สีผึ้งไม่ว่าจะแม่เลียบหรือแม่อะไรก็ตามไม่น่าจะช่วยให้ปากชมพูขึ้นนะคะ นึกภาพสมัยก่อนที่ยังไม่มีวิวัฒนาการและผลิตภัณฑ์อะไรออกมามากมายเหมือนสมัยนี้ คนไทยทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ คนแก่คนชรา ทั้งหญิงและชายก็ทาสี้ผึ้งกันปากแห้งกันอ่ะค่ะ ถ้าใช้แล้วชมพูจริงคนไทยสมัยก่อนก็คงปากชมพูกันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งมันก็ไม่น่าเป็นไปได้ใช้มั้ยคะ เราเคยเห็นสีผึ้งของบางพื้นที่จะเป็นสีเหลืองๆทองๆ ทาแล้วออกเหลืองๆด้วยซ้ำ
แต่ถ้าคิดจะใช้เพราะอยากให้ปากชุ่มชื้น เราสนับสนุนให้ลองค่ะ เราเองก็ปากแห้งมาก มีอยู่ช่วงหนึ่งวาสลีนหรือลิปมันยี่ห้อใหนๆก็เอาไม่อยู่ เราเลยลองใช้ดู ถูกใจมากค่ะ ปากชุ่มชื้นขึ้นมากๆ เรามีปัญหาปากคล้ำเหมือนกัน ใช้สีผึ้งแล้วความดำไม่ได้จางลงแต่ช่วยให้เราทาลิปสติกแล้วออกสีชัดขึ้นค่ะ นึกภาพออกใช่มั้ยคะ คนปากดำพอทาลิปติกแล้วมันจะไม่ได้สีตามนั้น แต่พอทาสีผึ้ง(เยอะหน่อย) แล้วมันจะไปเคลือบปากอ่ะค่ะ พอทาลิปสติกตามเลยเห็นสีชัดขึ้น
กลับมาที่เรื่องสีปาก คนที่ปากคล้ำไม่มากและไม่ได้คล้ำเพราะแพ้อะไร พอใช้แล้วปากชุมชื้นขึ้นความคล้ำก็อาจจะจางลงได้ เหมือนคนบำรุงผิวสม่ำเสมอถึงจะไม่ขาวขึ้นแต่ก็ดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสขึ้นอะไรเงี้ยอ่ะค่ะ ส่วนคนที่ผิวขาวหรือมีปากสีอ่อนอยู่แล้วพอปากชุ่มชื้นขึ้นสีปากก็อาจจะชัดขึ้นอะไรประมาณนี้บางคนเลยบอกว่าช่วยเรื่องปากชมพูได้
เราไม่ได้มีเจตนาจะมาดิสเครดิตอะไรหรอกนะคะ เพราะเราเองก็ใช้อยู่ เพียงแต่เราไม่อยากใ้ห้คาดหวังมากกินไปเท่านั้นเอง ขนาดครีมจากร้านหมอต่างๆทาแล้วยังไม่ชมพูเลยค่ะ เต็มที่ก็ช่วยลดความคล้ำเท่านั้น อันนี้หมายถึงคนที่ผิวกลางๆไปถึงคล้ำนะคะ เพราะสีผิวประมาณนี้สีปากมักจะเป็นสีเนื้อหรือสีคล้ำตามธรรมชาติ
ไม่แน่ใจว่าเจ้าของกระทู้รู้หรือยัง สีผึ้งจะกลิ่นแรงนิดนึงนะคะ ถ้าไม่ชอบกลิ่นให้เปิดฝาทิ้งไว้ซักระยะให้กลิ่นระเหยไปก่อน อีกอย่างสีผึ้งเหนียวมากไม่ได้ทาง่ายเหมือนนวด (ซึ่งเป็นขี้ผึ้งสีเหลืองๆ กลิ่นหอมๆไว้ทาปากให้ความชุ่มชื้นเหมือนกัน) ทาตอนแรกๆอาจจะรู้สึกหนักปากนิดนึง นานๆไปเดี๋ยวจะชินเองค่ะ
จากคุณ |
:
XODA
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 55 17:30:00
|
|
|
|