ความคิดเห็นที่ 1 แอบมาจอง คึคึคึ จากคุณ : star_candy เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:19:50

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนแรก คือเรื่องของจิตใจ ออกตัวก่อนว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ค่ะ แต่ในความรู้สึกแม่ชีมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ  อาจแรงในความรู้สึก หรือบางคนไม่รู้สึกก็ได้ แต่อย่างให้พิจารณาดูว่ามันจริงหรือไม่ ก่อนหน้าจะถือศีลแม่ชีก็ปกติ กินทุกอย่างที่อยากกิน อวบซะ พอถือศีล 8 ต้องกิน 2 มื้อ มีความหิวและอยากที่ไปกระจุกตัวที่ 2 มื้อจัดหนัก ในระหว่างนั้นก็วิปัสนาดูตัวเองไปด้วย เรียนรู้ว่ายักษ์ คือความดุร้าย เปรตคือผู้สภาวะอยากหิวกระหาย ปากเล็กกินไม่ได้ โหยหวนความยากอยู่รำไป กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ  พอถึงเวลาอาหาร ซึ่งอย่างที่บอกว่าความอยากมันจะไปกระจุกอยู่ที่ 2 มื้อ พอวิปัสนาตัวเองตอนนั้น ก็รู้เลยว่า เราหิว เราจะกินทุกอย่างเพราะจะไม่ได้กินอีก พอถึงเวลากิน ก็ตักใส่ปาก รู้รสว่าอร่อย รีบเคี้ยวแล้วก็กลืน เพื่อตักอีก กินแล้วรู้สึกอร่อย เคี้ยวเร็วมาก เพื่อที่ตักอีก กินอีก ตักอย่างนั้นอีก หยิบอันนี้อีก นั้นคือสื่งที่แม่ชีเห็นตัวเอง ก็ดูไปเรื่อยๆ แล้วมันก็มีบางอบางแวบขึ้นมา ว่า " เหมือนเปรต เลย"  ตอนนั้นสะดุ้งกินไม่ลงเลย มองดูพฤติกรรมตัวเองตอนนั้น ยอมรับว่าอาการเหมือนเปรตจริงๆ กินไปเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แค่ว่ากิน กิน กิน  ไม่ต่างกับเปรตที่ปากเล็ก แค่นั้นแต่ก็ยังจะกินอยู่ตลอด ร่างกายเราก็เท่านี้ แต่เพราะอยากก็กิน กิน กิน ก็กินอีก สรุปคือเคี้ยวช้าลง กลืนแทบไม่ลง สังเวชตัวเอง อร่อยอยู่ค่ะ แต่ความรู้สึกเหลือแค่ว่ามันคืออาหารแล้วละ  แม่ชีมองสังขารตัวเองแล้วเถียงพระพุทธเจ้าไม่ได้เลยว่าส่วนที่เกินนั้นมันเกินมาจากไหน นอกจาก ความตะกละ  ที่เราไม่เคยมองเห็นมัน  ถ้ากินให้มีชีวิตอยู่ มันพอดีกับร่างกาย มันไม่มีทางอ้วนได้เลย เวลามองเห็นคนอ้วนก็หลบตาไม่ดูค่ะ ไม่ว่าเขา ไม่โทษเขา  แต่ที่หลบไม่มอง เพราะไม่กล้าปะทะกับ ความตะกละ ที่เจ้าของสังขารนั้นไม่รู้ว่า มี ค่ะ ที่แม่ชีพูดไป ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนที่จะปฏิเสธ หรือหาเหตุผลอื่นๆ ในความเกินของแต่ละคนได้ แต่แม่ชีใช้เหตุนี้เป็นที่ตั้ง จึงไม่เคยมีส่วนเกินค่ะ  ขออนุญาตขึ้น คห.2  เพื่อ ขึ้นส่วนที่ 2 ของการกำจัดส่วนเกินค่ะ จากคุณ : ratawan-pug เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:25:30

ความคิดเห็นที่ 3 ดูกาย ดูใจ สินะคะ _/l\_ จากคุณ : WorMHoliC เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:39:11

