ความคิดเห็นที่ 1 ตอนไปแนะนำว่าให้พาเพื่อนไปด้วยนะคะ เพราะหลังจากทำแล้วควรมีคนพา กลับบ้านค่ะ ไม่ควรขับรถเองโดยเด็ดขาด เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่า "ทำไม" เมื่อเข้าไปถึงที่ The Klinique ก็นั่งรอสักพักค่ะ แล้วเค้าก็เรียกเข้าไปอ่านเอกสาร พร้อมเซ็นต์รับทราบข้อมูลการทำ รวมทั้งข้อตกลงเรื่องการผ่าตัดและความผิดพลาด ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้เราสามารถถามได้ทุกสิ่งที่อยากรู้ และถามเรื่อง เกี่ยวกับการดูแลหลังการทำ Vaser ว่าต้องทำอะไรบ้าง ดูแลอย่างไร ตอนนี้ควรถามให้ละเอียดเลยนะคะ สิ่งที่ควรถาม ถามว่าขั้นตอนการทำเป็นอย่างไรแบบละเอียด ถามถึงการดูแลแผล และการพักฟื้นว่าต้องทำอย่างไร ถามถึงข้อห้ามระหว่างการพักฟื้น ถามเรื่องระยะเวลาในการพักฟื้น และควรแจ้งเรื่องการแพ้ยาด้วยค่ะ เมื่อซักจนขาวแล้ว......ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ เหลือแค่เสื้อชั้นใน + กางเกงในกระดาษเท่านั้น จากนั้นคุณหมอก็จัดการขยำขยี้พุงเราเพื่อเช็คว่ามีไขมันส่วนเกินตรงไหนบ้าง แล้วก็เอาเมจิกมาวาด Contour บนพุงเราเป็นลวดลายสวยงาม.....5555++ ช่วงที่คุณหมอขยำพุงเราตรงนั้นตรงนี้....แอบมีหัวเราะก๊ากออกมา ก็มันจั๊กกะจี้อ่ะ 5555+++ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:24:05

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นพยาบาลก็เอายาคลายกังวลและยานอนหลับมาให้ทานค่ะ ทานเสร็จก็ขึ้นเตียงผ่าตัดนอนห่มผ้าค่ะ พยายามจะหลับ......แต่....ไม่หลับค่ะ ก็นอนหลับตาไปเรื่อยๆ แต่ก็ได้ยิน ได้กลิ่นพ่นยาฆ่าเชื้อ จนหมอเข้ามาจัดอุปกรณ์ เปิดผ้าห่ม คลุมผ้าเขียวเปิดช่องตรงท้อง แล้วทำการฆ่าเชื้อที่พุงทั้งหมดเลยค่ะ คุณหมอก็บอกว่า ฉีดยาชา เจ็บหน่อยน๊าาาา.....ฉึกๆ 2 เข็ม ตรงท้องน้อย เอาล่ะ.....เดี๋ยวชั้นคงหลับ นับแกะก็ได้วะ....ตัวที่ 1 ตัวที่ 2....... แล้วหมอก็ลงมีดเจาะหน้าท้อง 2 รูเบาๆ.....กรี๊ดดดด....อิช้านนนยังไม่หลับ แต่ไม่เจ็บ...ก็ไม่เป็นไร นอนหลับตาไปเดี๋ยวก็หลับ นับแกะต่อดีกว่า... กำลังจะเคลิ้ม หมอก็สอดท่อใส่น้ำเกลือค่ะ เพื่อแยกชั้นไขมันก่อนเป็นน้ำเกลือผสมยาชา คราวนี้ล่ะค่ะ ตาสว่างเลย.....สอดไปถึงไหน เจ็บไปถึงนั่น รู้สึกได้ถึงน้ำเกลือ ที่ปล่อยพรืดๆๆๆๆ....ร้องโอยๆๆ น้องพยาบาลใจดีช่วยจับมือไว้ หมออัดน้ำเกลือไปประมาณ 1600 cc. ค่ะ......พุงเป่งเลย 5555+++ รอ 8 นาที......เริ่มชาแล้วค่ะ ชีวิตเริ่มสบาย.....นึกว่าจะหลับได้ หมอถามว่าไม่หลับเหรอ....ความจำดีไหม งั้นจำให้หมอนะว่า 850 เดี๋ยวเสร็จแล้วหมอจะถามอีกที แม่มเอ๊ยยยยย ไม่หลับค่ะ.....เอาวะ ไม่หลับก็ไม่หลับแล้ว ชวนหมอคุยเลยแล้วกัน 55555+++ แล้วคุณหมอก็เริ่มสอดเครื่องมือไฟเบอร์ลำแสงพลาสมาขนาด 400 ไมครอน มีเสียงจี๊ดๆ...วิ้งๆ....เข้าไปจี้ตามจุดต่างๆให้ทั่วท้องทั้งส่วนบนส่วนล่าง เพื่อให้ไขมันแตกตัวออกมาค่ะ ขั้นตอนนี้ไม่เจ็บค่ะ ชาไปหมดแล้ว....555++ แต่ขอบๆที่ยาชาไปไม่ถึงก็มีเจ็บจิ๊ดๆนะคะ.....แค่พอครางโอยเบาๆ พอจี้ด้วย Laser สลายไขมันและจี้เซลล์ไขมันให้ตายลง จนไม่สามารถกักเก็บไขมันได้อีกต่อไปเสร็จ ก็ได้เวลาดูดค่ะ.....คุณหมอก็จัดการเอาท่อขนาดเท่าหลอดกาแฟนี่แหละค่ะ เสียบเข้ามาดูดไขมันออกไป ซึ่งตอนนี้คุณหมอต้องขยำพุงเราขึ้นมาเพื่อให้ ท่อดูดดูดไขมันออกมา ตอนนี้ไม่เจ็บค่ะ....รู้สึกสบายดีไม่เจ็บเลย ตอนนี้เริ่มเพ้อเพราะเมายานอนหลับแล้วค่ะ....นอนมองไขมันตัวเองไหลลง กระบอกด้านข้างแล้วคิดอะไรก็ไม่รู้เลยพูดออกมาว่า...."ไขมันแบบนี้นี่เอง ที่พวกนาซีเอาไปทำสบู่".......5555+++ พอดูดใกล้จะหมดแล้ว ตอนนี้เริ่มเจ็บแล้วค่ะ ดูดตรงไหนเจ็บตรงนั้นเลยค่ะ แล้วความเจ็บก็เสร็จสิ้นด้วยความรวดเร็ว สิ่งที่ออกมาอยู่ในกระบอกทั้งหมด 1400 cc. ค่ะ เป็นไขมันล้วนๆ 850 cc. และมีน้ำเกลือและเลือดนิดหน่อยอีก 550 cc. ค่ะ โอ้วววว.....พุงกะทิของช้านนนนนนนนนน จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:25:02

