ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเราได้เงินเองแรกๆ เราก็ซื้อๆๆค่ะ หลังๆเริ่มหาทางประหยัด ของเรา เราจะแยกบัญชีค่ะ เปิดอีกบัญชีนึงเลยที่ไม่มี ATM ด้วย บช.นี้ก็จะมีแต่ฝากเข้า จะไม่ถอนออกเลย แล้วก็แบ่งเงินไปออมทอง ฝากรายเดือนไป กะๆว่าให้เหลือช็อปแค่เดือนละ 2-3 พันค่ะ จากคุณ : MooNymph เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:57:33

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างแรกเลยเวลาเงินเดือนออก เราจะคำนวนค่ะว่าแต่ละวันโดยปกติแล้วใช้เงินเท่าไร แล้วแยกเงินก้อนนั้นออกมาฝากไว้อีกบัญชีนึง เวลาจะใช้เราจะกดออกมาใช้เป็นอาทิตย์ เช่นอาทิตย์ละสองพันห้า ส่วนเงินที่เหลือเราก็จะแยกเอาไว้อีกเช่นกันว่าเงินก้อนนี้ทำบุญ เงินก้อนนี้ซื้อของช็อปปิ้งได้ เกินจากนั้นจะไปหักเอาในเงินแต่ละอาทิตย์แทน และส่วนที่เป็นเงินเก็บ เงินที่ตั้งใจจะเก็บ เราแนะนำให้ฝากแบบประจำไปเลยค่ะ เป็นการหักห้ามใจตัวเองด้วยอีกทาง แต่ถ้ากลัวมีปัญหาแล้วจะถอนเงินออกจากบัญชีฝากประจำไม่ได้ ก็ฝากบัญชีแบบไม่ทำบัตรเอทีเอ็มไว้ก็ได้ค่ะ ตอนเราเริ่มทำงานแรกๆก็เก็บเงินไม่ค่อยอยู่เหมือนกัน จนกระทั่งเราทำแบบนี้ก็เริ่มเก็บเงินได้สักที นอกจากนี้เราก็เก็บเหรียญสองบาท ใส่กระปุกไว้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : หมีน้อยพุงพลุ้ย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:58:40

ความคิดเห็นที่ 3 ป้าเก็บเงินไม่เป็นตลอดอายุก็ว่าได้ แต่เคยถามเพื่อนคนหนึ่ง เขาเก็บเงินได้ เขาว่า พอเงินเดือนเข้าบัญชี เขาจะถอนเงินสดเอาออกมาไว้ในมือ ในจำนวนเท่าที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น เขารู้ว่าเดือนๆ เขาใช้เท่าไร นอกนั้นปล่อยให้มันอยู่ในนั้นล่ะ หากเดือนไหน ใช้เกินงบไปบ้าง ก็ยืมสามี พอเงินเดือนออกก็เอาให้คืนสามี เขาค่อนข้างจะประหยัด ถึงประหยัดมาก ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่เอาเงินสดออกมาจากแบ้งค์ จำนวนเงินเก็บเขาโตเร็วมาก เอาอย่างเขาไม่ได้สักที จากคุณ : ย่าครับ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 02:42:33

