ความคิดเห็นที่ 1 หลายคนสงสัยว่า Makeup Base คืออะไร เอาไว้ทำอะไร แล้วใช้ยังไงกันแน่นะ ในหัวข้อนี้ จะพาสาวๆ มารู้จัก Makeup Base และไขข้อข้องใจทั้งหมดเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้กัน What? Makeup Base คือ ไอเท็มเนื้อครีมที่มีหลากหลายคุณสมบัติ โดยวัตถุประสงค์หลักๆ แล้ว เอาไว้ใช้แก้ไขปัญหาพื้นฐานของผิวหน้า ให้พอดีและเหมาะกับความต้องการ หรือบางคนก็เอาไว้เตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของเหลว เจล ครีม หรือเป็นครีมอัดแท่ง ความเข้าใจผิดของหลายคน คิดว่า Makeup Base เอาไว้ปกปิด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดและเป็นการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ เพราะ Makeup Base ไม่มีคุณสมบัติในการปกปิดเลย ส่วนใหญ่แล้ว จะใช้หลักการและเทคนิคในการอำพราง ซะมากกว่า แล้วปัญหาพื้นฐานของผิวหน้า มีอะไรบ้าง?? หลักๆ ก็คือ ปัญหาของสีผิวบางจุด เช่น รอยแดง รอยดำ รอยเขียว ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบ ปัญหาผิวหน้าแห้ง ปัญหาผิวหน้ามัน เป็นต้น ทีนี้ เรามาดูกันว่า Makeup Base มีแบบไหนบ้าง จากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด ปุ้ยขอแบ่ง Makeup Base ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1) ใช้ปรับสีผิว 2) ใช้ปรับสภาพพื้นผิว และ 3) ใช้เพิ่มลูกเล่นให้ผิว ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป 1 Makeup Base กับการปรับสีผิว 2 Makeup Base กับการปรับสภาพพื้นผิว • ผิวหน้ามัน -- Makeup Base สำหรับควบคุมความมัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องทาทั้งหน้า ควรทาเฉพาะบริเวณที่ผิวมัน • ผิวหน้าแห้ง -- Makeup Base ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทาเฉพาะบริเวณที่ผิวแห้ง แตก หรือลอกเป็นขุย • ผิวหยาบ/ มีริ้วรอย -- Makeup Base ที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ช่วยเติมร่องผิว • ผิวที่รองพื้นไม่ติด/ขาดความชุ่มชื้น ⎯ Makeup Base ที่ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้รองพื้นและ Makeup ยึดติดกับผิวได้ดีขึ้น • รูขุมขนกว้าง -- Makeup Base ที่มีส่วนผสมของซิลิโคน หรือที่มีส่วนผสมของกลิตเตอร์ หรือชิมเมอร์เป็นประกายละเอียดๆ ช่วยกระจายแสงเพื่ออำพรางรูขุมขนได้ 3 Makeup Base กับการเพิ่มลูกเล่นให้ผิว • Luminizer -- เป็นไอเท็มที่มีส่วนผสมของกริตเตอร์ที่มีประกายวิ้งๆ ทำให้ผิวดูสดใสและเปล่งประกาย รวมทั้งช่วยกระจายแสงเพื่ออำพราวผิวที่ไม่เรียบ รูขุมขน ริ้วรอย และและยังใช้เป็นไฮไลท์ให้กับผิวได้ด้วย • Bronzer --เป็นไอเท็มที่มีสีน้ำตาล/ ทอง /ส้ม ซึ่งมีส่วนผสมของกริตเตอร์ที่มีประกายวิ้งๆ ทำให้ผิวดูมีสีสัน ผิวอมแดดและมีชีวิตชีวาขึ้น • Tint -- เป็นไอเท็มที่มีสีชมพู/ แดง/ ส้ม เอาไว้ทาบริเวณแก้มทำให้ใบหน้าดูมีสีัน ดูสุขภาพดีเหมือนเลือดฝาด Where? ควรใช้ Makeup Base ในบริเวณไหนบ้าง แก้ปัญหาให้ถูกที่ และถูกจุด ~~ ตามคุณสมบัติของ Makeup Base แต่ละตัวที่แตกต่างกัน ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น เราควรเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน ซึ่งควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและใช้กับบริเวณที่มีปัญหาที่ต้องการแก้ไขเท่านั้น เช่น Makeup Base สีเขียว เราใช้แค่บริเวณที่เป็นสิว หรือรอยแดงข้างปีกจมูกเท่านั้นก็พอ หรือ Makeup Base สำหรับควบคุมความมัน เราใช้แค่บริเวณทีโซนที่ผิวมีความมันมากๆ ค่ะ When? ควรใช้ Makeup Base ตอนไหน ตามหลักแล้วการแก้ไขปัญหาพื้นฐานของผิว ก็ควรทำเป็นอันดับแรก หลังจากการทาครีมบำรุงและครีมกันแดดแล้วนั่นเอง โดยเราจะลง Makeup Base ตามจุดต่างๆ ที่เราต้องการแก้ไข ซึ่งเราอาจจะใช้ Makeup Base มากกว่า 1 ตัวก็ได้ แล้วแต่ปัญหาที่ต้องการแก้ไขค่ะ การเรียงลำดับในการใช้งาน ให้ลองสังเกตจากวิธีการ พื้นที่และเนื้อของผลิตภัณฑ์ ดังนี้ วิธีการ ~~ เลือกลงตัวที่ใช้ลงในลักษณะเกลี่ยด้วยแรงกดแล้วลาก ก่อนแบบที่ใช้พวกแปรง หรือการกดย้ำๆ พื้นที่ ~~ เลือกลงตัวที่ต้องลงในบริเวณที่กว้างก่อน แล้วจึงลงตัวที่ใช้เฉพาะจุดค่ะ เนื้อของผลิตภัณฑ์ ~~ เลือกลงตัวที่แห้งช้า หรือเหลวจนควบคุมทิศทางยากก่อน เพื่อพลาดแล้วลบออกได้ก่อนที่จะลงตัวอื่นๆ Why? ทำไมต้องใช้ Makeup Base จำเป็นจริงหรือไม่ เพราะผู้หญิงไม่เคยหยุดและพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี นั่นคือเหตุผลที่ Makeup Base ขายดิบขายดี และทุกคนย่อมคิดว่าตัวเองมีจุดบกพร่องเท่านั้น Makeup Base จึงเป็นตัวช่วยให้เราอุ่นใจ และใช้แก้ไขปัญหาที่เราหนักใจ ซึ่งจริงๆ แล้วความจำเป็นสำหรับการใช้ Makeup Base นั้น ลองพิจารณากันให้ดีถึงผลลัพธ์หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้วจะดีกว่า เช่น หากเราเป็นคนที่รองพื้นหนาอยู่แล้ว รองพื้นสามารถปกปิดรอยแดงของเราได้อยู่แล้ว ลองถามตัวเองว่าจำเป็นหรือไม่ที่ยังต้องใช้ Makeup Base สำหรับอำพรางรอยแดง หรือสำหรับคนที่ไม่ชอบใช้รองพื้นที่ปกปิดมากนัก Makeup Base ก็ช่วยให้เราเติมแต่งผิวของเราให้สวยดั่งใจได้ยังไงก็ต้องชั่งน้ำหนักว่า การที่สบายผิวมากกว่า กับการใช้ขั้นตอนการอำพรางด้วย Makeup Base หลายขั้นตอน สำหรับคนที่มีปัญหาเยอะ นั้นมันคุมค่า พอกับงบประมาณที่เราลงทุนไปหรือไม่ หรือ ผิวของเราอาจจะมีปัญหาแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ Makeup Base เลยก็ได้ ผลลัพธ์ต่างกันนิดเดียว ส่วนบางคนจำเป็นต้องใช้ความเนี๊ยบมากๆ อย่างช่างแต่งหน้าแมกกาซีน ก็อาจจำเป็นต้องใช้ เพื่อช่วยให้ช่างภาพทำงานหนักน้อยลง สรุปแล้วทั้งนี้ทั้งนั้น เหตุผลที่ว่าจำเป็นมั้ย สำหรับการใช้ Makeup Base ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพอใจของแต่ละคนซึ่งมีระดับที่ไม่เท่ากัน จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:07:45

ความคิดเห็นที่ 2 ใส่รูปไม่ได้โทาทีค่ะ เอาใหม่ๆ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:15:26 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:11:06 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:10:31

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพอธิบายเปรียบเทียบคร่าวๆ รองพื้นทั้ง 7 ประเภท แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:13:19 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:13:02

ความคิดเห็นที่ 5 มาต่อด้วยเรื่องของรองพื้นค่ะ ปุ้ยเชื่อว่าสาวๆ ทุกคนรู้จักคำว่ารองพื้น กันดีอยู่แล้วหละ ในหัวข้อนี้ จะพาสาวๆ มารู้จัก รองพื้นให้มากขึ้น โดยเข้าใจถึงคุณสมบัติของรองพื้นในแต่ละประเภท รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง สำหรับการใช้งาน แถมท้ายด้วยการรีวิวรองพื้นที่ปุ้ยใช้อยู่ทั้งหมดด้วย What?--รองพื้น คือ ไอเท็มเนื้อครีมที่วัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและเรียบเนียน รวมทั้งสามารถปกปิดอำพรางจุดบกพร่องของผิวได้ในระดับปานกลางถึงมาก ซึ่งคุณสมบัติของรองพื้นนั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทและความเข้มข้น โดยสามารถแบ่งเป็น 7 ประเภท แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:57:20 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:16:12 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:14:53

ความคิดเห็นที่ 6 1 ครีม 2 แท่ง 3 น้ำ 4 ทินท์  5 มูส 6 แป้งมินิรอล 7 แป้งทูเวย์ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:17:56

ความคิดเห็นที่ 7 รองพื้นแต่ละประเภทประกอบด้วยลักษณะของส่วนผสมในเนื้อที่แตกต่างกัน เช่น ผสมด้วยน้ำมันทำให้รองพื้นมีความหนาแน่นและเข้มข้นมาก ให้ผลลัพธ์ในการปกปิดผิวที่มาก หรือผสมด้วยน้ำทำให้เนื้อรองพื้นมีความหนาแน่นเบาบางลงทำให้ไม่รู้สึกหนักผิวแต่ก็ยังปกปิดผิวได้ในระดับปานกลาง หรือผสมด้วยอากาศก็จะทำให้เนื้อรองพื้นมีความเบามากทำให้ได้ความปกปิดในระดับเบาเบาดูธรรมชาติมากขึ้น หรือผสมด้วยแป้งเป็นหลักก็จะทำให้เนื้อรองพื้นมีความร่วนทำให้ใช้งานได้ง่ายแต่ความติดทนของเนื้อ รองพื้นที่ยึดเกาะกับผิวก็จะน้อยลงไปด้วย เป็นต้น     ดังนั้นการเลือกใช้รองพื้นก็ควรเลือกประเภทตามความเข้มข้นให้เหมาะสมกับโอกาสที่จะใช้ นอกจากความแตกต่างในแง่ของความเข้มข้นแล้วนั้น ความแตกต่างของรองพื้นแต่ละประเภทก็คือ ลักษณะเนื้อผิว (Texture) ของรองพื้นเมื่อนำมาทาลงบนผิวแล้ว เช่น ความด้าน ความมันวาว ความเปล่งแสง หรือความฟูนุ่มของพื้นผิว ในลักษณะนี้ให้เลือกตามความชอบของแต่ละคนหรือเลือกตามลุคที่ต้องการ     สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือ การเลือกสีของรองพื้นให้ใกล้เคียงกับสีผิว โดยเทคนิคการเลือกสีนั้นให้นำเนื้อรองพื้นในปริมาณที่จะเห็นสีได้ชัด มาป้ายลงที่ผิวหน้าบริเวณขากรรไกร ถ้าเป็นสีที่พอดี ก็จะเห็นว่าสีของผิวก็จะกลืนหายไปกับสีผิวเลย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผิวหน้าของเราจะสว่างกว่าผิวกาย ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ใบหน้าดูขาวจนเกินไป ก็อาจจะลองเลือกสีรองพื้นที่ใกล้เคียงกับสีผิวบริเวณ ไหปลาร้า ซึ่งการประยุกต์ใช้สีของรองพื้น สามารถทำให้รองพื้นสีอ่อนลงหรือเข้มขึ้นได้โดยใช้ผงอายชาโดว มาผสมทำให้เกิดเป็นรองพื้นสีใหม่ หรือหากเลือกซื้อรองพื้นสีผิดที่ไม่พอดีกับผิว ก็สามารถประยุกต์ใช้สีอ่อนเป็นไฮท์ไลท์ หรือสีเข้มเป็นเฉดดิ้งได้ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:18:26

