ความคิดเห็นที่ 1 เป็นตั้งแต่เรียนมหาลัย รวมก็ร่วม 20 ปีแล้ว จนมันพัฒนามาเป็นกรดไหลย้อน ที่ถามว่าหายนี่คือ หายจากอาการปวดท้องใช่มั๊ยคะ ถ้าปรับวินัยตัวเองการกินของตัวเองได้ ประมาณอาทิตย์เดียวก็หายคะ   ถามว่าหายไหม มันไม่หายหรอกคะ ถ้าเคยเป็นแล้ว ไม่มีวินัยในการดูแลตัวเอง มันก็กลับมาหาคุณอีก เป็นโรคกระเพาะต้องกินอาหารให้ตรงเวลา ครบ 3 มื้อ งดของรสจัด งดเหล้า ไม่นอนดึก และไม่เครียด แต่เมื่อไหร่พัฒนาเป็นกรดไหลย้อน มันจะมีข้อห้ามเพิ่มขึ้นมาอีก จากคุณ : jackkyjing เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 10:53:00

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นค่ะ ตั้งแต่เรียน ม ปลาย ทราบว่าเป็นโรคนี้เพราะว่าไปตรวจที่ รพ เนื่องจากปวดท้องไม่หายซะที ก็พยายามทานอาหารให้ตรงเวลาค่ะ จนถึงวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ถ้าหิวแล้วไม่หาอะไรรองท้องเป็นได้เรื่อง = = จากคุณ : GreenTeaLate เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 11:23:14

ความคิดเห็นที่ 3 เคยเป็นสมัยเรียนมหาลัยก็ทานยาเวลามีอาการ งดของเค็มจัดเปรี้ยวจัดอาหารรสจัดจ้าน ตอนนี้ก็ไม่เป็นแล้ว แต่บางทีเป็นกรดไหลย้อน แต่เราก็ไม่กลัวทุกครั้งที่มีการเราก็ทานยาหอมก็โอเคไม่เคยต้องไปหาหมอเพราะโรคนี้เลยค่ะ จากคุณ : fufurung เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 11:57:30

ความคิดเห็นที่ 4 การรักษาโรคนี้ส่วนใหญ่ก็จะคงเป็นการทานยาค่ะ แต่ถ้าหนักมากๆๆๆ(ขอย้ำว่ามากจริงๆๆๆ)อาจจะต้องผ่าตัดตัดเส้นประสาทที่ควบคุมการหลั่งกรดน่ะค่ะ(คิดว่าการผ่าตัดจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะหมอคงไม่อยากตัดเส้นประสาททิ้งหรอกค่ะ มันคงส่งผลต่ออะไรอีกมากมาย) แต่ปกติแค่ทานยาทานอาหารให้ตรงเวลา ควบคุมอาหารที่ทาน ไม่ทานรสจัด หรืออาหารเพิ่มการหลั่งกรด ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงสู้ตาย เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 12:19:21

ความคิดเห็นที่ 5 เคยเป็นค่ะ ตอนที่เป็นตอนแรก  กังวลมากเพราะทานยาตลอด ผ่านไปเกินครึ่งปียังไม่หาย เคยอัลตราซาว์ด ตรวจเลือด  ก็เกือบจะส่องกล้องแล้วค่ะ พอดีเภสัขแนะนำให้ลองทาน nexium ยาของต่างประเทศ แพงกว่าเยอะ แต่ทานไป 3-4 แผงก็อาการดีขึ้นมากจนเป็นปกติ  หมอแนะนำง่ายมากค่ะ ทานยาเคลือบกระเพาะที่เป็นยาน้ำนะคะ ช่วยได้จริงๆ ตอนนี้พยายามทานอาหารให้เป็นเวลาให้มากขึ้น จากคุณ : oyasung เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 12:42:36