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนที่สอง   เรื่องของสารอาหารที่กิน ก่อนที่จะเป็นแม่ชีตัวอวบค่ะ แต่ขี้โรค หมอบอกว่าขาดสารอาหารก็งง อวบซะขนาดนี้ ขาดสารได้ไง ปีที่แล้วหมอแจ้งว่าเป็นโรคเลือดรักษาไม่ได้ เพราะเป็นที่ DNA ทำได้แค่บรรเทาอาการ ให้กินอาหารที่มีประโยชน์  ก็เลยจัดหนัก ทั้ง 3 มื้อผลคือน้ำหนักขึ้น แต่ไม่แข็งแรง  หมอบอกว่าลดแป้งลงและให้ทานผักและโปรตีนเยอะ จึงเปลี่ยนใหม่ดังนี้ 1.หลังตื่นนอน  ไข่ต้มหรือไข่ดาวน้ำ 2 ใบ + กาแฟ 2.มื่อที่ 1   ข้าว 1 ทัพพี  กับข้าวเป็นผัก กับ เนื้อสัตว์ ผลไม้ กับข้าว 2-3 อย่าง 3.มือที่ 2   ข้าว 1 ทัพพี กับข้าว 1 อย่าง 4.ก่อนนอน โอวัลติน 1 แก้ว ผลไม้ ขอยกกรณีศึกษา เมนูอาหารของแมชี มีอยู่ว่า วันหนึ่งแม่ชีจัดอาหารไปกินที่ทำงาน เมนูวันนั้นมี แกงเห็ดผักหวาน ปลาทูทอด 1 ตัว ไข่ต้ม 1 ใบ แหนมแท่งป้าย่น 1 แท่งเล็ก ข้าว 1 ทัพพี  มีเพื่อนเดินผ่านมาถามแม่ชีว่า "คนสวยเอาอะไรมากิน" เขามองดูอาหารที่แม่ชีกินแล้วก็พูดขึ้นว่า " กินง่ายดี นึกว่าจะกินอะไรที่มันดีกว่านี้"  แม่ชีก็ขำในความคิดของเขา ก็เลยแกล้งแหย่เขาไปว่า "อาหารดีดี หน้าตาเป็นไง" แม่ชีก็รู้อยู่แล้วละว่าเขาไม่รู้ ก็ยิ้มให้นะ -แกงเห็ดผักหวาน ผักรวม มีเกลือแร่วิตามินเยอะมาก และก็ได้เรียนรู้อาหารวัฒนธรรมของเพื่อนร่วมงานเราด้วย -ไข่ต้ม เป็นโปรตีนระดับซุปเปอร์ฟูด มีครบทุกอะมิโน ซึ่งไม่มีในเนื้อสัตว์ และการกินเนื้อสัตว์ทำให้อ้วน แม่ชีจะเลือกโปรตีนจากไข่เสมอ -ปลาทูทอด  ของกินง่ายเก็บได้นาน มีโปรตีน โอเมก้า ฯลฯ -แหนม ไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่ชอบก็กินค่ะ -ข้าว 1 ทัพพี  ถามว่าพอไหม ทีทำงานแม่ชี้เนื้อที่ 72 ไร่ แมชี้ต้องเดินตรวจวันละ 2 รอบ ยังพอเลย สาวๆ นั้งออฟฟิต นี่เหลือเฟือค่ะ เมื่อถึงอย่างลงไปอยู่ในท้องมันครบถ้วนทุกสารอาหาร  พูดง่ายๆ คือ เราต้องสำรวจอาหารที่เรากินว่าเราเอาเข้าไปครบถ้วนไหม เพียงพอกับร่างกายหรือเปล่า อะไรที่ชอบแล้วมีประโยชน์กินค่ะ อะไรที่ไม่มีประโยชน์กินได้แต่อย่าเยอะ   อย่าอดค่ะ เพียงแต่เราต้องรู้จักเลือกที่จะกิน นำรูปหน้าตาแกงเห็ดมาฝากค่ะ จากคุณ : ratawan-pug เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:48:56