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นกระทู้อยากเก็บเงินแล้วอดเข้ามาตอบไม่ได้ เคยตอบแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยินดีที่จะตอบอีกเสมอกับกระทู้ดีๆ แบบนี้ค่ะ ขอชื่นชมเจ้าของกระทู้ก่อนเลยค่ะ ว่าเป็นสาววัยเริ่มทำงานที่รู้จักการวางแผนทางการเงินดีมากๆ เห็นสาวๆ หลายคน กว่าจะรู้ตัวว่ามีแต่ของ ไม่มีเงินเก็บก็ผ่านไปหลายปีมากๆ แล้ว สำหรับตัวเราเอง เดือนแรก ให้พ่อแม่ทั้งหมด อยากให้พ่อแม่ชื่นใจ และเราเชื่อว่าคนกตัญญูไม่ลำบาก เดือนแรกมีเงินเก็บในกระปุกพออยู่ได้ เดือนต่อๆ มา เราแบ่งให้พ่อแม่ ส่งน้องเรียนสองคน จริงๆ พ่อแม่มีเงินมากกว่าเราเสียอีก และไม่ได้ขอให้เราส่งน้องเรียน แต่เราเคยได้ยินเรื่องที่ครอบครัวรุ่นพ่อแม่มีพี่ส่งน้องเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยนั้นพ่อกับแม่ของเราฐานะลำบากมาก อากงถึงกับต้องกู้ดอกร้อยละยี่สิบมาให้แม่เรียน เรื่องนี้ฝังใจเรามาก อยากช่วยส่งน้องเรียนด้วย เดือนต่อๆ มาเราก็ให้พ่อแม่ ให้น้องๆ แล้วที่เหลือใช้เกลี้ยงค่ะ เพราะเพิ่งทำงาน รู้สึกว่าอะไรๆ ก็ยังไม่มี ไม่ว่าจะเสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า ปกติตอนเรียนก็ไม่ได้แต่งตัวอะไร มีแต่ชุดนักศึกษากะเสื้อยืดกางเกงยีนส์ อะไรสวยๆ แพงหน่อยก็ไม่กล้าซื้อ เกรงใจว่าใช้เงินพ่อแม่อยู่ พ่อแม่เราเองไม่ค่อยใช้เงิน ยิ่งแม่เราไม่แต่งตัวเลย ทาหน้าด้วยแป้งเด็กกับลิปมันอันละไม่ถึงร้อย ครีมอะไรก็ไม่ใช้ เสื้อผ้าก็ซื้อถูกๆ เราจะรู้สึกผิดมากถ้าใช้เงินที่ได้มาจากพ่อแม่กับสิ่งทีแพงกว่าของที่พ่อแม่ใช้เองอีก แต่ไม่เคยมีหนี้นะคะ พ่อแม่สอนเสมอว่าการมีหนี้เป็นสิ่งรันทด 5 5 มีหนี้ได้เฉพาะการกู้แบงก์มาทำธุรกิจหรือซื้ออสังหาเท่านั้นค่ะ แต่ก็ต้องมีอย่างระวัง เพราะดอกเบี้ยเป็นเรื่องเจ็บปวด เราปิดบัตรร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดค่ะ เป็นอย่างงี้อยู่สองสามปี ทำงานเยอะ ได้เงินเยอะพอควร และก็ใช้เยอะด้วย แหะๆ จนเรามาเรียนต่อ ก็เลยนึกได้ว่า แทบไม่มีเงินเก็บเลย ก็เลยพยายามเก็บเงินด้วยวิธีต่างๆ นานาลองมาหลายวิธี ....พบว่าทุกวิธีที่ใช้ก่อนเก็บไม่ได้ผลค่ะ สำหรับเรานะคะ เพราะเป็นคนชอบใช้เงิน ( สารภาพตรงๆ เล้ยยย) เห็นเงินในบัญชีแล้วอดจะกดออกมาไม่ได้ วิธีที่เวิร์คคือ " เก็บก่อนใช้" ค่ะ ง่ายๆ เลย หรือบางคนก็เรียกว่า จ่ายให้ตัวเองก่อนค่ะ โดย คำนวณรายจ่าย 4 ด้านก่อน แล้วเอารายได้มาลบ ที่เหลือเป็นเงินเก็บ - รายจ่ายแรก ก้อนฟิกซ์ จ่ายเท่ากันทุกเดือน เช่น ให้พ่อแม่ ให้น้อง ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าซักผ้า ค่าบริจาครายเดือนที่หักผ่านบัตรเครดิต - รายจ่ายที่สอง ค่ากินประจำวัน เราให้ตัวเองวันละ 200 รวมๆ ก็เดือนละ 6000 - รายจ่ายทีสาม ค่าเอนเตอร์เทน เช่นกินข้าว ดูหนัง ซื้อหนังสือ ช้อปปิ้ง ( อันนี้สำคัญมาก )   เราให้ตัวเองเดือนละหมื่นถึงหมื่นห้า ถ้ามีเงินพิเศษเพิ่มก็เพิ่มให้ตัวเอง ตามคอนเซปท์หาเก่ง ใช้เก่ง อิอิ - รายจ่ายที่สี่ เงินใช้สำรอง เดือนละประมาณ 3000 เก็บไว้จ่ายรายจ่าย extra เช่น ซองงานแต่ง ค่าตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน เป็นต้น รวม 4 อย่าง แล้ว เอาเงินเดือนมาลบ ก็ได้เงินเก็บ แล้วเอาเงินเก็บโอนเข้าอีกบัญชีที่ไม่มีเอทีเอ็ม ตั้งแต่ตอนเงินเดือนออกเลย วิธีนี้เราก็เลยเก็บเงินได้กะเค้าซะที ไม่อยากจะอวดเล้ย ( แปลว่ากำลังจะเริ่มอวด )  ว่าเก็บแบบนี้จนมีให้แม่ยืม ( ตามที่แม่บอก ) แต่เป็นการให้แม่ ( ตามความคิดเรา ) ตอนที่ครอบครัวมีหนี้แล้วหมุนไม่ค่อยจะทันได้ด้วยล่ะค่ะ ภูมิใจมากๆ ไม่เคยคิดจะถามหาเงินนี้เลย ถึงจะเยอะ เพราะสำหรับเรา บุญคุณพ่อแม่ ตอบแทนเท่าไรไม่เคยพอค่ะ ปล เราว่าจขกท.เก็บเงินเก่งมากๆ แล้วนะคะ เดือนละหมื่นแปดเก็บได้สองพัน เพราะเพิ่งเริ่มทำงาน อะไรๆ ก็ยังต้องซื้อใหม่ ถ้าไม่มีภาระใช้เงินอย่างอื่น ใช้สบายๆ สักปีค่อยเริ่มเก็บก็ได้ค่ะ อย่าลืมบาลานซ์ชีวิตเรื่องวันนีิ ( ใช้เงินเพื่อความสุขตอ.และครอบครัว ) กับอนาคต ( เงินเก็บ ) นะคะ คิดถึงอนาคตน่ะดีแน่ แต่ต้องมีความสุขกับปัจจุบันด้วยเช่นกันค่ะ จากคุณ : PDF เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 03:49:05