ความคิดเห็นที่ 6 หมอบอกเราว่าโรคนี้ไม่หายขาด ถ้าได้เป็นแล้วหายยาก แต่แนะนำวิธีปฏิบัติ เพื่อไม่ให้โรคกำเริบแค่นั้น ไม่กินอาหารรสจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด อาหารที่ย่อยยาก พวกผักผลไม้สด เช่น ชมพู่ ขนุน กะหล่ำปลี หรือผลไม้ที่มีกรดสูงอย่างสัปะรด น้ำอัดลม แอลกอฮอร์ ส่วนกาแฟถ้าเลิกได้ควรเลิก ถ้าเลิกไม่ได้จำไว้แค่ว่าอย่าดื่มเวลาท้องว่าง วิธีดูแลตัวเองแบบโบราณ ตื่นเช้ามา ให้กินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เค้าว่าเป็นการ สมานกระเพราะ เราทำตอนช่วงโรคกระเพราะกำเริบ ทำอยู่ 2 เดือน อาการดีขึ้นมาก โดยกินทุกเช้า เป็นอันดับแรก จะช่วยทำให้วันนั้นกระเพาะ ไม่แปรปรวนแน่นอน กล้วยมีคุณสมบัติเคลือบกระเพาะ ต้องกล้วยน้ำว้า เท่านั้นนะ ส่วนน้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยาช่วยเรื่องสมานการอักเสบ จากคุณ : บรัชออนอ่อนสี เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 12:48:10

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เคยส่องกล้องอะไรค่ะ...ถ้าเป็นมากๆๆ ก็ไปหาหมอๆ ก็จัดยามาให้ทานค่ะ...แล้วพอหายก็ปรับตัวเอง ทานให้เป็นเวลาค่ะ ถ้าไม่ได้ทานตามนั้นก็ทานช็อคโกแลตสักหน่อยเพื่อให้ไปเคลือบกระเพราะของเราไว้ก่อนค่ะ...ไม่ให้น้ำย่อยไปโจมตีเน้อ..... ปล.ทราบมาว่าใครที่เป็นโรคนี้ไม่มีทางรักษาหายค่ะ...เพราะกระเพาะของเรามีน้ำอยู่ตลอดเวลา(เหมือนแผลที่โดนน้ำแล้วเปื่ยอ่ะค่ะ) ฉะนั้นทำได้ก็คือ ไม่ให้เป็นหนักขึ้นค่ะ...บางรายอาจจะขยับมาเป็นมะเร็งได้ค่ะ... จากคุณ : ลิงกะหมา เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 12:56:57

ความคิดเห็นที่ 8 เราเป็นเมือ 2-3 ปีก่อน ปวดแน่นๆจุกๆที่ลิ้นปี่ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนมในจังหวัดชลบุรี หมอให้แอร์เอ๊กมากินเป็นเดือน บอกไม่ดีขึ้น ให้กลืนแป้งเอ๊กเรย์ เลยไปโรงพยาบาลที่กรุงเทพ อดข้าวไปเลย ส่งกล้อง กระเพราะส่วนต้น กลางล่าง ปรากฏว่ากระเพาะบวมค่ะ ตรวจเจอเชื้อโรคชนิดนึง จำชื่อไม่ได้ คุณหมอบอกว่าเชื้อโรคตัวนี้จะทำงานเมื่อเรามีกรดในกระเพาะเยอะๆ คืดทานข้าวไม่เป็นเวลา แล้วน้ำย่อยออกมาประมาณนั้น พอกินยาลดกรด เชื้อโรคก็จะไม่ทำงาน แล้วถ้าสลับวนไปแยยนี้นานๆ ก็จะเป็นมะเร็งในกระเพาะ วิธีรักษาให้ทานยาลดกรดและยาฆ่าเชื้อ หมอบกว่าช่วงแรก น้ำลายจะขม ก็ขมจริงๆอ่ะ กินยาฆ่าเชื่อ 2 สัปดาห์ ต่อด้วยการปรัปกระเพาะอีก 1 เดือน หลังจากนั้นเราไม่เคยปวดท้องกระเพาะอีกเลยค่ะ จากคุณ : Joie_Girl เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 13:03:36

ความคิดเห็นที่ 9 เราเป็นอยู่บ้างนานๆที เมื่อก่อนอาการหนัก จนอ้วก ท้องเสีย ปวดท้อง หลายอย่างรวมกัน เลยต้องดูแลตัวเอง กินข้าวเป็นเวลา ตามใจปากไม่ได้ น้ำอัดลม, อาหารรสจัดมาก นี้ของชอบ ก็ต้องงดๆไป นานๆทีอาการก็กำเริบบ้างตามใจปากไปหน่อย จะกิน nexium อย่างที่ คคห.ที่ 5 บอก มื้อเดียวอาการก็ดีขึ้นแล้ว จากคุณ : MJka เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 16:40:58

