ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆเมเมเป็นสิวมาตั้งแต่ประมาณปี 2010 ค่ะแต่มาเป็นหนักๆมากๆจริงก็ปลายปี 2010 ต้นปี 2011 ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เมเมไม่เคยเป็นสิวเลย พออยู่ดีๆชีวิตต้องมาเป็นสิวระเบิดแบบนี้ก็เกิดอาการจิตตกค่ะ รับไม่ได้ ไม่อยากส่องกระจก หงุดหงิดไม่อยากพบเจอผู้คน ไม่อยากเข้าสังคม อยากเก็บตัวเงียบๆไม่ต้องมีใครมาเจอแล้วมาทักทายเราด้วยประโยคที่ว่า เมเมหน้าไปทำอะไรมา ? ช่วงที่เมเมเริ่มเป็นสิวประมาณ ปี 2010 ค่ะ แต่ว่าตอนแรกเป็นไม่มากก็เลยยังคงใช้สกินแคร์ตัวเดิม ซึ่งก็คือ BHA ป้าพอลล่าโดยข้อมูลที่ทราบมาว่า มันจะผลักสิวออกมาจนกว่าจะหมด ในขณะที่ก่อนจะมาใช้ป้าพอลล่าตัวนี้เมเมไม่ได้มีสิวอักเสบ แต่แค่รู้สึกว่าหน้ามีสิวอุดตันเล็กน้อย และสิวเสี้ยนนั่นแหล่ะ เลยดั้นด้นหามาลองใช้ 2เดือนแรกใช้ก็หน้าใสกิ๊งเลย แต่พอหลังจากนั้น เข้าเดือนที่ 3– 4 – 5 – 6 – 7 – 8 – 9 ไม่ไหวแล้วค่ะ ตัดสินใจหยุดใช้เพราะสิวมีทีท่าว่าจะระเบิดไม่จบสิ้นรวมทั้งรู้สึกแสบหน้าทั้งๆที่ทากันแดดตลอดทุกครั้งที่ต้องออกไปโดนแดดซึ่งเมเมไม่ค่อยได้โดนแดดเท่าไหร่ แต่ผิวก็ยังแสบมากมายอยู่ดี  (ซึ่งอาการแพ้ขึ้นอยู่กับบุคคลแต่ละบุคคลนะคะ ) สภาพช่วงที่สิวระเบิดค่ะ ภาพที่เห็นอาจจะไม่ใช่ตอนที่เป็นสิวเยอะที่สุดเพราะตอนเป็นเยอะกว่านี้บอกตรงๆค่ะว่าร้องไห้จิตตก ไม่อยากพบใคร ไม่กล้าเจอใคร และ ไม่ถ่ายรูป เพราะทำใจไม่ได้ (นี่เป็นรูปที่ถ่ายตอนพอทำใจได้บ้างแล้ว) จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:37:32

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงที่เป็นสิวเป็นช่วงเวลาที่หดหู่และทรมานใจอย่างที่สุดจริงๆ เพราะทำให้เราไม่อยากออกไปเจอหน้าใครที่เราเดาคำทักทายของเค้าได้เลยว่า “ไปทำอะไรมา ทำไมเป็นสิวเยอะแบบนี้” หรือ “ใช้เครื่องสำอางเยอะเกิน” หรือ อื่น ๆ รวมทั้งคำแนะนำให้ใช้ครีมโน้น สบู่นี้ กินยาสมุนไพรอันนั้น อยากจะกรี้ด กรีดร้องในใจ หนูก็อยากลองแต่กลัวลองแล้วหนักไปกว่านี้ใครจะรับประกันหน้าหนูได้เล่า เมเมเลยตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลโรคผิวหนัง ซึ่งก็ดูๆแล้วก็บอกว่าเมเมน่าจะเป็นสิวฮอร์โมน แล้วก็จ่ายยามาตามที่เคยได้ๆมา คือเบนแซค ดิฟฟารีนเจล แล้วก็ครีมอะไรอีกอย่างนี่แหล่ะ เมเมทาเบนแซคมาก่อนที่จะมาหาหมออยู่แล้ว ดิฟฟารีนเจลก็ใช้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็ไม่เห็นผลอะไรเลย เลยสรุปว่าได้ยามาก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เคยทา หลังจากนั้น เมเมเกิดอาการแพ้เบนแซคทั้งๆที่ไม่ได้ทาทิ้งไว้นาน และ ก็ใช้แค่ 2.5% เท่านั้น แต่แสบหน้าและหน้าแดงตลอด เลยหยุดใช้ยาทั้งหมดดีกว่า ตัดสินใจเอง เออเอง ว่าจะหยุดทายา ทาไปก็ไม่หาย จะทาทำไม ? หลังจากหยุดทายาทุกอย่าง ใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้า กันแดดก็ไม่ทา ไม่ทาอะไรทั้งสิ้น ในระหว่างนั้นก็หาข้อมูลว่าจะใช้ครีมอะไรดี เพราะจะให้ไม่ทาครีมเลย มัน เห้ย!!! ไม่ไหวนะ มีน้องคนนึงแนะนำให้ลองใช้เซรั่มของออริจิ้น Origins™ Mega-Mushroom Skin ReliefAdvanced Face Serum เมเมเรียกเซรั่มเห็ดเน่า ด้วยเพราะเหตุที่ว่า ก็มันเหม็นเหมือนกลิ่นเห็ดหมักจนเน่าจริงๆอ่ะ แต่เพื่อความงามถึงจะมีกลิ่นเห็ดเน่าอยู่บนหน้าก็ยอม ในระหว่างที่รักษาสิว เมเมไม่เคยหยุดแต่งหน้า ด้วยเหตุที่ว่า ออกไปเจอชาวบ้านเค้าไม่ได้ แต่งแล้วก็ดีขึ้นนิดนึงแต่ก็ปิดรอยระเบิดสิวไม่ไหวหรอกค่ะ นั่นแหล่ะ สิวระเบิดทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งหน้า รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการบ้าซื้อรองพื้นทุกยี่ห้อที่คิดว่าปกปิดดี ตั้งแต่ราคา ไม่กี่ร้อย ถึง พันต้นๆ สองพันกว่า สามพันกว่า หนักข้อสุด ห้าพันกว่า เพื่อหวังให้ทุกสิ่งอย่างดูดีขึ้นและออกไปเจอโลกภายนอกได้บ้าง เมื่อแต่งหน้า ทุกอย่างดูโอเคขึ้นนิด กล้ามองตัวเองขึ้นอีกหน่อย แต่หลังจากล้างหน้าก่อนจะนอนตอนกลางคืน นั่นแหล่ะ น้ำตาร่วงหยดเหมะๆ ทุกวันไป หน้าที่เป็นสิวมันอาจจะเป็นเรื่องที่แย่สำหรับชีวิต แต่สิ่งที่แย่กว่าคือสภาพใจที่มันรับตัวเองไม่ได้ต่างหาก นั่นแหล่ะคือสิ่งที่แย่ที่สุดของชิวิต (รูปที่แต่งหน้าตอนเป็นสิว  โบกสุด กลบมากสุดก็สามารถได้เท่านี้ค่ะ   ต้องล้างให้สะอาดด้วยเพราะไม่งั้นสิวไม่หายนะคะ) แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 55 22:43:38 จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:42:32

ความคิดเห็นที่ 3 ผิวไม่มีทางดีขึ้นแน่ๆ ถ้าใจเราไม่มองตัวเองในแง่ดีกว่านี้ ก่อนจะรักษาสิว รักษาใจก่อน เพราะทุกสิ่งอย่างมันจะต้องเกี่ยวข้องกัน นอกจากใจและทัศนคติที่ดีที่ควรมีกับตัวเองแล้ว อีกสิ่งที่ต้องมีคือ นาฬิกาชีวิตของเรา เราคงต้องมาจัดระเบียบชีวิตและเวลาที่ใช้ในชีวิตกันใหม่ จัดระเบียบชีวิตใหม่ค่ะ จัดยังไง เคยนอนดึกหรือเปล่า ต่อจากนี้ต้องนอนไม่เกินเที่ยงคืน เพราะปกตินอนเช้า T^T ตอนแรกๆก็ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยว แต่อยากจะบอกว่าในระยะยาว มันส่งผลแน่นอนค่ะ หลังจากค่อยๆปรับเวลานอนแล้ว เวลาที่ดีที่สุดของเมเม (ย้ำนะคะว่าเฉพาะของชีวิตเมเม) คือ 5 ทุ่ม แล้วตื่นนอน 7-8 โมงเช้า สังเกตมั้ยคะ ว่าพอเป็นสิวมาก ปากจะแห้งลอก แตก และ เจ็บมาก นั่นมาจากการดื่มน้ำน้อยค่ะ เลยกลายเป็นสิ่งที่ต้องปรับอีก 1อย่างในชีวิตค่ะ คือดื่มน้ำวันละมากๆ มากที่สุดเท่าที่จะกระดกลงไปได้ อย่างน้อยตื่นมาดื่มน้ำก่อนเลย 1-2 แก้วค่ะ *** ถึงตรงนี้ สิ่งที่ต้องปรับมีกี่อย่างแล้วล่ะ *** ใจ ปรับใจให้มองเห็นตัวเองในด้านบวก หากใจหดหู่ หรือเป็นลบกับตัวเอง ย่อมส่งผลต่อร่างการและการหลั่งฮอร์โมนต่างๆ เปลี่ยนเวลานอน เปลี่ยนนาฬิกาชีวิตของตัวเอง ยิ่งนอนดึกเท่าไหร่ยิ่งเป็นสิวได้ง่าย ดื่มน้ำมากๆ ตื่นเช้ามาดื่มน้ำเลยฝึกให้ชิน จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:46:41