ความคิดเห็นที่ 5 1. ถ้าอยู่หอพัก จ่ายค่าเช่าเอง เก็บได้เดือนละ 2 000บาทก็ถือว่ากำลังดีแล้ว 2. ถ้าอยู่หอพัก อยากเก็บได้มากกว่านี้ ควรจะหาวิธีแชร์ห้องกับเพื่อน หรือไปอยู่กับครอบครัว จะได้ไม่เสียค่าเช่า 3. ถ้าอยู่กับครอบครัวอยู่ ควรจะเก็บให้ได้ 20-30 เปอร์เซนตร์ของเงินเดือน (แต่ถ้าคนเงินเดือนสูงกว่านี้ ก็อาจจะเป็น 35 เปอร์เซนตร์ขึ้นได้) 4. เงินเดือนออกปุ๊ป ควรโอนเข้าบัญชีธนาคาร เป็นสิ่งแรกทันที..และหาที่ได้ดอกเบี้ยสูง (ฝากประจำยิ่งดี) แล้วห้ามใช้บัตรเดบิตหรือบัตรอะไรก็แล้วแต่ที่สะดวกในการถอน 5. ถ้าเป็นไปได้ ถ้ามีบริการโอนเงินเข้า อัตโนมัติยิ่งดี (ค่าธรรมเนียมไมทราบถ้าไม่สูงก็น่าสนใจ) เพราะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ซื่อสัตย์ในการออม 6.สำเหนียก ฐานะการเงินตัวเองว่า สามารถใช้จ่ายได้ระดับไหน (เงินเดือน หมื่นแปด ถ้าล่อ ซื้อ คสอ แบรนด์ ทุกเดือน หรือ กินเอ็มเค หรือ ฟูจิทุกเดือน ฯลฯ ที่ฟุ่มเฟือย คงจะไม่พอ 6. เรื่องเก็บเงิน อยู่ที่ระเบียบวินัยการใช้เงิน พยายามอย่ามั่วบัญชี สำหรับใช้จ่าย.. ต่อให้เงินเดือน ไม่ถึงหมื่นก็ สามารถมีเงินเก็บและรวยขึ้นๆได้ ถ้าแยกอะไรเป็นอะไร ส่วนตัว เราเอง จะเก็บเงินในบัญชีที่ไม่เคยแตะเลย ราวๆ 60 เปอร์เซนตร์ ซึ่งก็จะแตกย่อย ไปอีกบัญชีอื่นๆ ที่ตั้งใจไว้แล้วว่าสำหรับอะไรๆมั้งในอนาคต (เช่น สำหรับ  ครอบครัว, เงินเกษียณ, สุขภาพ, เครื่องใช้ในบ้าน, ซื้อคอนโด ที่ดิน ฯลฯ) ส่วนอีก 40 ไว้สำหรับ ค่าใช้จ่ายในบ้าน เช่น น้ำ ไฟ อาหารการกิน ซ่อมแซม และแบ่งออกอีก10 เปอร์เซนตร์ สำหรับของฟุ่มเฟือย เพื่อตอบสนองกิเลสค่ะ ส่วนหยอดกระปุกเราไม่ค่อยนิยม เพราะเก็บในกระปุกดอกมันไม่ขึ้น.ส่วนมาก เอาไว้หย่อนเหรียญ แล้วพอเต็มเอาไปแลกเป็นแบงค์ เอาไปทำบุญ เรื่องการเก็บเงิน สำคัญมากๆ  เพราะเวลาเราหมดอายุการทำงาน (เกษียณ) เงินนี้มันมีค่ามากๆค่ะ เพราะแก่ไปจะไปหวังพึ่งลูกหลาน มันจะได้มากมายเพียงใด อนาคตไม่รู้.. เราอยากจะเป็นกำลังใจให้คุณ จขกท. และเพื่อนๆ หันมาให้ความสำคัญกับการเก็บเงิน เพื่อยากแก่ชรากันให้มากๆนะคะ) จากคุณ : clear_blue เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 04:40:06

ความคิดเห็นที่ 6 เราใช้วิธีง่ายๆค่ะ กำหนดเป้าหมายไว้ก่อนเลยว่าเราจะเก็บเงินให้ได้เท่าไหร่ แล้วเงินที่เหลือก็ค่อยๆกดมาทีละหน่อย ด้วยนิสัยขี้จกียจค่ะ ใช้มันให้เกิดประโยชน์ กดมาน้อยก็ใช้น้อยค่ะ เพราะขี้เกียจเดินไปกดเงิน 55555 ลองขี้เกียจแบบนี้ดูก็ได้นะคะ มีเงินเก็บมากขึ้นจริงๆนะ ฮิฮิ จากคุณ : munum2590 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 06:42:46

ความคิดเห็นที่ 7 ฝากประจำ แบบพวก เดือนละ 5000 (ยกตัวอย่าง) บังคับฝากทุกเดือน ระยะเวลา 3 ปี แบบนี้ก็ได้ค่ะ เราฝากแบบนี้ค่ะ http://www.welovepro.com/%E0%B8%B4bangkok-bank-disney-live/ http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/PersonalBanking/BuildYourWealth/InvestmentsAndDeposits/SinmathayaSubthawee/Pages/default.aspx จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 07:50:53

ความคิดเห็นที่ 8 เราแยกบัญชีคะ เก็บแบบเงินฝากไม่ประจำ เพราะการถอนยุงยากหน่อย แต่ฉุกเฉินพ่อแม่เจ็บป่วยยังมีให้เบิกได้ แล้วก็เก็บแบงค์ 50 ตามสาวๆห้องแป้งค่ะ เก็บไม่ได้เคร่งอะไรมาก เพราะเคร่งมา เดือนนึงเราได้เป็นเงินเกือบ 3 พัน ทำให้กรอบกันเลยทีเดียว แต่จะมีเป้าหมายไว้ว่าเดือนต้องไม่ต่ำกว่า 1500 ต่อเดือนค่ะ พอเงินเดือนออกจะเอาเงินไปฝากเลย แล้วก็มาจัดสรรค์ส่วนที่เหลือ ทีนี้อยากซื้ออะไรใช้อะไรก็จัดเลยค่ะ จากคุณ : AaipigBim_Kiko เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:32:26

ความคิดเห็นที่ 9 เคยอ่ายเจอในหนังสือเล่มนึงค่ะ แต่จำชื่อหนังสือและคนแต่งไม่ได้ เค้าบอกว่าถ้าเราออมโดยวิธีเดิมๆ  รายรับ-รายจ่าย=เงินออม ชาตินี้ก็ไม่รวย แต่จะต้องออมโดยวิธี รายรับ-เงินออม=รายจ่ายค่ะ เราอ่านแล้วเห็นด้วยอย่างแรงค่ะ จากคุณ : น้องสามสี (jojojeff) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:43:41