ความคิดเห็นที่ 3 ดูดเสร็จแล้ว....พุงเหี่ยวเลย มีรอยช้ำแดงนิดหน่อยเพราะคุณหมอขยำซะ ตอนดูดไขมันออกค่ะ....มีรูเจาะ 2 รูค่ะอยู่ใต้บิกินี่ไลน์นิดนึงค่ะ จริงๆ....คุณหมอให้เลือกวิธีการปิดแผล มี 2 วิธีค่ะ วิธีที่ 1 คือเปิดรูไว้ ให้ของเหลวไหลออกมา ก็จะบวมน้อยหน่อย แต่ต้องดูเแลแผลดีๆ ต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลบ่อยๆ วิธีที่ 2 คือเย็บปิด ให้ของเหลวที่เกิดขึ้นร่างกาย Absorb เอง ก็จะบวมมากหน่อย หายช้านิดนึงแต่ดูแลแผลง่าย เลือกแบบที่ 2 ค่ะ.....เพราะคงต้องล้างแผลเอง แบบที่ 2 คงจะดูแลง่ายกว่า จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:25:52

ความคิดเห็นที่ 4 คุณหมอก็เลยเย็บให้ค่ะ รูละ 2 เข็ม....แต่เย็บแบบหลวมๆหน่อย เผื่อให้ของเหลว อย่างน้ำเกลือและเลือดที่คั่งอยู่ไหลออกมาได้บ้างค่ะ เสร็จแล้วก็ต้องใส่สเตย์ค่ะ รัดไว้ 24 ชม. เป็นเวลา 4 สัปดาห์ค่ะ o_O" ที่ต้องรัดไว้ขนาดนั้นเป็นเพราะ ผิวหนังและผนังกล้ามเนื้อด้านในมันเคยมีชั้นไขมัน ประสานกันไว้อยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ชั้นไขมันหายไปแล้ว เลยต้องรัดมันไว้เพื่อให้ ผิวหนังทั้ง 2 ชั้นติดกันค่ะ ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะมีน้ำไปแทนที่ เกิดเป็นถุงน้ำ อาจจะทำให้พุงยิ่งป่องไปกว่าเดิม เดือดร้อนต้องมานั่งเจาะกันอีกภายหลัง รูปนี้เหมือนมีสะดือ 3 อันเลยค่ะ 5555+++ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:26:30

