ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนอันนี้คลิปที่เรานั่งดูเกี่ยวกับเจ้าตัว Astaxanthin  ค่ะ จากคุณ : filmzamarang เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:19:13

ความคิดเห็นที่ 2 ให้เราวิเคราะห์....จากการที่สาละวนอยู่กับวิตามินและอาหารเสริมมาพักใหญ่ ขอบอกว่า... 1. ชื่อไม่คุ้นหู เรียกยาก คนจึงมักปล่อยผ่านสายตาไปง่าย ๆ 2. สารต้านอนุมูลอิสระมีมากมายหลายตัว คนจึงมักเลือกในสิ่งที่ตนคุ้นเคยมากกว่า 3. อย. สหรัฐตีความ astaxanthin ว่าเป็น pigment สีสำหรับผสมอาหาร ซึ่งแม้ว่าจะเป็นสารที่มาจากธรรมชาติ แต่ก็ฟังดูไม่น่าภิรมย์ 4. ตัวเลือกในรูปแบบของอาหารเสริมนั้นยังไม่แพร่หลาย อย่างยี่้ห้อของผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่ประจำนั้น ในขณะนี้มีให้เลือกน้อยมาก ซึ่งตอนนี้เราเองก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึมแล้ว ปริมาณที่ได้รับจริงจะมากน้อยแค่ไหน 5. สารนี้พบได้ในอาหารตามธรรมชาติ จำพวกสัตว์ทะเล ความเข้มข้นอยู่ในหน่วยของ ppm (parts-per-million) ซึ่งก็ถือว่าไม่เยอะเหมือนเทียบเท่ากับสารต้านอนุมูลอิสระประเภทอื่น (ซึ่งถ้าสารตัวนี้เพียง 1mg มีความเข้นข้นมากกว่าวิตามินอื่น ๆ หลายพันเท่าจริง ผลข้างเคียงปลอดภัยจริงรึ? แน่ใจว่าไม่มีอะไรหมกเม็ด และถ้าดีจริงราคาสูงแน่นอนแล้วอะไรที่ราคาสูงไป คนก็มักไม่สนอีกเช่นกัน และก็จบลงด้วยก็เลือกอะไรที่ราคาตลาดกว่านั้น) ุุ6. ต้นทุนในการสังเคราะห์สารนี้เพื่อใช้เป็น food grade ของคน ปัจจุบันราคาสูงมหาศาล และแน่นอนว่าเมื่อต้นทุนหมุนเวียนสูง สิ่งที่ตามมาคือ filler ผสมลงไปด้วย เพื่อเพิ่มน้ำหนักของสาร (จากจุดนี้ บอกตรง ๆ ไม่มั่นใจผู้ผลิต ถ้าราคาขายต่ำ นั่นน่ากลัวมาก และถ้าดีจริง ราคาขายก็ตามตัว แต่จะแน่ใจได้อย่างไร) ึ7. มีการใช้สารนี้ในอาหารสัตว์ เพื่อทำหน้าที่เป็นสารเร่งสี นิ่ก็ฟังดูเหมือนสารเร่งสีในหมูเนื้อแดงบ้านเรา แม้จะมาจากธรรมชาติก็ตาม 8. แต่สำหรับคนเรา ต้องยอมรับคะว่าสารตัวนี้มีประโยชน์ในแง่ของการต้านอนุมูลอิสระจริง แต่งานวิจัยทางโภชนาการยังมีอยู่ไม่มากหากเทียบกับสารต้านฯ ตัวอื่น ๆ ข้อมูลนี้เราหามาจากศึกษาส่วนตัว อาจไม่ครบถ้วนกระบวนความ เอาเฉพาะประเด็นที่ให้เห็นว่าทำไมคนยังไม่สนใจ ต้องขออภัยจ้ะ จากคุณ : khong_im เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 11:04:01

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อมูลยังไม่หนักแน่นพอคะ จากคุณ : Rxniobe เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 11:40:00