ความคิดเห็นที่ 4 ในขณะที่สิวยังไม่ยุบ เวลาที่ต้องออกไปธุระหรือไปพบเจอผู้คนข้างนอกจริงๆทำยังไง ? เมเมใช้วิธีการแต่งหน้าค่ะ แต่ถ้าถามว่าการแต่งหน้าปกปิดได้หมดหรือเปล่า ตอบได้เลยว่าไม่ได้ค่ะ แต่เมื่อจำเป็นก็แต่งแบบ พอประมาณ ให้คนมองไกลๆ ไม่นึกว่าเราเป็นอีสุกอีใสก็พอ นั่นคือ นวัตกรรมการโบกหน้าให้งาม 500 เมตร งามผงะหงายหลังกันเลยทีเดียว แต่งหนาแค่ไหนไม่เป็นไรแต่ที่สำคัญคือต้องล้างให้สะอาดทุกรูขุมขนจริงๆ ถ้าหากจำเป็นต้องแต่งหน้า สิ่งสำคัญคือ รองพื้นที่ปกปิดดี และ ไม่แพ้ แป้งผสมรองพื้น คอนซีลเลอร์ บรัชออน ลิปสติก และที่สำคัญ เมคอัพรีมูฟเวอร์ดีๆซึ่งตอนนั้นเมเมยังไม่รู้จัก Bioderma เลยใช้ La Prairie Cellular Cleansing water eyes & face ซึ่งเป็นรีมูฟเวอร์ชนิดน้ำ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอมและ ไม่แพ้ สถานะการโบกให้ดูไม่เหมือนเป็นอีสุกอีใสและทุเรศมากเกินไปนักในตอนเป็นสิว เมเมโบกฉาบขนาดนี้เลย  ทั้งๆที่จริงๆไม่ดีนะ  ยิ่งเสี่ยงต่อการแพ้และอุดตัน  แต่มันไม่ไหวอ่ะ  ทนเห็นหนังหน้าตัวเองไม่ได้ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:50:47

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาเกาะขอบรอ จากคุณ : Nu_NaM_SoM เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:55:55

ความคิดเห็นที่ 6 รอติดตามค่ะคุณเม.. เราเป็นอีกคนที่เคยเป็นสาวหน้าใส (มากกก) ไม่กี่เดือนมานี้ สิวเจ้ากรรมขยันพุดจากไหนมิรู้ มันเริ่มจากรูขุมขนกว้าง สิวเสี้ยนตามมา จากนั้น สิวผดเพียบบบ สิวผดปุ๊ก เเปรงร่างเป็นสิวอักเสษ นังสิวอักเสษก็หายเเล้วก็ทิ้งรอย บางก็หาย :-)ีใจ เเต่อีกเม็ดมันก็เริ่มตามมา เรากลุ้มใจมาก ตอนนี้ยังไม่เยอะค่ะ เเต่กลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะเกินเยียวยา เห้อ อยากร้องไห้ :( จากคุณ : ออเร้นจ์จัง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:57:11

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนปรับสิ่งที่บำรุงจากภายนอก  ควรปรับภายในร่างกายก่อน เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรม หากอยู่ดีๆ เกิดเป็นสิวทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นหมายความว่าร่างกายเรากำลังบอกอะไรเราบางอย่าง ต้องมีอะไรในพฤติกรรมของเราที่ไม่เหมาะกับภายในร่างกายของเรา เราต้องหันกลับมาสำรวจตัวเองก่อน ทำไมเมเมไม่ไปหาหมอรักษาสิว จริง ๆ เมเมเป็นคนที่หาหมอรักษาสิวที่คลินิกมาตั้งแต่อายุ 14 จนกระทั่งอายุ20 เรียกได้ว่าก็ดูแลมาตลอด ก็เลยไม่เคยเป็นสิว ไปหาหมอที่เป็นคลินิกที่มีสาขาทั่วประเทศเยอะๆ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นสิวอะไรเลย หลักๆที่หมอจะให้มาทาก็คือ ยาทาก่อนล้างหน้า เจลล้างหน้า น้ำที่เป็นลักษณะเหลวๆคล้ายๆคลินด้าเอ็ม ยาทาลดรอยสิว ยาทาปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กันแดด และก็มีการจ่ายยาโรแอคคิวเท็นให้ทานบ้างบางช่วงที่รู้สึกผิวจะมันมากและเริ่มมีสิวอุดตันเม็ดเล็กมากกว่าปกติ ซึ่งปกติก็จะไปหาหมอ 2-3 สัปดาห์ครั้ง ค่าใช้จ่ายโดยประมาณก็เฉลี่ย 500 บาทต่อครั้ง ด้วยความที่หาหมอมาตลอด เลยทำให้การเป็นสิวมากๆครั้งนี้ ก็เลยตัดสินใจไม่ไปหา เพราะว่าเคยไปหาแล้วมักเสนอให้ทำคอร์สโน่นนี่ ทั้งๆที่เราก็แอบคิดว่า หน้าแหกขนาดนี้จะไปทำคอร์สบ้าอะไรได้เล่าสิวยังไม่หายเลย เลยเริ่มที่จะสนใจที่จะใส่ใจตัวเองมากขึ้น สิ่งที่เมเมสำรวจหลังจากที่ปรับมุมมองของตัวเองใหม่แล้วก็คือ การรักษาความสะอาดและสิ่งของที่ต้องสัมผัสใบหน้ารวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ที่นอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา ซักและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ปลอกหมอนหากเปลี่ยนได้อาทิตย์ละครั้งยิ่งดี ส่วนตุ๊กตา บางคนอาจจะแพ้ฝุ่นที่อยู่ในตุ๊กตาค่ะ นอกจากการซักและผึ่งแดดแล้ว แนะนำให้ส่งซักอบความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคบางชนิดที่หมักหมมไว้ในนั้น สำรวจที่นอนว่าเป็นแหล่งที่อยู่ของไรฝุ่นหรือเปล่า หากใช่ควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ สำรวจว่าห้องนอนชื้นไปหรือเปล่า เพราะหากห้องนอนชื้นมากไปก็อาจจะเป็นที่เพาะเชื้อโรคชั้นดี นอกจากผ้าปูที่นอนแล้ว ยังต้องลองสังเกตตัวเองดูว่าเราแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือใม่ โดยลองซักปลอกหมอนไม่ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มดูสัก 1 เดือน แล้วสังเกตุความเปลี่ยนแปลงดูค่ะ ผ้าเช็ดตัว กับ ผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดผม ควรแยกกัน ผ้าที่ใช้เช็ดหน้าควรมีหลายๆผืน ใช้แยกกับการเช็ดตัวและเช็ดผมค่ะ มีหลายคนที่เมเมรู้จัก ใช้ผ้าเช็ดหน้ากับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกัน พอลองแยกใช้ให้เป็นส่วนๆ กลับพบว่าสิวลดลงก็มีนะ ถ้าชอบบีบสิว กรุณาตัดเล็บให้สั้นและห้ามเอามือไปถูกหน้าหรือจับสิวเด็ดขาด จริงๆช่วงเป็นสิวไม่แต่งหน้าได้จะดีมาก เพราะการแต่งหน้าเป็นการเสี่ยงต่อการแพ้เครื่องสำอางและแพ้สิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น หากจำเป็นต้องแต่ง ก็ต้องเลือกเครื่องสำอางที่ไม่อุดตันรูขุมขน ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์และควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดทุกครั้ง อาหารการกินก็มีส่วนสำคัญ การทานของหมักดอง ของแช่อิ่ม ของทอด น้ำอัดลมเป็นสาเหตุให้เกิดสิวทั้งนั้น ควรทานผักและผลไม้เพิ่มแทนของจำพวกนี้ รวมทั้งการทานอาหารให้ตรงเวลาด้วยค่ะ เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย ระบบขับถ่าย สังเกตระบบขับถ่ายของตัวเอง หากพบว่าท้องผูกบ่อยก็ต้องหาวิธีการทำให้ขับถ่ายทุกวันอย่างเป็นกิจวัตร เช่น การดื่มน้ำเพิ่มขึ้น ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ทานผลไม้ การนับรอบประจำเดือน ลองนับรอบประจำเดือนของตัวเองดูค่ะว่ามาโดยเฉลี่ยตรงกันทุกรอบหรือเปล่า หากประจำเดือนมาขาดๆหายๆ นั่นก็เป็นอีกสาเหตุนึงของการเกิดสิว ซึ่งกรณีนี้ต้องปรึกษาแพทย์ค่ะ น้ำหนัก น้ำหนักมากมีผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกายและประจำเดือนค่ะ รวมถึงน้ำหนักที่น้อยไปด้วยเช่นกัน การออกกำลังกาย หากได้ออกกำลังกายนั่นหมายความว่าร่างกายเราได้ระบายของเสียออกทางเหงื่อด้วย ควรออกกำลังกายบ้างสัปดาห์ละ 2-3ครั้งก็ยังดีค่ะ ใครที่อ้างว่าแพ้เหงื่อ เมเมว่าไม่ใช่ข้ออ้าง หากคุณแพ้เหงื่อตัวเองก็ต้องพยายามอดทนกับภาวะนั้นเพราะตลอดชีวิตคุณจะห้ามไม่ให้เหงื่อออกเลยคงเป็นไปได้ยาก แต่ให้หาผ้าเช็ดหน้านิ่มๆสะอาดๆติดไว้ เมื่อมีเหงื่อออกมาบนใบหน้าก็ให้เอาผ้าเช็ดหน้านิ่มๆซับเหงื่อออกเบาๆ อีกสิ่งที่สำคัญอย่างที่บอก  คือ  ปรับนาฬิกาชีวิตใหม่  เมเมได้มีโอกาสได้รับหนังสือจากคนรู้จัก  ชื่อหนังสือ นาฬิกาชีวิต เล่ม 1 (เค้ามีหลายเล่มนะคะ  เมเมไปตามซื้อครบทุกเล่มเลย)  ในหนังสือเล่มนี้มีหลักการคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 22:58:42