ความคิดเห็นที่ 8 Where?  ควรใช้ รองพื้นในบริเวณไหนบ้าง     รู้หรือไม่ว่า อันที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องทารองพื้นให้ทั่วทั้งหน้า อย่างที่บอกไปแล้วว่ารองพื้นนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและปกปิดอำพรางจุดบกพร่องของผิว ดังนั้นเราก็สามารถ ใช้ในเฉพาะบริเวณที่เราต้องการก็ได้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเนอะหนะของรองพื้นที่มาเคลือบอยู่บนผิวซึ่งอาจจะทารองพื้นแค่บริเวณที่เป็นกระ หรือผิวมีรอยด่าง หรือรอยที่ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ ส่วนบริเวณอื่นๆ ที่ผิวไม่มีปัญหาก็เว้นเอาไว้ก็ได้ เช่น บริเวณกรอบหน้า คิ้ว เปลือกตา เป็นต้น     หากเรามีรองพื้นหลายสีทั้งเข้มไปหรืออ่อนไป เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้ใบหน้าของเราดูมีมิติได้ โดยการใช้รองพื้นที่อ่อนทาเฉพาะบริเวณส่วนกลางของใบหน้า และรองพื้นสีเข้มทาบริเวณรอบกรอบหน้า แล้วเกลี่ยรอยต่อให้สีสม่ำเสมอกัน When?  ควรใช้รองพื้นในขั้นตอนไหน     หลังจากการทาครีมบำรุงและครีมกันแดด และ Makeup Base (ถ้ามี)ซึ่งเราอาจจะใช้รองพื้นมากกว่า 1 รอบ หรือมากกว่า 1 ประเภทก็ได้ แล้วแต่ความต้องการในการปกปิดผิว การเรียงลำดับในการใช้งาน ให้ลองสังเกตจากวิธีการ พื้นที่และเนื้อของผลิตภัณฑ์ ดังนี้ วิธีการ ~~ เลือกใช้ประเภททีี่่ใช้พวกแปรงก่อน แล้วค่อยตามด้วยประเภทที่ใช้นิ้วมือ พื้นที่ ~~ เลือกทาในบริเวณที่กว้างก่อน แล้วจึงทาเฉพาะจุดค่ะ เนื้อของผลิตภัณฑ์ ~~ เลือกใช้ประเภทที่เข้มข้นกว่าก่อน แล้วจึงค่อยใช้ประเภทที่เข้มข้นน้อยกว่า หรือเลือกใช้ประเภทที่เป็นเนื้อครีมและน้ำก่อน ที่จะใช้ประเภทที่เป็นมูสและแป้ง Why? ทำไมต้องใช้รองพื้น     เพื่อให้ได้สภาพผิวที่เรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอ แต่จำเป็นไหมที่การแต่งหน้าทุกครั้งต้องพึ่งรองพื้น คำตอบ คือ ไม่จำเป็นเสมอไป ให้เลือกตามความเหมาะสมของโอกาสที่เราแต่งหน้า เช่น หากวันที่เราไม่ได้ต้องการความเพอร์เฟกของผิวมากมายอะไร การใช้เพียงแค่ Makeup Base และแป้งฝุ่น ก็ถือว่าเพียงพอแต่หากเป็นวันที่เราต้องการความเนี๊ยบของผิว ก็เลือกความเข้มข้นและความปกปิดของเนื้อรองพื้นตามโอกาสหรืองานที่เราจะไป จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:19:30

ความคิดเห็นที่ 9 Makeup Foundation Tools and Techniques อุปกรณ์และเทคนิคสำหรับการใช้รองพื้น --- นิ้วมือ (Fingertip)     อุปกรณ์ที่ทุกคนมีกันทุกคน นอกจากจะประหยัด ใช้ง่าย แล้วก็ยังทรงประสิทธิภาพมากๆ เลยทีเดียว เพราะว่าสามารถใช้ได้กับรองพื้นทุกประเภทเลย และยังสามารถควบคุมความปกปิดผิวได้ไม่ว่าจะให้ปกปิดมากหรือว่าให้ดูบางเบาก็ทำได้ Application Motion: ใช้ได้ทั้งการกดย้ำ (Dap) สำหรับให้เนื้อรองพื้นมีความหนาและปกปิดได้มาก และการกดลากในแนวเส้นตรง (Linear Motion) เพื่อให้ได้เนื้อรองพื้นที่บางเบาและปกปิดน้อย --- ฟองน้ำ (Sponge)     ฟองน้ำเอาไว้เกลี่ยเนื้อรองพื้นช่วยให้ได้ความสม่ำเสมอ และกดเนื้อรองพื้น ช่วยผลักให้ติดกับผิวหน้ามากขึ้นและดูเรียบเนียน Selection: เลือกฟองน้ำแบบเนื้อแน่นๆ ที่รองพื้นจะไม่ซึมเข้าสู่เนื้อฟองน้ำ แต่จะช่วยผลักรองพื้นให้เข้าสู่ผิวแทน Application Motion: ใช้ทาเนื้อรองพื้นลงที่ผิวหน้าโดยการลากในแนวเส้นตรง (Linear Motion) โดยทิศทางการลากให้เป็นทิศทางเดียวกับเส้นขน คือ จากกลางใบหน้าออกสู่ด้านนอก และจากด้านบนลงสู่ด้านล่างและใช้กดย้ำ (Dap) สำหรับช่วยผลักเนื้อให้รองพื้นให้ติดผิวได้ดียิ่งขึ้นและทำให้ได้เนื้อผิวที่เรียบเนียนมากขึ้นด้วย     นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีการใช้แปรงสำหรับทารองพื้นเข้ามาช่วย ซึ่งจะเหมาะสำหรับการที่ต้องการพื้นผิวของรองพื้นในปริมาณที่สม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้า และสำหรับใครที่ต้องการความรวดเร็วในการทารองพื้นค่ะการเลือกใช้เทคนิคของแปรงทารองพื้นนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อรองพื้น ความถนัดในการใช้งาน และความต้องการในระดับความปกปิด แปรงที่ปุ้ยแนะนำให้ใช้สำหรับรองพื้นมี 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ --- แปรงขนสังเคราะห์รูปร่างแบน (Synthetic Foundation Brush)    เป็นแปรงสำหรับใช้ทารองพื้นโดยเฉพาะ ซึ่งทำจากขนสังเคราะห์ที่มีความบางและลื่น Selection: เลือกแปรงที่ขนเส้นเล็กมากๆ และมีการไล่ระดับความยาวของเส้นขนตั้งแต่กึ่งกลางความยาวขนแปรงจากสั้นไปยาวแบบละเอียดๆ เพราะช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียนได้ดี Application Motion: ใช้ทาเนื้อรองพื้นลงที่ผิวหน้าโดยการลากในแนวเส้นตรง (Linear Motion) โดยทิศทางการลากให้เป็นทิศทางเดียวกับเส้นขน คือ จากกลางใบหน้าออกสู่ด้านนอก และจากด้านบนลงสู่ด้านล่างและหากต้องการความหนาของรองพื้นในบริเวณใดเป็นพิเศษ ให้ใช้การกดย้ำ (Dap) เนื้อรองพื้นท้บลงไปที่บริเวณนั้น Coverage: สำหรับใช้ทารองพื้นในลักษณะที่ให้ความปกปิดในระดับสูง (For) Foundation Type: - Cream -Liquid -Tinted --- แปรงขน 2 ชั้น (Duo-Fiber Foundation Brush / Air Brush)     เป็นแปรงที่มีขนแปรงแบ่งเป็น 2 ชั้น โดย ขนด้านล่างเป็นสีดำ ทำจากขนสัตว์ และขนด้านบนเป็นสีขาวทำจากขนสังเคราะห์ Selection: เลือกแปรงที่ขนแปรงกระจายตัวมีช่องว่างแบบเห็นได้ชัดและมีความสม่ำเสมอ โดยเลือกที่ขนแปรงด้านบนให้มีความนุ่มมากๆ ส่วนขนแปรงด้านล่างมีความแข็งแรงพอที่จะช่วยอุ้มน้ำหนักของขนแปรงด้านบนเวลากดลงที่ผิว Application Motion: ใช้ทาเนื้อรองพื้นลงที่ผิวหน้าโดยการใช้แปรงแตะรองพื้นให้ปริมาณรองพื้นติดทั่วหน้าตัดของขนแปรงก่อน แล้วจึงนำมาแตะให้กระจายทั่วใบหน้า หลังจากนั้นก็ปัดหมุนเป็นวงกลมเล็กๆ (Circular Motion) ให้ทั่วผิวหน้า ซึ่งทิศทาง คือ ด้านขวาปัดในทิศหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนด้านซ้ายปัดในทิศทวนเข็มนาฬิกา Coverage: สำหรับใช้ทารองพื้นในลักษณะที่ให้ความปกปิดในระดับปานกลางและบางเบา (For) Foundation Type: - Cream -Liquid -Tinted -Powder --- แปรงปัดแป้งขนหน้าตัด (Flat-Top Powder Brush)     เป็นแปรงปัดแป้งที่มีขนด้านบนเป็นหน้าตัด ทำจากขนสัตว์ Selection: เลือกแปรงที่ที่มีขนาดพอดีไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ขนแปรงเป็นขนสัตว์ที่มีความหยาบพอที่จะเก็บแป้งได้ดี แต่ยังคงมีความนุ่มไว้ในระดับที่ไม่ระคายเคืองผิวหน้า Application Motion: ใช้ทาเนื้อรองพื้นลงที่ผิวหน้าโดยการใช้แปรงแตะรองพื้นให้ปริมาณรองพื้นติดทั่วหน้าตัดของขนแปรงก่อน แล้วจึงนำมาแตะให้กระจายทั่วใบหน้า หลังจากนั้นก็ปัดหมุนเป็นวงกลมเล็กๆ (Circular Motion) ให้ทั่วผิวหน้า ซึ่งทิศทาง คือ ด้านขวาปัดในทิศหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนด้านซ้ายปัดในทิศทวนเข็มนาฬิกา สำหรับรองพื้นประเภทแป้งถ้ายิ่งใช้เวลาในการหมุนวนมากๆ ก็จะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่เรียบเนียน Coverage: สำหรับใช้ทารองพื้นในลักษณะที่ให้ความปกปิดในระดับสูงมาก สูงและปานกลาง (For) Foundation Type: - Cream -Powder     ขั้นตอนการรองพื้นนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญและต้องใช้เวลา ยิ่งเรามีเวลาให้กับขั้นตอนนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ผลลัพธ์ของผิวที่สวย การแต่งผิวให้สวย ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ปุ้ยไม่อยากให้สาวๆ ละเลย เพราะถ้าผิวของเราดูสวยแล้ว การแต่งหน้าในขั้นตอนต่อไปก็เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและจะส่งผลให้เราดูสวยแบบไม่มีที่ติค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:20:51

