 |
bluelagoon*********สวัสดีค่ะน้องบูล ได้ลองหาหนังเรื่อง bluelagoon มาดูหรือยังจ๊ะ สนุกน้าาาาา เรื่องผม พี่ก็แค่ซอยธรรมดา พี่บอกกับช่างว่า ขอแบบหัวโตๆ พองๆ ไม่ฟีบ สระผมเสร็จ ปล่อยแห้งเกือบสนิท ก่อนจะแห้งสนิทก็จะเป่าผม โดยก้มหัวลงให้ผมตกลงแล้วเป่าแห้งแบบก้มหัว พอแห้งก็เงยหัว ผมก็จะฟูไม่ฟีบ และพี่จะไม่ใช้หวี จะใช้แค่มือสางๆ ผมก็จะดูจับเป็นช่อๆค่ะ ดูเป็นธรรมชาติ
คร่าวๆจ้าาาาาา
กระเจี๊ยบ (ดอกเอื้องดอย)*******สวัสดีค่ะน้อง น้องวิ่งทำเวลาได้ดีเลยนะคะ กับอากาศร้อนๆแบบนี้ เยี่ยมเลยค่ะ เรื่องฟูลมาราธอน นอ้งทำได้แน่นอนค่ะ อย่าดูถูกร่างกายตัวเอง ร่างกายเราช่างวิเศษ ไม่มีอะไรที่ผู้หญิงอย่างเราจะทำไม่ได้ ..ร้อยลี้ยังมีก้าวแรกเสมอ.... วันที่เจอกันที่สนามฟูลมาราธอน อย่าลืมทักทายกันนะจ๊ะ พี่จะรอถ่ายรูปด้วย จุ๊ฟฟฟฟ ๆๆๆๆ
โจ๊กใส่ไข่พิเศษไส้ ***ขอบคุณค้าาาา ฮึบๆๆๆๆ
BijinRoom****ขอบคุณค่ะ มีความสุขก็ยิ้ม เหนื่อยก็ยิ้ม แล้วทุกอย่างจะสดใสค่ะ
orm-om******ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันนะคะ
------------------------------------------------------------------- หนูลีลี***สวัสดีค่ะ พอดีหญิงยังไม่ได้ไปดูหนังเลยค่ะ
"เราอยากรู้ว่าการวิ่งมารธอนมันได้อะไรบ้างเวลาที่ร่างกายและจิตใจเรามันเหนื่อย มันท้อจนถึงขีดสุด เราตอบคำถามอะไรกับตัวเราเองได้บ้าง เราคุยอะไรกับตัวเองบ้าง"
--หญิงวิ่งแบบมีความสุขตลอดเส้นทางค่ะ แม้จะเหนื่อยแทบขาดใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้มาวิ่ง เวลาเจอปีศาจโลที่ 35 หญิงดีใจค่ะ เพราะรู้ว่าอีก7 โลก็จะเจอสวรรค์แล้ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อีกนิดเดียวก็ถึงเส้นชัย หญิงก็เลยไม่กลัวค่ะ รู้สึกดีเสียอีกที่ได้รู้ว่า ตลอดเส้นทางเราได้เจออะไรบ้าง แล้วเราก็รู้สึกดีที่เราเอาชนะมันไปได้ในแต่ละช่วง แล้วเราจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองแบบสุดๆ รักตัวเองแบบสุดๆ
"เมื่อวิ่งไปเรื่อย ๆ เพื่อนที่วิ่งจะน้อยลงเรื่อย ๆ จนเหมือนจะมีเราวิ่งอยู่คนเดียวในโลก เราจะจัดการกับเสียงและคำถามที่เกิดขึ้นในตัวเราเองระหว่างทางอย่างไร เช่น เรามาทำอะไรตรงนี้(วะ) เราเหนื่อยไปเพื่ออะไร(วะ)"
---ไม่เคยมีคำถามแบบนี้ในหัวของหญิงเลยค่ะ รู้ว่าเรามาทำอะไร และรู้ว่าเหนื่อยไปเพื่ออะไร เพราะเราซ้อมวิ่งมาเป็นปี แล้ววันที่ลงวิ่งก็คือวันที่เรามาฉลองสิ่งที่เราตั้งใจทำมาตลอดทั้งปี มันก็มีความสุขในการวิ่ง "เราว่า การลงสมัครวิ่งมารธอน เราต้องอาศัย "ความกล้า" ในระดับนึง แล้วกายกับใจก็ต้องเตรียมพร้อมในระดับนึง แล้วระดับที่เหลือล่ะ เราจะจัดการให้มันไปถึงจุดหมายนั้นอย่างไร "
---ต้องอาศัยความรู้ด้วยค่ะ ต้องวิ่งแบบถูกต้อง เพื่อไม่เกิดความบาดเจ็บ จะวิ่งให้ดี ต้องไม่บาดเจ็บ แล้วเราจะได้ประโยชน์จากการวิ่งสูงสุด และก็ต้องมีระเบียบวินัยสุดๆ ขี้เกียจไม่ได้เลย และเราต้องมีเวลาให้กับการซ้อมวิ่งค่ะ ถ้าไม่มีความรู้ ไม่มีระเบียบ ไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน ไม่มีความตั้งใจจริง ไม่มีเวลา ก็ไม่มีทางพิชิตมาราธอนได้สำเร็จค่ะ
"มาราธอนมันสอนอะไรให้ชีวิตเราบ้าง มากกว่าความอดทนและไปให้ถึงเป้าหมาย"
----ต้องลองมาวิ่งเองถึงจะรู้ค่ะ ของบางอย่างมันอธิบายให้คนไม่เคยวิ่งไม่ได้ เพราะเขาก็จะไม่เข้าใจ ของพวกนี้ต้องลองเองถึงจะเข้าใจ ถึงจะรู้ซึ้งว่า ทำไมคนๆหนึ่งถึงกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นๆไม่กล้าที่จะทำ หรือไม่กล้าที่จะคิดลอง และเขาก็วิ่งกันจนแก่ มาราธอนมันมีสเน่ห์มาก ลองแล้วจะตกหลุมรักแบบโงหัวไม่ขึ้นทีเดียว
ฝากประโยคเด็ดค่ะ
ประโยคนี้เป็นประโยคที่มีพูดในหนัง จริงๆแล้วมาจากนักวิ่งดังในตำนาน If you want to run , run a mile.........
........If you want to experience a different life , run a marathon.
by Emil Zatopek (Czech Sporting Legend of the Century)
และประโยคอื่นๆ ที่สื่อถึงฟูลมาราธอน ที่นักวิ่งจะเข้าใจได้ดี
"I've learned that finishing a marathon isn't just an athletic achievement. It's a state of mind; a state of mind that says anything is possible" by John Hanc, Running Author
"Of all the races, there is no better stage for heroism than a marathon" by Dr George Sheehan , Author and Philosopher
"Anyone can run 20 miles. It's the next 6 that count" by Barry Magee, Olympic Marathon Bronze
"If you are losing faith in human nature, go out and watch a marathon" by Kathrine Switzer, Women's Marathon Pioneer
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 55 21:23:50
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 55 21:23:02
จากคุณ |
:
Yoja&Jiji
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 55 21:16:36
|
|
|
|
 |