ความคิดเห็นที่ 4 เรากินตัวนี้มาเกือบๆหมดขวดแรกแล้วขวดนึงมี120เม็ด  แต่เรากินวันละ3เม็ดค่ะ  เพราะว่าเรามีอาการเจ็บหัวเข่ามาเป็นปี คือเดินมากๆก็จะปวดเข่าแล้วก็ปวดตรงเท้าช่วงเกือบๆถึงส้น  เวลาตื่นนอนแค่เหยียบเท้าลงเดินก็จะปวดแล้ว ต้องให้เวลาซักชั่วโมงจะดีขึ้น แต่หลังจากเราเริ่มกินอาหารเสริม แต่กินหลายตัวพร้อมกันนะคะเลยไม่แน่ใจว่าจะมาจากตัวนี้หรือเปล่า เรามีอาการดีขึ้นค่ะ  ตื่นมาก็เดินลงส้นได้เกือบจะปกติ หัวเข่าก็เจ็บน้อยลงแต่ยังไม่หายนะคะ สาเหตุที่เริ่มกินตัวนี้คือไปยืนเลือกพวกอาหารเสริมตามที่คุณพ่อฝากซื้อ เห็นขวดยี่ห้อนึงที่มีสารไบโอแอสทิน ก็เลยหยิบมาอ่านเพราะไม่เคยเห็น แล้วก็มีคนที่เขามาหาซื้อพูดกับเราว่าตัวนี้ดีมากในแง่ของคนที่เป็นพวก arthritis จะช่วยให้ทุเลาอาการปวดไขข้อต่างๆ รวมทั้งฟื้นฟูร่างกายหลังจากออกกำลังกายด้วย เราก็ว่ามันน่าสนใจแต่ค่อนข้างแพงคือราวๆ$30+tax  เลยเก็บไว้เป็นข้อมูล พอต่อมาไปหาซื้อผงสาหร่ายสไปรูไลน่าจะเอามาผสมทำสมูตตี้ เจอเขาตั้งโต๊ะมีแผ่นพับของตัวแอสตา...นี้แจก ก็เลยทดลองอ่าน แล้วมันลดราคาพอดี ก็เลยหยิบมาลองขวดนึง แต่เราเริ่มพร้อมกับพวกไวตามินอื่นๆที่เป็นแบบเม็ดเคี้ยวเหมือนกับไวตามินเด็กรูปหมีน่ะค่ะ เป็นเจลลี่เคี้ยวหนึบๆซึ่งเราชอบมาก สรุปคือเราเริ่มกิน 1. Multi-vitamins 2. CoQ10 3.Fiber 4. Astaxanthin.         3อันแรกเป็นแบบเจลลี่ ยกเว้นตัวแอสตาเป็นเม็ดรีๆต้องกลืนเอา ก็พอไหวตราบใดที่ไม่ใช่ผงยาขมๆอัดเม็ด   หลังจากเริ่มทั้งหมดนี้ ก็เดือนกว่าๆแล้ว เราเจ็บเข่ากับส้นน้อยลง แต่เรื่องผิวเราบอกยากค่ะ คือเราอายุ40แล้วผลคงจะช้ากว่าสาวๆ อีกอย่างหนึ่งเราเป็นสิวบนหน้าเยอะก็ไม่เห็นจะลดลง พอมาเมืองไทยก็เลยอาศัยยาหมอทาหน้าด้วย ซึ่งหน้าก็จะดีขึ้นพอสมควร แต่ว่าสิวที่หลังกับรอยดำๆมันจางลงไปค่ะ แต่เราก็ใช้ครีมอาบน้ำของวาสลีนตัวhealthy white พร้อมกับใช้ผ้าถูตัวด้วย. เลยไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่าผลมันมาจากตัวไหนกันแน่ แต่ก็คงจะกินต่อไปเพราะเห็นผลเรื่องเข่ากับส้นจริงๆค่ะ จากคุณ : Pina Colada เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 11:45:16

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่ ตามอ่านข้อมูล และรีวิวจากการใช้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เรื่องของ การรักษาอาการปวดข้อเข่า ข้อเท้า กระดูก มากกว่าสรรพคุณทางความงามค่ะ จากคุณ : ladywitch เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 13:49:16

ความคิดเห็นที่ 6 ขอตอบในฐานะที่เรียนวิทยาศาสตร์ เราจะรอให้มีคนกินเยอะๆก่อน  แล้วถ้ามันไม่มีผลข้างเคียง  เราจะกินตาม กิน ใช้ อะไรที่คุ้นๆดีกว่านะ จากคุณ : SunnY_NAT เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 19:39:59

ความคิดเห็นที่ 7 วันนี้ ล่าสุดเราเห็นคุณปูเป้ชื่อดังซื้อมาทานด้วยค่ะ เห็นในIG. ของยี้ห้อที่เมกา อะคะ เดียวต้องลองสั่งบ้างเดียวผลเป็นยังไงในอนาคตจะมาแจ้งให้ทราบนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแชร์ค่ะ จากคุณ : filmzamarang เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 20:57:30

ความคิดเห็นที่ 8 เคยทานนะคะ แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่เราว่าที่ไม่รู้สึกอะไร เพราะมันต้านอนุมูลอิสระ มันจึงเป็นการหวังผลระยะยาวนะ ส่วนที่ว่า... วิตามิน ซี 6,000 เท่า, CoQ10 800 เท่า, วิตามิน อี 550 เท่า, Green tea catechins 550 เท่า, Alpha lipoic acid 75 เท่า, เบต้า แคโรทีน 40 เท่า และ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า ตอนแรกก็โอ้โห ไปๆมาๆ ไอ้ที่ว่า 6000 เท่า 800 เท่า ... มันน่าจะเป็นการวัดจากปริมาณที่เท่ากันนะ เพราะการเปรียบเทียบอะไร มันน่าจะต้องวัดจากปริมาณที่เท่าๆกัน ดังนั้น การจะบอกว่า Astaxanthin ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า ก็น่าจะแปลว่า Astaxanthin ในปริมาณ1 หน่วย ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า วิตามินซี ในปริมาณ 1หน่วย ถึง 6,000 เท่า ซึ่งก็คือ Astaxanthin ในปริมาณ 1 mg ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า วิตามินซี ในปริมาณ 1mg ถึง 6,000 เท่า Astaxanthin ในปริมาณ 4 mg ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า วิตามินซี ในปริมาณ 4 mg ถึง 6,000 เท่า แต่เนื่องจาก โดยทั่วไปแล้ว Astaxanthin 1เม็ด มันมี 4mg  ส่วน วิตามินซี 1เม็ดมันมี 1000 mg  ซึ่งมากกว่า Astaxanthin  250 เท่า คิดเอาเอง สรุปเอาเอง เราก็เลยเฉยๆ กับมัน จากคุณ : narusu เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 21:08:41