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนตัวเงินเก็บเงินใช้จะอยู่ในบัญชีเดียวเลยค่ะ จะไม่แยกออกมากลัวเวลาจำเป็นจริงแล้วจะต้องยุ่งยากไปถอนอีกบัญชี ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวินัยการใช้เงินของแต่ละคน  สำหรับตัวเองจะกำหนดเลยว่าแต่ละเดือนใช้เท่าไหร่ ในเรื่องอะไร อย่างค่าใช้จ่ายที่มีตัวเลขตายตัวอย่างค่าน้ำมันค่าแก๊ซรถยนต์ จะกดเงินมากันไว้ใส่ซอง เวลาจะใช้ก็จะเอาจากในซองไปใช้จ่าย ส่วนรายจ่ายอื่นๆเช่นค่าอินเตอร์เน็ตจะใช้วิธี2เดือนจ่ายครั้ง แต่จะกันเงินไว้ใส่ซองไว้เช่นกันจะได้ไม่ต้องมายุ่งเงินของอีกเดือนหนึ่ง ค่าอาหารบวกค่าใช้จ่ายประจำวันบวกลบไม่เกิืน200บาทต่อวัน แต่ส่วนมากวิธีที่ใช้และประหยัดที่สุดคือห่อข้าวมาทานเองที่ทำงาน โดยเฉพาะมื้อเช้าส่วนมือกลางวันดิชั้นจะห่อเฉพาะข้าวมาแล้วไปซื้อกับตามร้านตามสั่งเอา เสียวันละไม่เกิน50บาท แต่จะทำเฉพาะช่วงต้นเดือนกับปลายเดือนเท่านั้นค่ะ ช่วงกลางๆก็อนุโลมให้ตัวเองกินอะไรอร่อยๆบ้าง นอกนั้นก็ใช้จ่ายตามความเหมาะสม ตามกำลังตัวเองและห้ามยุ่งกับเงินเก็บ หวังว่าวิธีดิชั้นจะเป็นประโยชน์กับน้องนะคะ เก็บเงินหน่ะไม่ยาก แค่ีรู้จักประมาณรายได้ตัวเอง รู้จักใช้มากกว่ารู้จักแต่จ่ายอย่างเดียวและถ้าเป็นไปได้ให้เอาเงินที่เก็บได้ไปทำทุนหรือต่อยอดให้งอกเงยค่ะ จากคุณ : oummini เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:43:51

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งที่เราทำแล้วเก็บได้นะคะ ขอแชร์เผื่อจะเอาไปใช้ 1. ให้แม่เก็บค่ะ แต่ละเดือนเราต้องส่งเงินให้ทางบ้านอยู่แล้ว ก็บวกเพิ่มไปในจำนวนที่เราอยากเก็บ แม่จะเป็นคนเอาไปฝากใส่บัญชีของเราที่อยู่ที่แม่ให้ค่ะ แล้วแม่จะเป็นคนคอยบังคับค่ะว่าเราต้องให้แม่ทุกเดือน เท่านี้ๆๆ ในส่วนเงินเก็บนะคะ เหมือนเราทำประกันเลยค่ะ มีคนทวงหนี้ทุกเดือน อิอิ 2. เราทำสำรองเลี้ยงชีพกับบริษัทค่ะ เขาจะหักเงินสะสมในแต่ละเดือนจากเงินเดือนเราเลยอัตโนมัติ หากครบกำหนด แล้วเราลาออกก็จะได้เงินก้อนไว้พอตั้งตัวค่ะ เราไม่รู้ว่าบริษัท จขกท มีมั้ยนะคะ 3. ทำบัญชีฝากประจำค่ะ ทุกเดือนบังคับโอนเข้าบัญชีนี้เดือนละ พัน สองพัน มันฝากไปแล้วก็ไม่อยากถอนอ่ะค่ะ บัตรเอทีเอ็มไม่มีด้วย ไม่อยากเสียดอกเบี้ยหากถอนก่อนกำหนดด้วย ลองเอาไปประยุกต์ใช้ดูนะคะ จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:48:20

ความคิดเห็นที่ 12 ทำงานมา 5 ปี เงินเก็บคืออะไรหนอ ไม่คุ้นเลย พี่อาศัยเก็บเป็นทอง เล่นแชร์ เอา ตอนนี้พยายามแบบนี้ เงินเดือนออก โอนเงินเข้าอีกบัญชีไว้ใช้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งใช้หนี้บัตร ทีเหลือเป็นเงินเก็บ **ที่แล้วๆ มาเหตุการณ์จะเป็นแบบรูปด้านล่างเยอะ 55 จากคุณ : Apple So Good เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:59:04

ความคิดเห็นที่ 13 พอได้เงินเดือนมาปุ๊บ เราจะแบ่งเงินออกครึ่งนึง ครึ่งนึงฝากประจำ 12,500 อีก2ปี ค่อยถอนออกมา อีกครึ่งเป็นเงินออมฝากธนาคาร 12,500 อยากได้อะไรค่อยกดใช้ ใช้เงินแฟนเอา หรือเรียกอีกอย่างว่า ไถเงินแฟนค่ะ อิอิ จากคุณ : maylanla เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:59:47

ความคิดเห็นที่ 14 ทำบัญชีรายรับ-จ่ายรายเดือนดู จดทุกรายการที่ใช้จ่ายไป แยกเป็นหมวดหมู่ จะเห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายว่าเงินหายไปไหน เงินเดือนออก หักเงินเก็บออกมาเลย เช่น 18,000 เก็บห้าพัน โยกห้าพันไปบัญชีอื่นอาจเป็นเงินฝากประจำ หรือกองทุน แล้วคิดซะว่าตัวเองมีเงินเดือน 13,000 ใช้ให้พอในแต่ละเดือน จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 09:13:32

ความคิดเห็นที่ 15 เปิบัญชีแบบทวีทรัพย์ค่ะ ที่จะหักเท่าๆกันทุกเดือน แบบบังคับไปเลย ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ด้วยนะคะ ระยะเวลา 24 เดือน พอครบกำหนดก็ได้เงินก้อนมาก้อนนึงค่ะ ...เราทำมาแล้วแรกๆจะบอกว่าอึดอัดมาก แต่พอครบกำหนด ได้เงินก้อนมา ชื่นใจมากๆค่ะ จากคุณ : pukkies เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 09:20:13