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องตลกมันเริ่มจากตรงนี้ค่ะ คือตอนทำเจือกไม่หลับ ทำเสร็จเจือกเมายาค่ะ เดินเซเลย..คล้ายคนเมาเหล้า เหมือนจะมีสติค่ะ พูดจารู้เรื่อง เดินไปฉี่ ยื่นนามบัตรให้หมอพร้อมเขียนอีเมล์ ลิ้งค์บล้อก และ เฟซบุ๊คให้ด้วย......แต่เขียนผิดถูกยังไงไม่รู้นะ 555++ มานั่งฟังหมออธิบายเรื่องการทานยาอีกครั้งนึง ซึ่งจำได้แต่ยาแก้อักเสบ ต้องทานให้หมดนะ พร้อมให้ยามาถุงเบ้อเริ่ม ดังนั้นคนที่ฟังและจำการกินยา ทุกอย่างคือคนที่ไปด้วยค่ะ ในที่นี้คือคุณแฟน ที่จะเป็นคนพากลับบ้าน และจัดยาให้ ออกจากคลินิกได้ก็ว่าะเดินไปขึ้น Taxi กลับบ้านเลยค่ะ แต่ไม่มีคันไหนไปเอกมัยเลย คุณแฟนเห็นเราเดินได้ลั้นลาก็เลยถามว่า กลับ BTS ไหวไหม??? อิชั้นก็ตอบ โอเค๊.....แวะไปเดินงานหนังสือก็ด๊ายยยยยยย เค้าก็บอกว่า กลับบ้านก่อนเห๊อะ ระหว่างทางเดินไปทะลุ Digital Gateway เดินผ่านร้านขายผลไม้ อิชั้นก็ชี้ จะกินส้มเช้ง....เอา 2 ถุง.....ผ่านน้องเด็กขายกล้วยปิ้งก็ชี้....จะกินกล้วยปิ้ง คุณแฟนก็แสนใจดี....ซื้อให้ทุกสิ่ง เดินขึ้น BTS คุณแฟนก็ประคองไปตลอดเพราะเดินเซมาก....ขึ้นรถไฟฟ้าได้ ก็ยืนยิ้มชวนแฟนคุย เราไปเดินงานหนังสือกันเหอะ ผ่านอโศกก็บอกว่าไปกิน ข้าวแกงกะหรี่กัน พอถึงพร้อมพงษ์แฟนก็ถามว่า นี่สถานีอะไร.....เราก็งงๆ แล้วตอบว่าไม่รู้......เค้าก็บอกว่าที่เธอชอบมาช๊อปปิ้งไง..... อ๋อ.....พร้อมพงษ์ งั้นเราไปกินฟูจิกันเหอะ หรือจะไปกินข้าวขาหมูตรงฟู๊ดคอร์ทดี เค้าหัวเราะก๊ากกกก แล้วบอกว่า "กลับบ้านกันก่อน" พอถึงเอกมัยก็ต่อแท็กซี่เข้าบ้านค่ะ ขึ้นแท็กซี่ปั๊บหลับปุ๊บ....เค้าก็เริ่มกังวลว่า ถ้าถึงบ้านจะเอาเราเข้าบ้านยังไงถ้าปลุกไม่ตื่น.....เค้าก็เดินมาเปิดประตูอีกข้าง เราก็ลุกเดินเข้าบ้านแต่โดยดี พอถึงบ้าน....ก็ทิ้งตัวลงนอน "กลางบ้าน" เลยค่ะ แล้วก็หลับ.......ยาวววว แต่แม่บอกว่าไม่ได้หลับนะ ยังคุยกะแม่อยู่เลยว่าเจ็บ ต้องเปลี่ยนผ้าปิดแผล ต้องไปซื้อผ้าก๊อซเพิ่ม ต้องกินโจ๊ก ต้องบลาๆๆๆ......แบบว่าพูดรู้เรื่องมาก 55555+++ คุณแฟนก็ออกไปซื้อผ้าก๊อซแบบสเตอร์ไรด์มาให้ พร้อมโจ๊กด้วย (ซึ้งใจมาก) แล้วแม่ก็เปลี่ยนผ้าแปะแผลให้เพราะมันเปียกค่ะ มีน้ำปนเลือดคล้ายๆน้ำล้างเนื้อ ไหลออกมาจนแฉะเลยค่ะ ออกมาจากรูข้างซ้ายข้างเดียว แม่ก็เปิดแผลเปลี่ยนให้ คุณยายก็เดินมาดูนึกว่าแผลใหญ่มาก ออกปากว่า "แผลเล็กนิดเดียวเอง" ตอนที่แม่ทำแผลให้ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ หลับสนิทมาก......คร่อกกกกก จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:28:18