ความคิดเห็นที่ 8 การแพทย์ตะวันออกถือว่ากลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออกโดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น ภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกายซึ่งประกอบด้วยอวัยวะตัน และ อวัยวะกลวง อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจเยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหารถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย การไหลเวียนของพลังชีวิต ลมปราณที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง ทั้งหมดมี 2อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า “นาฬิกาชีวิต” ตัวอย่างเช่นการไหลเวียนของเส้นลมปราณปอด จะมีพลังไหลเวียนเริ่มต้นที่เวลา 03.00 น. และสูงสุดในช่วงประมาณ 04.00 น. จากนั้นจะค่อยๆลดลง และออกจากเส้นลมปราณปอดไปยังเส้นลมปราณลำไส้ใหญ่ เวลา 05.00 น. การรักษาโรคของเส้นลมปราณปอดที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดจึงควรอยู่ระหว่างเวลา03.00 – 05.00 น. การดำเนินชีวิตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติจึงเป็นหลักฐานของการมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืน ปราศจากโรคโดยแบ่งเป็นช่วงเวลาดังนี้ ช่วง 01.00 – 03.00 น.เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดี หลับสนิท หลับลึกเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัยนอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endorphin) ออกมาด้วย จึงไม่ควรกินอาหารเพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็วหน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่รอง คือ 1. ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บจะไม่สวย 2. ช่วยกระเพาะย่อยอาหารถ้ากินอาหารช่วง 01.00 – 03.00 น.จะทำให้ตับทำงานหนัก ตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลักเป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ ช่วง 03.00 – 05.00 น.เป็นช่วงเวลาของปอด จึงควรตื่นนอน ลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำปอดจะดี ผิวดีขึ้น ช่วง 05.00 – 07.00 น.เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ ควรขับถ่ายอุจจาระ ทำให้เป็นนิสัยทุกเช้าถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวโดยใช้น้ำ 1 แก้ว+น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ+มะนาว 4 – 5 ลูกทำดื่มจนกว่าจะถ่ายหรือบริหารโดยยืนตรง หายใจเข้าแล้วก้มลงพร้อมทั้งหายใจออกเอามือท้าวเข่าแขม่วท้องจนเหมือนว่าหน้าท้องไปติดสันหลัง ช่วง 07.00 – 09.00 น.เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารจะทำงานควรกินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรงถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวลขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย ช่วง 09.00 – 11.00 น.เป็นช่วงเวลาของม้าม ควรพูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้ายมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมันคนที่ปวดศีรษะบ่อยมักมาจากความผิดปกติของม้ามอาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้ามกับตับ - ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่ายผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย - ม้ามชื้นอาหารและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน จึงทำให้อ้วนง่าย ผู้ที่มักนอนหลับในช่วงเวลา 09.00– 11.00 น.ม้ามจะอ่อนแอ นอกจากนี้ม้ามยังโยงถึงริมฝีปาก ผู้ที่พูดบ่อยๆ หรือพูดเก่งๆ ม้ามจะชื้นจึงควรพูดน้อยกินน้อย ม้ามจึงแข็งแรง ช่วง 11.00 – 13.00 น.เป็นช่วงเวลาของหัวใจ หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงความเครียดเหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:02:30

ความคิดเห็นที่ 9 มารอค่า จากคุณ : pandapu เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:02:49

ความคิดเห็นที่ 10 ช่วง 13.00 – 15.00 น.เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก ควรงดการกินอาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงานลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี บีโปรตีนเพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอสร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือนผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุตเพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชายเมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1ซี่ ช่วง 15.00 – 17.00 น.เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ ควรออกกำลังกายแนวพลังของกระเพาะปัสสาวะเริ่ม...หัวตา ผ่านหน้าผาก ศีรษะ ท้ายทอยแผ่นหลังทั้งแผ่น สะโพก ด้านหลังขาหัวเข่า น่อง ส้นเท้า นิ้วก้อย กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด (เป็นข้อมูลของแพทย์แผนตะวันออกซึ่งอาจแตกต่างจากแพทย์แผนตะวันตก) ช่วงเวลานี้จึงควรทำให้เหงื่อออกอาจจะออกกำลังกายหรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง ข้อควรระวังถ้าเหงื่อมีโซเดียมปนออกมามากไตจะวาย แต่ถ้ามีโปตัสเซียมปนออกมามาก หัวใจจะวาย ป้องกันเรื่องหัวใจวายด้วยการให้ดื่มน้ำส้มหรือน้ำมะนาวเพื่อเติมโปตัสเซียม(ผู้ที่มีโปตัสเซียมน้อยต้องระวังเรื่องการฉีดยาชา เพราะยาชา จะทำให้โปตัสเซียมลดลงอย่างรวดเร็วหัวใจอาจวายได้ง่าย) การอั้นปัสสาวะบ่อยๆปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะจึงเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เป็นต้นเหตุให้ท่านมีกลิ่นตัวที่น่ารังเกียจโดยไม่รู้ตัวฉะนั้น พยายามอย่ากลั้นปัสสาวะนาน ต้องพยายามหาทางปลดปล่อยเมื่อปวดปัสสาวะ ช่วง 17.00 – 19.00 น.เป็นช่วงเวลาของไต ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ผู้ใดมีอาการง่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อแสดงว่าอาการหนักมาก - ไตซ้ายจะคุมสมองด้านขวาซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัวและเป็นคนขี้ร้อน - ไตขวาจะคุมสมองด้านซ้ายซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปัญหาความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาวผู้ที่ไตแข็งแรงจะเป็นคนมีอายุยืน เป็นคนกล้า ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมากอาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไตเป็นผลให้ไตทำงานหนัก จึงกลายเป็นโรคไต สมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่ายมีเสลดในคอ การดูแลคือ ตอนเช้าอาบน้ำเย็นตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น กรณีที่อาบน้ำไม่ได้ ให้ใช้วิธีแช่เท้าแต่น้ำควรใส่สมุนไพรที่ถูกกับโฉลกของผู้ป่วย เช่น ขิง ข่า กระชายอย่างใดอย่างหนึ่ง ช่วง 19.00 – 21.00 น.เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ ทำสมาธิปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือหัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอดต้องดูแลเยื่อหุ้มหัวใจให้แข็งแรง ควรใส่เสื้อผ้าชุดสีดำ เทา เอาเท้าแช่เท้าในน้ำอุ่น ช่วง 21.00 – 23.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลมเพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ ช่วง 23.00 – 01.00 น.เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ควรดื่มน้ำก่อน 23.00 น.(ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ) อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำจะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อมเหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม(ถุงน้ำดีจะโยงไปถึงปอด) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ(ผู้ที่ตัดถุงน้ำดีออก มักมีอาการปวดขา ปวดสะโพก) จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:06:06

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วรู้สึกเหมือนทำยาก  และ  สงสัยกันใช่มั้ยคะ  ว่าเกี่ยวจริงหรือ  เมเมบอกได้เลยว่าเกี่ยวค่ะ  ช่วงแรกๆอาจทำไม่ได้ตามตารางเป๊ะๆก็จริง  แต่พยายามอย่านอนดึก  อย่าทานอะไรดึกๆ   ค่อยๆเริ่มดู อาจไม่ทำตามตารางเป๊ะๆทั้งหมดแต่ก็ลองพยายามดูค่ะ  คนที่ลองทำถึงรู้ถึงผลของการเปลี่ยนแปลง  เพราะต่อให้เมเมรีวิวบอกเล่าแทบตาย แต่คุณอ่านเฉยๆแล้วไม่ลองทำ สุดท้ายรีวิวก็สูญเปล่า เพราะคนที่ได้ผลคือ เมเมคนเดียว  แค่อ่าน รู้ แล้วจะหายสิว  นั่นไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ  หากไม่อยากพึ่งหมอ  ไม่อยากอยู่กับยาหรือครีมของคลินิกไปตลอดชีวิต  อยากให้ผิวหน้าเริ่มฟื้นฟูตัวเองต้องลองเปลี่ยนแปลงค่ะ   รูปหลังจากการทำทุกสิ่งอย่างที่เล่ามาในเวลา 1 ปี  ดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:11:20

ความคิดเห็นที่ 12 เมเมขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ทักทีละคน  แต่เป็นกำลังใจให้คนเป็นสิว สู้ๆนะคะ แจกกิ๊ฟแทนสวัสดีและขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนเมเมค่ะ  ^^ ========================================== สกินแคร์ตัวที่ใช้แล้วดีสำหรับเมเมมารีวิว  เพราะไม่อยากให้ใครๆซื้อแบบไร้ทิศทางไปหมดแบบที่เมเมเคยเป็นมาก่อน  อย่างน้อยรีวิวของเมเมจะได้ทำให้สาวๆประหยัดเงินมากกว่าที่เมเมเคยเสียไปค่ะ สกินแคร์ที่เห็นในรูป เมเมซื้อด้วยเงินส่วนตัวนะคะ  ไม่มีได้ฟรี ไม่ได้แบรนด์แจกมาให้ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:15:57