ความคิดเห็นที่ 10 รีวิวรองพื้นที่ปุ้ยมีทั้งหมดค่ะ แร๊พนิดนึงนะคะ ฟังไม่ทันก็กดฟังใหม่อีกรอบนะคะ โทษที จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:23:16

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้เป็นเรื่องของอุปกรณ์ค่ะ ถ้าปุ้ยตกหล่นอะไร ก็สอบถามได้นะคะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:24:32

ความคิดเห็นที่ 12 ลืมคลิปรีวิว เมกอัพเบสนะคะ ปุ้ยพูดเหน่อ แล้วก็เร็วด้วย ถ้าฟังไม่สะดวกหู ก็ขออภัยด้วยนะคะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:27:03

ความคิดเห็นที่ 13 ต่อไปมาจัดหนักต่อเรื่อง ความมหัศจรรย์แห่งคอนซีลเลอร์ (Amazing Concealer) ที่ตั้งชื่อแบบนี้เพราะว่าสาวๆ ทุกคนที่ได้รู้จักและสัมผัสกับเจ้าไอเท็มมหัศจรรย์ตัวนี้แล้ว ต้องตกหลุมรักและติดใจ จนแทบจะใช้ชีวิตโดยขาดเจ้าคอนซีลเลอน์นี้ไม่ได้อีกต่อไป ในหัวข้อนี้จะพามารู้จักคอนซีลเลอร์โดยเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ คุณสมบัติ ประเภท และจะมาไขข้อข้องใจในการใช้งานกันให้ด้วย    What? --คอนซีลเลอร์ คือ ไอเท็มที่วัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อปกปิดหรือซ่อนจุดบกพร่องต่างๆ ที่อยู่บนผิวไม่ว่าจะเป็น รอยสิว รอยคล้ำ รอยแดง จุดด่างดำเล็กๆ แผลเป็น ฝ้า กระ และจุดบกพร่องอื่นๆ ที่ปรากฏบนผิวหน้าคอนซีลเลอร์ให้ระดับการปดปิดอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเนื้อของคอนซีลเลอร์มีลักษณะของส่วนผสมได้ในหลากหลายประเภทคล้ายๆ กับรองพื้น เช่น เนื้อครีม น้ำ หรือแป้ง แต่จะแตกต่างจากรองพื้นรองที่พิกเมนท์ความเข้มข้นของการปกปิดนั้นสูงกว่านั่นเอง เฉดสีของคอนซีลเลอร์นั้น จะมี 2 ประเภท คือ 1) คอนซีลเลอร์ที่มีสีสัน (Colored Concealer) เพื่อใช้เทคนิคอำพรางโดยให้สีที่คอนทราสกับรอยจุดบกพร่องต่างๆ บนผิว เช่น สีที่เหลืองหรือสีขาวทำให้ผิวที่หมองคล้ำกระจ่างใสขึ้น สีแอพพริคอทสามารถใช้ลบเลือนรอยคล้ำหรือรอยช้ำสีม่วงหรือเส้นเลือดแตก สีเขียวและสีฟ้าสามารถแก้ไขรอยแดงที่เกิดจากสิว คอนซีลเลอร์สีม่วงจะทำให้หน้าดูสว่างขึ้น คอนซีลเลอร์ที่มีสีสันเหล่านี้มักจะใช้แต้มตรงจุดภายใต้คอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่ตรงกับโทนสีผิวอีกทีหนึ่ง หรือสำหรับการอำพรางปกปิดในระดับที่ยังเหลือความเป็นธรรมชาติของผิวไว้อยู่ บ้าง 2) คอนซีลเลอร์ที่มีสีตรงกับโทนสีผิว (Skin-tone Concealer) มีหลากหลายเฉดตั้งแต่อ่อนถึงเข้ม และมีพิกเมนท์ที่เข้มข้นสำหรับการปกปิดขั้นสูงสุด ซึ่งในปัจจุบันนวัตกรรมการผลิตทำให้คอนซีลเลอร์แบบนี้มีความปกปิดสูงมากจน สามารถปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ ได้ถึง 100% จนแทบไม่จำเป็นต้องใช้การอำพรางด้วยคอนซีลเลอร์ที่มีสีสันก็ได้ นอกจากนั้นแล้วการออกแบบคอนซีลเลอร์ยังมีความหลากหลายให้ง่ายต่อการใช้งาน อีกด้วย มีทั้ง พาเล็ทที่มีหลายสี ปากกา ดินสอ แท่ง ขวดที่มาพร้อมพู่กัน เป็นต้น การเลือกคอนซีลเลอร์ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งสีความเข้มข้นและความแข็งหรือเหลวของเนื้อครีม Where? -- ควรใช้ คอนซีลเลอร์แบบไหนในบริเวณไหนบ้าง คอนซีลเลอร์นั้นใช้ในพื้นที่เฉพาะที่เราต้องการปกปิดเท่านั้น หากมีปัญหาจุดบกพร่องหลายจุดให้พิจารณาตามหลักการใช้งานดังนี้ “ความสามารถในการปกปิด (Coverage)” แปรผันตาม “ความเข้นข้นของพิกเมนท์ (Concentration)” “ความกว้างของพื้นที่การปกปิด (District)” แปรผันตาม “สถานะของความเหลวของเนื้อครีม (Phase of Matter)” เช่น รอยสิวหรือรอยแผลเป็น ที่ต้องการการปกปิดมากและมีพื้นที่เป็นจุดเล็กๆ ก็ควรใช้คอนซีลเลอร์ที่มีความเข้มข้นมากๆ และมีเนื้อครีมที่ค่อนข้างแห้ง ฝ้าและกระ ที่มีบริเวณกว้างและมีสีเข้มจึงต้องใช้การปกปิดที่มาก ก็ควรใช้คอนซีลเลอร์ที่มีความเข้มข้นมากๆ และเป็นเนื้อครีมที่มีลักษณะค่อนข้างเหลว รอยคล้ำใต้ตา ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างแต่ต้องการความปกปิดระดับปานกลาง ก็ควรใช้คอนซีลเลอร์ที่มีเนื้อเข้มข้นปานกลางและเป็นลักษณะเนื้อครีมที่ค่อนข้างเหลว เป็นต้น จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:30:24

ความคิดเห็นที่ 14 Modify: หากเรามีคอนซีลเลอร์อยู่แบบเดียว แต่ต้องการดัดแปลงและประยุกต์ใช้ให้สามารถปกปิดจุดบกพร่องได้ในหลายรูปแบบก็สามารถทำได้ เช่น การทำให้เนื้อคอนซีลเลอร์มีเนื้อที่แห้งขึ้น โดยการพักคอนซีลเลอร์ไว้บนผิวนานๆ จนกว่าเนื้อจะแห้ง แล้วค่อยเกลี่ย หรือการทำให้เนื้อคอนซีลเลอร์เหลวขึ้น ก็ทำได้โดยการผสมกับ Makeup Base หรือ Tinted Moisturizer ส่วนการทำให้เนื้อคอนซีลเลอร์มีความเข้มข้นมากขึ้น คือ การลงซ้ำจนกว่าจะปกปิดได้ในระดับที่พึงพอใจ Tools: เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการทาคอนซีลเลอร์ ได้แก่ - แปรงขนสังเคราะห์ที่มีเส้นขนเล็กๆ แบนๆ ที่สามารถจับเนื้อครีมได้ดี ส่วนใหญ่สังเกตได้จากสีมักจะเป็นสีส้มอมเหลืองโดยเลือกเลือกขนาดของแปรงตามลักษณะพื้นที่ที่จะใช้งาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่ใช้แปรง เพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าถึงพื้นที่เล็กๆ หรือจุดเล็กๆ หรือต้องการการเกลี่ยปริมาณเนื้อครีมที่สม่ำเสมอ - นิ้วมือ สำหรับการเกลี่ยเนื้อครีมในบริเวณกว้าง และเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นมากๆ - ด้ามแปรงเล็กๆ เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเกลี่ยคอนซีลเลอร์ลงในพื้นที่ที่เป็นจุดเล็กๆ ได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อแปรงคอนซีลเลอร์ที่มีราคาแพง แล้วใช้นิ้วมือช่วยในการเกลี่ยให้เรียบเนียนอีกทีหนึ่ง The Steps: 1. แต้มเนื้อคอนซีลเลอร์ลงที่บริเวณที่ต้องการปกปิด 2. รอซักพักจนเนื้อคอนซีลเอลอร์เกือบแห้ง (ทดสอบโดยการสัมผัสที่ขอบของบริเวณที่แต้มลงไป) 3. ใช้นิ้วเมือเกลี่ยโดยวิธีกดย้ำ (Dap Motion) ลงไปเบาๆ ให้เนื้อคอนซีลเลอร์กลืนไปกับสีผิว เริ่มจากรอบขอบของบริเวณก่อน แล้วจึงค่อยๆ ไล่เข้าไปด้านใน ในกณีที่เป็นพื้นที่แคบๆ หรือจุดอาจใช้แปรงช่วยก็ได้ 4. รอจนเนื้อคอนซีลเลอร์แห้งสนิท แล้วใช้นิ้วมือหรือพัฟฟองน้ำ กดน้ำหนักย้ำลงไปอีกครั้งเพื่อให้เนื้อคอนซีเลอร์ยึดติดกับผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:32:37 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:31:55