ความคิดเห็นที่ 9 คุณnarusu. ทานวันละกีmg. และติดต่อกันกีเดือนเหรอค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : filmzamarang เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 21:14:06

ความคิดเห็นที่ 10 Astaxanthin จัดเป็นกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง ในปลาแซลมอน200กรัมจะมี astaxanthinเพียง1mg.แต่astaxanthinท่ีเป็นอาหารเสริมสกัดมาจากสาหร่ายสีแดงซึ่งพบมากแถบสแกนดิเนเวีย ถูกค้นพบในค.ศ1995แต่คุณประโยชน์ในด้านต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดร้ิวรอย ชะลอความเส่ืิอมของเซลเท่ากับชะลอวัยนั่นเองไม่อาจเทียบเท่าQ10ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ มีหลักฐานสนับสนุน(clinical trials)มากมายจนผู้วิจัยนำเสนอวิตามินQ10ได้รับรางวัลโนเบลในปีค.ศ1978(พ.ศ2521) ในญี่ปุ่นมีการศึกษาเกี่ยวกับQ10เป็นเวลานานกว่า25ปีและมีงานวิจัยรองรับว่าQ10ช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจจึงทำให้มีการจ่ายอาหารเสริมQ10ให้กับผู้ป่วยทุกคน ในด้านความงาม มีการทดลองทาeye creamท่ีผสมQ10เข้มข้น0.3%รอบดวงตาเป็นเวลา6เดือน พบว่าร้ิวรอยลึกลดลง27% ดังนั้นastaxanthinเม่ือเทียบสรรพคุณกับสารต้านอนุมูลอิสระในประเภทเดียวกันจึงด้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 14:30:18 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 55 22:53:09 จากคุณ : แป้งปังปอนด์ (แป้งปังปอนด์) เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 22:33:35

ความคิดเห็นที่ 11 มาตามอ่านด้วยคนค่ะ จากคุณ : สตรีข้ามเพศ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 23:39:56

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคุณ แป้งปังปอนด์ ด้วยค่ะ ตอนแรกว่าจะถามเรื่องนี้ หลังไมค์ถามคุณ แต่ถามท่านอื่นด้วยเลยดีกว่า ^^ จากคุณ : filmzamarang เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 23:45:36

ความคิดเห็นที่ 13 จากเท่าที่เคยอ่านทั้งข้อมูลจากผู้ผลิตรวมถึงงานวิจัยหลายๆเอกสาร ที่ผมอ่านมันค่อนข้างออกมาตรงกันข้ามกับ #10 นะครับ ที่ว่า q10มีประโยชน์ด้านต้านอนุมูอิสระได้มากกว่า astaxanthin ไม่มราบเราใช้กูเกิลอันเดียวกันรึเปล่า 555 จากคุณ : paq เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 17:30:57

ความคิดเห็นที่ 14 เราอยู่ตปท. เวลามีปัญหาเรื่องรอยดำยากสิวมากๆ เราก็โด๊ปแอสตาแซนธินไปเลยค่ะ เช้าเม็ดเย็นเม็ด เพราะรอยจะหายเร็วกว่าทานอาหารเสริมตัวอื่นๆ 555ไม่มีตังค์ไปทำเลเซอร์ คิดว่าที่ในไทยไม่ดัง เพราะไม่ได้ทำให้ขาว แต่เรื่องริ้วรอย รอยดำ. และบำรุงสายตา เรามั่นใจว่าได้แน่ๆ หลายปีก่อน เคยรู้มาจากวงการเลี้ยงปลาประกวด เขาจะสั่งวิตามินตัวนี้จาก ตปท.เพื่อเร่งสี เร่งให้ปลาสวย ราคาแพงมาก จากคุณ : peterpancake เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 17:55:28

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสองท่านด้านบนด้วยนะคะ มาแชร์กันอีกนะคะเรายังเข้ามาดูเรื่อยๆ จากคุณ : filmzamarang เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:22:14

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่มีเหตุผลทางด้านวิชาการนะคะ แต่เี่ราทาน 4 mg. เช้าเย็น มา 1 เดือน หน้าโทรม ๆ ดูสดใสขึ้นค่ะ ผิวเนียนขึ้นแต่ไม่ขาวขึ้นค่ะ จากคุณ : เล่าปี่ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 13:50:31