ความคิดเห็นที่ 13 หลายๆคนติดตามอ่านบล็อกของเมเมเพราะเพียงแค่อยากรู้ว่า  ใช้สกินแคร์อะไรถึงหายได้ ?   เมเมบอกได้เลยว่า  ถ้าอ่านรีวิวแล้วคิดจะไปซื้อใช้ตามทันที   ต้องย้อนกลับไปหาสติใหม่ก่อน  เพราะจริงๆสกินแคร์แต่ละชนิด ก็เหมาะกับบุคคลแตกต่างกันไป  สกินแคร์ที่เมเมใช้แล้วสิวหาย ก็เป็นตัวเดียวกันกับที่บางคนใช้แล้วหน้าเฟะ   ก่อนตัดสินใจจะเหวี่ยงสิ่งที่ตัวเองมีทิ้งไป   ให้ลองทำแบบนี้ดูก่อนค่ะ   งดใช้ทุกสิ่ง  ล้างหน้าแค่น้ำเปล่าเท่านั้นเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์  อดทนหน่อยค่ะ  เพราะยิ่งเว้นนานเวลากลับไปเริ่มทดลองใช้สิ่งต่างๆจะเห็นผลได้ชัดขึ้น   หลังจากนั้น  สกินแคร์ที่มี  (หรือกรณีอยากไปถอยมาใหม่เพื่อทดลองใช้ตามเมเมก็จัดค่ะ)  เมเมแนะนำให้เริ่มทดลองใช้เซรั่มก่อน   เซรั่มอะไรก็ได้ที่คุณเลือกใช้ในการรักษาสิว  ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์มาก  อย่าใช้ทั้งเซต  อย่าบ้าจี้ตามบีเอเชียร์  เพราะบางทีเราก็ไม่ได้ใช้ได้ทั้งเซตค่ะ   หากลองทั้งเซตเวลาแพ้จะรู้หรอว่าแพ้อะไรให้หลายๆสิ่งนั้น   พอใช้เซรั่มไปได้สัก 1-2 สัปดาห์  หากไม่แพ้ ก็ลองตัวอื่นๆได้เลย  เน้นตัวหลักๆที่ต้องใช้ก่อนนะคะ  เช่น  โทนเนอร์  เซรั่ม  เดย์ และ ไนท์ครีม  ครีมกันแดด  อายครีม  เมคอัพรีมูฟเวอร์สำหรับเช็ดเครื่องสำอางและกันแดด  โฟมล้างหน้า   ข้อสำคัญของการเลือกสกินแคร์     รู้จักผิวตัวเอง  รู้ว่าผิวของตัวเองมีลักษณะอย่างไร  กรณีของเมเมคือ  ผิวแพ้ง่าย  มันมาก  แต่ขาดน้ำ  เป็นสิว รู้ว่าผิวตัวเองมักแพ้หรือมีปฏิกริริยาไวต่อสารตัวใดบ้าง (หากกรณีนี้ไม่ทราบก็ไม่เป็นไรค่ะ) และ ค่อยๆทยอยซื้อทีละอย่างที่ต้องการจริง ๆ  อย่าใจลอยไปกับการเก็บแต้มหรือโปรโมชั่นของแถมหลอกล่อ  เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเราจะใช้ได้ดีหรือเปล่า  ทำใจแข็งเข้าไว้ค่ะ   เมื่อเลือกสกินแคร์ได้   กรุณาใช้ไป  ใช้จนกว่าจะหมด  ระยะเวลาการเห็นผลของสกินแคร์แต่ละแบรนด์อาจจะช้าเร็วแตกต่างกัน  สำหรับของเมเมใช้สกินแคร์กว่าจะเห็นผลนี่กินนเวลาเป็นเกือบปีนะคะ  แต่อะไรที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยปรับแบบช้าๆ มักจะให้ผลที่คุ้มค่าเสมอ อย่างที่บอกค่ะ  ว่าไม่ให้ซื้อทั้งเซต  ไม่ให้ซื้อทีละหลายๆตัว  ให้ค่อยๆทยอยซื้อ  เว้นระยะเวลาในการเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด  เพราะถ้าใช้พร้อมกัน  จะแยกไม่ได้ว่าเราแพ้หรือไม่แพ้อะไร   สกินแคร์ที่เมเมใช้ตอนช่วงเป็นสิวจริงๆแล้วลองมามากมายเลยค่ะ  เพราะกว่าจะเจอในสิ่งที่ชอบและเหมาะกับผิวเมเมก็ลองโน่นนี่มาเยอะหลายอย่างมาก   แต่สิ่งที่เมเมเอามารีวิวเมเมถือว่าใช้ดีที่สุดและเห็นผลดีสำหรับผิวของเมเมค่ะ  (ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับผิวทุกคน) จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:18:29

ความคิดเห็นที่ 14 เมเมอัพเป็นคลิปให้นะคะ  ในเรื่องสกินแคร์  ขออนุญาตแปะลิ้งให้  หากบางคนดูในยูทูปแล้วไม่ดี กระตุก เมเมแนะนำให้ไปดูที่นี่แทนค่ะ   http://meismeme.spokedark.tv/2012/07/16/meismeme-diary/ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:21:29

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าถามว่าปัจจุบันมีสิวหรือเปล่า  มีค่ะ ยังคงมีสิว แต่เป็นสิวผดซึ่งเมเมกำลังทดลองรักษาสิวผดเองอยู่ค่ะ รอยสิว  รอยสิวมีค่ะ  ต้องต้องมองใกล้ๆ จะเห็น หลุมสิว  มีค่ะ  เพราะหลุมสิวต้องทำเลเซอร์ ตลอดเวลาที่รักษาสิวมาจนถึงปัจจุบัน เมเมยังไม่เคยไปหาหมอ ไปทำเลเซอร์  ไปทำอะไรกับหน้าเลย  ทาครีมเพียงอย่างเดียวค่ะ (รูปอาจจะเห็นไม่ชัด  แต่สิวตรงจมูกเป็นสิวประจำเดือนค่ะ) จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:32:03

ความคิดเห็นที่ 16 แต่งหน้าเมื่อสิวเยอะๆ  เมื่อเทียบกัน กับตอนนี้ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:37:21

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าถามเมว่า ทุกสิ่งที่เมเมเอ่ยมาในกระทู้นี้เกี่ยวข้องกับการรักษาสิวได้จริงหรือเปล่า  เมก็ลองรีวิวให้ดูเป็นการพิสูจน์ไปแล้วนะคะ  ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น รอยสิว  สิวผด  รอยหลุมสิว เมเมยังไม่หายและกำลังหาข้อมูลในการรักษาอยู่ค่ะ   ใครที่เป็นสิวอยู่ก็ลองเอาข้อมูลนี้ไปประยุกต์ใช้ดูนะคะ   หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่เข้ามาอ่านค่ะ  และ เป็นกำลังใจให้คนเป็นสิวนะคะ ^^ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:41:17

ความคิดเห็นที่ 18 น้องเมเม...น่าร๊าก จากคุณ : Patty-Cherry เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:50:37

ความคิดเห็นที่ 19 สวยเลยค่ะ หน้าใสมาก อิจฉา สกินแคร์ก็เยอะเว่ออ จากคุณ : เจ้านกไนติงเกล เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:51:38

ความคิดเห็นที่ 20 สุดยอดมากเลยค่ะ ของเราตอนนี้สิวหายแล้วเหมือนกัน เหลือก็แต่หลุม ซึ่งเยอะมากกกกก ต้องเลเซอร์อย่างเดียวเลย T_T จากคุณ : zQueek เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:54:32

ความคิดเห็นที่ 21 สุดยอดค่ะ คุณดเมเม จะลองืำตามสูตรดูนะค่ะ ผิวเรา มัน รูขุมจนกว้าง เป็นสิว แต่.. ผิวมันขาดน้ำจริงๆ อยากได้สกินแคร์ที่เติมน้ำให้กับผิว รบกวนคุณเมเมแนะนำหน่อยได้ไหมคะ จากคุณ : สตางค์ขับAudi เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:05:22

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับการรีวิวนะค่ะ ได้ประโยชน์มากๆเลย (-/\-) จากคุณ : หนูปักกิ่ง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:19:34

ความคิดเห็นที่ 23   แบบนี้เค้าเรียก สวยจากภายใน สู้ภายนอก ใช่ไหมค่ะคุณเมเม ใช้ร่างกายบำบัดร่างกาย จากคุณ : Noon_Ja_Zaa_TuK_TeE เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:32:02

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ตอนนี้เราก็เป็นสิวเหมือนกัน มาจากไหนไม่รู้ พร้อมใจกันขึ้นเต็มหน้าเลย สิวหนองเม็ดเป้งๆ พอเห็นคุณเมแล้วค่อยมีกำลังใจว่าวันนึงจะกลับมาหน้าใสอีกครั้ง จากคุณ : ลูกไก่สีชมพู เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:36:40

ความคิดเห็นที่ 25 ของเค้าก็เหลือแต่ร่องรอย หลุมสิว เศร้า ๆๆๆ  อ่อ ดีใจกับคุณเมเมด้วยนะคะ ผิวสดใสมาก ๆ เลยค่ะ ^^ จากคุณ : กานดา ขาร็อค เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 00:40:16

ความคิดเห็นที่ 26 รับรองได้.  เจ๊จะทำตามแบบเมเม. จากคุณ : เจ๊บังบาน (l2Pleak) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:21:42

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ได้เป็นสิว แต่เข้ามาอ่านเรื่องนาริกาชีวิต (ขอโทษค่ะ หา รอ จุราไม่เจอ) มีประโยชน์มาก คุณเขียนสรุปได้ดี เข้าใจง่าย และมีที่มาที่ไป เราจะลองนำไปปรับใช้ดู เราเป็นคนชอบอะไรแบบเป็นธรรมชาติเหมือนกันค่ะ ปลอดภัย ได้ผลยืนยาว และไม่แพง : ) ขอให้สวยวันสวยคืนค่ะ จากคุณ : S K Y is the limit เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 01:33:37

ความคิดเห็นที่ 28 เจ๋งค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 02:50:38

ความคิดเห็นที่ 29 พอหน้าใสแล้วสวยมากกกกกค่ะ เป็นความรู้มากๆเลยขอบคุณนะคะ จากคุณ : บัวบุษราคัม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 03:10:18

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ทำให้เรารู้ตัวเลยว่าต้องปรับเวลาของตัวเอง ถึงว่าทำไมสิวไม่หายซักที ไม่ได้เป็นเยอะเหมือนคุณเม แต่ก็ทำให้รำคาญใจเหมือนกัน เดี๋ยวจะลองทำตามนะคะ ^^ จากคุณ : bloom&blossom เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 03:42:46

ความคิดเห็นที่ 31 เก่งค่ะ เข้มแข็งและพยายามมาก นับถือจริงๆ ตอนเป็นสิวยังดูว่าสวยนะคะ พอหน้าใสสิวหาย สวยขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย จากคุณ : mojikojung เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 04:49:35