ความคิดเห็นที่ 15 When? -- ควรใช้คอนซีลเลอร์ในขั้นตอนไหน หลายคนสงสัยว่า ควรทาคอนซีลเลอร์ก่อนหรือหลังรองพื้นกันแน่? จริงๆ แล้ว สามารถทำได้ทั้ง 2 แบบ สำหรับการปกปิดที่อยู่ในพื้นที่ที่ต้องการสีที่ใกล้เคียงกับสีผิว แต่ไม่มีคอนซีลเลอร์ที่ตรงกับสีผิวซักทีเดียว  เราสามารถใช้วิธีการทาคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดรอยหรือจุดบกพร่องไปก่อน แล้วจึงทาทับด้วยรองพื้น เพื่อให้ได้สีที่ตรงกับสีผิวที่สุด มีข้อควรระวังว่า รองพื้นที่ใช้นั้นควรเป็นเนื้อครีมที่ไม่เหลวจนเกินไป เพราะจะทำให้คอนซีลเอลร์ที่ลงไปแล้วละลายออกมาได้สำหรับคอนซีลเลอร์ที่มีสีเดียวกับรองพื้นอยู่แล้ว หรือสำหรับการปกปิดที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้สีที่ตรงกับสีผิวก็ได้ เช่น บริเวณที่ เรามักจะลงไฮไลท์ ก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์หลังขั้นตอนการลงรองพื้น ข้อควรระวัง คือ คอนซีลเลอร์ที่ใช้ในบริเวณไฮไลท์ควรมีสีอ่อนกว่าสีของรองพื้น และในบริเวณที่ลงเฉดดิ้งควรมีสีเข้มกว่า การทาคอนซีลเลอร์เราอาจจะมากกว่า 1 รอบ หรือมากกว่า 1 ประเภทก็ได้ แล้วแต่ความต้องการในการปกปิด การเรียงลำดับในการใช้งาน ให้ลองสังเกตจากวิธีการ พื้นที่และเนื้อของผลิตภัณฑ์ ดังนี้ วิธีการ ~~ เลือกใช้ประเภททีี่่ใช้พวกแปรงก่อน แล้วค่อยตามด้วยประเภทที่ใช้นิ้วมือ พื้นที่ ~~ เลือกทาในบริเวณที่กว้างก่อน แล้วจึงทาเฉพาะจุด เนื้อของผลิตภัณฑ์ ~~ เลือกใช้ประเภทที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าก่อน หากปกปิดได้ไม่เพียงพอ จึงเลือกประเภทที่มีความเข้มข้นมากกว่ามาปกปิดซ้ำ    Why? -- ทำไมต้องใช้คอนซีลเลอร์ เพื่อการปกปิดจุดบกพร่องบนผิวทำให้ผิวสวยแบบไร้ที่ติ ส่วนความจำเป็นนั้นขึ้นกับความต้องการของแต่ละคนว่ามีความพึงพอใจกับความเพอร์เฟกของผิวในระดับไหน ความปกปิดมักจะมาคู่กับความยุ่งยากในขั้นตอน งบประมาณที่ลงทุนและความห่างไกลจากธรรมชาติ หากเราเชื่อมั่นในความงามแบบธรรมชาติอยู่บ้าง บางทีการมีสิวอยู่บนหน้า หรือมีรอยกระอยู่บ้าง ก็เป็นเรื่องที่ดูน่ารัก ไร้เดียงสาตามวัยของเรานะคะ “ความสวยงามนั้นอยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล” แต่อย่าลืมว่าสวยงามอย่างสร้างสรรค์ แล้วนำมาแบ่งปันให้กันและกันนะคะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:35:47

ความคิดเห็นที่ 16 รีวิวคอนซีลเลอร์ที่ปุ้ยมีอยู่ค่ะ คลิปนี้รีบพูดว่าคลิปก่อนหน้านี้อีก แบบว่าแสงจะหมดแล้ว พระอาทิตย์จะตก เฮื้ออกกกกก จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:37:09

ความคิดเห็นที่ 17 bookmark ไว้ก่อน เดี๋ยวเลิกงานมาตามอ่านค่า ^^ จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:40:29

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องราวของ “แป้ง” (The Powder) ผู้หญิงทุกคนรู้จัก “แป้ง” กันตั้งแต่สมัยที่เราเป็นเด็กทารก เลยก็ว่าได้ เพราะคุณแม่มักจะผลัดหน้า ทาก้นของเราด้วยแป้งกลิ่นหอมๆ นี้เสมอ ในหัวข้อนี้ปุ้ยจะพามารู้จักแป้ง แต่เป็นแป้งที่ใช้สำหรับแต่งหน้ากันโดยเฉพาะ โดยจะพูดถึงวัตถุประสงค์ คุณสมบัติ ประเภท และอุปกรณ์สำหรับการใช้งานด้วย What?  ─ แป้ง (Makeup Powder) ในที่นี้หมายถึง แป้งเนื้อร่วนและละเอียดที่ไม่มีส่วนผสมของรองพื้น มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อเซ็ทผิวหน้าหลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อ ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ให้ผิวหน้าอยู่ตัวซึ่่งกลไก คือ แป้งจะทำหน้าที่บล็อคให้พวกเนื้อครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทาลงบนผิวก่อนนั้นอยู่ ตัวยึดติดอยู่กับผิว และไม่เคลื่อนหลุดออกไปจากผิวบริเวณนั้นๆ ลักษณะ (Type) ของแป้งนั้น จะมี 2 ประเภท คือ    แป้งฝุ่น (Loose Powder) เป็นแป้งที่มีลักษณะเป็นผงร่วนๆ ถูกบรรจุอยู่ในกระปุก    แป้งอัดแข็ง (Pressed Powder)  เป็นแป้งที่มีถูกบีบอีดแบบรรจุอยู่ในตลับแบนๆ เนื้อผิว (Texture) ของแป้ง มี 3 แบบ ด้วยกัน ได้แก่    แป้งที่มีเนื้อผิวแบบแม็ท (Matte Powder)  เป็นแป้งที่มีส่วนผสมของเนื้อแป้งล้วนๆ    ซึ่งเมื่อนำมาทาลงบนผิวแล้วจะได้เทคเจอร์ของผิวแบบธรรมชาติ ที่จะเป็นเนื้อด้านๆ ไม่มีความมันวาว    แป้งที่มีเนื้อผิวแบบชิมเมอร์ (Shimmery Powder) เป็นแป้งที่มีส่วนผสมของไอเท็มที่มีประกายระยิบระยับ    ซึ่งทำให้ผิวดูสดใสและเปล่งประกาย เมื่อนำมาทาลงบนผิวแล้วจะทำให้ผิวดูสว่างขึ้น    และจะได้เทคเจอร์ของผิวที่ แวววาว โดยเฉพาะเมื่อผิวกระทบกับแสงจะเห็นเป็นประกายแวววาว สวยงามมากๆ    แป้ง ที่มีเนื้อผิวแบบบรอนเซอร์ (ฺBronzer Powder) เป็นแป้งที่มีสีเข้ม หรือสีธรรมชาติที่มีส่วนผสมของไอเท็มประกายระยิบระยับที่มีสีน้ำตาล ทอง หรือส้ม เมื่อนำมาทาลงบนผิวแล้วจะทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น และมีสีสันเป็นสีอมแดด เฉดสี (Color) ของแป้งนั้น จะมี 2 ชนิด คือ   1. แป้งที่มีสีโปรงแสง (Translucent Powder) เป็นแป้งที่มีเนื้อร่วนและมีน้ำหนักของเม็ดแป้งพิกเมนท์ที่ค่อนข้างบางเบา มากเป็นพิเศษ ส่วน ใหญ่จะเห็นเป็นสีเบจ (Beige) หรือสีขาว แป้งชนิดนี้ใช้เพื่อเซ็ทผิวในลักษณะที่ให้ความเป็นธรรมชาติของพื้นผิว (Texture) และเนื้อแป้งที่โปรงแสง จะทำให้เรายังเก็บความดั้งเดิมของสีผิวหลังจากที่เรา ลงรองพื้นและพวกไอเท็มเนื้อครีมในขั้นตอนก่อนหน้านี้ไว้ได้ ดังนั้นแป้งชนิดนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นธรรมชาติของสีผิวและเทคเจอร์ รวมทั้งคนที่ไม่สามารถหาสีของแป้งที่ตรงกับผิวได้พอดี   2. แป้งที่มีสีตรงกับโทนสีผิว (Skin-tone Powder) เป็นแป้งที่มีหลากหลายเฉดตั้งแต่อ่อนถึงเข้ม และมีน้ำหนักของเม็ดหรือพิกเมนท์ที่มากน้อยตามแต่ละยี่ห้อ การใช้งานนอกจากใช้เพื่อเซ็ทผิวตามวัตถุประสงค์แล้ว บางคนอาจจะใช้แป้งชนิดนี้ในแง่ของการปรับเทคเจอร์ของผิวให้เนียนเรียบมากขึ้น ซึ่งจะใช้ปริมาณแป้งค่อนข้างมาก จึงใช้แป้งชนิดโปรงแสงไม่ได้ เพราะจะทำให้สีผิวนั้นดูสว่างมากจนเกินไป เช่น การแต่งหน้าสำหรับการแสดงละคร โทรศัศน์ บนเวที หรือการสร้างเทคเจอร์ของผิวที่ไม่ต้องการให้ผิวมีมิติมากเกินไป เมื่อแสงไฟแรงๆ มาตกกระทบ ดังนั้นจะเห็นว่าการใช้งานตามวัตุประสงค์นี้จะทำให้ผิวขาดความเป็นธรรมชาติไป ถ้าหากต้องการให้เทคเจอร์ของผิวดูเป็นธรรมชาติ ควรจะใช้แป้งชนิดนี้ในปริาณที่พอเหมาะเท่านั้น การเลือกแป้งควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งสี ชนิด เทคเจอร์และความเหมาะสมในการใช้งาน จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:43:26

ความคิดเห็นที่ 19 Where? ─  ควรใช้ แป้งแบบไหนในบริเวณไหนบ้าง การทาแป้งนั้น สามารถใช้ทาได้ทั่วทั้งใบหน้า เพียงแต่จะมีข้อควรสังเกตอยู่บางประการ เช่น แป้งที่มีเนื้อแบบซิมเมอร์นั้นจะทำให้ผิวมีความมันวาว และ ทำให้ผิวดูสว่างขึ้น ดังนั้น ควรทาเฉพาะบริเวณส่วนกลางของใบหน้า ไม่ควรทาไม่ควรจะใช้ในปริมาณที่เยอะจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องทาทั่วทั้งใบหน้า เช่น คนที่มีใบหน้ากว้างอยู่แล้วยิ่งจะทำให้ใบหน้าดูกว้างขึ้น และสำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน ก็ควรระวังในการทาบริเวณ T-Zone แป้งที่มีเนื้อเป็นบรอนเซอร์ที่มีสีเข้ม ควรทาเฉาพบริเวณโหนกแก้ม หรือพวงแก้ม ไม่ควรทาทั่วทั้งใบหน้า เพราะอาจจะทำให้ให้ใบหน้าของเราดูมีสีเข้มมากจนเกินไป เป็นต้น When? ─  ควรใช้แป้งในขั้นตอนไหน โดยส่วนใหญ่แล้ว จะใช้ใน 2 ขั้นตอน ได้แก่ 1. เซ็ตผิวขั้นตอนหลังลงรองพื้น (Setting) เพื่อเซ็ทพวกรองพื้นและผลิตภัณฑ์เนื้อครีมให้อยู่ตัว 2. เซ็ตผิวเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า (Finishing) เพื่อลดความมันของผิวที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนอื่นๆ ของการแต่งหน้า การ ใช้แป้งเราอาจจะใช้มากกว่า 1 ประเภทก็ได้ แล้วแต่ความต้องการ โดยประเภทไหนใช้ก่อนหลังนั้น ให้ดูจากเทคเจอร์ที่ต้องการให้เป็นผลลัพธ์ การเรียงลำดับในการใช้งาน ให้ลองสังเกตจากลักษณะ เนื้อผิวของผลิตภัณฑ์ และพื้นที่ของใบหน้าดังนี้ ลักษณะ ~~ เลือกใช้ประเภทที่ี่ใช้พวกแปรงฝุ่นก่อน แล้วค่อยตามด้วยประเภทที่เป็นแป้งอัดแข็ง เนื้อผิวของผลิตภัณฑ์  ~~ เลือกใช้แบบที่เป็นเนื้อแม็ตก่อน แล้วเนื้อชิมเมอร์ ในกรณีที่ต้องการให้ผิวดูแวววาว ในทางตรงกันข้ามเลือกใช้แบบที่เป็นเนื้อ แม็ตทีหลัง ในกรณีที่ต้องการคืนความธรรมชาติให้ผิว หรือต้องการลดความแวววาวให้น้อยลง พื้นที่ ~~ เลือกทาในบริเวณที่กว้างก่อน แล้วจึงทาเฉพาะจุด เช่น ใช้แป้งเนื้อแม็ตที่ทาทั่วใบหน้าทาลงไปก่อน แล้วจึงใช้แป้งเนื้อชิมเมอร์ในบริเวณช่วงแก้ม เป็นต้น Why? ─  ทำไมต้องใช้แป้ง หลายคนมักเข้าใจผิวว่า แป้งมีเอาไว้เพื่อปกปิดผิว ซึ่งความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะว่า หากเราต้องการปกปิดผิว เราควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทรองพื้นและคอนซีลเลอร์ ซึ่งก็มีประเภทที่เป็นแป้ง เพื่อช่วยให้ง่ายสำหรับการใช้งาน เรียกว่าแป้งทูเวย์หรือแป้งผสมรองพื้นนั่นเอง แต่ ในความเป็นจริงแล้วนั้น แป้งมีไว้เพื่อช่วยเซ็ทผิวของเราให้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เราใช้แต่งลงไปบนผิวหน้านั้นติดทนและอยู่ตัว ซึ่งจำเป็นสำหรับเราที่อยู่ในสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ซึ่งผิวจะผลิตน้ำมันออกมาตลอดทั้งวัน แต่ถ้าเราอยู่ในประเทศที่อากาศแห้งและเย็น ในนั้นตอนนี้อาจจะยกเว้นได้ค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:45:26