ความคิดเห็นที่ 16 เราทำงานมาก็จะ 5 ปีแล้วไม่มีเงินเก็บเหมือนกันค่ะ..... ^_^ เนื่องจากว่าอยู่หอพัก...รวมค่าน้ำค่าไฟก็เกือบ 5000 แล้ว ตอนนั้นเงินเดือนก็แค่ 12,000 เองค่ะ  แล้วก็ยังไม่รู้จักควบคุมตัวเองด้วย ขา shop ตัวจริงเลยค่ะ และตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่หอพักแล้ว  กับข้าวก็ไม่ได้ซื้อเท่าไหร่ ค่าน้ำ ค่าไฟก็ไม่เกิน 2,000 บาท น้ำมันก็อาศัยคนอื่นเติมให้บ้าง (คิดว่า 95 % ได้ที่คนอื่นเติมให้)  และที่บ้านเองก็ไม่ได้ต้องการให้เราส่งเงินอะไรให้หรอก  เพียงแค่เอาตัวเองให้รอดและอย่าไปของเงินทางบ้านก็พอ... ก็จะขอเฉพาะเวลาที่ซ่อมรถแล้วไม่ไหวจริงๆ คุณแม่ก็จะส่งให้บ้าง  เพราะว่ารถของเรามันเก่าแล้ว  มันอยู่กับเราก็เป็นมือที่ 3 ค่ะ เพราะว่าแม่เราซื้อมาก็เป็นรถมือ 2 ก็เลยต้องเสียค่าใช้จ่ายกับมันเยอะหน่อย เพิ่งจะมารู้จักการเก็บเงินเมื่อไม่กี่เดือนนี่เอง....นั่นก็เพราะห้องแป้งนี่แหละค่ะ มีหลายๆ คนเข้ามา Post เกี่ยวกับวิธีการเก็บออมเงินของแต่ละคนมาให้ฟัง เลยลองดูบ้างค่ะ ช่วงแรกๆ ยากมากค่ะ เพราะว่ายังอยาก Shop อยู่ อิอิ ก็เลยเก็บแค่เดือนละ 5000 ก่อน (หักดิบตัวเอง) หลังๆ จัดเต็ม 8000 เลย และค่าแชร์อีก 2000 (อันนี้ไม่ดีนะคะ  อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) เงินเดือนออกก็รีบเอาไปฝากทันทีค่ะ   และรีบจ่ายทุกอย่างให้เสร็จภายในต้นเดือนไปเลย ค่าจอดรถ, ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ เครื่องบำรุงผิว อันนี้ขาดไม่ได้อย่างแรก ยังไงก็ไม่หยุดสวย เหลือมากเหลือน้อยก็ต้องพยายามใช้ให้พอภายใน 1 เดือน ตอนนี้เรากำลังหัดจดค่าใช้จ่ายทุกอย่างอยู่ค่ะ แต่ก็ลืมทุกที จดได้ไม่เคยถึง 1 อาทิตย์เลยขี้เกียจตลอด เพราะว่าเราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราสามารถเอากลับมาดูย้อนหลังได้ค่ะ และเราจะได้รู้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปมากที่สุด  และควรจะทุเลาลงบ้าง (ย้ำว่า...บ้าง..) โดยเฉพาะเสื้อผ้า สิ่งของเสริมความงามทั้งหลาย เดือนหน้าเราต้องทำให้ได้ค่ะ เริ่มตั้งแต่เดือน ตุลา นี้เป็นต้นไป  เราต้องจดๆๆๆๆๆ ค่าใช้จ่ายให้ได้ รักห้องแป้งมากมายค่ะ ขอบคุณที่มาแบ่งปันความรู้สึก และประสบการณ์ดีๆ สู่กันฟัง จากคุณ : Sugar_Therapy (Sugar_Therapy) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 09:37:28

ความคิดเห็นที่ 17 ของเราใช้วิธีการเล่นแชร์ค่ะ ทำบัญชีรายรับรายจ่าย จากนั้นเราก็จะรู้ว่าเราสามารถเล่นแชร์ได้เท่าไหร่ค่อเดือน ก็เล่นหมดเลย ขอเราเป็นเงินเงินเก็บในระยะสั้นนะคะ ส่วนมากจะเก็บเงินก้อนไว้ซื้ออะไรชิ้นใหญ่หน่อย และเก็บไปเที่ยวเช่นเล่นแชร์ปีนี้ไปเที่ยวปีหน้า เล่นไว้หลายมือ มือนี้ไว้เที่ยวปีใหม่ อีกมือไว้เที่ยวสงกรานต์ อีกมือเก็บไว้ซื้อแหวน ซื้อเครื่องประดับอะไรอย่างเนี้ยอ่ะ เอาจริงๆก็ไม่มีเงินเก็บหรอกค่ะ 55555 ***คำเตือน หาท้าวแชร์ที่ไว้ใจได้ด้วยนะคะ จากคุณ : Decemberka เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 09:39:57

ความคิดเห็นที่ 18 อยากเก็บเงิน  แต่ไม่เคยเก็บได้ซักที  แต่อาศัยซื้อทองค่ะ   แม้ขายจะขาดทุน  แต่ชอบซื้อถ้ามีโอกาส...(ไม่ได้มีเยอะนะคะ  ชิ้นละเท่าหนวดกุ้งนี้หล่ะคะ...เพราะแพง....) แต่อยากน้อยก็ได้ทองเก็บ.... จากคุณ : น้องนางหางแถว เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 10:27:15

ความคิดเห็นที่ 19 เงินเดือนออกมาวันแรกโอนเข้าฝากประจำก่อนเลยค่ะ เรารู้ตัวอยู่แล้วว่าค่าใช้จ่ายประจำวัน กินเท่าไหร่ ค่ารถไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ เท่าไหร่ เพื่อฉุกเฉินอีก 2000-3000 พอค่ะ หรือเอาง่ายๆ ออมให้ได้ 30% ของเงินเดือน จากคุณ : ล่องลอยในความฝัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 11:24:31