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ เราเองก็ทำตามวิธีนี้เหมือนกันค่ะ ได้ผลดีมากๆๆเลย ยิ่งถ้าช่วงไหนทำหลักๆได้ครบ เช่น ขับถ่าย ออกกำลังกาย นอนเร็ว กินน้ำเยอะๆ ผักผลไม้เยอะๆ ผิวจะเป็นสีชมพูเลย นอกจากจะช่วยเรื่องสิวแล้ว สุขภาพอื่นๆก็ดีขึ้นค่ะ สำหรับเรานะคะ สิวเกิดจากตัวเราเอง และตัวเราเองก็เป็นคนรักษาที่ดีที่สุดค่ะ ^^ เป็นกำลังใจ ให้สาวทุกคนทั้งที่เป็นสิว และไม่เป็นสิว มีสุขภาพผิวดีกันทั่วหน้านะคะ จากคุณ : BabyMeeyong (Baby-Meeyong) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 07:40:53

ความคิดเห็นที่ 33 เครื่องสำอางค์เยอะมาก เป็นอีกทางที่ช่วยรักษาสิว ขอบคุณ จขกท ค่ะ จากคุณ : chana_tarn เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:32:29

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับรีัวิวที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับเรามากค่ะ เราขอ Bookmark เก็บไว้อ่านตลอดไปนะคะ จากคุณ : bunnycute เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:42:00

ความคิดเห็นที่ 35 หน้าใสเลยค่ะ ^^ จากคุณ : ซาสี่สีส้ม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 08:52:23

ความคิดเห็นที่ 36 คุณเมเมสุดยอดมากครับ ตอนนี้ผมก็กำลังสู้กับสิวอยู่เหมือนกันครับ สาเหตุของผมน่าจะมาจากการนอนดึก เพราะอ่านหนังสือสอบหนักมากครับ เห็นคุณเมเมแล้วมีกำลังใจสู้เลยครับ ^^ จากคุณ : refresh my life เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:05:15

ความคิดเห็นที่ 37 ขอชื่นชมครับ ใช้สมองปรับการใช้ชีวิตให้กลับมาสวยได้สุขภาพดีด้วย จากคุณ : nonsaint เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:18:40

ความคิดเห็นที่ 38 คสอ. เยอะมว๊ากกกก!!! จากคุณ : คนน่าสงสาร เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:37:40

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากค่ะ จะลองทำตามดู เราเองก็ไม่เคยเป็นสิวเลย แต่เพิ่งมาเป็นเมื่อปี 2010 เหมือน จขกท.เลยค่ะ เป็นเยอะด้วย T T จากคุณ : สติไม่มาปัญญาช้อปเกิด เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:43:51

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบวิธีคิดและวิธีเขียนของพี่จัง ^__^ จากคุณ : รู้น่ะว่าแอบชอบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:58:45

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นแบบเดียวกันเลยค่ะ แต่ก่อนชอบนอนดึกมากๆ นอนตี3 ตื่นเที่ยง ด้วยคิดว่า ก็นอนตั้งหลายชั่วโมง ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ไม่จริงเลย บางทีนอนตื่นตั้งเที่ยง แต่ร่างกายไม่สดชื่นเลย อ่อนเพลีย และหน้าก็เหี่ยวด้วย สู้นอน4ทุ่มตื่น6โมงก็ไม่ได้ ทั้งที่นอนในจำนวนชั่วโมงพอๆกัน แต่สิ่งที่ได้ต่างกัน ตอนนั้นนาฬิกาเรารวนมาก ตื่นมาก็ไม่ทันกินข้าวเช้าละ กินบ่าย มื้อเย็น นอนดึกหิว กินขนมต่ออีก แย่มาก จากคุณ : Ray56 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 09:59:45

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านตรงที่บอกว่า  "เพราะดื่มน้ำน้อยไป" เราก็คว้าแก้วน้ำมาดื่มทันใด 5555 เป็นคนชอบดื่มน้ำคะ แต่นั่งทำงานเพลินๆ ก็มักจะลืม ตลอด เราก่อนหน้านี้ก็อยู่สิวบุกหนักมาก เข้าใจเลยคนไม่เคยเป็นสิวแล้วอยู่ๆสิวเต็มหน้า ทำใจยากมาก แต่ของเราพึ่งหมอเลยคะ ไม่ไหวจะรักษาเอง หาหมอติดต่อกันทุกอาทิตย์อยู่ 4 เดือน จนหน้ากลับมาใสปิ้งเหมือนเดิม หมดค่าเสียหายไปเยอะอยู่ เลยมีคติประจำใจว่า "การไม่มีสิว เป็นลาภอันประเสริฐ" จากคุณ : pinkqoo เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:00:00

ความคิดเห็นที่ 43 อยากบอกว่าสภาพหน้าไม่ต่างกับคุณเลยค่ะ ในอดีต ลองผิดลองถูก สกินแคร์เต็มบ้าน. จนตอนนี้ได้ค้นพบสกินแคร์ที่เข้าใจผิวที่เป็นสิว ดิชั้นตามหามันมาสิบกว่าปี kanebo freeplus เท่านั้น และเพิ่งมารู้ว่าผิวขาดน้ำ มันทำใฟ้เราเป็นสิวได้ ไม่ว่าจะแพ้จะอะไรมามันก็ช่วยกู้หน้าให้ตลอดค่ะ จากคุณ : decoba เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:02:37

ความคิดเห็นที่ 44 ตื่นมาแอบตกใจ  กระทู้เราไม่นึกว่าจะมีคนเข้ามาอ่านมากมายขนาดนี้  ปลื้ม +  เริ่มอาย และ อยากลบรูปที่สุด  แต่อ่านหลายๆความเห็นทำให้เราดีใจนะคะที่อย่างน้อยทุกคนที่เข้ามาอ่านก็จะได้กำลังใจดีๆเพื่อที่จะไปลองทำตามดู  เมเมเป็นกำลังใจให้นะคะ  เป็นได้ก็ต้องหายได้  ^^ ========================================== Nu_NaM_SoM   @   เมื่อคืนเมเมโพสเสร็จแล้วก็หลับไปเลย  มาหวัดดีตอนเช้าแทนค่ะ ออเร้นจ์จัง   @อย่าเพิ่งคิดมากสิคะ ยิ่งกังวลยิ่งไม่ดี  ต้องคิดบวกไว้ก่อน  ค่อยๆรักษาค่อยๆดูแลค่ะ pandapu  @   ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนเมเมเมื่อคืนนะคะ   Patty-Cherry   @   หวัดดีค่า  เมื่อคืนเมเมโพสเสร็จแล้วก็ถีบตัวลงนอนไปเลย  เลยไม่ได้ทักทายเลย ><"" เจ้านกไนติงเกล    @   สกินแคร์เมเมเยอะเพราะไม่รู้ว่าตัวเองควรใช้อันไหน อะไรบ้าง  ซื้อมั่วเลยค่ะ zQueek   @  ของเมเมก็ยังมีรอยหลุมสิวค่ะ   แต่ยังไม่คิดจะทำอะไร  กลัวหน้าเห่อ  รอผิวแข็งแรงขึ้นกว่านี้เมเมอาจจะเลเซอร์ค่ะ  ^^ สตางค์ขับAudi  @   เรื่องแนะนำสกินแคร์ เมเมไม่ชำนาญเลยค่ะ  ปกติแอบรออ่านรีวิวของกุ้งอินเตอร์ตลอด  แต่ตอนนี้เมเมลองใช้ลาเนจ  เมก็ค่อนข้างชอบนะคะ  อีกอันที่น่าสนใจก็เป็น จำพวก Hyaiuronic  ซึ่งมีหลายแบรนด์มากค่ะ  เมเมเคยรีวิวไว้ในบล๊อก tween Hab 5 ราคาเบาๆ  แล้วก็  Timeless  อันนี้เพิ่งอยู่ในคลิปเปิดถุงช๊อบค่ะ  ส่วนอีกอันราคาแรงสุดคือ  SkinCeuticals  ค่ะ  แล้วแบนด์อื่นๆก็มี  ค่อยๆเลือกและหาข้อมูลดูนะคะ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:31:37

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณที่แชร์นะคะ ตอนนี้มีปัญหาสิวผดเหมือนกันเลยค่ะ T____T จากคุณ : GreenTeaLate เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:42:45

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วรู้สึกดีคะ จากคุณ : หมูกลมอารมณ์ดี เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:49:49

ความคิดเห็นที่ 47 ชอบมากค่ะ มีประโยชน์มากเลยนะคะ สำหรับรีวิวครั้งนี้ เป็นสาวกสิวเหมือนกัน แต่งบมีไม่มาก ปัจจุบันหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเองแล้วเหมือนกันค่ะ ^____^ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ คุณเมเม ป.ล. พอหน้าใสแต่งหน้าก็สวยสุดๆไปเลยค่ะ จากคุณ : joyjung_pomkung เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:01:41

ความคิดเห็นที่ 48 ... จากคุณ : Bosskung@BKK เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:06:02

ความคิดเห็นที่ 49 หนูปักกิ่ง  @  ยินดีค่ะ  ^^ Noon_Ja_Zaa_TuK_TeE  @   ใช่แล้วค่ะ  ปรับตั้งแต่ภายในใช้ธรรมชาติค่อยๆบำบัดรักษาร่างกาย  ^^ ลูกไก่สีชมพู  @   สู้ๆนะคะ เมเมเป็นกำลังใจให้ เมเชื่อว่าไม่นานเดี๋ยวก็กลับมาหน้าใสเหมือนเดิมค่ะ ผิวดีก็มาจากร่างกายและจิตใจที่ดีด้วยค่ะ  ^^ กานดา ขาร็อค  @   ถ้าซุมชัดๆเมเมก็ยังมีรอยสิว  สิวเสี้ยน และ หลุมสิวเหมือนกันค่ะ  แต่เมคิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยๆรักษา  แค่สิวระเบิดหายก็ดีใจมากมายแล้วค่ะ   เจ๊บังบาน (l2Pleak)  @  เมเมเป็นกำลังใจให้เจ้ค่ะ เจ้ต้องสวยใสเด้งกว่าเมเมแน่ๆค่ะ ^^ S K Y is the limit  @   ขอบคุณมากค่ะ the pretty pill   @  ขอบคุณมากค่า บัวบุษราคัม  @   ยินดีค่ะ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:26:13