ความคิดเห็นที่ 20 อุปกรณ์และเทคนิคสำหรับการทาแป้ง (Makeup Powder Tools and Application) ⤑ พัฟ (Puff) พัฟสำหรับทาแป้ง ใช้เพื่อเซ็ทผิวให้ได้พื้นผิวที่แน่นและช่วยดูซับความมันของน้ำมันบนของผิวหน้าได้ดี Selection: ควรเลือกพัฟที่มีพื้นผิวเป็นขนแบบสั้นๆ และมีความยาวของขนพัฟที่สม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ลงแป้งได้เนียน  และมีฟองน้ำหนานุ่มบรรจุอยู่ภายในเพื่อลดน้ำหนักจากแรงกด ทำให้ได้แป้งที่ไม่เยอะจนเกินไป Application Motion: ใช้กด (Dap) สำหรับช่วยบีบอีดให้แป้งให้ยึดติดผิวและเซ็ทได้ดียิ่งขึ้น Dense/Coverage: ให้ความหนาของปริมาณเนื้อแผ้งบนผิวในระดับปานกลางถึงมาก ⤑ แปรงรูปพัด (Fan Brush) เป็นแปรงขนสัตว์รูปพัด ใช้เพื่อขจัดแป้งส่วนเกินที่อยู่บนผิว หรือใช้ปัดแป้งในปริมาณที่น้อยและบางเบา Selection: ควรเลือกแปรงที่ขนบางและเบา และมีความโปร่งของเส้นขนแปรง ทำให้ใช้ปัดแป้งได้ดี และไม่เหลือคราบตกค้างที่ผิวหน้า Application Motion: ใช้ปัดแป้งลงที่ผิวหน้าหรือขจัดแป้งส่วนเกินออก ใช้งานโดยการลากในแนวเส้นตรง (Linear Motion) เป็นทิศทางเดียวกับเส้นขน คือ จากกลางใบหน้าออกสู่ด้านนอก และจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง Dense/Coverage: ให้ความหนาของปริมาณเนื้อแผ้งบนผิวในระดับบางเบา ⤑ แปรงปัดแป้ง (Powder Brush) เป็นแปรงขนสัตว์รูปโดมกลมๆ ใหญ่ๆ ใช้เพื่อปัดแป้งลงบนผิว Selection: ควรเลือกแปรงที่มีขนาดใหญ่ ขนนุ่มและเบามากๆ ทำให้ใช้ปัดแป้งได้ในปริมาณที่บางเบาและเรียบเนียน Application Motion: ใช้งานโดยการลากในแนวเส้นตรง (Linear Motion) เป็นทิศทางเดียวกับเส้นขน คือ จากกลางใบหน้าออกสู่ด้านนอก และจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง หรือจะใช้การปัดหมุนเป็นวงกลม (Circular Motion) ให้ทั่วผิวหน้าก็ได้ ซึ่งทิศทาง คือ ด้านขวาปัดในทิศหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนด้านซ้ายปัดในทิศทวนเข็มนาฬิกา Dense/Coverage: ให้ความหนาของปริมาณเนื้อแผ้งบนผิวในระดับบางเบาถึงปานกลาง ⤑ แปรงคาบูกิ (Kabuki Brush) เป็นแปรงขนสัตว์รูปโดมกลมๆ ใหญ่ๆ บานๆ และมีด้านจับแบบสั้นๆ ใช้เพื่อปัดแป้งลงบนผิว Selection: ควรเลือกแปรงที่ขนนุ่มมากๆ ทำให้ใช้ปัดแป้งได้ในปริมาณที่บางเบาและเรียบเนียน Application Motion: ใช้งานโดยแตะแป้งลงที่ผิวก่อน แล้วจึงใช้การปัดหมุนเป็นวงกลม(Circular Motion) ให้ทั่วผิวหน้าก็ได้ ซึ่งทิศทาง คือด้านขวาปัดในทิศหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนด้านซ้ายปัดในทิศทวนเข็มนาฬิกา Dense/Coverage: ให้ความหนาของปริมาณเนื้อแผ้งบนผิวในระดับบางเบา ⤑ แปรงปัดแป้งขนหน้าตัด (Flat-Top Powder Brush) เป็นแปรงขนสัตว์ ที่มีขนด้านบนเป็นหน้าตัด ใช้เพื่อปัดแป้งลงบนผิว Selection: เลือกแปรงที่ที่มีขนาดพอดีไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ขนแปรงเป็นขนสัตว์ ที่มีความหยาบพอที่จะเก็บแป้งได้ดี แต่ยังคงมีความนุ่มไว้ในระดับที่ไม่ระคายเคืองผิวหน้า Application Motion: ใช้แปรงแตะแป้งให้แป้งติดทั่วหน้าติดของแปรง แล้วจึงนำมาแตะให้กระจายทั่วใบหน้า หลังจากนั้นก็ปัดหมุนเป็นวงกลมเล็กๆ ให้ทั่วผิวหน้า ซึ่งทิศทาง คือ ด้านขวาปัดในทิศหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนด้านซ้ายปัดในทิศทวนเข็มนาฬิกา Dense/Coverage: ให้ความหนาของปริมาณเนื้อแผ้งบนผิวในระดับปานกลางถึงสูง แม้ว่า แป้งจะเป็นไอเท็มที่สำคัญและอยู่คู่ผิวของเรามาตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว แต่การเลือกแป้งและใช้งานอย่างเหมาะสมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลย นะคะ หวังว่าเรื่องราวของแป้ง ในหัวข้อนี้จะให้ประโยชน์กับสาวๆ ทุกคน จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:49:23

ความคิดเห็นที่ 21 รีวิวแป้งและอุปกรณ์ ค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:50:48

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค้า ละเอียดมากเลย ยังอ่านไม่หมดแต่เก็บเข้าคลัง และบุคมาร์กไว้แล้วค่ะ เป็นกระทู้ที่เป็นประโยชน์มากๆสำหรับสาวที่แต่งหน้าไม่เป็นอย่างอิฉัน จากคุณ : เดือนเพ็ญฮอมแพง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:55:08

ความคิดเห็นที่ 23 หลังจากที่เราได้เรียนรู้ทฤษฎี ของ Makeup Master Class ไปแล้ว 4 เรื่อง ก็คือ    เมกอัพเบส (Makeup Base)    รองพื้น (Makeup Foundation)    คอนซีลเลอร์ (Concealer)    แป้ง (Makeup Powder) ในเทปนี้ ปุ้ยขอนำทุกคนเข้าสู่ภาคปฏิบัติ เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจสำหรับการนำไปใช้งานจริงค่ะ เริ่มจากขั้นตอนของเมกอัพเบส ไอเท็มที่จะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาของผิวหน้าในแบบเบื้องต้น ซึ่งเราควรเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน ซึ่งควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและใช้กับบริเวณที่มีปัญหาที่ต้องการแก้ไข เท่านั้น ในการสาธิตนี้ปุ้ยเลือกเมกอัพเบสที่จำเป็นสำหรับผิวหน้าของปุ้ย นั่นก็คือ เบสควบคุมความมันของผิว และเบสที่ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ขั้นตอนต่อไป คือ รองพื้น ไอ เท็มที่วัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อปรับสีผิวให้สม่ําเสมอและเรียบเนียน รวมทั้งสามารถปกปิดอำพรางจุดบกพร่องของผิวได้ในระดับปานกลางถึงมาก ซึ่งคราวนี้ปุ้ยไม่ได้เน้นที่ตัวผลิตภัณฑ์แต่จะเน้นที่การสาธิตให้เห็นถึง วิธีการใช้งานของอุปกรณ์แต่ละประเภท ที่เคยแนะนำไว้เอามาใช้ให้ดูทุกรูปแบบ ว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นนั้นเราสามารถนำมาใช้งานได้ในลักษณะไหนบ้าง ซึ่งได้แก่ แปรงขน 2 ชั้น (Duo-Fiber Brush) แปรงทารองพื้นรูปร่างแบน (Foundation Brush) นิ้วมือ (Fingertip) และ ฟองน้ำ (Sponge) ส่วน คอนซีลเลอร์ ไอเท็มที่วัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อปกปิดหรือซ่อนจุดบกพร่องต่างๆ ที่อยู่บนผิว ไม่ว่าจะเป็น รอยสิว รอยคล้ำ รอยแดง จุดด่างดำเล็กๆ แผลเป็น ฝ้า กระ และจุดบกพร่องอื่นๆ ที่ปรากฏบนผิวหน้าซึ่งปุ้ยสาธิตการเลือกคอนซีลเลอร์ปกปิดจุดบกพร่อง และเทคนิคการทาลงที่ผิวในแต่ละพื้นที่ โดยเลือกมาทั้งหมด 4 สี คือ    สีเนื้อ ให้ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา    สีเขียว ปกปิดรอยแดง ข้างปีกจมูก    สีเหลือง ใช้เป็นไฮไลท์บริเวณร่องแก้ม    สีน้ำตาลเข้ม ใช้เป็นเฉดดิ้งให้หน้าเล็กลง และขั้นตอนสุดท้าย คือ แป้ง ค่ะ มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อเซ็ทผิวหน้าหลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อ ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน โดยปุ้ยจะสาธิตการใช้อุปกรณ์ ให้เห็นว่าแต่ละชิ้นน้นใช้ยังไง ซึ่งจะนำอุปกรณ์ทั้งหมดที่เคยแนะนำไว้มา แนะนำวิธีใช้ให้ดู ได้แก่ แปรงปัดแป้ง (Powder Brush) พัฟ (Puff)แปรงรูปพัด (Fan Brush) แปรงปัดแป้งขนหน้าตัด (Flat-Top Powder Brush) และ แปรงคาบูกิ (Kabuki Brush) แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 14:56:36 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:55:13

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะรายละเอียดอย่างเยอะ เดี๋ยวค่อยๆอ่าน จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:57:21

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : เนียงละออ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 14:57:56

