการแสงแตกเพิ่มขึ้นด้วยรึป่าว เราจำไม่ได้จริง ๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้ สำหรับเรา แสงแตกเป็นดาวหลายแฉกกว่าก่อนทำ แต่ดีขึ้นกว่าช่วงทำแรก ๆ นิดหน่อย แต่เราไม่ได้รู้สึกว่ามันทำให้เราขับรถลำบากกว่าก่อนทำ เพราะแตกมากแตกน้อย เราก็ขับเหมือนเดิมอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 22:12:50 จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:10:26

ความคิดเห็นที่ 40 ทีนี้คำแนะนำของเรา ถ้าใครคิดว่าตัวเองไม่ได้สายตาเปลี่ยนตลอด ก็ไปทำจะคุ้มมากค่ะ อย่างเรา สายตาไม่เปลี่ยนเลย เราสั้นตั้งแต่อยู่ ม.1 เริ่มคงที่ ตอนเข้ามหาวิทยาลัย และหลังจากนั้นไม่สั้นเพิ่มขึ้นเลย ถ้าไปทำตอนนั้น จะคุ้มมาก แถมไม่ต้องมาเสียเวลางานไปด้วย แถมช่วงมีปัญหาตาแห้ง ไปหาหมอบ่อยมาก หมดเงินไปหลายพัน เสียดายเงิน ตอนนี้เราโอเคมาก ตื่นนอนมา ไม่ต้องควานหาแว่นหัวเตียงแล้ว สบายมากๆ ถ้าใครไม่ติดอะไรไปทำก็ดีนะคะ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีที่ทำหลากหลายให้เลือก ราคาก็ไม่แพงมากเหมือนสมัยก่อน พี่สะใภ้แฟนเราไปทำเมื่อหลายปีก่อนซึ่งนานมากแล้ว สายตาก็พอๆ กับเรา แต่เราไม่ได้ถามว่าทำที่ไหน จ่ายไป 8หมื่น ลืมบอกไปค่ะ ว่าเราหยุดคอนแท็คนานหลายเดือนมากๆ ก่อนไปตรวจและทำ ซึ่งคุณหมอบอกว่าดีแล้วยิ่งหยุดนานเท่าไหร่ยิ่งดี ป.ล. เราไม่เคยโพสต์อะไรยาวเท่านี้มาก่อน ผิดพลาดยังไงขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณ จขกท ด้วยที่ มาแชร์ ทำให้้เราอยากแชร์บ้าง ปกติ เราอ่านอย่างเดียว เคยคิดไว้ว่าอยทกแบ่งปันอะไรกลับคืนให้เพื่อนๆ ในห้องนี้บ้าง เพราะเราได้อะไรที่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นจากห้องนี้เยอะมาก ๆ แต่ก็ไม่รู้จะแชร์เรื่องอะไร พอ จขกท มาแชร์เรื่องนี้ เราเลยได้ที ขอบคุณมากๆค่ะ ปกติเราไม่ค่อยได้ล็อคอินเท่าไหร่ ถ้ามีไรหลังไมค์มา แล้วเราไม่ได้ตอบอย่าว่าเรานะคะ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 22:27:17 จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:22:56

ความคิดเห็นที่ 41 เราทำที่เดียวกับคุณMintค่ะ อาจจะหมอเดียวกันด้วยเรียกวืธีรักษาว่าPRKทำเมื่อปี49ราคา27000บาท (ไม่คิดค่าตรวจ800บาทที่พยาบาลเคยบอกไว้ด้วยไม่รู้ว่าทำไม) สงสัยกว่าจะทำได้เทียวไปตรวจตั้งหลายครั้งเพราะกระจกตาเป็นแผลตลอด ปัจจุบันนี้มีอาการตาแห้งอย่างเดียวเท่านั้น จากคุณ : โพ-อง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:26:05

ความคิดเห็นที่ 42 ทำเลสิคมาได้3ปีแล้ว ดีมากเลย รู้งี้ทำตั้งนานแล้ว จากคุณ : la-la เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:29:56

ความคิดเห็นที่ 43 อยากทำมากๆๆๆ ค่ะ แต่แม่เราบอกว่า รอให้โตกว่านี้ ให้สายตาคงที่ก่อน สายตาสั้นมันเป้นปัญหากับชีวิตเรามากเลย ทำอะไรก็ไม่สะดวก ถ้าถอดคอนแทคแล้ว หลังอาบน้ำ ก็ใส่แว่น แล้วถ้าไม่มีแว่น เราเหมือนคนตาบอดเลย มองไม่เหน ทรมานมาก T^T จากคุณ : tgmtgm เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:31:55