ความคิดเห็นที่ 50 woww!!!   thank you for sharing kha ^^ จากคุณ : Gigolina เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:35:05

ความคิดเห็นที่ 51 น่าสนใจมาก ขอบคุณที่มารีวิวคร้า จากคุณ : fondakelly เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:43:52

ความคิดเห็นที่ 52 bloom&blossom    @  ขอบคุณมากค่ะ mojikojung   @  ขอบคุณนะคะ  ^^ BabyMeeyong (Baby-Meeyong)  @  ขอบคุณมากๆค่ะ chana_tarn  @  ยินดีค่ะ bunnycute  @  เมเมเขียนใส่บล๊อกไว้แล้วด้วยเหมือนกันค่ะ  เผื่อหาไม่เจอตามหาได้ในบล๊อกนะคะ refresh my life  @  สู้ๆนะคะเมเมเป็นกำลังใจให้ค่ะ nonsaint  @  ขอบคุณมากค่ะ สติไม่มาปัญญาช้อปเกิด   @ เมเมเป็นกำลังใจให้นะคะ  สู้ๆค่ะ รู้น่ะว่าแอบชอบ   @  ขอบคุณมากค่ะ pinkqoo  @  การไม่มีสิวเป็นลาภอันประเสิรฐ  จริงๆค่ะ ^^ decoba  @  ยินดีด้วยนะคะที่หาสิ่งที่ผิวต้องการเจอ  ^^ GreenTeaLate  @  เมเมกำลังรักษาสิวผดอยู่เช่นกันค่ะ   หมูกลมอารมณ์ดี   @  ขอบคุณค่ะ joyjung_pomkung @  อิอิ  ขอบคุณมากนะคะ Bosskung@BKK    @  ขอบคุณมากค่ะ Gigolina  @  ยินดีค่ะ fondakelly  @  ยินดีค่า  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:45:17

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นประโยชน์ มากค่ะ จะลองไปปรับใช้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^___^ จากคุณ : ทราย (sindesign) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:52:12

ความคิดเห็นที่ 54 เริ่ดมากค่ะ จากคุณ : JiEN เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:18:32

ความคิดเห็นที่ 55 เคยเป็นสิวอักเสบหนักมากที่คางจุดเดียว ยังแทบบ้าต้องรีบไปยิงเลเซอร์เลย หายใน 2วัน แล้วน้องเค้าทนได้ยังไง เป็นทั้งหน้าหนักมาก  เราทึ่งมาก มีความอดทนสูงจริงๆๆ  เก่งจัง ชื่นชม จากคุณ : มาสแตงค์ชิวชิว เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:23:11

ความคิดเห็นที่ 56 กำลังพยายามต่อสู้สิวของตัวเองเหมือนกันค่ะ T T จากคุณ : คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:34:21

ความคิดเห็นที่ 57 ชอบ นาฬิกาชีวิตมากๆเลยค่ะ เป็นประโยชน์มาก จะลองทำตามนะคะ จากคุณ : Bluesunisa ผู้หญิงสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:34:43

ความคิดเห็นที่ 58 รักษาสิวด้วยตัวเองจนสำเร็จเหมือนกันค่ะ เข้าใจอารมณ์มากๆเลย ต้องใช้เวลา+ทำใจมากๆ จากคุณ : พิซซ่าน่าหม่ำอั้มๆๆอาหย่อยจัง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:37:09

ความคิดเห็นที่ 59 พยายามไม่ใช้เครื่องสำอางค์อะไรมากมาย ไม่ประโคมหลายๆสิ่งลงไปบนหน้า รักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย ทำใจให้สบาย เป็นอีกทางที่ดิฉันใช้ แล้วได้ผลมากๆค่ะ จากคุณ : Flamingo_Tye เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:14:37

ความคิดเห็นที่ 60 ผมนี่ลักษณะคล้ายๆพี่เลย คือเมื่อก่อนหน้าใสมากกกกก แต่อยู่ดีๆก็เป็นสิว เป็นเยอะมากด้วย เรียกได้ว่าจิตตก ไม่อยากพบผู้คนกันเลยทีเดียว สาเหตุหลักๆจริงๆคือการใช้ชีวิตที่ผิดแปลกจากมนุษย์ทั่วไปละครับ นอนดึก ทานอาหารไม่เป็นเวลา และบลาๆๆๆๆๆๆๆ  ซึ่งมันเกิดจากตัวเราล้วนๆ ตอนนี้ผมก็ยังนอนดึกอยู่ 5555 ต่อไปนี้จะปรับแล้ว ยิ่งมาอ่านกระทู้พี่ ทำให้ผมคิดได้อีกเยอะเลย ครีมแพงๆ คลินิคแพงๆ ก็ไม่ต้องไปแล้ว ไม่ต้องใช้แล้ว มันคงช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าผมยังทำตัวแบบนี้อยู่ ขอบคุณพี่มากๆเลยครับ อย่างน้อยบทความนี้ของพี่ก็ช่วยเตือนสติผมได้ ^^ จากคุณ : CHiC BoY เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:20:58

ความคิดเห็นที่ 61 สนใจเรื่องนาฬิกาชีวิตอยู่พอดี  ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ จากคุณ : อยากเป็นแม่ที่ดี เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:18:19

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณค่ะ เราหน้าแหกเพราะBHAป้าเหมือนกัน แต่ก่อนหน้าพังผิวเรียกว่าดีมากเนียนฟูไม่มีสิวซักเม็ดแต่เห็นว่ารูขุมขนกว้างเลยลองกลับมาใช้BHAอีกรอบ คือเคยใช้แล้วสิวผุดเลยเลิกคราวนี้ตั้งใจเอาไงเอากัน แต่ไม่ไหวค่ะ3เดือนหน้าพังเลยทีเดียวแต่ไม่ถึงขนาดคุณเม คือหยุดซะก่อนและคิดว่าพอดีกว่ามันคงไม่ใช่แล้วล่ะเพราะแค่3เดือนกระชากเราจากสวรรค์ลงนรกได้นี่ทนไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ยอมรับว่าหาหมอฉีดยาทำเลเซอร์รอยและจุดด่างดำจากสิวก็หวังว่าสิวน้องใหม่จะไม่ผุดอีก กระทู้คุณมีประโยชน์มากเรื่องไลฟ์สไตล์ที่ควรเปลี่ยนเรานอนตี1ตี2ทุกวันก็รู้ว่าสิวมาแน่แต่ก็ทำ แต่จะพยายามทำอย่างที่คุณเมโพสให้อ่าน จะพยายามๆๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:33:44

ความคิดเห็นที่ 63 เริ่มเป็นสิวช่วงเดียวกันเลยค่ะประมาณปี 2010 (เข้าป.โทพอดี) เห่อไม่หยุดยั้งเหมือนกัน  ทั้งๆที่ตั้งแต่เด็กจนโตจนเข้ามหาลัยจบมหาลัยไม่เคยเป็นสิวเลย ไม่เคยแพ้อะไรทั้งสิ้น เรียกว่าหน้าหนาก็เป็นได้ 555 เคสเดียวกันพอเจอใครๆ พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา เพื่อน น้อง ต่างถามเหมือนกันว่า ไปทำอะไรมา แม่เจ้าบาดใจสุดๆ ยกเว้นเพื่อนป.โท เพราะเริ่มเข้ามาหน้าเธอก็เห่อมาแล้ว เค้าก็คิดว่าเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่สาเหตุของการเกิดสิวไม่ทราบแน่ชัดค่ะ มีหลายสิ่งเข้ามาพอดีในช่วงนั้น จึงไม่อยากจะลงทัณฑ์ ฟันธงว่าใครผิด จากนั้นก็หยุดทุกอย่างทั้งสกินแคร์ และอะไรที่คิดว่าเสี่่ยง แต่แต่งหน้าบ้าง นานๆครั้ง และแล้วก็ได้จับผลัดจับถูกไปหาหมอสิว แต่รู้สึกว่าหน้าบางลง แพ้ง่ายขึ้นนะ เป็นสมาชิกหมอสิว 1 ปี จากนั้นหยุด เลิก หักดิบ หาทางรักษาเอง แล้วก็สำเร็จค่ะ ปัจจุบันหายแล้วค่ะ เพิ่งกลับมาหน้าใสเมื่อต้นปี แต่มีสิวเล็กๆขึ้นบ้างนิดนุงนานๆที พยายามไม่ลูบไม่เกะ ถ้าไปสนใจมันนะเอาแล๊ะเป็นเรื่อง ตอนนี้หันมาบำรุงแทนเพราะ 2 ปีที่ผ่านมา อย่างที่บอกไม่ใช้อะไรบำรุงเลย หน้าเริ่มมีริ้ว แห้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นเหี่ยวนะ หุหุ ปัจจุบันก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ เพื่อความสวยสู้ต่อไป อิอิ ปล.ตอนเป็นสิวถ่ายรูปตัวเองไม่ลงจริงๆเหมือนกัน แต่ก็มีอยู่รูปนึงตอนตัดผมใหม่ ถ่ายรูปไปให้เพื่อนดูผมทรงใหม่ เป็นรูปเดียวที่ถ่ายทั้งที่สิวเห่อเต็มหน้าฝืนใจสุดๆT_T .................................................... แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับเราเรื่องนาฬิกาชีวิตไม่เคยมีปัญหากับสิว สมัยปี 3-4 นอนดึกมากกก เร็วสุดตี 2 ทำรายงานโต้รุ่งบ่อย ตื่นบ่าย2 อะไรงี้เกือบทุกวัน ปัจจุบันก็ไม่ขนาดนั้นแล้ว แถมต้องตื่นเช้าทุกวันอีก ขับถ่ายก็ไม่ค่อยปรกติเหมือนชาวบ้านตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เรียกง่ายๆว่านาฬิกาชีวิตเราไม่ปรกติ 555+ แต่ปัจจุบันก็พยามปรับเปลี่ยน บางอย่างเปลี่ยนได้แล้ว และก็จะพยายามต่อๆไป อย่างน้อยก็ดีต่อสุขภาพในระยะยาว เนอะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 14:46:03 จากคุณ : NX5 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:40:03