ความคิดเห็นที่ 26 เทคนิคการ ปกปิด รอยแดงจากสิววววววววววววว ค่าาาาา เริ่มจากขั้นตอนของเมกอัพเบส ไอเท็มที่จะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาของผิวหน้าในแบบเบื้องต้น ซึ่งเราควรเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน และควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและใช้กับบริเวณที่มีปัญหาที่ต้องการแก้ไข เท่านั้น ซึ่ง เมกอัพเบส ที่จำเป็นสำหรับคนที่มีปัญหาสิวและรอยแดง ก็คือ เบสสีเขียว ที่ช่วยอำพลางรอยแดง โดยเราใช้ในบนิเวณที่ผิวมีการอักเสบเป็นสีแดงเท่านั้นค่ะ ขั้นตอนต่อไป คือ รองพื้น ไอเท็มที่วัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อปรับสีผิวให้สม่ําเสมอและเรียบเนียน รวมทั้งสามารถปกปิดอำพรางจุดบกพร่องของผิวได้ในระดับปานกลางถึงมาก ควรเลือกใช้รองพื้นให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความจำเป็นในการปกปิดผิว ไม่ควร ใช้รองพื้นที่มีความหนาแน่นเกินความจำเป็น เพราะนอกจากจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดผิว แล้วยังอาจทำให้เกิดการอุดตันที่ส่งผลต่อการเกิดสิวอีกด้วย สำหรับคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย ซึ่งเกิดสิวจากการแพ้เครื่องสำอางง่ายๆ นั้น ควรเลือกรองพื้นประเภทมิเนอรัลเมกอัพ (Mineral Makeup) จะช่วยลดการเกิดสิวและการอักเสบของผิวได้นะคะ จากการสอบถามน้องเนมแล้ว น้องเป็นสิวเพราะวัย ไม่ใช่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง ดังนั้น ปุ้ยเลือกใช้รองพื้นเนื้อครีมที่ปกปิดแบบบางเบา เนื่องจากผิวหน้าของน้องเนม มีสุขภาพผิวที่ดีและไม่ต้องการปกปิดอะไรมาก นอกเหนือจากบริเวณรอยสิว ส่วน คอนซีลเลอร์ ไอเท็มที่วัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อปกปิดหรือซ่อนจุดบกพร่องต่างๆ ที่อยู่บนผิว สำหรับรอยสิวนั้น ควรเลือกคอนซีลเลอร์ที่มีเนื้อที่ค่อนข้างเข้มข้นมากๆ และมีเนื้อที่ไม่เหลวจนเกินไป วิธีการมีหลากหลายวิธี เช่น หากต้องการปกปิดเฉพาะจุด อาจจะใช้แปรงอันเล็กๆ มาช่วยในการแต้มคอนซีลเลอร์ลงที่ผิว จะให้ความแม่นยำและเข้าถึงพื้นที่เล็กๆ เฉพาะจุดได้ดี หรือถ้าต้องการปกปิดในบริเวณที่เป็นสิวเม็ดใหญ่ๆ ก็สามารถใช้แปรงเล็กๆ หรือปลายนิ้วมือก็ได้ หรืออีกเทคนิคที่กำลังเป็นที่นิยม คือ การใช้แปรงขนฟูๆ ที่ใช้สำหรับเกลี่ยอาชาโดว (ฺBlending Brush) มาประยุกต์ใช้ในเกลี่ยคอนซีลเลอร์ก็ได้ จากการทดลองใช้ทั้ง 3 วิธี พบว่า - การใช้แปรงหัวเล็กๆ ได้ระดับการปกปิดที่มาก แต่ขอบรอยต่อระหว่างรอยที่ปกปิดอาจจะไม่กลมกลืน จึงต้องใช้นิ้วมือ หรือ มุมของพัฟฟองน้ำ เข้ามาช่วยเกลี่ยรอยต่อให้กลืนไปกับผิว หน้า Area: Small and Precise | Coverage: High | Edge: not Smooth - การใช้นิ้วมือ ได้ระดับการปกปิดแบบปานกลาง เหมาะกับพื้นที่บริเวณกว้าง อย่างคนที่เป็นสิวที่ก่อตัวใกล้กันเป็นบริเวณ กว้าง Area: wide | Coverage: Light - Medium | Edge: rather Smooth - การใช้้แปรงเบลนดิ้งบรัช ก็ช่วยให้การปกปิดนั้นง่ายดายขึ้น เนื่องจากสามารถปกปิดบริเวณที่ไม่แคบไม่กว้างได้ในเวลาที่รวดเร็ว และขอบของรอยต่อในบริเวณที่ปกปิดยังกลมกลืนกับผิวรอบนอกได้ดี ได้ระดับการปกปิดแบบปานกลาง เหมาะสำหรับรอยสิวที่ไม่ได้มีสีเข้ม แต่หารอยสิวมีสีเข้มอาจจะต้องทำซ้ำ 2-3 รอบ Area: Pimple Point | Coverage: Medium | Edge: rather Smooth และขั้นตอนสุดท้าย คือ เซ็ตผิวด้วยแป้ง สำหรับคนเป็นสิวอักเสบควรใช้แป้งฝุ่นที่บางเบา หรือจะใช้แป้งประเภทมิเนอรัลเมกอัพก็ได้ ซึ่งแป้งที่จะช่วยให้การอำพลางผิวนั้นดูสมบูรณ์แบบมากที่สุด คือ แป้งที่มีส่วนผสมของพวกชิมเมอร์ประกายระยิบระยับ ที่จะช่วยกระจายแสงเพื่ออำพลางรอยสิวและจุดบกพร่องของผิวได้ดี การสาธิตนี้เกิดจากทฤษฎีและประสบการณ์ที่ปุ้ยได้เรียนรู้ ผนวกกับการตั้งสมมติฐาน การทดลองและการสรุปผลจากการแสดงให้เห็นนี้ ถ้าหากใครมีข้อสงสัย หรือมีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการปกปิดรอยสิวและรอยแดง ก็สามารถมาแชร์กันได้เลยนะคะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:03:51

ความคิดเห็นที่ 27 แชร์เทคนิคการปกปิดรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตา บอกลาแพนด้า กันเถอะค่ะ เริ่มจากขั้นตอนของเมกอัพเบส โดยเลือกใช้เมกอัพเบสที่เหมาะสมกับสภาพผิว และตามด้วยรองพื้นที่ให้ระดับพอดีสำหรับการในการปกปิดผิวที่เราต้องการ ส่วนเทคนิคการปกปิดอยู่ที่ ขั้นตอนของคอนซีลเลอร์ เพื่อปกปิดหรือซ่อนจุดบกพร่องต่างๆ ที่อยู่บนผิว นั้นเอง สำหรับรอยคล้ำบริเวณใต้ตานั้น ควรเลือกคอนซีลเลอร์ที่มีเนื้อที่ค่อนข้างเข้มข้นมากๆ และมีเนื้อที่ไม่แข็ง ไม่เหลวจนเกินไป หรือสำหรับคนที่ไม่ชอบเนื้อคอนซีลเลอร์หนาๆ จะใช้คอนซีลเลอร์สีส้มแอพริคอทหรือสีแซลมอน ที่เป็นคู่สีตรงข้ามกับรอยคล้ำม่วงๆ ช่วยอำพลางรอยคล้ำให้ดูจางลงแทนก็ได้ื ในกรณีที่เนื้อของคอนซีลเลอร์มีลักษณะแห้งจนเกินไปไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งาน เราอาจจะใช้เทคนิคการทำให้เนื้อคอนซีลเลอร์อ่อนตัวหรือเหลวลง เช่น การเอาไปอังกับไดร์เป่าผม หรืออังกับหลอดไฟที่แผ่รังสีความร้อนออกมา หรือ ใช้วิธีการผสมกับ Makeup Base หรือ Tinted Moisturizer ที่มีเป็นตัวทำละลายให้เนื้อคอนซีลเลอร์เหลวขึ้นได้ เวลานำไปใช้งานก็ง่ายขึ้นค่ะ ส่วนวิธีการทาคอนซีลเลอร์ มี 2 วิธี - การใช้นิ้วมือ ได้ระดับการปกปิดแบบปานกลาง เหมาะกับรอยคล้ำที่ไม่เข้มมาก Area: wide | Coverage: Medium | Edge: Smooth - การใช้แปรงขนสังเคราะห์สำหรับทาเนื้อครีมหรือแปรงทาคอนซีลเลอร์ ยิ่งขนแปรงมีความอ่อนตัวมากก็ยิ่งได้ระดับการปกปิดที่มาก แต่ขอบรอยที่ปกปิดอาจจะไม่กลมกลืน จึงต้องใช้นิ้วมือช่วยเกลี่ยรอยต่อให้กลืนไปกับผิวหน้า Area: Small and Precise | Coverage: High | Edge: not Smooth และขั้นตอนสุดท้าย คือ เซ็ตผิวด้วยแป้ง สำหรับบริเวณใต้ดวงตา ควรใช้แป้งในปริมาณที่น้อยมากๆ เพียงแต่ให้เนื้อคอนซีลเลอร์นั้นเซ็ทตัวก็พอ ซึ่งถ้าใช้แป้งที่มีส่วนผสมของพวกชิมเมอร์ประกายระยิบระยับ ก็จะช่วยใหบริเวณใต้ตาของเราดูสดใสและสว่างขึ้น ขอบคุณน้องเกด วิมลรัตน์ โพธิ์สวัสดิ์์ มาช่วยสาธิตในวันนี้ค่ะ การสาธิตนี้เกิดจากทฤษฎี และประสบการณ์ที่ปุ้ยได้เรียนรู้ ผนวกกับการตั้งสมมติฐาน การทดลองและการสรุปผลจากการแสดงให้เห็นนี้ ถ้าหากใครมีข้อสงสัย หรือมีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการปกปิดรอยคล้ำใต้ตาดีๆ ก็สามารถมาแชร์กันได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 15:10:27 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:07:12