ความคิดเห็นที่ 6 ตื่นอีกทีทุ่มนึงได้ค่ะ (ทำตอนเที่ยง กลับถึงบ้านบ่ายสามค่ะ) แม่ก็ให้ขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงเพราะเปื้อนหมด และเปลี่ยนผ้าปิดแผลด้วยเพราะ เปียกอีกหมดแล้ว จนแม่คิดนวัตกรรมจากสนามรบขึ้นมา 5555++ ทายซิมันคืออะไร แม่เอาผ้าก๊อซฆ่าเชื้อปิดแผลและแปะทับด้วยผ้าอนามัย 2 ผืนยาวต่อกัน ปิดทั้ง 2 รู......เริ่ดป่ะล่ะ ทีนี่ล่ะ "เอาอยู่" 55555+++ น้ำออกมาเยอะเหมือนกันค่ะ เต็มแผ่นผ้าอนามัยเลย พอตอนนอนก็แปะแบบนี้อีกรอบ ตื่นเช้ามา.....ไม่มีน้ำออกมาเลยค่ะ แห้งแล้ว เย้!!!! เช้านี้หายมึนแล้วค่ะ เริ่มทำแผลเอง.....มีรอยช้ำนิดหน่อย แผลก็หน้าตาดีอยู่ ล้างแผลเองค่ะ เช็ดด้วยน้ำเกลือรอบๆแผล เช็ดแอลกอฮอล์รอบปากแผล ใส่เบตาดีน.....แล้วปิดแผลเหมือนเดิม ยังคงต้องใส่สเตย์ตลอดเวลา ยกเว้นตอนเช็ดตัวอาบน้ำค่ะ ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ แล้วก็ต้องระวังเรื่องการทานอาหารด้วยค่ะ งดน้ำอัดลม งดทานเค็ม งดผงชูรส ทานอาหารอ่อนๆ ตลอด 2 อาทิตย์ค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:29:21

ความคิดเห็นที่ 7 วันแรกหลังการทำก็ยังคงเจ็บค่ะ.....><" เจ็บเหมือนโดนสอบสมรรถภาพซิทอัพ 300 ทีโดยไม่เตรียมตัวมาก่อน วันที่สองหลังการทำ เจ็บน้อยลง แต่บวมมากขึ้นค่ะ บวมจนสเตย์แน่นมาก และเริ่มระบมมาก วันนี้ทรมาณที่สุดค่ะ แต่ก็ไปทำงานตามปกตินะคะ วันที่สาม......เริ่มเจ็บน้อยลงไปอีก ที่บวมมากๆก็เริ่มยุบนิดนึง แต่ก็ยังแน่นๆ อยู่ดี....มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อค่ะ ตอนเย็นมีท้องเสียด้วยนิดหน่อย น่าจะเป็นเพราะยาแก้อักเสบที่ทานค่ะ แกะสเตย์เปิดพุงถ่ายรูปสักหน่อยค่ะ รูปด้านหน้า....พุงยังบวมอยู่นะคะ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 15:30:59 จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:30:34

ความคิดเห็นที่ 8 รูปด้านข้างซ้าย....ยังบวมเป็นลอนๆอยู่เลย รูปด้านข้างขวา....ก็ยังบวมๆอยู่ แต่ทั้งหมดจะเห็นว่า......มันไม่มีรอยช้ำเลย.....เจ๋งโคตร ตอนนี้ต้องระมัดระวังการกินมากค่ะ กินแต่น้อย ไม่งั้นจะเจ็บค่ะ แล้วอาหารก็จะ ไม่ย่อยด้วย ท้องอืดง่ายมากค่ะ....ถามหมอว่า มันจะแบนไปอีกนานไหม หมอบอกว่าถ้าระวังเรื่องการทานและออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่ได้ 10 ปี ค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:31:44