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าลองแบ่งเงินเป็นส่วนๆ ก็เก็บได้นะคะ เงินเดือน 16,000 บาท และรายได้พิเศษเล็กๆน้อยๆ ประมาณ 5,000 บาทค่ะ มีบ้านเป็นของตัวเอง อยู่คนเดียวค่าน้ำไฟเดือนละประมาณ 800 บาท ค่าโทรศัพท์มือถือ+โทรศัพท์บ้าน+อินเตอร์เนต 1,000 บาท ค่าน้ำมันรถเดือนละ 1,500 บาท ค่าอาหารโรงอาหารพนักงานเดือนละ 400 บาท ีรวมแล้วก็ประมาณ 3,700 แต่เราจะตีเผื่อๆ ไปที่ 4,000 เราจะเหลือใช้ประมาณ 17,000 เงินส่วนนี้เราก็แบ่งออกเป็นส่วนๆ ซื้อของที่อยากได้ไม่เกิน 1,500 หากเดือนไหนไม่ซื้อก็ทบไปเป็นยอดของเดือนถัดไป เช่น หากเราอยากได้ของมูลค่า 4,500 เราก็จะไม่ซื้ออะไรอีกใน 3 เดือนนั้น ค่ากินแต่ละวันเราใช้ไม่เยอะ เนื่องจากวันทำงานกินข้าวโรงอาหาร จะหนักเสาร์-อาทิตย์ โดยรวมก็ประมาณเดือนละไม่เกิน 5,000 บาท เราจะเหลือเงิน 10,500 / เดือนค่ะ ส่วนที่เก็บก็จะเก็บเดือนละ 10,000 บาทค่ะ เก็บแยกบัญชีไม่ถอนนอกจากมีเหตุฉุกเฉิน เราตั้งเป้ากับแฟนคือฝากเงินคนละ 10,000 / เดือนด้วยกันทั้งคู่ค่ะ เป็นบัญชีร่วม ก็จะมีเงินฝากเดือนละ 20,000 บาท เงินส่วนนี้ไว้ไปเที่ยวพักผ่อน(ปีละครั้ง) และสำหรับแต่งงานใน 5 ปีข้างหน้าค่ะ เรากับแฟนไม่ได้เงินเดือนเยอะนะคะ แต่เพียงเราใช้กันน้อยเลยมีเหลือเก็บเยอะ อย่างแฟนเราทำงานใกล้บ้าน เดินไม่กี่ก้าวก็ถึง เงินเดือนน้อยกว่าเราอีก แต่เขาเก็บได้เท่าเราเพราะเขาเดือนกลับมากินข้าวที่บ้านตลอด ค่ารถไม่ต้องเสีย แชร์ค่าน้ำค่าไฟกับที่บ้าน 300 บาท รวมค่ากินค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกิน 3,000 เห็นเราประหยัดกันขนาดนี้ไม่ใช่้ว่าเราอยู่กันแบบลำบากนะคะอย่างเราใช้เงินต่อเดือนเท่านั้นถือว่าอยู่ได้สบายๆ แฟนเราเค้าก็อยู่สบาย ที่เขากลับมากินข้าวบ้านทุกวันเพราะที่บ้านเขาขายอาหาร ถึงเวลาไปเที่ยวปีละครั้ง เราก็เที่ยวกันแบบไม่มีประหยัด พักผ่อนกันเต็มที่ตลอด ที่เล่ามาซะยาว อยากจะบอกว่า ลองตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นดูนะคะ แล้วเงินจะเหลือเก็บเยอะขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 55 11:27:31 จากคุณ : unbearable-sit เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 11:25:11

ความคิดเห็นที่ 21 เปิดบัญชีเงินฝากประจำระยะสั้น แบบไม่เสียภาษีค่ะ ระยะเวลาของแต่ละบัญชีจะประมาณ 24 - 36 เดือน จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 3% ต่อปี แล้วต้องเข้มงวดในการนำเงินเข้าบัญชี เพราะถ้าขาดความต่อเนื่อง จะเหลือดอกเบี้ยเท่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และต้องเสียภาษีค่ะ พอปิดบัญชีก็มีเงินก้อน เอาไปฝากพวกบัญชีประเภทลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ปลอดภัยๆค่ะ หมุนเวียนกันไปอย่างนี้ ตรงนี้เราให้สามีดูแล เพราะเค้าติดตามเรื่องกองทุนต่างๆเสมอๆ เรามีภาระเรื่องลูกที่ไม่สบาย ถ้าถึงเวลาต้องใช้เงินก้อนโตรักษา เลยต้องบังคับตัวเองให้เก็บเงินค่ะ จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 11:33:03

ความคิดเห็นที่ 22 เงินเดือนน้อยนิด  ใช้วิธีซื้อประกันเเบบออมทรัพย์ค่ะ เเละอีกนิดหน่อยก็โอนใส่บัญชีที่เปิดต่างหากจากบช.เงินเดือน เเล้วอีกวิธีก็ ตั้งยอดค่าใช้จ่ายรายวัน เเละกดเป็นเงินสดมาเก็บไว้เลย แต่เนื่องจากเงินเดือนน้อยนิด จ่ายค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าผ่อนรถ แล้วก็เเทบไม่เหลือเงินซื้อของใช้ส่วนตัวเลยค่ะ ใช้วิธีขอเงินคุณสามีบ้างยามขัดสน....อิอิ จากคุณ : แม่ละมุนคุณละไม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 12:09:02

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่งเริ่มทำงาน คงอายุไม่ถึง 25 ลองฝากประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ดู น่าสนใจดี ดอกเบี้ย 200% สมมติฝาก 7 ปี อายุ 32 มีเงินก้อนใช้แล้ว จากคุณ : กิ่งนุ่นก้านเขียว เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 12:58:48

ความคิดเห็นที่ 24 จะรวยได้ ต้องมีนิสัยการใช้เงินให้ครบสี่ด้าน 1.รายได้  2.ใช้จ่าย 3.การออม 4.การลงทุน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ การใช้จ่ายค่ะ ซึ่งจะทำให้เงินส่วนอื่นๆของคุณเติบโตไปด้วย (มีเงินเอาไปลงทุน เป็นต้น) วิธีที่เราแนะนำคือ ให้คุณชมตัวเองทุกครั้งที่หยอดกระปุก หรือตอนโอนเงินไปบัญชีเงินเก็บ ปรับทัศนคติตัวเองให้ได้ค่ะ ก่อนซื้อของคิดก่อนว่า จำเป็นมั้ย ถ้าไม่จำเป็นอย่าซื้อ เอาเหตุผลให้อยู่เหนืออารมณ์ให้ได้ เผื่อมีวันนึงที่คุณต้องจ่ายแบบจำเป็นจริงๆ ปล.เรื่องเสื้อผ้า เราแนะนำว่า ให้ซื้อในห้างตอนเซลแรงๆ เช่นปลายปี หรือกลางปีที่ผ่านมานี้ ได้เสื้อผ้าที่คัดตติ้งดี ใส่ไปทำงานได้ยันแก่ ซื้อ basic wear เข้าไว้ และอย่าไปเดินผ่านร้านต่างๆในเวลาที่คุณไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้ออะไร จะทำให้เสียตังค์แบบไม่รู้ตัวจ้า : ) จากคุณ : ตามสั่งลุงต้อม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 13:20:50