ความคิดเห็นที่ 28 เทคนิคการปกปิดรอยดำ ฝ้าและกระที่เห็นชัดเป็นวงกว้าง เริ่มจากขั้นตอนของเมกอัพเบส โดยเลือกใช้เมกอัพเบสที่เหมาะสมกับสภาพ ผิว และตามด้วยรองพื้น โดยเลือกรองพื้นที่ให้ระดับพอดีสำหรับการในการปกปิดผิวที่เรา ต้องการ ในบริเวณผิวส่วนอื่นๆ ส่วนการปกปิดรอยกระมีเทคนิคหลากหลาย ซึ่งในเทปนี้ปุ้ยจะแชร์เทคนิคที่ง่ายและทำให้ผิวดูเรียบเนียนแต่ก็ไม่ดูเหมือนถูกปกปิดด้วยเมกอัพที่หนาจนเกินไป ด้วยการใช้รองพื้นที่ให้การกปิดระดับปานกลางหรือระดับสูง มาทาซ้ำลงไปในบริเวณที่เราต้องการปกปิดรอยกระที่สีเข้มและเป็นวงกว้าง อาจจะใช้การทาซ้ำ 2 - 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความเข้มของรอยกระ หรือจนกว่าจะปกปิดได้ในระดับที่เราพึงพอใจ ซึ่งเคล็ดลัดของการปกปิดด้วยการทารองพื้นซ้ำนั้น คือ ควรรอให้รองพื้นใช้ก่อนหน้าที่ทาไปแล้ว เซ็ทตัวกับผิวจนแห้งเสียก่อน จึงค่อยทาทับลงไปได้อีกครั้ง ในการทารองพื้นรอบแรก อาจจะใช้พัฟฟองน้ำช่วยเซ็ทให้ติดผิวได้ดียิ่งขึ้นได้ ส่วนในรอบที่ 2 เป็นต้นไป ควรใช้นิ้วมือ เป็นตัวช่วยเซ็ท เพื่อให้เนื้อครีมติดที่ผิวหน้าให้มากที่สุดค่ะ นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีวิธี ที่จะช่วยให้การปกปิดมีประสิทธิภาพและใช้เวลาน้อยลงได้ เช่น - การใช้เนื้อรองพื้นประเภทเนื้อครีมที่เข้มข้น สำหรับบริเวณที่เป็นรอยดำหรือรอยกระ เพื่อช่วยให้ปกปิดได้ดีขึ้น - การใช้คอนซีลเลอร์มาผสมลงไปกับรองพื้น ให้ได้ระดับการปกปิดที่มากขึ้น - การใช้คอนซีลเลอร์ที่เนื้อบางเบาปกปิดลงไปที่รอยกระก่อน แล้วจึงตามด้วยรองพื้นทับลงไป ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ควรจะใช้นิ้วมือของเราเนี่ยแหละค่ะ เพื่อที่จะให้ได้ระดับการปกปิดที่ไม่มากจนเกินไป และสามารถเบลนด์ได้บริเวณกว้างและได้ความกลมกลืนบริเวณขอบของรอยที่ปกปิด ด้วย และขั้นตอนสุดท้าย คือ เซ็ตผิวด้วยแป้ง สำหรับบริเวณที่เราปกปิดด้วยเนื้อครีมที่ค่อนข้างหนาอย่างนี้ ควรใช้แป้งในปริมาณที่น้อยมากๆ เพียงแต่ให้เนื้อครีมเซ็ทตัวก็พอ ซึ่งถ้าใช้แป้งที่มีส่วนผสมของพวกชิมเมอร์ประกายระยิบระยับ ก็จะช่วยกระจายแสงอำพรางให้การปกปิดดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น การสาธิตนี้เกิดจากทฤษฎีและประสบการณ์ที่ปุ้ยได้เรียนรู้ ผนวกกับการตั้งสมมติฐาน การทดลองและการสรุปผลจากการแสดงให้เห็นนี้ ถ้าหากใครมีข้อสงสัย หรือมีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการปกปิดปัญหาต่างๆ ของผิวก็สามารถมาแชร์กันได้ค่ะ ความสวยเป็นภารกิจของสาวๆ ทุกคน สวยงามอย่างสร้างสรรค์ แล้วอย่าลืมนำไปแบ่งกันให้กันและกัน นะคะ ขอบคุณพี่เพิร์ล  นิรชา ไกรวิมล พี่สาวคนสวย มาเป็นแขกรับเชิญให้เราค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:09:53

ความคิดเห็นที่ 29 บอกได้คำเดียวว่า ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : by iPhone (yukihana) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:10:07

ความคิดเห็นที่ 30 ท้วงเรื่องการพูดนิดนึงได้มั้ยอะคะ ถ้าพูด ร ล ชัดกว่านี้อีกนิดจะโอมากๆเลยค่ะ อย่างรองพื้นคุณพูดแล้วเป็นลองพื้นทุกทีเลย แปรงก็เป็นแปลง (จะมีใครหาว่าเราดัดจริตมั้ยอ่า T^T เราพูด ร ล ได้โดยไม่ต้องเกร็งอะ) แล้วก็มักจะพูดแบบไม่จบประโยคหรือตัดคำอะคะ ถ้าสามารถแก้ไขจุดเหล่านี้ได้จะเลิศสุดๆเลยค่าา ^______^ ไม่โกรธกันเนอะ เราชอบดูวีดีโอของคุณมาก รู้สึกว่าแต่งออกมาน่ารักทุกลุค มีแรงบันดาลใจในการแต่งตามบ้างอะค่ะ ส่วนเรื่องเหน่อหรือพูดเร็วเราว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่ได้พูดเร็วไปหรอกค่าา ยังไงก็รีกลับมาดูซ้ำได้อยู่แล้ว ปล.เซฟกระทู้ไว้อ่านแล้วด้วย 5555+ จากคุณ : SpiritDraconis208 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:12:27

ความคิดเห็นที่ 31 จบแล้วค่ะ ภาคทฤษฎีและปฏิบัติสำหรับ การแต่งผิวทั้งหมดทั้ง เมกอัพเบส รองพิ้น คอนซีลเลอร์ และแป้ง หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ อยากให้ผู้หญิงไทย สวยๆๆๆๆ กันทุกคน และปุ้ยคิดว่า การแต่งผิวเป็นส่วนที่สำคัญมาก ถ้าผิวสวยแล้ว ส่วนอื่นๆ แทบจะไม่ต้องแต่งอะไรมากเลยหละค่ะ จริงๆ นะ ไว้จะมาอัพเดทกันต่อในเรื่อง เทคนิคการให้แสงและเงา หรือ ไฮไลท์และคอนทัวร์ค่ะ ส่วนใครคิดว่าอันนี้มันจัดหนักจนเกินไป ก็มีคลิปที่ให้อุปกรณ์น้อยชิ้น และก็เทคนิคแต่งหน้าแบบสวยธรรมชาติด้วยนะคะ ขอแตกเป็นอีกกระทู้แล้วกันนะคะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:19:59

ความคิดเห็นที่ 32 ขอโทษด้วยเรื่องพูดไม่ชัดค่ะ ปุ้ยขอ สำนึกผิดด้วยใจจริง ค่ะ คุณ SpiritDraconis208 เป็นคนพูดไม่ชัด และพูดเร็ว แถมเหน่อจริงๆ ค่ะ มีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ว่าอยากทำให้ดูกันจริงๆ ถ้าให้ไปฝึกพูดก่อน คงจาไม่ทันการ แต่สัญญาว่าจะฝึกพูดให้ชัดขึ้นนะคะ ^ ^ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:22:00

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบดูคลิปคุณปุ้ยนะคะ ตามดูมานานละ หลังๆนี่คุณปุ้ยพูดชัดขึ้น มีจังหวะ มากขึ้นแล้วนะคะ เป็นกำลังใจให้และขอบคุณมากค่ะ ลิมบอกไปใช้เทคนิคตามความเห็น28 เทคนิคการปกปิดรอยดำ ฝ้าและกระที่เห็นชัดเป็นวงกว้าง ของคุณปุ้ยมาตลอดเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 55 15:45:01 จากคุณ : อโหสิกรรม เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:40:26

ความคิดเห็นที่ 34 ฮ่าๆๆ โอเคค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:41:52

ความคิดเห็นที่ 35 สำเนียงแบบนี้ก็เก๋ดีนะคะ เวลาฟังคนก้จะตั้งใจฟังมากขึ้นเพราะจะช่วยลุ้นตามตลอดว่าตรงไหนจะเหน่อไหม เพราะถ้าพูดเรียบๆไป คลิปเยอะและยาวขนาดนี้อาจจะหลับได้ค่ะ จากคุณ : เปรี้ยวซ่าส์บ้าบอ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:42:59

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 15:53:06

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : The little rabbit on the moon เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 19:42:44

ความคิดเห็นที่ 38 กระทู้จัดหนัก สาระล้วนๆ อ่านแล้วได้ประโยชน์ เหมือนเรียนหนังสือเลย 555+ จากคุณ : mee_vingt เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:01:27

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณค่าาาา มีประโยชน์มาก ๆ จากคุณ : hmeaw_nb เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:17:30

ความคิดเห็นที่ 40 ว้ายยย ชอบ คุณปุ้ยน่ารักมากอ่ะ แต่งหน้าสวยมากๆค่ะ จากคุณ : chubbypony เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:27:36

ความคิดเห็นที่ 41 มาเต็มมากกกก จากคุณ : คุณนายประกายเพชร เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:36:20

ความคิดเห็นที่ 42 กระทู้เลอค่ามากค่ะ จากคุณ : ฉันสวยเพราะคิดว่าฉันสวย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:37:49

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้ประโยชน์มาก คุณปุ้ยสอนไม่กั๊กเลยทีเดียว ^^ จากคุณ : เด็กหญิงหน้ากลม เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:44:14

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับเราพูดไม่เร็วไปนะคะ จากคุณ : MINNYMOCHA เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 20:53:19

ความคิดเห็นที่ 45 เยอะมากค่ั ตาลาย@@@ รู้สึกเหมือนกำลังเข้าคอร์สติวเข้มแต่งหน้า 555 เนื้อหาแน่นมากๆ เราว่าน่าจะแบ่งเป็นตอนๆ แยกคนละกระทู้ดีมั้ยคะ แต่เราก็แอบโหลดเก็บไว้แล้วแหละ ^^ ขอบคุณที่นำความรู้และสิ่งดีๆ มาแบ่งปันกันค่ะ จากคุณ : ยัยนู๋งก เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 21:20:30

ความคิดเห็นที่ 46 แบบนี้ไม่โหวตไม่ได้ค่ะ มีประโยชน์มากๆๆ จากคุณ : Gracey_DT เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 21:27:51

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณ คุณปุ้ยมากๆเลยค่ะ ขอให้กิ๊ฟแทนคำขอบคุณละกันค่ะ จากคุณ : lengafterwork เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 21:31:10

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณค่ะ เป็นข้อมุลที่มีค่ามากสำหรับเรา เลย   เราเป็นคนใช้รองพื้น เบสและคอน ไม่เป็น จากคุณ : ดอกเล็บมือนาง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 21:40:42

ความคิดเห็นที่ 49 เราชอบนะ พูดเหน่อ แต่ว่า มั่นใจ พัฒนาจากแต่ก่อนเยอะเลยค่ะ ที่ทำฮาวทู หรืออะไรซักอย่าง แบบถ่ายแต่วิดีโอ แล้วอัดเสียงเข้าไปภายหลัง เราว่าอันนั้นเสียงแอ๊บมาก ฟังแล้วยังไงๆอยู่ เทปนี้ถึงจะเหน่อ แต่ฟังสบายกว่าตอนนู้นนนค่ะ จากคุณ : Princess Priscilla เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:15:59

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณกระทู้นี้ค่ะ กำลังคิดจะไปเรียนแต่งหน้าอยู่พอดีเลยเชียว จากคุณ : Jina73 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:18:49

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ละเอียดมากได้ความรู้แน่นเลยค่ะ ^_^ จากคุณ : loli* เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:26:42

ความคิดเห็นที่ 52 มีประโยชน์มากๆ ขอบคุณมากค่ะ  ปล.จมูกน้องปุ้ยสวยมากค่ะ จากคุณ : ใจดีจัง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 22:41:54

ความคิดเห็นที่ 53 ความรู้มากมายค่าาาาา ^^ จากคุณ : อ้อมน้อยร้อยชั่ง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 23:11:45

ความคิดเห็นที่ 54 สุดยอดคะ จะได้หัดแต่งหน้าได้แล้ว ขอบคุณคะ จากคุณ : loveMoNe เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 55 23:41:44

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^ จากคุณ : ปิดปรับปรุงหน้าตา เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 00:16:36

ความคิดเห็นที่ 56 สุดยอด เป็นมหากาพย์ อยากจะบอกว่าเพราะบล็อกพี่ปุ้ย เลยแต่งหน้าตอนถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบได้เป๊ะแบบ ทุกคนชมว่าสวยกว่าช่างแต่งให้ กราบสามที ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ถึงจะรับปริญญาเมื่อสามปีที่แล้ว จากคุณ : ArtemissAss เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 01:16:25

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณนะคะ กำลังหัดแต่งหน้าอยู่อยากได้ข้อมูลพวกนี้พอดีเลย ^^ จากคุณ : หัวใจเคลื่อนไหวนะ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 01:20:09