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นค่ะ เป็นหนักด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่หาย แต่พอคุมอาการได้ ถ้าให้เล่าอาการทั้งหมดคงยาวมาก โรคนี้มีปัจจัยเยอะแยะมากมาย มีทั้งความเครียด นิสัยในการกิน นอน ส่วนของเรามีการทำงานที่ผิดปกติของร่างกายร่วมด้วย เลยหายยาก เรียกว่าไม่หายก็ได้ แต่คุมได้ด้วยยา ซึ่งอาจต้องกินไปตลอดชีวิตค่ะ ของเรามีการส่งไปประเมินความเครียด และโรค panic กับจิตแพทย์ด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นปัจจัยส่งเสริม แถมให้ลองทานยาควบคู่ด้วย แต่ปรากฎว่าเราไม่มีอาการพวกนี้ค่ะ และทนทานยาพวกนี้ไม่ไหวด้วย เนื่องจากเรายังเรียนอยู่มีผลต่อการรับรู้ เรียนรู้ การตอบสนองเยอะมาก ส่งผลกับการเรียนเรามาก ทำเกรดล่วงเลยค่ะ หมอก็เข้าใจนะ ให้เราค่อยๆ ลดแล้วหยุด เพราะมันหยุดทันทีไม่ได้ กว่าจะกลับมาเรียนได้ปกติ แบบที่รู้สึกว่ารับรู้ เข้าใจ ได้เหมือนเดิมนี่เกือบหกเดือนอ่ะ แต่ระหว่างนั้นก็เรียนนะ ไม่ได้หยุดเรียน แต่แค่รู้สึกว่าฉันโง่ลง 555 เคยส่องกล้องด้วยค่ะ เห็นแผลในกระเพาะชัดเจน แต่ทรมานมาก จริงๆ ปีนี้ครบกำหนดต้องส่องอีกรอบแล้วอ่ะ แต่ขอหมอเลื่อนไปก่อน ยังทำใจไม่ได้ ที่ต้องส่องเรื่อยๆ นี่เพราะมีแผลในกระเพาะมานาน หมอกลัวเป็นมะเร็งค่ะ แต่ระหว่างนี้เพื่อเลี่ยงการส่องกล้อง ก็ใช้วิธีอื่นดูไปก่อน เช่น อัลตร้าซาวน์ กลืนแป้ง ตรวจอุจาระ แต่ส่องครั้งแรกนี่เพื่อประเมินอาการนะคะ เราถูกประเมินให้ส่องกล้องมาจาก ร.พ.พญาไท ค่ะ แต่ย้ายมาส่องที่รามา เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก เลยรักษาที่รามามาเรื่อยๆ จากคุณ : Kbiome เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:11:33

ความคิดเห็นที่ 11 มายกมือว่าเคยเป็นค่ะ  วิธีรักษาเราทำหลายอย่างเลย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมพร้อมทานยาด้วย 1. เราเลิกนอนดึกค่ะ เพราะนอนดึกแล้วเหมือนร่างกายจะหลั่งกรดค่ะ 2. ตอนแรกเราเป็คเคี้ยวข้าวไม่ละเอียดค่ะ เราเลยหันมาเคี้ยวนานๆ ให้ละเอียดเพื่อให้กระเพาะไม่ทำงานหนัก ไม่งั้นเค้าจะหลั่งกรดเยอะ 3. นม เราเปลี่ยนมากินนมถั่วเหลืองแทนนมวัว เพราะนมวัวย่อยยากกว่า 4. ทานข้าวตรงเวลาเป๊ะเลยค่ะ ต่อให้งานติดพันยังไง เที่ยงเราต้องกิน 6 โมงเย็นก็ทานมื้อเย็นค่ะ หรือเสาร์อาทิตย์ เราเตรียมขนมปังวางไว้บนหัวเตียงเลยค่ะ ตั้งนาฬิกาปลุก 8 โมง หยิบขนมปังทานก่อน แล้วจะนอนต่อค่อยว่ากันค่ะ 5. พยายามกินเนื้อน้อยลงค่ะ เปลี่ยนไปกินปลาแทน 6. ตอนแรกเรากินยากล่องเขียว มิราซิดค่ะ ที่เป็นรูปกระเพาะอาหาร ทีนี้พี่คนนึงบอกให้เรากินขมิ้นชันแคปซูล เราก็ลองค่ะ เราอยากบอกว่ามนได้ผลจริงค่ะ ขมิ้นชันแคปซูล เราพยายามทำทั้งหมดนี้ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ เอาใจช่วย จขกท ขอให้หายไวไวค่ะ จากคุณ : Mint (MLS) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:23:41