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีค่ะ คุณ โพ-อง ว้าว เจอเพื่อนทำที่เดียวกันละ เราเพิ่งไปวันจันทร์ ครบ 3 เดือน หมอบอกว่าตาเราโอเค ไม่แห้งแล้ว ต่อจากนี้ถ้าแห้ง ไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด แต่เกิดจากการใช้งานของตัวเราเอง หมอไม่บังคับเรื่อง หยอดน้ำตาเทียม ถ้ารู้สึกแห้งก็ให้หยอดได้เองเลย สงสัยด้วยค่ะ ว่าที่กระจกตาเป็นแผล นี่เกิดจากการทำแบบ prk หรือว่าเกิดจากอะไรอ่ะคะ จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 22:39:40

ความคิดเห็นที่ 45 อยากทำ แต่เสียวอะ เราสั้น 500 กว่า จขกท ทำตอนอายุเท่าไรจ๊ะ จากคุณ : ป๊อป อินดี้ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 23:26:22

ความคิดเห็นที่ 46 เพิ่งทำเลสิคมาได้ครบ 1 เดือน ทำเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่เดียวกับจขกท. และคุณหมอคนเดียวกันด้วยค่ะ ขอแชร์ด้วยคนนะคะ ก่อนทำ สั้นประมาณ 300 กับ 400 กว่า เอียงก็ 300 กับ 400 กว่าเหมือนกัน ใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยใส่คอนแทคเลนส์ ตรวจสภาพตาแล้วหมอให้ทำแบบ wavefront + sbk เพราะสายตาเอียงมาก มีสิทธิ์ที่จะไม่ได้ผลใน 1 ครั้ง ต้องเติมเลสิค เลยต้องเพิ่ม sbk ซึ่งจะเป็นใบมีดที่ผ่ากระจกตาได้บางกว่าปกติ ค่ะ เพื่อเซฟกระจกตาไว้ ซึ่งจะแพงกว่าของ จขกท.อีก 6000 บาท แต่เมื่อวันเสาร์ก็ไปตรวจ follow up 1 เดือนมา มีการวัดสายตา อ่านตัวเลข และวัดด้วยเครื่อง พอเจอหมอ หมอบอกว่าวัดได้ 0 ทั้ง 2 ข้างเลย ก็รู้สึกดีใจมากเพราะไม่คิดว่าผลที่ออกมาจะดีขนาดนี้ค่ะ ของเราตอนทำ ก็ไม่เจ็บเลยเพราะหมอหยอดยาชาให้เยอะมาก ที่เจ็บที่สุดในวันนั้นจะเป็นตอนเจาะเลือดค่ะ เจ็บมาก อยากบอกคนที่กลัวค่ะว่าจริงๆ มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ เพราะเราก็ก้าวข้ามความกลัวนั้นมาได้แล้ว ตอนแรกก็กลัวมากเหมือนกันเพราะเคยคิดอยากทำมาหลายปีแล้วก็กลัวไม่กล้าทำซักที จนเจอคนรู้จักไปทำมาก็เลยสอบถามข้อมูลกับเค้าทำให้อยากทำขึ้นมาอีก พอได้ทำก็รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆนะคะที่ทำ จากคุณ : เขียนบน iPhone (pnikki) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 23:38:24

ความคิดเห็นที่ 47 ยังรู้สึกน่ากลัวอยู่ดี คงเป็นสาวแว่นตลอดไป  ยอม จากคุณ : Jankenpyon เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 09:06:39

ความคิดเห็นที่ 48 ขอแชร์ด้วยคนค่ะ เราก็ทำเลสิกมา 1 ปี 3 เดือนแล้วค่ะ ทำตอนที่สายตาสั้น 275 กับ 325 (สองข้างสั้นไม่เท่ากันค่ะ) ดีใจที่ตัวเองไม่มีปัญหาอะไรตามมาหลังจากที่ทำ พอใจกับผลที่ได้ และคิดว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจทำ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าที่จะทำเคยคิดไปคิดมาอยู่หลายเดือน ในที่สุดพอตัดสินใจได้ว่าจะทำก็หาข้อมูลแล้วโทรนัดกับ รพ.เลย ที่หลาย ๆ คนกลัวเรื่องทำเลสิก บอกได้เลยว่าไม่น่ากลัวอย่างนั้นนะ ทำใจให้สบาย ระหว่างยิงเลเซอร์ก็ฟังพยาบาลแล้วปฏิบัติตาม ไม่น่ากลัวเลยค่ะ ยืนยัน จากคุณ : tarn_1980 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 09:47:41

