- SK-II Thailand ขออนุญาตตอบเป็นประเด็น ๆ ละกันนะคะ สำหรับข้อสงสัยแรกคือเรื่องเกี่ยวกับ พิเทร่า ได้ผ่านการฆ่าเชื้อยีสต์ให้ตายก่อนหรือไม่ คำตอบนะคะ พิเทร่าคือของเหลวที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ชนิดพิเศษ ไม่ได้มาจากการสกัดจากเหล้าสาเกตามที่หลายคนเข้าใจคะ ในกระบวนการผลิตเป็นระบบปิดจึงมั่นใจได้ถึงความสะอาดปลอดภัยซึ่งเอสเคทูให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นของการผลิตค่ะ ในพิเทร่าหรือผลิตภัณฑ์ SK-II Facial Treatment Essence จึงไม่มียีสต์เป็นส่วนผสมอยู่ค่ะ
- SK-II Thailandประเด็นที่สอง พอเวลาผ่านไปแล้ว เอ็สเซ็นต์มีกลิ่นและสีเปลี่ยนไป เป็นไปได้ค่ะ หากเก็บขวดบรรจุภัณฑ์ในที่ ที่มีอากาศร้อนหรือโดนแสงแดดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีหรือกลิ่นได้บ้างในบางกรณีคะ แต่ก็ยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อยู่ค่ะ โดยปกติแล้วเราจะแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ประมาณ 2มล ต่อครั้ง หากใช้กับแผ่นสำลี จะมีขนาดประมาณเหรียญ 10 ค่ะ
SK-II Facial Treatment Essence 150ml จะใช้ได้ประมาณ 45 วันคะ บางท่านเปิดขวดแล้วใช้ไปนานกว่า 6 เดือน อย่างนี้อาจใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับที่เอสเคทูแนะนำไว้นะคะ อาจเห็นผลช้า หรือไม่ได้ประสิทธิผลตามที่ควรได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ค่ะ - SK-II Thailandประเด็นที่สาม เชื้อยีสต์ยังมีชีวิตอยู่แล้วเจริญเติบโตสร้างกลิ่น ยืนยันค่ะว่าไม่มียีสต์ในผลิตภัณฑ์คะ พิเทร่าคือของเหลวที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ชนิดพิเศษค่ะ ไม่มียีสต์อยู่ในพิเทร่าหรือผลิตภัณฑ์ของเอสเคทูคะ ส่วนกลิ่นหรือสี่ที่เปลี่ยนไปนั้น คุณไม่ได้อุปธานไปเองกะ ในบางกรณีกลิ่นหรือสีอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปเนื่องมาจากความร้อนหรือแสงแดดที่ทำปฏิกริยากับผลิตภัณฑ์คะ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ตามข้อแนะนำเพื่อประโยชน์สูงสุดนะคะ ^^ เพราะมีบางท่านใช้ SK-II Facial Treatment Essence 150ml นานมากกว่า 6 เดือนหลังการเปิดขวด อันนี้ใช้ในปริมาณที่น้อยเกินไปในแต่ละครั้งตามที่ได้เรียนให้ทราบค่ะ ทางเอสเคทู ยินดีตอบทุกคำถามเพื่อให้ทุกท่านได้ผูกพันกับเอสเคทูอย่างเต็มที่นะคะ มาเก็บผิวกระจ่างใสไว้นาน ๆ ด้วยการเก็บรักษาและใช้ผลิตภัณฑ์เอสเคทูให้ถูกวีธีกันนะคะ ^^
ดังนั้น คนที่คิดจะเอาเหล้าสาเกหรือกำลังใช้อยู่ ก็ลองคิดดูใหม่นะครับ เนื่องจากสาเกผ่านกระบวนการบ่มมาแล้วเปลี่ยนจากน้ำตาลกลายเป็นแอลกอฮอลล์อาจจะมีผลระยะยาวได้ ต่างกับSK-II ที่เอาของเหลวที่ได้ก่อนขั้นตอนการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอลล์มาใช้บำรุงผิว เชื่อว่าอาจจะเป็นที่มาของราคาที่สูงของตัวผลิตภัณฑ์ก็เป็นได้ นี่คือสมมติฐานของผมนะครับ ฉะนั้นเราควรจะใช้สาเกที่ยังไม่ผ่านการกลายเป็นเหล้า ซึ่งยังไม่ได้แอลกอฮอลล์นั่นเอง 555+ ทีนี้สงสัยต้องบ่มกันเอาเองแหละครับ ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมฝากไว้ได้นะครับ แล้วผมจะไปถามมาให้หรือเข้าไปกดไลค์ใน SK-II แฟนเพจแล้วสอบถามได้นะครับ Owner เค้าตอบได้ดีมากๆครับ ตอนนี้เค้ามีแฟนเพจอย่างเป็นทางการซะทีนะครับ