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพไคลแม็กซ์ที่ใครๆเห็นก็ตกใจ......before & after ค่ะ ระยะเวลา 3 วันหลังทำค่ะ ซึ่งยังบวมอยู่นะคะ มดบอกว่า....เหมือนก่อนคลอดกับหลังคลอด.....5555+++ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีเอวและท้องแบนได้ขนาดนี้.....เจ็บตัวขนาดนี้ ถามว่าคุ้มไหม......ขอตอบว่า โคตรคุ้มเลยค่า....Y_Y ต่อไปนี้คงต้องระวังเรื่องการกินและการออกกำลังกายให้มากขึ้นค่ะ เพราะความงามครั้งนี้แลกมาด้วยเลือด....และน้ำตาเลยค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:32:36

ความคิดเห็นที่ 10 พอครบ 10 วันก็ไปตัดไหมตาที่หมอนัดค่ะ รอนานพอสมควรเพราะที่คลินิกคนไข้เยอะมากค่ะ แต่ตัดไหม 10 วินาทีเสร็จ ยังไม่ทันหายใจเข้าออกก็ตัดเสร็จแล้ว คุณหมอบอกว่าแผลดีมากค่ะ ส่วนที่ท้องก็ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยเวลาลุกนั่ง หรือกระเทือนแรงๆค่ะ บวมอยู่บ้าง บริเวณใต้สะดือลงไป ส่วนบริเวณรอบสะดือยังบวมอยู่ ต้องคอยนวดเบาๆ มันจะเจ็บนิดๆ ก็นวดไปจนกว่าจะหายเจ็บค่ะ เวลานั่งนานๆแล้วยืน จะรู้สึกตึงๆเหมือนมีอะไรมายึดอยู่ข้างในค่ะ ไม่ต้องตกใจ เวลายืนก็ยืดตัวสักหน่อย เดี๋ยวก็หาย คอยยืดและนวดบ่อยๆนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นไตและผังผืดข้างใน วันที่ 15.....ที่บวมเริ่มยุบหมดแล้วค่ะ แต่ยังคงเป็นไตๆอยู่ ก็ต้องคอยนวดอยู่เรื่อยๆ แผลก็ยังคงตกสะเก็ดอยู่ สะเก็ดของน้ำตาลยังไม่หลุดค่ะ นานมากไม่หลุดสักที ก็ได้แต่ทาครีมไปเรื่อยๆ มาดูกันค่ะว่า วันที่ 15 แล้ว พุงเป็นไงบ้าง ที่เคยบวมเป็นลอนๆ ไม่ค่อยมีแล้วค่ะ ใต้ผิวยังเจ็บอยู่เล็กน้อย นวดๆก็หายค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:33:34

ความคิดเห็นที่ 11 มาดูภาพเทียบกันระหว่างวันที่ 3 กับวันที่ 15 ค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:34:54

ความคิดเห็นที่ 12 แล้ววันที่ 17 สะเก็ดของรูข้างซ้ายหลุดออกค่ะ เลยเห็นว่าผิวหนังชั้นบนมันยังไม่ติดกัน....อั๊ยหย่ะ แถมยังมีซีรั่มซึมๆออกมาด้วย เอาไงดี....เลยข้อความไปถามคุณหมอธรรมรัตน์ผ่านเฟซบุ๊ค พร้อมแนบรูป ไปให้ด้วย แอบนอยด์เล็กน้อยที่เห็นแผลไม่ปิด ><" คุณหมอตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรเป็นเรื่องปกติเพราะตอนเย็บเย็บให้หลวมๆ เพื่อให้สามารถเดรนของเหลวออกมาได้ เดี๋ยวมันก็ติดไปเอง ให้ล้างแผลไปตามปกติ อย่าให้ถูกน้ำ แล้วทายาแก้อักเสบต่อไปอีกสักอาทิตย์ มันจะดีขึ้นเอง คือข้างในมันโอเคแล้ว เหลือแต่ผิวชั้นนอก ไม่น่ากังวล แต่ให้ทานยาไว้ก่อน กันการติดเชื้อ ก็ยังแอบนอยด์อยู่ดี.....ตกเย็นเลยมาเปิดพุงให้น้าสาวที่เป็นหมอดู เค้าก็บอกอย่างที่คุณหมอบอกเป๊ะเลย....เลยชิลด์ 555++ อีก 3 วัน แผลก็ติดกันจริงๆค่ะ ตอนนี้อีกข้างก็กำลังจะมีชะตากรรมเดียวกันค่ะ ตอนนี้ก็ล้างแผลติดพลาสเตอร์ กันน้ำเวลาอาบน้ำตามปกติค่ะ....เดี๋ยวก็หาย ^^ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:35:42