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆและมีประโยชน์ค่ะ เราเปนอีกคนที่เปนสิวตลอดตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงปัจจุบัน...เดี๋ยวจะลองปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิตตัวเองดูค่ะ ป.ล คุณเมเมน่ารักมากกกก จากคุณ : กรองมาริน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:49:45

ความคิดเห็นที่ 65 เริ่ดมากค่ะ จากคุณ : chan-rak-thong-fa เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:57:24

ความคิดเห็นที่ 66 จริงครับ กำลังคิดว่าจะกลับไปนอนให้เป็นเวลา ขับถ่ายทุกวัน ดื่มน้ำเยอะๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดี ใช้ครีมนู่นนี่นั่นให้น้อยที่สุด แต่ที่สำคัญ ผ่อนคลายความเครียด ขอบคุณมากนะครับสำหรับรีวิว จากคุณ : HengKung เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 14:59:59

ความคิดเห็นที่ 67 อยากบอกว่าเราเองเป็นคล้ายๆ จขกท ค่ะ ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นที่เริ่มเป็นสิว ที่จริงเป็นสิวปกติอยู่แล้ว ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ไม่มีสิว เป็นมาเรื่อยๆ แต่ไม่เคยหาหมอค่ะ เพราะมันขึ้นแล้วก็ยุบ เยอะบ้างน้อยบ้าง แต่ครั้งล่าสุด เมื่อกลางปี 2011 เราได้รู้จักกับสิวระเบิด เป็นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเราจะเป็นสิวอุดตันธรรมดา หรือสิวอักเสบนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยมีสิวเสี้ยน มีน้อยมากไม่เรียกว่าเป็นปัญหา จะหนักไปทางสิวอุดตันมากกว่า แต่นี่ !!!.... สิวระเบิด เม็ดเท่าถั่วเหลือง จากแดงแล้วกลายเป็นดำ มันเริ่มจากแก้มก่อน แล้วก็ลุกลามไปทั้งหน้า เรียกว่าไม่มีพื้นที่ว่างเลย กรี๊ดดดด >< ฉันอยากจะร้องไห้ มันมาได้ไง ช่วงนั้นจิตตก หดหู่ ฟุ้งซ่าน ใครเห็นเป็นต้องทัก หน้าเป็นอะไร สงสารอ่ะ ต่างๆนานา แนะนำนั่นนี่ อาการเดียวกับ จขกท เลย จากนั้นคิดว่าไม่ได้การแล้ว ฉันต้องไปหาหมอด่วน โดยเริ่มตามหาลุงพัน (เว็บพันทิพ) หาหมอไหนดี ใช้อะไรดี ศึกษาไว้เยอะมาก  แต่ตั้งใจว่าจะไม่ไปหาหมอที่คลินิกเด็ดขาด (ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะคิดว่าราคาแพง เลี้ยงสิว ต้องไปประจำ และที่สำคัญมักขายของ - -") จึงตัดสินใจไปศูนย์ผิวหนัง ที่รพ.ศิริราช โดยเลือกหมอท่านไหนก็ได้ หมอก็ให้ยากิน ยาทาพื้นฐานเกี่ยวกับสิวมา เบนแซค ยาน้ำคล้ายคลินดา AHA คล้ายๆกับจขกท  และก็นัดไปตรวจทุกเดือน ผ่านไป 3 เดือนมันก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไร   จนมีน้องที่รู้จัก ก็เป็นคนที่มีสิวต่อเนื่องเหมือนเรานี่แหละ ไปหาหมอที่ รพ.ผิวหนังที่อนุเสาวรีย์ชัยฯ แล้วหน้าน้องเขาดีขึ้นมาก ก็เลยแนะนำเราให้ไปหา ซึ่งตอนนั้นเรายังรักษาที่ศิริราช แต่ก็ลองไปดู เผื่อว่าจะได้ยาตัวอื่นมาบ้าง ปรากฏว่าก็ได้ยาตัวอื่นมาจริงๆ เป็นยาทาคล้ายแป้งน้ำ โปะไปกับสิวระเบิดแล้ว อือหือ !! ลองนึกภาพตาม ... แอบหลอนตัวเองเบาๆ ถึงวันนัดที่ศิริราช หมอถามว่าไปทำอะไรมา หน้าลอกเป็นขุยๆ เราก็บอกนะว่าไปหาหมออีกที่หนึ่งมา จำไม่ได้แล้วว่าหมอพูดอะไรต่อ แต่รู้ตัวว่าฉันควรจะหยุดใช้ยานั้นซะ แล้วรักษาที่นี่ต่อไป (เราไม่ได้ว่ายานั่นไม่ดี แต่มันคงไม่เหมาะกับหน้าเรา) ระหว่างช่วงเวลาที่สิวครอบงำนั้น เราก็หันมาอ่านหนังสือธรรมะ จากที่ไม่เคยอ่าน ช่วยให้จิตใจสงบขึ้น ท่องบทสวดมนต์จนจำขึ้นใจ จากที่เคยละเลย แล้วก็ไหว้พระ สวดมนต์ ทำสมาธิก่อนนอน นอกจากนั้นเราก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ วิธีการรักษาสิวแบบธรรมชาติไปด้วย ถึงขั้นมีความคิดอยากเปลี่ยนมารักษาแบบแพทย์แผนไทยเลยทีเดียว แต่ก็ยังลังเล จนกระทั่ง น่าจะเข้าเดือนที่ 5 ได้ เปลี่ยนเป็นหมออีกท่านหนึ่ง เขาให้เราลองตรวจเลือด เมื่อผลเลือดออกมา อ๊ากกกก !! ไม่นะ..... ระดับน้ำตาลฉันอย่างกะคนเป็นเบาหวาน ทั้งๆที่เราออกจะผอม และไม่ได้มีพันธุกรรม จึงคิดว่าน่าจะมาจากยากินที่หมอให้มา ซึ่งมียาคุมรวมอยู่ด้วย หมอจึงให้ลดแป้ง น้ำตาล กินผักผลไม้ ออกกำลังกาย อั๊ยยะ !! นี่มันตรงกับวิธีธรรมชาติที่ฉันต้องการเลยนี่หว่า ดวงตาเห็นธรรม แรงฮึดก็มา ถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องดูแลสุขภาพจริงๆจังๆ ... อ่านหนังสือและหาข้อมูลเต็มที่ อะไรดีฉันกินหมด จากไม่ชอบผลไม้รสเปรี้ยวก็กิน เพราะเคยอ่านเจอว่าผลไม้รสเปรี้ยวดีต่อคนเป็นสิว จากไม่กินผักขมก็หักดิบกิน เพราะธาตุของเราเหมาะกับอาหารรสขม ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่นให้มากๆ จากชอบดื่มแต่น้ำเย็น ปรับการนอน การกิน การขับถ่าย การออกกำลังกาย การดำเนินชีวิตทุกอย่าง (อันนี้เราก็เคยอ่านเจอการปรับตามนาฬิกาชีวิตเหมือนกัน) ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด และยั่งยืน ไม่เพียงแต่ได้เรื่องสิว ยังได้สุขภาพด้านอื่นๆด้วย เราขอรวบรัดตัดตอนเลยว่า เราทำเป็นประจำจนอาการดีขึ้นมากเลยค่ะ หน้านี่ใส จืตใจก็เบิกบาน เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จนใครก็ทักว่าไปทำอะไรมา เปลี่ยนมาถามว่าไปรักษาที่ไหน ทำอะไรยังไง กลายเป็นกูรูจำเป็นไปเลย .... ...เราว่า อารมณ์นี่แหละตัวดี ที่คอยกระตุ้นฮอร์โมน ยิ่งจิตตก สิวก็ยิ่งขึ้น ถึงสิวจะทำให้เราเป็นทุกข์ แต่ก็ต้องขอบคุณสิวนะ ที่ทำให้เราได้ศึกษาธรรมะและดูแลสุขภาพอย่างจริงจังสักที ... จากคุณ : เม็ดฝนบนใบตอง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 15:23:03

ความคิดเห็นที่ 68 เราเองก็เป็นสิวเหมือนกัน สิ่งที่เราเปลี่ยนและเห็นผลมากๆคือ 1. เปลี่ยนปลอกหมอนทุก 3 วัน (ไม่ใส่นำ้ยาปรับผ้านุ่มที่ปลอกหมอน ) 2. ผ้าเช็ดตัว / ผ้าเช็ดหน้า / ผ้าเช็ดผม แยกจากกัน ถ้ามันซักไม่ทันเราใช้สำลีซับหน้าแทนคะ 3. นอนก่อนเที่ยงคืน 4. สระผมทุกครั้งที่โนละอองฝน และสระผมทุก 2 วัน (เวลานอน ผมจะยกขึ้นอย่าให้โดนหน้าคะ) จากสิวที่มาได้ทุกวันก็ลดลงเรื่อยๆในเวลา 2 -3 เดือนคะ จากคุณ : t.ruji เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 15:35:14

ความคิดเห็นที่ 69 เคยเป็นประมาณเจ้าของกระทู้เลย  จากไม่มีสิวอยู่ดีๆ สิวปะทุอยู่ 1-2 ปี (เจอคนรู้จักพอเห็นเรามีสิว แต่คนพูดว่าน่าสงสารใส่หน้า)   แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปตอนเป็นสิวไว้เลย บอกตรงๆ ว่าตอนเป็นไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะหาย เลยไม่คิดจะทำรีวิว ^^  จากลองผิดลองถูกมาหลายหมอ ยาหลายขนานในห้องแป้ง  สุดท้ายมาจบด้วย BHA ป้าพอลล่าตัวเดียวเลย เลิกหาหมอ ทำใจสบายๆ เลิกคิดเรื่องสิวซะ  สุดท้ายดันหายซะนี่ จากคุณ : อยากรู้ทุกเรื่อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 15:35:27