ความคิดเห็นที่ 58 ปุ้ยดีใจมากๆ ที่มีคนเห็นประโยชน์ จากสิ่งที่ปุ้ยทุ่มเททำไปทั้งหมดนี้ เพราะอยากให้ผู้หญิงไทย สวยๆ กัน และมีความเข้าใจถึงพื้นฐานการแต่งหน้าที่ถูกต้องด้วย จะได้นำไปสู่การประยุกต์ให้เราสวยได้ในแบบของเราเองค่ะ ขอบคุณน้อง ArtemissAss ดีใจที่สุดเลย เวลาได้ยินคนบอกว่า ได้ลองนำสิ่งที่พี่สอนไปใช้ได้อย่างจริงจัง Princess Priscilla ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ ขอบคุณที่ที่จำได้ด้วย ตอนนั้นเครียดมาก ไม่มีความสามารถด้านการใช้เสียงหรือการพูดเลย แต่งหน้าเป็นอย่างเดียว แต่ว่ามีคนยื่นโอกาสมาให้ทำ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้ เลยออกมาทุกลักทุเลมากค่ะ อยากจะบอกทุกคนว่า ในโลกนี้ไม่มีใครเฟอร์เฟคไปซะทุกอย่าง ดูอย่างปุ้ยซิ แต่งหน้าเก่ง หน้าตาก็พอจะดูได้ แต่อย่าให้พูดนะ ดูด้อยค่าลงมาทันที (มีคนบอกปุ้ยไว้แบบนี้) ไม่มีใครเฟอร์เฟคไปทุกอย่างหรอกค่ะ เพียงแค่เราเป็นคนดีในแบบที่เราเป็น ให้ความสามารถดีๆ ที่เรามี ก่อประโยชน์ให้กับสังคม ได้เท่านี้ก็ถือว่า เจ๋งที่สุดแล้ว คุณค่าของตัวเรา อย่าให้ใครมาวัดหรือกำหนด มันอยู่ที่เรามองตัวเองค่ะ ^ ^ ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชม และเข้าใจในตัวตน รวมถึงเจตนารมณ์ ที่ปุ้ยต้องการนำเสนอ โดยมองข้ามจุดบกพร่องของปุ้ยไป ขอบคุณม๊ากๆ ค่าาาา จะนำคลิป และเคล็ดลับดีๆ มาแชร์กันเรือ่ยๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 55 01:32:41 จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 01:30:28

ความคิดเห็นที่ 59 ติดตามทุกคลิป พี่ปุ้ยทุ่มเทมากนะคะ รู้สึกได้มีประโยชน์มาก ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยสังเกตุ ^^ เรื่องพูดไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ฟังรู้เรื่องนะคะ จากคุณ : slimshadygrrl เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 02:23:11

ความคิดเห็นที่ 60 ใช่ๆ จริงๆไม่ได้แย่นะคะ ที่ท้วงก็อย่าซีเรียสไป แต่ถ้ามีโอกาสก็ค่อยๆแก้กันไป เพราะยังไงมันก็ไม่สำคัญเท่าเนื้อหาที่คุณปุ้ยต้องการนำเสนออะค่ะ เรารอดูวีดีโอต่อๆไปนะคะ จากคุณ : SpiritDraconis208 เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 09:02:24

ความคิดเห็นที่ 61 เราจะตามดูทุกคลิแอลย มีประโยชน์มากกกกกกกก ขอบคุณคุณปุ้ยที่นำมาแชร์จ้า จากคุณ : koon_orm เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 09:56:04

ความคิดเห็นที่ 62 มาให้กำลังใจจ้า จัดหนักจริงๆคงเสียพลังงานมากเลย ^_^ จากคุณ : pikju เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 10:17:43

ความคิดเห็นที่ 63 ติดตามคุณปุ้ย มาตลอดค่ะ ชอบมากๆเลย จากคุณ : edema คนตัวโต เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 13:37:19

ความคิดเห็นที่ 64 เปิดติวเข้มสักคอสนึงดีมั้ยคะ จขกท. ^^ จากคุณ : AuzakeA เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 14:11:48

ความคิดเห็นที่ 65 เกิดเป็นหญิง แท้จริงแสนลำบาก...  จากคุณ : หญิงรัตน์ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 14:54:14

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ จากสาวๆ พันทิพนะคะ เรือ่งจัดครอสก็เป็ฯความฝันอย่างนึง แต่ว่า ค่อนข้างลำบาก เพราะว่าใช้งบประมาณเยอะมาก ทั้งสถานที่ แล้วก็เครื่องสำอางด้วย แต่ถ้ามีใครแนะนำสปอนเซอร์ได้ ก็น่าจะลองทำกันดูนะคะท่าจะสนุก จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 15:28:06

ความคิดเห็นที่ 67 สงสัยว่าเราต้องรอนานกี่นาทีถึงจะลงผลิตภัณฑ์ตัวต่อไป เช่น ลงครีมบำรุง กี่นาทีถึงลงกันแดด  แล้วอีกกี่นาทีลงเมกอัพเบสค่ะ   รบกวนด้วยค่ะ จากคุณ : MamyPunboon เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 16:18:31

ความคิดเห็นที่ 68 กร๊ากกกกกกกกกกกก พี่ปุ้ยสวย ดูทุกคลิปเลยนู๋ น้องพี่แพท 55555555+ จากคุณ : friendzz1 เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 19:31:39

ความคิดเห็นที่ 69 เนื้อหาแน่นมากค่ะเข้าใจง่าย ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : FakeOVER เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 20:22:37

ความคิดเห็นที่ 70 เข้ามาขอบคุณก่อนเลย  เก่งมาก ๆ ค่ะ  ข้อมูลเพียบจริง ๆ จากคุณ : tawkanchana เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 20:42:38

ความคิดเห็นที่ 71 ชอบลุคสาวแว่นอ่ะค่ะ โมเอะ มาก ^_____^ จากคุณ : kate26august เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 20:51:27

ความคิดเห็นที่ 72 เคยดูคุณปุ้ยในรายการของ voice tv จากคุณ : บัดดี้ชาเย็น เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 20:53:51

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณคุณปุ้ยมากๆนะคะ หามานานแล้วค่ะกระทู้แบบนี้ เรามีความรู้มาบ้าง แต่มาเจอกระทู้นี้ความรู้แน่นเอี๊ยด ชอบมากๆ อยากบอกว่าเราอ่านทุกตัวอักษรเลยนะคะ จะลองเอาไปปรับใช้กับตัวเองดู ขอบคุณคุณปุ้ยมากๆนะคะที่เสียสละเวลามาให้ความรู้ ขอให้สิ่งดีๆที่คุณปุ้ยทำ ส่งผลใหคุณปุ้ยสวยขึ้นไปอีกเรื่อยๆๆ (ตอนนี้ก็สวยมากอยู่แล้วนะคะ) ส่วนเรื่องพูดเร็วไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ เราฟังได้เรื่อยๆสนุกดีค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ จากคุณ : หม้อแกงเมืองเพชร เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 21:41:46

ความคิดเห็นที่ 74 ตอบคุณ MamyPunboon จริงๆ คือไม่มีเวลาที่แน่นอน แล้วแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ค่ะ ให้สังเกตง่ายๆ ว่า เนื้อครีมที่ทาไปซึมเข้าสู่ผิวดีพอแล้วหรือยัง คือ ไม่มีลักษณะว่า ยังมีน้ำมันเยิ้มๆ ที่ผิวอค่ะ คำแนะนำคือ ควรทำครีมในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ครีมบำรุงผิว ในปริมาณที่พอเพียง ไม่มากจนเกินไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งรอให้มันแห้ง วิธีคือค่อยๆ ทาทีละนิดๆ ตามปกติแล้ว พอเกลี่ยลงที่ผิว (ทีละนิด) มันแทบจะซึมและแห้งไปในไม่กี่วินาทีค่ะ ไม่ถึงนาที ส่วนสเต็บของรองพื้นก็หลักการเช่นเดียวกัน รอไม่ถึงนาทีนะคะ พอทาครบทั้งหน้าแล้ว ส่งที่ทาไปก่อนหน้า มันก็แห้งพอดี ก็ทาคอนซีลเลอร์ต่อเลย เสร็จ ไม่ถึงนาที หยิบแป้งมาเปิดกระปุก หยิบพัฟ คอนซีลเลอร์ก็แห้งแล้วอะ หลักการ ที่สำคัญคือ ทาทุกอย่างในปริมาณที่น้องนิด แบบพอเพียงกับผิวค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 23:09:23

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณ friendzz1 น้องของน้องแพทนะคะ ขอบคุณ คุณ FakeOVER และ tawkanchana ชอบคำว่าเนื้อหาแน่น เพราะหลายคนอาจจะมองว่า เยอะ ^ ^ ขอบคุณ คุณ tawkanchana กับ คุณบัดดี้ชาเย็น ที่จำปุ้ยได้ ขอบคุณ คุณหม้อแกงเมืองเพชร ดีใจที่บอกว่า อ่านทุกตัวอักษร แสดงว่าตั้งใจมากๆ ไม่เสียแรงที่ปุ้ยเอามาแชร์ให้ ^ ^ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 23:12:57

ความคิดเห็นที่ 76 เยอะมากค่ะ ยังอ่านไม่หมด คลิปดูยังไม่ครบเลย ขอบคุณมากนะคะ ได้ความรู้ไปอีกเยอะเลย จะได้แต่งหน้าเจิดๆกับเขาบ้าง จากคุณ : BeNettY เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 01:50:31

ความคิดเห็นที่ 77 เก็บค่ะเก็บบ ชอบพี่ปุ้ยมานานแล้วว :) จากคุณ : berrypariiz เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:52:06

ความคิดเห็นที่ 78 กระทู้นี้เริ่ดสุดๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณปุ้ยที่เอามาแบ่งปันความรู้กันนะคะ จากคุณ : Staccato_note เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 16:47:39

ความคิดเห็นที่ 79 แต่งหน้า แต่ละลุคเป๊ะมากเลยจ้าา ชอบ ๆ ว่าง ๆ มา ทำ how to แต่งหน้านะจ๊ะ เค้ารออยู่ ส่วนเรื่องการพูด ก็ค่อย ๆ ฝึกจ้า อย่าต้อแต้ เด๋วก็เก่งขึ้นเองง้าบบบ จากคุณ : สาวทั้งแท่ง เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 17:16:00

ความคิดเห็นที่ 80 เสียงฟังเพลินดีค่ะ  ดูเป็นตัวตนของคุณจริงๆ  ไม่ได้ปรุงเเต่ง เราจะคอยให้กำลังใจ  เเละติดตามตลอดไปนะคะ จากคุณ : นางฟ้าตาตี่ เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 17:55:25

ความคิดเห็นที่ 81 จ้าขอบคุณมากค่ะ น้อง berrypariiz ขอบคุุณ คุณ BeNettY, Staccato_note และคุณนางฟ้าตาตี่ ด้วยนะคะ คุณสาวทั้งแท่งคะ ของปุ้ยทุกลุคมี How to วิธีแต่งหน้าหมดเลยค่ะ สามารถตามไปดูที่ Bloggang ปุ้ยได้นะคะ ไม่งั้นก็รออีกแป๊บนึง เดี๋ยวเอามาโพสต์วีดีโอให้ในนี้ก็ได้ค่ะ จากคุณ : PuY~isme เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 18:13:01