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนที่ 3  ปริมาณและความเหมาะสม(สุดท้ายแล้วจ้า) 1.ใหม่ๆ อาจจะเลือกไม่ถูกปริมาณมากไป น้อยไป ก็พิจารณาเอาค่ะ พอเราปรับสารอาหารที่กินเข้าไป น้ำหนักในร่ายกายจะลงไปเองอย่างต่อเนื่องและสุขภาพจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนที่เกินอยู่ก็อาจจะต้องใช้เวลา อย่าถามตัวเองว่าเมื่อไหร่จะลด หรือผอม แต่พิจารณาดูว่าเรากินครบไหม ขาด หรือ เกิน พอดีหรือเปล่า สังขารก็คือสังขาร นะ อย่าไปสนใจมันมาก 2.การจัดเมนูอาหารก็พิจารณาดูว่าอะไรที่ถูกกับเราอะไรไม่ถูกกับเรา แม่ชีไม่ถูกกับนม เนย ช็อคโกแลต อย่างแรก แม้แค่เพียงนิดก็อ้วนแน่นอ้วนนาน ก็ทานนะ แต่ทานน้อย อาศัยตอดเอาวันละหน่อย ก็ไม่มีส่วนเกินค่ะ และเคยพลาดสั่งแกงป่ามากินกับผักขิงใส่หมู ผลคือเผ้ดร้อนในท้อง รักษาโรคกระเพาะไป 1 อาทิตย์  ค่อยเรียนรู้ตัวเองไป ก็จะเข้าที่เข้าทางไปเอง   3.เวลาอยากกินทำไง  ถ้าตอนนั้นในร่างกายยังไม่มีสารอาหารอะไรก็กินค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีประโยชน์หรือทำให้อ้วน แต่เราต้องยอมรับว่าเราก็เสียสิทธิในการกินอาหารอย่างอื่นๆ ด้วย  แม่ชีกินทุกอย่าง ค่ะ แต่ดูว่าอะไรมาก อะไรน้อย ไม่เคยอด และไม่สนับสนุนให้ใคร อด  มันเหมือนการแต่งตัว แต่งหน้า นั้นแหละค่ะ หลักการเดียวกัน เพียงแต่เป็นอาหาร ถ้าใครต้องการขอคำปรึกษาก็หลังไมค์ได้ค่ะ ไม่อยากให้เนื้อหามันเยอะ เลยขอหยุดไว้แค่นี้ แนบรูปแม่ชีมาให้ดูด้วย ว่าเป็นคนธรรมดาจริงๆ  ไม่ได้โกนหัวแล้วแอบเล่นเน็ต  คริคริ จากคุณ : ratawan-pug เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:04:00

ความคิดเห็นที่ 6 อ้าว ลืมรีไซส์รูป ขอโทษอย่างแรง... สาธุ สาธุ จากคุณ : ratawan-pug เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:08:39

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้ก็กำพยายามลดน้ำหนักอยู่เหมือนกันค่ะ และก็คงจะเป็นโรคแพ้พวกนมเนย อย่างแรงเช่นกันค่ะ เพราะลองหยุดทานแล้วสองวันน้ำหนักลดเกือบๆหนึ่ง กก พอลองกลับมาทานอีกก้เพิ่มเกือบเท่าที่ลดไปเลยค่ะ ไม่ทราบว่าคุณ ratawan-pug ออกกำลังกายด้วยไหมค่ะ และเคยทานพวกอาหารเสริมลดน้ำหนัก  Bios Slim SX อยากลองซื้อมาทานแต่กลัวไม่ได้ผลค่ะ จากคุณ : Madam google เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:32:54