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นตั้งแต่ประถม ถ้าช่วงไหนเป็นมากๆก็ทานยาอาทิตย์เดียวก็หายค่ะ แต่ถ้าเริ่มกลับมากินเหล้า เบียร์ หรือกินข้าวไม่ตรงเวลาก็จะกำเริบอีก ตอนนี้พัฒนาเป็นกรดไหลย้อนแล้ว เย้ >"< อยู่ดีๆก็แน่นหนาอกหายใจไม่ออกซะงั้น จากคุณ : ล่องลอยในความฝัน เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:40:42

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นสมัยประถมค่ะ ที่เป็นเพราะกินข้าวไม่ตรงเวลา ไม่ยอมกินมื้อเช้าเพราะจะเก็บตังไว้ซื้อของเล่น(ไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง) อาการมาทุเลาลงตอนช่วงม.ต้น ปัจจุบัน ยังไม่หายขาดซะทีเดียว แต่ก็ดีขึ้นเยอะ กินทุกมื้อให้ตรงเวลา น้ำอัดลมดื่มบ้างแต่น้อยมาก อาหารเผ็ดๆทั้งหลายจะกินก็ต่อเมื่อมื้อนั้นกินของจืดๆอย่างอื่นไปแล้ว (เช่นกินข้าวกับไข่เจียวไปแล้วซัก 5 คำ แต่ก็ไม่ได้กินเผ็ดเยอะมาก) ของกินอะไรที่มันเป็นกรดเยอะๆเช่นสับปะรด จะไม่กินช่วงท้องว่างเด็ดขาด แล้วก็พกนุ่นขมิ้นชันแคปซูล(มีหลายยี่ห้อ) ติดตัวไว้เผื่อมีอาการ ไม่เคยไปหาหมอเพราะโรคกระเพาะ แต่พยายามเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เป็นพวกไม่ชอบกินยาเลยต้องหาวิธีอื่นมาแก้แทน อาจเป็นเพราะอาการเรายังไม่หนักด้วยค่ะ จากคุณ : tiny baby เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 23:03:04

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นโรคกระเพาะอาหารมา 10 กว่าปี กินยาก็ไม่หาย ตัดสินใจส่องกล้องดูกระเพาะอาหาร มีเชื้อรา หรือแบคทีเรีย นี่ละค่ะ จำไม่ได้แล้ว หมอดูจากกล้องที่ส่องกระเพาะแดงเถือกเลย ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจหามะเร็งด้วย ไม่มีปกติ กินยาหมอชุดนี้จนหมด อาการก็ไม่หาย กินอาหารตรงเวลา งดชากาแฟ อาการก็ปวดอยู่ เป็น ๆ หาย ๆ จนได้รับคำแนะนำให้กิน ขมิ้นชัน แคปซูล ทุกวันนี้หายแล้ว สบายท้องดีมาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : แม่กบ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 09:57:03

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นมาร่วม 20 ปีตัดสินใจส่องกล้องจากการปวดแบบทนไม่ไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กระเพาะแดง มีเชื้อแบคทีเรียเพียบ กระเพาะแดงมากกกก หมอให้ยามาทานร่วมสองเดือน นัดไปเป่าถุงดูว่าเชื้อแบทีเรียยังมีไม๊ยังไม่ได้ไปเลย แต่หลังการรักษามาตอนนี้ก้อเจ็ดเดือนแล้วไม่เคยปวดท้องอีกเลยคะ จากคุณ : Many Name เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 06:35:51