 |
ต้นทุนค่าน้ำยา ตามที่คุณ ~หวาน~ จริงค่ะ
แต่ว่า อย่างทำสีอย่างนี้ คนผมยาว อาจจะต้องใช้ 2-3 กล่อง
อีกอย่าง สีบางสี ทำยาก ต้องทำหลายขั้นตอน อย่างพวกสีเทา สีหม่น ถ้าผมดำมา ก็ต้องทำให้เกือบขาวก่อน ถึงจะลงสีได้เป๊ะ คือ อาจจะต้องฟอก หรือเขาเรียกว่าล้างสีก่อน ฟอกมันก็มีอย่างครีม อย่างผง ทีนี้ถ้าลงทีเดียวอาจจะได้เหลืองอมส้ม ต้องลงทับอีก เพื่อให้ได้อ่อนตามที่ต้องการ
ลูกค้าอาจจะนึกไม่ถึงว่า ค่าต้นทุนทำสี 2 กล่อง แค่นี้เอง บวกอะไรนักหนา ทำสีเสร็จ ก็อาจจะมีทรีทเม้นท์ใส่เพื่อบำรุงค่ะ (หลายร้าน รวมค่าทรีทเม้นท์ไปแล้วในค่าบริการ แต่บางร้านก็ไม่ได้รวม เพื่อให้ดูราคาว่าไม่แพง) บางร้านอาจจะมีเซรั่มใส่ทำสี หรือใช้ตัวหยุดเคมี หรือ แม้แต่อาหารผม ด้วย
ทีนี้ ยังมีต้นทุน +ค่าไฟ +ค่าน้ำ+ค่าเช่า+ ค่าจ้างช่างอีกด้วยน่ะค่ะ (ไม่เหมือนขายของ ที่เราแค่เอาต้นทุน มาบวกค่าจ้าง ค่าขนส่ง และก็กำไร แต่ไม่ได้ใช้ฝีมือ)
ยิ่งทำเลดี ค่าเช่าก็จะแพงขึ้นไปอีก เปิดแอร์ฉ่ำทั้งวันก็ ++ (ถัวเฉลี่ยกันไป)
ถึงจะ + กำไรเข้าไปได้อีก
ช่างดีๆ เขาถือเป็นวิชาชีพ เป็นศิลปะด้านนึงนะคะ ใช้เวลาเรียน ใช้เวลาฝึกกันนาน กว่าจะเก่ง (แล้วไม่ใช่ว่าทุกคนเรียนมาด้วยกัน ทำมาด้วยกัน แล้วจะทำได้เหมือนกันนะคะ มันเฉพาะตัว)
แล้ว ช่างเก่งๆ เขาก็อาจจะ + ค่าประสบการณ์ ความชำนาญเข้าไปด้วย เพราะว่าคนที่มีความชำนาญมาก โอกาสพลาดก็จะน้อย ถือเป็นค่าฝีมือเขา ที่คงที่แน่นอน ทำให้เรามีความเสี่ยงน้อยลง คือ เป็นช่างระดับฝีมือ ค่าัตัวก็จะแพงขึ้น
ตัวอย่างเปรียบเทียบ เป็นระดับแรงงาน กับ ฝีมือ ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดา กับ วิศวกรไฟฟ้า ค่าแรง,ค่าจ้าง,ความรู้,ฝีมือ ก็ต่างกัน เวลาที่ใช้เรียนก็ต่างกัน ระดับความรู้ก็ต่างกัน ช่างซ่อมธรรมดา จะให้เป็นวิศวเขาก็ทำได้ ก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติม เผลอๆ จะมีความรู้มากกว่า คนจบวิศวฯ อีก ส่วนวิศวกร อาจจะซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาๆ ไม่เป็นก็ได้
ราคาแพง ราคาถูก มันอาจจะไม่ใช่ปัญหาค่ะ อยู่ที่การตกลง ถ้าลูกค้า โอเค ยอมจ่าย ราคานี้ เพื่อจะทำกับช่างคนนี้ และใช้ผลิตภัณฑ์นี้
ทีนี้ เราในฐานะลูกค้า เราก็มีสิทธิ์เลือกได้ค่ะ สอบถามดูราคาก่อน ว่า ราคาเท่านี้ แล้วได้อะไรบ้าง แล้วจะมาบวกราคาเพิ่มหลังทำอีกไหม ถามๆ ล่วงหน้า กันไว้ก่อน
ถ้าเราเห็นว่าแพงเกินไป อย่างทำสีผม 3000 -4000 - 5000 นั้นเราสู้ไม่ไหว เราไม่ทำก็ได้ ก็ปฏิเสธ เขาไป ดีๆ แล้วเดินออกมาค่ะ ไม่ต้องคิดว่าเขาจะดูถูกหรอกค่ะ เพราะเราคิดว่า คงไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียวหรอกค่ะที่คิดว่าราคาแพงเกินไป เขาจะพูดก็ช่างเขาเถอะค่ะ เพราะเราเดินออกมาแล้ว ไม่ใช่เจอกันทุกวัน อย่าได้แคร์
อย่าไปรอจนเขาทำเสร็จ แล้วถามราคา ระหว่างทำ ถ้าเขาถามว่า เอานั่นไหม นี่ไหม ถ้าไม่เอาก็ บอกเขาดีๆ ว่าไม่เอาค่ะ แต่ถ้าคุณอยากทำ ถามเขาไปเลยว่าเท่าไหร่ เน้นๆ ให้เขาพูดราคาชัดๆออกมา
ทำเสร็จแล้ว ควรได้ราคาเป๊ะตามที่ตกลง ถ้ามันเกินจากความจริงมาก ก็อย่ายอมจ่ายง่ายๆ ขอคุยกับ จข.ร้าน หรือผจก.ไปเลยค่ะ ถ้าไม่ได้เรื่องยังไง ให้ตำรวจเคลียร์ให้ ไม่งั้นก็ไม่เข็ดหลาบ หากินแบบนี้อีก คิดราคาแพงเว่อร์เกินกว่าที่ตกลง อาจจะทำให้คุณหมดตัวได้
หมายเหตุเพิ่มเติม
ถ้าร้านบอกว่ายืดชิ ยืด ลอรีอัล ต่ำกว่า 1,000 ไม่น่าจะใช่แล้วนะคะ ยาก
จริงๆ น้ำยามีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้มากมาย แต่ลูกค้ามักรู้จัก ลอรีอัล หรือ ชิเซโด้เพราะมีมานาน และการโปรโมทเขาด้วย มาแรกๆ ก่อนยี่ห้ออื่น ชื่อเลยเป็นที่รู้จัก ทีนี้ พอลูกค้าถาม ถ้าเขาจะโกหก เขาก็บอกชื่อ 2 ยี่ห้อ นี้แหละ ไม่งั้นลูกค้าไม่ทำเพราะไม่รู้จัก ว่ายี่ห้ออะไร ก็กลัวไว้ก่อน หลายร้านเลยโกหก
จากคุณ |
:
โดดเดี่ยวผู้น่ารัก
|
เขียนเมื่อ |
:
5 เม.ย. 55 03:11:00
|
|
|
|
 |