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังต้องใส่สเตย์รัดพุงไว้ 24 ชั่วโมงเหมือนเดิมค่ะ ถอดออกเฉพาะตอนอาบน้ำเท่านั้น..... ข้อดีของมันคือทำให้ทานได้ไม่มากค่ะ ถ้ามากไปนิดจะแน่นและปวดท้อง เลยทำให้น้ำหนักเริ่มลดลงค่ะ ข้อเสียคือ....ช่วงนี้อากาศร้อนมากกก รัดไว้แล้วเดินกลางแดดคันค่ะ ต้องอยู่ในที่เย็นๆเท่านั้น จะดีที่สุด จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:36:02

ความคิดเห็นที่ 14 ลากันไปด้วยภาพสุดท้ายค่ะ พัฒนาการตั้งแต่ก่อนทำ มาจนถึงวันที่ 15 ค่ะ เห็นรูปแล้ว มันเป็นความเจ็บที่คุ้มค่าจริงๆเลย พับผ่าสิ ><" จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:36:42

ความคิดเห็นที่ 15 ขอปาดคะ สุดยอดมากเลยคะ ไม่ทราบว่า เสียค่าเสียหายไปทั้งหมดเท่าไรเหรอคะ ขอบคุณมากคะ จากคุณ : สายลมแ่ห่งกาลเวลา เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:47:16

ความคิดเห็นที่ 16 ค่าเสียหายเท่าไรค่ะ จากคุณ : air (nuttreeyaporn) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:50:07

ความคิดเห็นที่ 17 ค่าใช้จ่ายในการทำครั้งนี้ Vaser HD 19,900+10,000/จุด โปรโมชั่นซื้อ 3จุด แถม 1จุด ................6จุด แถม 5จุด ................9จุด แถม 5จุด ผ่อน0%. 6-10เดือนค่ะ สามารถแชร์กับเพื่อนได้ อย่างน้ำตาลทำ 2 จุดก็จ่ายเพียง 44,850 บาทค่ะ [(19,900+10,000) x 3] / 2 คน = 44,850 บาท เรื่องราคาแต่ละคนไม่เท่ากันนะคะ คือจำนวนจุดที่ต้องการทำไม่เท่ากัน ยังไงก็โทรสอบอีกครั้งจะดีกว่าค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:54:43

ความคิดเห็นที่ 18 น่าสนใจมากๆ ปกติค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ จขกท พอทราบมั๊ยคะ? จากคุณ : by iPhone (bluemercury) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:57:59

ความคิดเห็นที่ 19 ค่าใช้จ่ายตาม คคห.ที่ 17 เลยค่า ^^ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 15:59:09

ความคิดเห็นที่ 20 โอโห ดูดีขึ้นมากๆค่ะ จากคุณ : heavensent เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:15:32

ความคิดเห็นที่ 21 เรากลัวเจ็บ เลยไม่คิดทำพวกนี้เลย ขอบคุณค่ะ ที่มารีวิว จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:18:50

ความคิดเห็นที่ 22 โอย เจ็บแทน แต่ยอมรับว่าดูดีขึ้นแบบทันใจจริงๆ รบกวนสอบถาม จขกท.หน่อยค่ะ การดูดไขมันในปัจจุบันยังอันตรายถึงชีวิตอยู่หรือเปล่าคะ จากคุณ : *~ดอกเดซี่สีชมพู~* เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:46:00

ความคิดเห็นที่ 23 อันตรายที่ว่าจากการดูดไขมันหรือจากการวางยาคะ เราว่ามันปลอดภัยกว่าแต่ก่อนเยอะนะคะ เพราะไม่ต้องกระแทกเพื่อให้ไขมันแตกตัวเพื่อดูดออกอย่างแต่ก่อน แต่ใช้ Ultra Sonic หรือ Laser ช่วยสลายไขมันก่อนดูดออกมา ทำให้เลือดออกน้อย การช้ำที่ผิวหนังก็น้อยลง เท่าที่เคยสอบถามคุณหมอนะคะ เรื่องของอันตราย หมอบอกว่า ที่ตายๆกันเนื่องจากการวางยาค่ะ ถ้าวางยาสลบควรทำในโรงพยาบาลค่ะ ที่มีวิสัญญีแพทย์แบบครบทีมค่ะ แต่ถ้าทำในคลินิกไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่เป็นแค่ผ่าตัดเล็กก็ใช้วิธีทานยานอนหลับแทนค่ะ ซึ่งถ้าต้องการดูดออกในปริมาณมากๆ หลายๆจุด คุณหมอก็แนะนำให้ต้อง ไปทำในโรงพยาบาลที่มีการวางยาสลบและมีวิสัญญีแพทย์ค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:57:35

