ความคิดเห็นที่ 1 หาความรู้จากหนังสือพวกนี้ค่ะ ก่อนอื่นขอบอกว่าไม่ใช่ทุกคนต้องทานวิตามินเสริมนะคะ หากเราทานอาหารครบ5หมู่แล้ว แต่ถึงกระนั้น แม้เราจะไม่ขาดวิตามิน แต่ก็อาจจะไม่ได้รับวิตามินเพียงพอที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย วิตามินจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 06:18:37 แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 01:27:15 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 20:37:30 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:33:29

ความคิดเห็นที่ 2 ปูเสื่อรอค่ะ จากคุณ : Aey (Filmy-Color) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:39:55

ความคิดเห็นที่ 3 รอค่ะ จากคุณ : Je suis tombee amoureuse เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:45:22

ความคิดเห็นที่ 4 ปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ จากคุณ : หนูเมเปิล เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:45:41

ความคิดเห็นที่ 5 เริ่มที่Flaxseed oilกันก่อน เมล็ดแฟล็กซ์เป็นแหล่งกรดไขมันomega3 ที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่ง จัดว่าเป็นไขมันชนิดดี เคยอ่านเจอจากหลายแหล่งข้อมูลว่าน้ำมันของเมล็ดแฟล็กซ็ มีสรรพคุณมากมาย เช่น ช่วยลดการอักเสบในเซลล์และปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงป้องกันมะเร็งด้วย เราเคยอ่านหนังสือของแพทย์อเมริกันชื่อ Dr.Perricone แนะนำให้คนที่มีปัญหาสิวกินFlaxseed oilค่ะ วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ1,000mg. คห.ส่วนตัว เราทานตัวนี้เพื่อช่วยเรื่องสิวค่ะ เราทานคู่กับALA รู้สึกว่าสิวอักเสบก่อนมีประจำเดือนรุนแรงน้อยลง จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:49:47

ความคิดเห็นที่ 6 รอชมค่า จากคุณ : SCFM เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:50:25

ความคิดเห็นที่ 7 รอด้วยคน จากคุณ : dekyingphompear (dekyingphompear) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:52:37

ความคิดเห็นที่ 8 Live!!! (เห็นรูปรวมนึกว่าเปิดมาเจอร้านขายยา ฮา) จากคุณ : กล้วยไส้ข้าวเหนียว เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 20:55:32

ความคิดเห็นที่ 9 Biotin หรืออีกชื่อคือ โคเอนไซม์RหรือวิตามินH เป็นวิตามินที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับวิตามินบี มีมากในตับ ไข่แดง นม ยีสต์ ทำหน้าที่สำคัญในการสร้างกรดไขมัน ซึ่งเสริมสร้างสุขภาพของต่อมเหงื่อ เซลล์เม็ดเลือด ผิวหนัง และเส้นผม ให้ทำงานเป็นปกติ ใช้เสริมการรักษาผู้ป่วยเล็บเปราะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมกระบวนการสร้างเคอราติน ซึ่งเป็นสารสำคัญ ที่พบในผิวหนัง ผม และเล็บ ช่วยให้เล็บไม่เปราะ หรือฉีกขาดง่าย  และช่วยให้ผิวและผมมีสุขภาพดี ไม่แห้ง หรือแตกปลาย Bitoin ส่วนมากจะรวมอยู่ในวิตามินBรวมอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าคนที่ต้องกินเพื่อบำรุงผมและเล็บก็ซื้อไบโอตินมากินต่างหากได้ค่ะ วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร  ถ้าหวังผลเรื่องสิวแนะนำวันละ300mcg. และควรรับประทานร่วมกับวิตามินบี2-6 และ วิตามินเอ คห.ส่วนตัว เราพบว่าเรากินไบโอตินแล้วสิวเราเพิ่มขึ้นค่ะ มีหลายเคสเหมือนกันที่กินไบโอตินแล้วสิวขึ้น เราเลยเลิกกิน แต่แฟนเราซึ่งกังวลเรื่องผมร่วงผมบาง เค้าขาดไบโอตินไม่ได้เลยค่ะ แฟนเราบอกว่าตอนกินผมร่วงน้อยลงเห็นได้ชัด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 23:41:54 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 21:39:05 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 21:10:09 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:08:43

ความคิดเห็นที่ 10 รอชมถ่ายทอดสดจ้า เยอะมากเลยตอนนี้เราเองเริ่มอยากซื้อมาทานแล้ว จากคุณ : เด็กหญิงไข่มุก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:18:35