ความคิดเห็นที่ 25 เราเป็นพวกชอบซื้อ เก็บเป็นเงินสดไม่ได้  แม่เลยบังคับให้ซื้อเป็นที่ เป็นบ้าน หรือทองแทน ได้ผลนะคะ จากคุณ : Orange Online เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 15:01:30

ความคิดเห็นที่ 26 เปิดทวีทรัพย์ kbank  ตั้งให้หักจาก บัญชีเงินเดือน ระยะเวลา 2 ปี  เดือนละ 4-5 พัน  แปปเดียวมีเงินแสนเลยนะคะนั่น จากคุณ : เซียวลี้ปวยตอ มิเคยพลาดเป้า เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 15:06:57

ความคิดเห็นที่ 27 เราเป้นเหมือนเจ้าของกระทู้เลย ใช้เก่งเก็บไม่เก่งเลยต้องใช้วิธีหาเงินเก่งๆค่ะ ถ้าทำงานประจำนี่รายได้เกินซื้อของไม่พอด้วย เราทำงานประจำเดือนนึงก็ 18000 งานพิเศษ  เดือนละเฉลี่ย 30000-50000 บาท เงินจากงานประจำเราอยากได้ไรซื้อหมด กิน ช้อป ให้แม่ เลี้ยงขนมเด็กว่าไปตามใจฉันเลยคือไม่เคยเหลือ เงินพิเศษเราไปซื้อ ธกส หรือออมสินเก็บไว้ทุกเดือน เดือนละ 20000 30000 40000 แต่ซื้อทุกเดือนถ้าเดือนไหนปิดขายก็เก็บไว้ทบ ค่ะเพระได้ลุ้นรางวัลด้วย (ที่สำคัญสำหรับเราซื้อแล้วมันไม่อยากไปถอนค่ะ ถ้าเก็บไว้ในธนาคารเดี๋ยวเผลอใจไปถอนได้ อันนี้ต้องเอาไปขายเราก็จะไม่อยากไปยุ่งกับมันเก็บแบบนี้ได้เยอะเลย) แต่ถ้ามีเงินเยอะมากๆนะลองเล่นกองทุนทองก็ได้เพราะ ญาติๆเล่นกันเยอะแต่มันน่าเบื่อตรงต้องนั่งเฝ้าค่ะ โดยเฉพาะกลางคืนมันซื้อขายได้ตลอดเวลายิ่งถ้าเรามีทองในมือเยอะขึ้นนิดเดียวก็ได้ส่วนต่างเยอะเลย แต่ถ้ามีทองน้อยมันก็ได้ไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 55 15:45:34 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 55 15:42:40 จากคุณ : อัปสราน่ารัก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 15:41:14

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกความเห็นมากค่ะ จขกท อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งเริ่มทำงานได้ประมาณ 7 เดือนค่ะ - เราฝากธนาคารแบบไม่มี ATM เดือนละ 2000 บาทค่ะ - เราเก็บแบ็งค์ 50 และเหรียญ 5 เหรียญ 10 - เราเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับที่ทำงานด้วยค่ะ หักแค่ 2% ของเงินเดือนค่ะ - เรามีสลากออมสินค่ะ ซื้อกับคุณแม่ เอาเงินเก็บๆตอนเรียนมาซื้อ แต่ไม่เยอะมากนะคะ ประมาณ 15000 เอง (ตอนเรียนมหาลัยได้เงินไม่เยอะค่ะ วันละ 100 บาท ได้เฉพาะวันที่ไปเรียนค่ะ) ดูดีเนอะ แต่เราก็มีรายจ่ายประจำค่ะ - เราผ่อนโทรศัพท์กับแม่ค่ะ ให้แม่ซื้อเงินสดให้ก่อน เราผ่อนกะแม่ เพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ย (ค้างประมาณ 14000 บาทค่ะ) - เรามีรถยนต์ค่ะ ถึงไม่ได้ผ่อนเอง แต่ปีหน้าเราต้องออกค่าประกันรถ + พรบ.เอง ตั้งใจว่าถ้าไหวก็จะผ่อนเองด้วยค่ะ ที่เราต้องการเก็บเพิ่มเพราะ เราทำงาน 7 เดือน เงินเก็บเดือนละ 2000 บาท เท่ากับมีเงิน 14000 บาท ก็คงจะพอแค่ค่าต่อประกัน + พรบ.รถค่ะ เงินเก็บเราก็เท่ากับศูนย์เลย ไหนจะต้องมีค่ารับปริญญาไรอีก คิดละอ่อนใจค่ะ :) ตอนนี้เราก็ตั้งใจว่าจะเพิ่มเงินเก็บเป็นเดือนละ 3500 บาทค่ะ สิ้นปีจะแบ่งเงินเก็บเรา 10000 ไปเปิดบัญชีฝากประจำ และปีหน้ากะจะซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ด้วยค่ะ ไม่รู้มากไปไหม แต่ก็จะพยายามมากที่สุดค่ะ เราโชคดีมาก ที่จบมาแค่ 2 อาทิตย์ก็มีงานทำ เราโชคดีที่ทำงานใกล้บ้าน เราโชคดีที่ที่ทำงานไม่ไกล ขับมอเตอร์ไซค์ไปทุกวัน (ถ้าวันไหนทำโอทีถึงจะเอารถยนต์ไปค่ะ) เราโชคดีมั้งที่ไม่ชอบแต่งหน้า ไม่บ้าแบรนด์เนม แต่ดันชอบแต่งตัวค่ะ (แต่ซื้อเดือนละไม่เกิน 3000 นะคะ) ดูรวมๆน่าจะมีเงินเก็บเยอะเนอะ เราก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าใช้ไปกับอะไร ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ใครมีอะไรอยากแนะนำอีกก็ยินดีเลยค่ะ จากคุณ : foun* เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 15:56:42