ความคิดเห็นที่ 8 สมัยก่อนแม่ชีเคยเข้าครอส์ของคลินิค ใช้ยาลดน้ำหนักค่ะ ลงจริงเร็วด้วยแต่โทรม แอลคาเนทีน เคยอุดหนุนเพื่อนด้วยความเกรงใจ  LCH ก็เคย แค่หน้าท้องยุบนิดหน่อย ไม่ได้ส่งผลอะไรเท่าไหร่  แม่ชีออกกำลังมากไม่ได้ค่ะเป็นความดันต่ำเป็นโรคเลือด เดี๋ยวเป็นลม แต่ที่น้ำหนักลงทั้งตัวจริงๆ ไม่โทรม แข็งแรงขึ้น และ ผิวพรรณดีขึ้น เพราะเลือกอาหารที่กิน เลือกเวลาที่จะกิน  ผลไม้กินทั้งวัน  ของชอบจะจัดไว้มื้อแรกของวันทั้งหมดค่ะ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงาน ทานน้ำร้อนอุ่นๆ บ่อยๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุน เร่งกระบวนการเผาพลาญพลังงานค่ะ จากคุณ : ratawan-pug เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 04:02:59

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นประโยชน์ค่ะ แม่ชี นึก ๆ แล้วเราเหมือนเปรตจริง มีอะไรก็จับเข้าปากตลอดเวลา จากคุณ : ม่านบาหลี เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 04:32:56

ความคิดเห็นที่ 10 แม่ชี ตัวบ้ากินเลยค่ะ อยากกินแล้วต้องกินให้ได้ ขับรถทั่วกทม.เพื่อหามากินให้ได้ก็ทำมาแล้วค่ะ  ทุกวันนี้ก็เป็นแต่น้อยลงเยอะ แยกได้ว่าอันนี้ร่างกายต้องการหรือเปรตต้องการ เวลาอยากกินในช่วงเวลาที่ไม่ควร ก็จะรู้แหละ ฮั่นแน่ เปรตโผล่มาอีกแล้ว   ไม่สนับสนุนให้อดนะคะ กินได้ค่ะถ้าคุณอยากกิน เพียงแต่ต้องรู้เท่านั้นเองว่าอะไรที่เราควรกิน หรือไม่ควรกิน เดี๋ยวร่างกายเข้าที่เองค่ะ  อย่าเศร้า อย่าไปเครียด เรากินเข้าไปได้ เราก็เอาออกได้  เพียงแต่มันต้องใช้เวลา จากคุณ : ratawan-pug เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 05:16:30

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณที่มาแชร์ค่ะ ได้ประโยชน์หลายอย่างเลย ได้คิดในเรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อน ... จากคุณ : circle mirror เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 07:16:15

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้วได้คิด-คิดได้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : มะนาวเค็มปี๋ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:13:26

ความคิดเห็นที่ 13 เรายังชอบ อร่อย อยู่ มันยากจริงๆ จากคุณ : มาสแตงค์ชิวชิว เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:56:11

ความคิดเห็นที่ 14 เก่งมากนะ แม่ชี (ขอเรียกด้วยคน) ดูสวยทั้งกายและใจจริง ๆ จากคุณ : เพียงใจผูกพัน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:33:10

ความคิดเห็นที่ 15 แกงเห็ดใส่ผักหวาน ของโปรดเลยค่ะ อิอิ เห็นด้วยทุกประการค่ะ กินให้ถูก อย่าอด ลดได้ และอย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะคะ..... จากคุณ : นู๋มาริ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 15:45:48

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนเป็นนักเรียนเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า พระสายปฏิบัติท่านเคยบอกว่า "กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ปฏิบัติให้มาก" จะพยายามทำนะคะหลวงพ่อ จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 19:42:08

ความคิดเห็นที่ 17 พยายามคิดว่า มันอร่อยแค่ตอนอยู่ในปาก พอกลืนลงไปแล้ว มันก็เหมือนๆ กัน จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 10:35:11

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านแล้วได้คิดเลยคะ ตอนนี้คิดแต่ว่ากลับไทยจะต้องกลับไปกินอะไรบ้าง พออ่านแล้วมีสติขึ้นเยอะเลยคะ ขอบคุณมากน่ะคะ :) จากคุณ : puff_pear เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 20:37:35

ความคิดเห็นที่ 19 นึกถึงสภาพตัวเองเวลากินๆๆ ตอนหิวๆเลยละ จากคุณ : เจ๊บังบาน (l2Pleak) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:27:01