ความคิดเห็นที่ 11 อลังการงานสร้างมากเลยค่ะ รอชมอยู่นะคะ จากคุณ : DEAW@APPLE เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:25:04

ความคิดเห็นที่ 12 โหวต+ให้กิ๊ฟท์แล้วนะคะ จากคุณ : Hikka เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:28:06

ความคิดเห็นที่ 13 เน็ทติดๆดับๆค่ะ ขออภัยถ้าไม่ต่อเนื่องนะคะ ------------------------------------------------------------------------------------------------------- Zinc หรือสังกะสี เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาบาดแผลในร่างกาย และช่วยให้ร่างกายดำรงความสมดุลในผู้ใหญ่ และช่วยทำให้เกิดความเจริญเติบโตในเด็ก ควบคุมฮอร์โมน สังเคราะห์โปรตีน ช่วยสร้างเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกัน   แต่ ที่น่าสนใจก็คือการช่วยควบคุมอาการผิดปกติของผิวและช่วยในการรักษาบาดแผล เราเคยอ่านเจอจากหนังสือหลายเล่มที่เขียนโดยหมอผิวหนัง มักแนะนำให้กินzinc ในปริมารที่สูงถึง100มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อรักษาสิวร่วมด้วยกับการรักษาด้วยยาทาภายนอก วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ15-30mg. คห.ส่วนตัว เราทานzincแล้วไม่รู้สึกว่าสิวดีขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 21:37:14 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:36:55

ความคิดเห็นที่ 14 รอชมค่ะ กำลังอยากหาวิตามินกินอยู่พอดี จากคุณ : via iPad (แก้วกรพินธุ์) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:39:30

ความคิดเห็นที่ 15 รอรับฟังครับ จากคุณ : คนไม่สำคัญที่สุด เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 21:53:24

ความคิดเห็นที่ 16 Alpha Lipoic Acid หรือเรียกสั้นๆว่าALA เป็นตัวแม่ของสารต้านอนุมูลอิสระ และ สารต่อต้านการอักเสบ(anti-inflammatory) เป็นวิตามินที่เราทานมาตลอดและยังทานอยู่จนถึงทุกวันนี้ค่ะ ในหนังสือThe clear skin prescription ของแพทย์ผิวหนังชื่อดังติดอันดับ#1 New Yorks Times bestselling คุณหมอPerricone กล่าวว่าวิตามินตัวนี้สำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวใสไร้สิว เพราะว่าALAนั้นเกี่ยวข้องกับการรักษาสิวเพราะว่า อย่างที่บอกในตอนแรกว่าALAวยลดการอักเสบ และ สรรพคุณของALA จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน ซึ่งการระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดการอักเสบในเซลล์ส่งผลไปยังระดับอินซูลินในร่างกาย สุดท้ายแล้วจะไปส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้แหล่ะค่ะจะทำให้เกิดสิวใหม่ และกระตุ้นให้สิวที่มีอยู่อักเสบมากขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้ เราก็สามารถรักษาระดับอินซูลินไดด้วย ปฏิกิริยาที่กล่าวข้างต้นก็จะเกิดขึ้นน้อยลงหรือน้อยมาก ทำให้สิวขึ้นน้อยลง และประโยชน์ที่สำคัยอีกอย่างคือALA มีคุณสมบัติพิเศษสามารถรีไซเคิล วิตามินC E CoQ10 และ กลูต้าไธโอน ที่ร่างกายใช้แล้วมาใช้ใหม่ได้อีก วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ50-100mg. ปล. ALA มีโครงสร้างโมเลกุลคล้าย Biotin หากทาน ALA ในปริมาณมากๆหรือติดต่อกันนานๆ ALAจะเข้าไปแทนที่ Biotinในร่างกาย จึงจำเป็นต้องทานbiotinเพิ่มเข้าไปด้วย ในอัตราALA:Biotin 5:3 คห.ส่วนตัว ALAได้ผลดีกับเราในเรื่องผิวและสิวค่ะ เราเองทานวันละ100mg. แต่ก็ไม่ควรทานในปริมาณที่สูงเกิน200mg.ต่อวันนะคะ เพราะจะไปลดระดับน้ำตาลในเลือด อาจจะเป็นลมเป็นแล้งไปได้ค่ะและส่งผลเสียแทนผลดี (โดสสูงๆที่มีขายเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานค่ะ) แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 23:47:46 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 22:03:30

