วิธีป้องกันไม่ให้โดนโกง สำหรับการซื้อขายใน INTERNET
|
|
สวัสดีสาวๆ ห้องแป้งนะคะ
ช่วงนี้เห็นกระทู้โดนโกง และ กระทู้ปัญหาระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อกันบ่อย ตัวเราเองก็เป็นทั้งแม่ค้าที่ขายผ่านเน็ตและเป็นลูกค้าที่ชอบสั่งซื้อในเน็ตเหมือนกัน วันนี้ขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์การซื้อขายเผื่อไม่ให้โดนโกงหรือเข้าใจผิดกันนะคะ ใครมีวิธีลองมาช่วยกันแชร์เยอะๆ นะคะ
สำหรับผู้ซื้อ
1. กรณีสั่งซื้อสินค้าทางเว็ปไซค์ของผู้ขายโดยตรง - ดูที่หัวข้อการปรับปรุงเว็ป (ถ้ามี) ลองดูส่วนนี้ว่าเจ้าของเว็ปมีการเข้ามาอัพเดทเว็ปตัวเองล่าสุดเมื่อไหร่ ถ้าระยะเวลาไม่ทิ้งช่วงมากนักแสดงว่าผู้ขายมีการเข้ามาดูแลระบบตัวเองบ้าง - ดูเว็ปบอร์ด หรือ หัวข้อสอบถามสนทนาระว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย (ถ้ามี) ตรงส่วนนี้จะมีทั้งลูกค้ามารีวิวสินค้า แสดงว่ามีกาาซื้อขายกันจริง หรือถ้ามีการโกงกันลูกค้าไม่ได้รับของเราก็ได้เห็นกันจ่ะๆ ตรงส่วนนี้เลยค่ะ ถ้าเจ้าของเว็ปไม่ลบออกนะคะ
2. กรณีสั่งซื้อผ่านเว็ปฝากขายที่ไม่ใช่เว็ปของผู้ขายโดยตรง - ดูการสนทนาซื้อขายของลูกค้าท่านอื่นว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า - เว็ปฝากขายเป็นเว็ปที่เชื่อถือได้ เพราะบางเว็ปมีการเรียกเก็บบัตรประชาชนผู้ขายไว้เผื่อในกรณีการฉ้อโกง
3. ทั้ง 2 กรณี - ถ้าที่กล่าวมาไม่มีให้เราสังเกตุได้ ก็ให้ดูว่าผู้ขายระบุการติดต่อไว้อย่างไรบ้าง เช่น มีหน้าร้านไหม เบอร์โทร อีเมลล์ ให้ลองเอาเบอร์โทรหรืออีเมลล์ไป search ใน google
ตัวอย่างที่เราหาใน google นะคะ เช่น นายก.+089xxxxxxx+xxx@hotmail.com+โกง
-ดูวิธีการสั่งซื้อของผู้ขายให้ระเอียดและทุกครั้งก่อนโอนเงินต้องรอคอนเฟิร์มยอดที่แน่นอนเสียก่อน เช่น ราคาสินค้า+ค่าจัดส่ง คำถามที่เรามักจะถามแม่ค้านอกเหนือจากรายละเอียดสินค้าแล้วคือ ราคาสินค้ารวมค่าจัดส่งรึยัง หรือถ้าสินค้ามีราคาสูงมากก็จะถามว่ามีหน้าร้านไหม หรือนัดเจอกันได้ไหม
สำหรับกรณีผู้ซื้อถ้าตรวจสอบทั้งหมดแล้วก็ใช้วิจารณญาณโดยรวมตัดสินใจเองค่ะ ^^
4. หลังจากทำการสั่งซื้อและชำระเงินแล้ว เก็บสลิปหรือสแคปเพจในกรณีที่โอนทางเน็ตไว้จนกว่าจะได้รับสินค้า และกดfavorite หรือsave หน้าเว็ปที่ซื้อขายไว้จนกว่าจะได้รับสินค้าเช่นกัน
5. ดูการแจ้งเลขที่พัสดุของผู้ขายหรือระบุให้ผู้ขายแจ้งเลขที่พัสดุหลังจากส่งพัสดุให้แล้ว
สำหรับผู้ขาย
1. ในกรณีที่ลูกค้าสั่งซื้อแล้วเงียบหายไปนานยังไม่โอนเงิน ลองใช้วิธี search หาใน google ดูว่าลูกค้าคนนี้มีติด blacklist ที่ร้านอื่นหรือไม่ ถ้าติดก็ทำใจไปเลยค่า.. 2. เก็บสลิปการส่งไปรษณีย์ให้ลูกค้าไว้อย่างน้อย 2 อาทิตย์เพราะหากมีการตกหล่นของไปรษณีย์ก็ได้จะตรวจเช็คได้ หรือก่อนทิ้งก็เข้าไปตรวจสอบทุกครั้งว่าผู้ชื่อผู้รับของแล้ว 3. ในกรณีที่ตรวจสอบยอดชำระแล้วไม่มียอดเข้ามา ให้ตรวจสอบกับทางธ.ให้แน่นอนก่อน ถ้าไม่มีจริงๆ ให้ขอดูสลิปการชำระเงินจากลูกค้า ปัญหานี้ค่อนข้างยุ่งยากมากค่ะ แต่หากบริสุทธิ์ใจทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกันตรวจสอบได้ค่ะ 4. ชื่อที่อยู่ที่ทำการส่งให้ลูกค้าควรมีรายละเอียดชัดเจน เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ เพราะเราเคยเจอให้ส่งในนามชื่อเล่น เราก็เมลล์ถามเลยว่าแน่ใจใช่ไหมว่าให้ใช้ชื่อนี้ หรือบางท่านก็ไม่บอกตำบล (อันนี้เจอบ่อยมาก) เรียกว่าถ้าขาดอะไรก็ให้สอบถามลูกค้าให้แน่นอนชัดเจนก่อนทำการส่งสินค้าให้ลูกค้า
จบละค่ะ นึกออกแค่นี้ อันนี้เป็นประสบการณ์ของจขกท.เองนะคะ ใครมีวิธีดีๆ หรือนอกเหนือจากนี้มาแชร์กันได้จร้า..
จากคุณ |
:
winteera
|
เขียนเมื่อ |
:
19 เม.ย. 55 08:50:26
|
|
|
|