ความคิดเห็นที่ 24 ภาวะ pulmonary embolism จากการดูดไขมันค่ะ คลับคล้ายคลับคลาว่าอ่านเจอในกระทู้แนะนำห้องแป้งนี่แหละค่ะ ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลนะคะ ^^ จากคุณ : *~ดอกเดซี่สีชมพู~* เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 17:11:07

ความคิดเห็นที่ 25 ดีใจด้วยนะคะ  ไม่มีพุงแล้ว แต่สำหรับเราขอ sit up เหมือนเดิมละกัน กลัวเจ็บ TT จากคุณ : costarica เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 17:11:49

ความคิดเห็นที่ 26 ตาม คห 25 เลย กลัวแผลกลัวเลือด ยิ่งน้ำอะไรไหลออกมาเต็มแผ่นผ้าอนามัยนี่เราอ่านแล้วจะเป็นลม ง่า ซิตอัพต่อไปเหมือนกัน ยินดีด้วยนะคะที่สวยทันใจ พุงแบนจริง *ออกจากกระทู้ไปอย่างหวาด ๆ* จากคุณ : PuppyPower เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 17:47:42

ความคิดเห็นที่ 27 โห before กะ after เห็นชัดเลยค่ะ ดีใจด้วยนะคะ พุงกระชับสวยเลย ปล. อ่านท่ีคุณน้ำตาลเล่าปสก.เมายาแล้วโคดตลกเลยอ่ะค่ะ 5555 ขำไปเสียวพุงไปด้วย จากคุณ : by iPhone (puberty) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:31:13

ความคิดเห็นที่ 28 เปีะค่ะ น่าสนจริงๆ จากคุณ : GDArock เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:21:09

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อสิบปีที่แล้วพี่สาวเพื่อนเราไปทำตรงแถวคลองเตย 50,000 ทั้งพุงเลยนะคะ กลับเข้าบ้านช้อคตาตั้ง สลบไปเลย แล้วพอฟื้นก้อ่อนเพลียพูดก้ไม่มีแรงจะเปล่งเสียง พุงยุบแต่ไม่ผอมนะคะ อวบเท่าเดิม ต่อมาไม่นานสักห้าหกเดือน แกก้กลับมาพุงป่องเหมือนเดิม แกก้ไม่เข็ดกลับไปดูดอีก สมัยก่อนเค้าเรียกอย่างนั้น น่ากลัวเนอะ แกไปคนเดียวค่ะไม่มีใครไปด้วย แล้วพอแกขับรถกลับบ้านรถแกก้มาประสานงากะปิ้กอัพตรงสาธร คอหัก ขาหักหมดค่ะ เสีบชีวิตคาพวงมาลัย แพทย์วินิจฉัยว่าแกหมดแรงแล้วตาลายเพราะแกขับรถ พุ่งไปชนปิ้กอัพก่อนค่ะ  เล่าทำไมเนี่ยะ ขอโทษค่ะ คือแค่อยากบอกว่าสมัยนี้ไม่น่ากลัวอย่างแต่ก่อนแล้วแค่นั้นเอง เผลอเล่าเรื่องน่ากลัว เวลาไปก็ทำแบบจขกท.นะคะเอาเพื่อนไปด้วยจะได้ปลอดภัยค่ะ จากคุณ : แม่ ป่าคุง (PAKUNGKUB) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:23:07

ความคิดเห็นที่ 30 *~ดอกเดซี่สีชมพู~* ภาวะ pulmonary embolism คือภาวะลิ่มเลือดและฟองอากาศในเส้นเลือด ซึ่งทำให้เกิดอาการหัวใจวาย เสียชีวิตได้ ถามว่าการดูดไขมันยังมีโอกาสเกิดภาวะนี้ได้จนอันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ต้องตอบตรงๆว่ามีค่ะ แต่น้อยลงมาก เพราะการที่จะเกิดภาวะนั้นได้มักจะต้องเกิด จากการฉีกขาดของเส้นเลือดที่ใหญ่พอสมควร ซึ่งมักจะเกิดจากการกระแทกเพื่อให้ไขมันแตกตัว แต่ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นค่ะ เลยลดความเสี่ยงลงไปได้เยอะค่ะ แต่ภาวะ  embolism หรือการเกิดฟองอากาศในเส้นเลือด มันก็จะเกิดได้แม้กระทั่ง การฉีดยาชาแล้วค่ะ ดังนั้นแพทย์ที่ทำต้องมีความชำนาญค่ะ ซึ่งก่อนทำน้ำตาลก็ถามหมอถึงเรื่องนี้ค่ะ หมอเค้าก็ตอบให้อุ่นใจนะคะ ว่าไม่เกิดแน่ๆ และบอกว่าที่นี้มีเครื่องช่วยชีวิตเพื่อป้องการการเกิดเหตุไม่คาดคิดด้วย อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนใช่ไหมคะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็เชื่อมือหมอล่ะค่ะ อาจจะเพราะกลัวเรื่องนี้ด้วยเลยไม่ยอมหลับ ทั้งที่กินและฉีดยานอนหลับไปแล้ว 5555++ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:56:53