ความคิดเห็นที่ 70 ว้าวๆ หน้าใสขึ้นมากมายเลยค่ะ คุณเมเม เราเองก็เป็นคนที่ผ่านสมรภูมิสิวเขรอะมาเหมือนกัน แบบว่าทุกรูขุมขนที่มันพอจะขึ้นได้ มันก็ขึ้นหมดเลยอ่ะค่ะ แต่ตอนนี้พยายามรักษามาได้หลายเดือนแล้วค่ะ สิวก็ยุบไปเกือบหมดแล้ว แต่กำลังหาวิธีจัดการรอยแดงที่หน้าอยู่ค่ะ ไว้หน้าใสปิ๊งๆ แบบคุณเมเมแล้วจะมารีวิว พลีชีพให้ชมบ้างนะคะ ^^ จากคุณ : TisTee (iTisTee) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 16:48:51

ความคิดเห็นที่ 71 (T T) อยู่ดีๆก็เป็นสิว(ระเบิด)ทั่วหน้าเหมือนกัน ได้ข้อมูลเยอะมากๆๆๆ ขอบคุณนะค่ะ แล้วจะเอาไปลองทำดู แต่แอบรู้สึกใจชื้น ว่าอย่างน้อยก็มีผู้ร่วมชะตากรรมเหมือนกัน มันจิตตกเน๊อะ? ที่อยู่ดีๆก็มีสิวทั่วหน้า จากคุณ : kumakuma เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 16:51:21

ความคิดเห็นที่ 72 หน้าใสกิ๊งมากกกกก ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นะคะ จากคุณ : Seasons of LovE เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 17:02:15

ความคิดเห็นที่ 73 เก่งมากเลยครับ สวยใสสมใจแล้ว จากคุณ : นายแบบเขมร เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 22:02:35

ความคิดเห็นที่ 74 พยายามมากเลยค่ะ ดีใจด้วยนะคะที่หน้าใสแล้ว จากคุณ : ++nadda++ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 22:03:55

ความคิดเห็นที่ 75 T^T   ตอบคอมเม้นยังไงไหว  เดี๋ยวเมเมมาไล่ตอบนะคะ  อินบ๊อกก็ไม่ได้เชค   เฟสบุ๊กก็อินบ๊อกเต็ม  เล่นเบลอไปหมดเลย  ขอโทษทีค่ะ อาจจะตอบช้านิดนึง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้เมเมนะคะ   ^^ จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 22:05:09

ความคิดเห็นที่ 76 จากคุณ : ยูหยู่ยู่ยู้หยูว์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 22:25:42

ความคิดเห็นที่ 77 เราเป็นสิวนะ จิตตกเลย ไม่แต่งหน้าเลย กลัวไม่หาย คือเรา จิตตกนะ ไม่อยากเจอผู้คน แต่ต้องไปเรียน เลยต้องเจอก็ช่างเค้า เกือบเดือนแล้ว ... เย้ หน้ากลับมาเกือบปกติแล้วค่ะ เพราะรักษาความสะอาด ตาม จขกท.บอกเลย ตัดเล็บ ซักผ้าปู ไม่เอามือจับหน้า ไม่เอามือท้าวคาง ท้าวแก้ม เป็นต้น แนะนำนะคะ คนเป็นสิว อย่าไปหาหมอตามคลินิคแบบนิติพล อะไรแบบนี้ คือ เอาหมอผิวหนังที่จบเฉพาะทางผิวหนังจริงๆดีกว่า  ถามเลยหมอจบผิวหนังมั้ย เป็นแค่หมอจบ 6 ปีรึเปล่า (ณ. จุดนี้ไม่ได้ดูถูกหมอทั่วไปนะคะ แต่ว่า การรักษาสิวตามคลินิกแบบนั้น มันราคาสูง ชอบเสนอครอสพิเศษให้ แบบเอาเงินอะ ง่ายๆนะ ... มันคือเรื่องจิตใจด้วย อย่างน้อยเราเองนิ เรายังอยากหาหมอเฉพาะทางเลย เราก็อยากให้หายเร็วๆอะ เสียเงินแล้ว อย่าให้ต้องเสียเวลาอีกเลย ) อีกอย่างๆๆ คือ เราชอบจูบแมวเรามากกกก พอเราเป็นสิวเราเลยต้องหยุดจูบแมว ไม่เอาแมวเข้ามานอนด้วยบนที่นอน ก็ลดสิวลงได้เยอะเลย ปล. เราเข้าใจว่า จขกท. ได้ไปหาหมอเฉพาะทางแล้วนะ แต่ที่เราพูดเรื่องหมอ คือ เราเตือนคนอื่นน่ะ จากคุณ : kolanya เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 01:12:05

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีนะค่ะ นับถือ จขกท. เลยค่ะ จิตใจเข้มแข็งมาก จากคุณ : pranete เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:46:50

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นทุกคนที่แบ่งปันข้อมูลดีๆนะคะ  จริงๆเมเมไม่ได้คิดว่าจะหายจากสิวเลยสักนิด  แต่ว่าก็พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้  พอหายก็ต้องมานั่งรวมข้อมูล  พยายามหารูป มาทำรีวิว  ถ้ารู้ว่าจะหายเมเมจะถ่ายรูปทุกวันเลย  T^T   ใครที่เป็นสิวอยู่  เมเมเป็นกำลังใจให้นะคะ  ถ้ามีคำถามอะไร ถามที่เฟสเมจะตอบไวกว่า  ถามที่บล๊อก ที่กระทู้บางทีเมไม่ได้เข้ามาเชคค่ะ   ขอบคุณสาวๆห้องแป้งที่น่ารักและพร้อมมาแชร์ประสบการณ์การรักษาสิวดีๆด้วยกัน จากคุณ : meismeme เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 16:18:30

ความคิดเห็นที่ 80 ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ โดยเฉพาะนาฬิกาชีวิต จะเอาไปปรับใช้นะคะ จากคุณ : อยากเห็นคนไทยดูดี เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 16:52:12

ความคิดเห็นที่ 81 กระทู้นี้สิของจริง จากคุณ : NongMuay เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 19:06:48

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณ จขกท มาก มากเลยนะคะ จขกท สอนให้เรารู้ว่า "เวลาเป็นสิว ต้องมีสติ" (เคยจิตตกมากค่ะ) จากคุณ : shiiniing555 เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 22:58:33

ความคิดเห็นที่ 83 อ่านแล้วได้รับความรู้เกี่ยวกับร่างกายขึ้นเยอะเลยคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ อิอิ ยืนยันเลยคะการที่เรานอนเร็วขึ้นทำให้สุขภาพดีขึ้นจริงๆคะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 10:16:28

ความคิดเห็นที่ 84 การนอนดึกนี่ส่งผลมากๆ เลยจริงๆ นะคะ มันอาจจะไม่ส่งผลทันทีในตอนนั้น แต่ถ้ายังนอนดึกต่อกันไปเรื่อยๆ สักวันมันส่งผลแน่นอน ตอนนี้เราก็เจออยู่ เกิดมาไม่เคยเป็นสิว นานนนนนน น๊านนนนนนนน จะโผล่มาสักเม็ด แต่ตอนนี้สิวบุกเต็มหน้า สาเหตุหลักๆ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอที่มันสะสมมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็พยายามนอนเร็วๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เยอะๆ หวังว่ามันจะช่วยได้ เป็นสิวตอนอายุใกล้เลข 3 โคตรจะนอยด์ Y_Y จากคุณ : แม่ให้มาเยอะก็ไม่รู้จะทำไง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:03:25

ความคิดเห็นที่ 85 เก่ง สุดยอดเลยค่ะ จากคุณ : มดตะแคง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:14:17

ความคิดเห็นที่ 86 จขกท.ยิ้มสวยจัง ^^ จากคุณ : little_jam เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 16:51:56

ความคิดเห็นที่ 87 ตาลายยย @.@ ตัวหนังสือเยอะ ดูรูปอย่างเดียวเลยเรา แฮ่ จากคุณ : Anajoyo88 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 20:08:42

ความคิดเห็นที่ 88 วงจรชีวิตเราตรงข้ามกับที่หนังสือบอกทุกอย่างเลยอ่ะ สงสัยต้องปรับเปลี่ยนซะแล้ว แต่อยากถามน้องเม(?)ว่าเคยเป็นสิวหนองสิวอักเสบรึเปล่า แล้วมีวิธีรักษารอยแดง ที่เกิดจากสิวพวกนี้ยังไง กลุ้มใจมากค่ะตอนนี้ me//กดทู้เข้าคลังด่วนๆ จากคุณ : film_chiii เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 15:20:08

ความคิดเห็นที่ 89 น้องสุดยอดมากจ้า จากคุณ : เส้นเล็กน้ำใส เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 17:06:23

ความคิดเห็นที่ 90 จะลองทำตามวิธีของคุณเมเมดูนะคะ ตอนนี้ส้มเป็นสิวเยอะมาก(มากขนาดว่าเวลาเดินต้องก้มหน้าอย่างเดียว) ตอนนี้มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ...แล้วคุณเมเมเวลาเป้นสิวนี่เป็นสิวอักเสบด้วยหรือเปล่าคะแล้วรักษายังไงบ้าง เพราะส้มจะมีสิวอักเสบแล้วทิ้งรอยแดงรอยดำเอาไว้ค่ะ จากคุณ : ส้ม (PC.zomza) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 18:03:06

ความคิดเห็นที่ 91 เห็นด้วยค่ะที่บอกว่าให้หยุดใช้ทุกอย่าง เจอน้องหลายคนทื่จู่ๆเป็นสิวเยอะแบบไม่มีสาเหตุ  เราก็แนะให้หยุดทุกอย่าง ไม่ต้องวิ่งไปหาหมอ เพราะส่วนใหญ่ยิ่งแย่ลง หยุดให้ร่างกายปรับสมดุลตามธรรมชาติดีที่สุด จากคุณ : แวะมาเมื่อว่าง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 18:48:37

ความคิดเห็นที่ 92 ตกตะลึงกับเครื่องสำอาง... ดีใจด้วยที่หน้าใสแล้วนะคะ ^^ จากคุณ : Classical_Virus เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 19:28:09