ความคิดเห็นที่ 49 เราทำที่ รพ. กลางค่ะ เพราะใส่คอนแทกส์มานานจนตาแห้ง ทำมา 5 ปีได้แล้วค่ะ ราคา 30,000 บาท สั้น 500 เอียง 150 ตอนเสร็จแรก ๆ จะเคืองตามาก เหมือนใส่คอนแทคส์ผิดด้านอ่ะค่ะ เราเลยนอนตั้งแต่ 4 โมงเย็น ตื่นมา 4 ทุ่ม  รู้สึกเป็นปกติเลยค่ะ   เหมือนเกิดใหม่อ่ะ  เห็นชัดมาก ถึงมากที่สุด   อีก 3 เดือนต่อมา เราไปเล่นสกี ดำน้ำ ทำทุกอย่างที่เคยทำแล้วแว่นตาเป็นอุปสรรคอ่ะ จะบอกว่าเหมือนขึ้นสวรรค์เลยค่ะ จากคุณ : Phalaenopsis เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 10:29:32

ความคิดเห็นที่ 50 เราตาแห้งมาก ทำไม่ได้สักวิธีเลยค่ะ เศร้า จากคุณ : COCO@VANILLA เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 10:39:55

ความคิดเห็นที่ 51 อยากทำบ้างค่ะแต่ดูไฟนอลเดทแล้วหลอน ขนาดตอนนั้นเราปิดตานะ เพราะจะไปทำเลสิคค่ะ ไม่อยากดูเดี๋ยวภาพติดตาไม่กล้าทำ ก็ยังไม่วายหลอน ๕๕๕๕๕๕๕๕ จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 10:46:13

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ ป๊อป อินดี้ : 22 ค่ะ เพิ่งทำสด ๆ เลยค่ะ 555 คุณ Mint (MLS) : ขอบคุณมากเลยค่ะที่มาช่วยแชร์ จะได้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบให้คนอ่านเนอะ ^^ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 55 11:42:59 จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:42:03

ความคิดเห็นที่ 53 สนใจอยากทำเหมือนกัน ไปดูหนัง ขนาดไม่ได้ดูไฟนอลนะคะ เห็นแค่ตัวอย่างหนังไฟนอล ยัง สยองเลย อีกอย่างนึง เราอายุ 38 ยังทำได้มั๊ยคะ จากคุณ : เกาลัดเล็กๆ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 15:39:15

ความคิดเห็นที่ 54 ทำมาที่เดียวกันเลยค่ะ เราทำมาครบปีพอดี ตอนนั้นสายตาแย่มาก สั้นข้างละ 500 กว่า เอียงข้างละ 200-300 ใส่แว่นมาตั้งแต่ป.4 มาเปลี่ยนใส่คอนแทคเลนส์ตอนเข้ามหาลัย ใส่มา 6 ปี พอหลังๆ รู้สึกเจ็บตา สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหลตลอด ตอนแรกไปหาหมอเฉพาะทางโรคตา รพ.แถวปิ่นเกล้า หมอแนะนำให้ทำเลสิค แต่พอตรวจตาละเอียดแล้ว หมอก็ไม่ทำให้ บอกว่ากระจกตาเราโค้งกว่าปกติ ต้องใส่เลนส์เทียม ค่าใช้จ่ายเป็นแสน ตอนนั้นเฮิร์ทมาก แค่คิดว่าจะต้องกลับมาใส่แว่นก็ไม่อยากแล้ว ก็เลยหาข้อมูลศูนย์เลสิคที่อื่น จนมาเจอที่นี่ ตรวจตาละเอียดแล้วคุณหมอบอกว่าทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนั้นดีใจมาก ตรวจเช้า ทำบ่ายเหมือนจขกทเลยค่ะ ตอนนี้ทำมาครบ ปีแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ แต่ตอนกลางคืนจะเห็นแสงกระจาย เพราะม่านตากว้าง และปกติก็เห็นแบบนี้อยู่แล้ว เลยไม่ซิเรียส เราก็หยอดน้ำตาเทียมเป็นประจำ รู้สึกสบายกว่าเดิมมาก ตื่นมาก็มองเห็นชัด ไม่ต้องหาคอนแทคเลนส์หรือแว่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ^^ จากคุณ : Lit. sheep zaa เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 19:43:50

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ เกาลัดเล็กๆ : อันนี้ต้องลองปรึกษาคุณหมออะค่ะ แต่เราว่าทำได้น้า หากไปตรวจแล้วตาไม่มีปัญหาค่ะ ^^ จากคุณ : Ms.Piggyboy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 20:05:33

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณ จขกท.นะคะ ที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันเพื่อนๆให้ทราบด้วย การทำเลสิกไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทุกคนค่ะ ต้องมีการตรวจประเมินสภาพตาอย่างละเอียดก่อน  เพื่อดูว่าความหนากระจกตาเราจะแก้ไขสายตาได้หมดไหม  มีโรคทางตาต่างๆหรือเปล่า อย่างต้อหิน  ต้อกระจก  กระจกตาย้วย  หรือจอประสาทตาฉีก ขาด มีรู  เป็นต้นค่ะ จากคุณ : JanE ByDrtulaya (jw.jane) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:35:49