ความคิดเห็นที่ 31 ขออนุญาตตอบเรื่อง embolism ก็แล้วกันนะคะ Embolismก็คือภาวะที่มีอะไรซักอย่างไปอุดเส้นเลือดที่ไหนก็ตาม การดูดไขมันมักเสี่ยงต่อภาวะ pulmonary embolism เพราะเลือดจะไปแลกเปลี่ยนที่ปอด ซึ่งสิ่งที่ไปอุดก็มักเป็น ไขมัน การเกิดปัญหาก็เกิดจาก ถ้าไขมันที่หลุดเข้ากระแสเลือดมีขนาดใหญ่แค่ไหน ใหญ่มาก ก็ทำให้เลือดไปปอดไม่ได้ ท้นกลับหัวใจเกิดภาวะหัวใจวาย น้ำท่วมปอด ซึ่งถ้าเกิดต่อให้อยู่รพ ก็ยังยากในการช่วย แต่โอกาสเกิดน้อยมากในปัจจุบัน ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ค่ะ  ส่วนอากาศต้องปริมาณมากจริงๆ ค่ะถึงเกิดเรื่อง จากคุณ : cherryra197 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:10:05

ความคิดเห็นที่ 32 สงสัยค่ะ ทำไมมันเป็น 19900+10000  มันแยกเป็นค่าอะไรกะอะไรเหรอคะ จขกท.ทำสองจุดคือเค้าคิดท้องบน ล่างใช่มั๊ยคะ แล้วที่รัดหน้าท้องนี่ก็ต้องเตรียมหาซื้อไปก่อนไปทำใช่มั๊ยคะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 05:26:09 จากคุณ : ขาวฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 05:24:43

ความคิดเห็นที่ 33 มันเป็นราคา Vaser ธรรมดา กับ + เพิ่มถ้าเป็น Plasma HD ค่ะ จุดที่เค้าคิด คิดตามรูที่เจาะค่ะ ที่รัดหน้าท้องทางคลินิกเตรียมให้ค่ะ แต่แนะนำให้ซื้อของทางคลินิกเพิ่มอีกตัวค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากคลินิกอื่นด้วยนะคะ และยังไงก็ลองโทรสอบถามดูอีกที เราเองก็ได้ Information มาเท่าที่เขียนน่ะค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 10:25:38

ความคิดเห็นที่ 34 ขอรบกวนถามด้วยค่าว่า การเพิ่ม Plasma HD  นี้ จะดีกว่าแบบ Vaser ธรรมดา  ยังไงบ้างคะ ขอบคุณนะค้า จากคุณ : Marseillaise เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 16:43:29

ความคิดเห็นที่ 35 Vaser ธรรมดาก็คือการดูดไขมันออกมาเฉยๆค่ะ แต่ดีกว่า Lipo Suction แบบเดิมคือไม่ต้องกระแทก แต่ใช้คลื่น Ultrasound เข้าไปสลายไขมัน ถึงทำให้ดูดออกมาง่ายขึ้นค่ะ ไม่ค่อยช้ำและไม่ค่อยมีการฉีดขาดของเนื้อเยื่อเท่าแบบเดิม แต่ไขมันก็สามารถกลับมาสะสมในจุดเดิมได้ ส่วน Vaser Plasma HD ดีกว่าแบบธรรมดาตรงที่มีการจี้เลเซอร์กำจัดเซลล์ ต้นกำเนิดถุงไขมันค่ะ ไขมันก็จะไม่กลับมาสะสมในบริเวณเดิมอีก ในวิธีการสลายไขมันแล้วดูดออกทั้งสองอย่างเหมือนกันค่ะ จากคุณ : bemynails เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 23:29:32