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยเรื่องตั้งเป้าหมายก่อนว่าจะเก็บให้ได้เดือนเท่าไหร่ แล้วก็ใช้จ่ายไม่ให้เกินจำนวนนั้น จากคุณ : ณ พิชา เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 18:14:40

ความคิดเห็นที่ 30 เก็บให้ได้ก้อนนึงแล้วไปซื้อทองสองบาทค่ะ มีทองเป็นชิ้นเป็นอันแล้วจะขายไม่ลง แถมราคาทองยังเพิ่มมากกว่าดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อด้วย ฝากในธนาคาร เราว่าค่าเงินในบัญชีเรามันลดลงไปทุกปี เพราะเงินมันเฟ้อค่ะ จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 20:24:32

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนแรกเราก็แบ่ง แบ่งไปแบ่งมาก็หมุนมาใช้ เลยตัดใจ หักเข้าบัญชีสหกรณ์เดือนละหนึ่งพัน หักเข้าบัญชีออมทองของออสซิริสเดือนละสามพัน แล้วก็แบ่งส่วนที่เหลือจากการใช้จ่ายแต่ละเดือนลงบัญชีอีกธนาคารเผื่อฉุกเฉิน ที่เหลือก็พยามจะออมเป็นการซื้อทอง กับคิดว่าจะซื้อที่ เราเคยดูดวง เค้าว่าเราออมทองดีกว่าออมเงิน มันไม่ค่อยอยู่ ซึ่งก็จริง เงินฝากถึงหลักหมื่นมีอันต้องถอน เหนื่อยจริงๆ เลยหันมาลงที่ทองเยอะกว่าเก็บเงิน พยามสู้นะคะ เก็บเล็กผสมน้อยได้อยู่นะ จากคุณ : hanawa เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 22:03:39

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาเป็นกำลังใจให้ จขกท ออกตัวก่อนว่ารับราชการเงินเดือนน้อยกว่า จขกท ค่ะ แต่อยู่กับที่บ้านรายจ่ายค่าที่พักเลยฟรีค่ะ   ไม่มีภาระแต่ก็พยายามเก็บเงินค่ะ โดยใช้เฉพาะจำเป็นค่ะ เราไม่ได้แยกบัญชีนะค่ะ ใช้แค่ไหนเบิกแค่นั้น ที่เหลือ ลืมค่ะ ไม่คิดถึงเลยให้เงินทบไปเรื่อยๆ แต่มีเหตุให้ต้องซื้อรถไปทำงาน จึงต้องเก็บเงินจริงจังค่ะ (แม่ซื้อ เราผ่อนแม่) สรุปยอดปีที่แล้วนะค่ะ เงินเดือนประมาณหมื่นหนึ่ง ส่งเงินคืนแม่ไปปีละแสนค่ะ :-)ี้หน้าบาน ลูกเก็บเงินได้ปีละแสน 5555 แต่เงินเดือนเท่าหางอึ่ง 555 ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ จขกท นะค่ะ แค่คิดก็สำเร็จไป 50% แล้วค่ะ จากคุณ : ทะเลสีมรกต เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 22:30:38

ความคิดเห็นที่ 33 พอเงินเดือนออก อยากจะเก็บเดือนละเท่าไรก็แบ่งไว้เลย แล้วฝากเข้าบัญชีที่ใช้สำหรับออมเงินโดยเฉพาะแต่ไม่ต้องทำบัตรATM เพื่อทำให้้เราเข้าถึงตัวเงินยากขึ้นอีกนิด ไม่งั้นเดี๋ยวแอบถอนมาใช้หมด อิอิ ^^ การเก็บเงินจะยากในช่วงแรก แต่พอเงินที่เก็บเริ่มมากขึ้น เราจะมีกำลังใจขึ้นมาเองและจะมีความสุขเวลาที่ได้เห็นเงินในบัญชีงอกเงย ข้อควรระวังเพิ่มเติม... ถ้าใจไม่แข็งพยายามอย่ามีบัตรเครดิต เพราะมันอาจเป็นหายนะได้ จากคุณ : ALLSAINTS เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 23:24:58

ความคิดเห็นที่ 34 เราว่าน้อง จขกท ก็ทำได้ดีเกินเด็กจบใหม่ทั่วไปแล้วนะคะ มีเงินเก็บเองเทียบต่อเดือนถึงแม้จะไม่เยอะ แต่ไม่ต้องขอที่บ้านก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะค่ะ ที่จะแนะนำก็มีซื้อประกันกับบัตรเครดิต (จริงๆมันคือเงินออมของเรานี่แหละ แต่เค้ามีประกันให้ด้วย) ตัดจากบัตรเครดิตทุกเดือน อยากเก็บเท่าไรต่อเดือนก็แจ้งเค้า สิ้นปีก็มีเงินพร้อมดอกเบี้ย ลดหย่อนภาษีได้ พวกกองทุนต่างๆซื้อได้ก็ลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน เก็บได้สักแสน ถ้าอยากเพิ่มเร็วๆ แนะนำว่าเอาเงินไปซื้อพอร์ทหุ้นลงทุนต่อค่ะ จะเป็นการให้เงินทำงานด้วยตัวมันเองนะคะ เลือกหุ้นที่ไว้ใจได้และศึกษาดีๆค่ะ สู้ๆค่ะน้อง หนทางยังอีกยาวไกลค่ะ จากคุณ : ฉีจิหลิน เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 10:25:25

ความคิดเห็นที่ 35 เล่นเปียแชร์ กับ ซื้อหวยค่ะ อืมมมมมมม จากคุณ : คุณนายหลอย เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 10:28:03

ความคิดเห็นที่ 36 ขอเก็บข้อมูลหน่อยนะคับ จากคุณ : via iPhone (เบลล่าก่าก๊าB) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 17:14:27