ความคิดเห็นที่ 17 Grape Seed เป็นOPCชนิดหนึ่ง OPCเป็นชื่อเรียกทางวิทย์ฯของสารต้านอนุมูลอิสระที่สกัดจากพืช OPCมีบทบาทสำคัญในเรื่องผิว เพราะว่าปกป้องคอลลาเจนจากอนุมูลอิสระ ต้านอักเสบ และ ช่วยลดกระบวนการสร้างเม็ดสีหรือเมลานินด้วย รวมทั้งปัญหาผิวมีรอยจ้ำแดงเนื่องจากการคั่งของเลือดในเส้นโลหิตฝอยใต้ผิวหนัง เพราะOPC ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ลดการซึมผ่านผนังหลอดเลือด และลดความเปราะบางของหลอดเลือด รวมๆแล้ว grape seed มีประโยชน์ต่อผิวหนังมากมายเลย วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ50-100mg. คห.ส่วนตัว เรามีปัญหาเรื่องเส้นเลือดฝอยบริเวณเหนือริมฝีปากและหว่างคิ้ว ทานตัวนี้ก็รู้สึกว่ารอยจ้ำแดงดีขึ้นมากค่ะ ปัจจุบันก็ยังทานอยู่ค่ะเพราะหวังผล เรื่องต้านอนุมูลอิสระด้วย จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 22:20:54

ความคิดเห็นที่ 18 เปิดกระทู้มาตกใจ เยอะมากๆเลยค่ะ ^^ จากคุณ : hunjiunji เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 22:31:42

ความคิดเห็นที่ 19 วิตามินBรวม ประกอบไปด้วยB1-2-3-5-6-12 folic acid และbiotin สรรพคุณคร่าวๆ ก็ช่วยเรื่องสุขภาพผิว ผม เล็บ ป้องกันผิวหนังอักเสบ เสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ เสริมสร้างระบบประสาท บรรเทาอาการก่อนมีประเดือนหรือPMS ฯลฯ คห.ส่วนตัว เรารู้สึกว่าเราทานบีรวมแล้วเราสิวขึ้นน่ะค่ะ อาจจะเพราะวิตามินบี6และ12ที่ใส่มา เพราะบี6กับบี12 ถ้าทานมาเกินไปจะทำให้สิวขึ้นมากผิดปกติได้ค่ะ สาวๆที่กังวลเรื่องสิวต้องระวังนิดนึงนะคะ ถ้ารุ้สึกทานบีรวมแล้วสิวไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง อาจจะลองหยุดทานบีรวมดูก่อนได้ค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 22:32:29

ความคิดเห็นที่ 20 B-12 เป็นวิตามินที่จำเป็นในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงปกติ กล้ามเนื้อและซ่อมแซมเซลล์ การสังเคราะห์ดีเอ็นเอช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายช่วยให้มีพละกำลังมากขึ้น ช่วยบำรุงจิตใจอารมณ์ ช่วยให้มีสมาธิ บำรุงประสาท คนที่ทำงาหนนักๆ ต้องใช้สมอง มักจะแนะนำตัวนี้กันค่ะ เพราะ B-12 เป็นวิตามินจำเป็นในการบำรุงระบบประสาทของเราค่ะ วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ5-100mcg. คห.ส่วนตัว อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ เราทานตัวนี้แล้วสิวขึ้น Y_Y พยายามลองทานแล้วหยุดไปหลายเดือนแล้วกลับมาทานใหม่ ผลก็คือสิวขึ้นเหมือนเดิม ตอนนี้เลยหยุดถาวรเลยค่ะ เพราะว่าB-12ก็พบได้ในอาหารที่เราทานประจำเช่น โยเกิต ไข่ แซลมอน แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 22:42:37 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 22:41:11

ความคิดเห็นที่ 21 Coenzyme Q 10  จัดเป็นสารจำพวกวิตามินหรือคล้ายวิตามิน ซึ่งมีในทุกเซลล์ของร่างกาย หน้าที่ของ CoQ10 คือการผลิตพลังงานให้กับเซลล์ ถูกพบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น หัวใจ ตับ กล้ามเนื้อ สมอง ส่วนอวัยวะอื่นๆ ก็พบ Co Q10 เช่นกัน แต่พบค่อนข้างน้อย เนื่องจากอวัยวะอื่นๆต้องการพลังงานน้อย สำหรับประโยชน์ต่อผิวหนังก็คือ CoQ10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ  โดยจะไปป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่จะทำให้อนุมูลอิสระซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง  นอกจากนี้ CoQ10 พบมากที่ผิวหนังชั้นนอกมากกว่าที่ผิวหนังชั้นใน ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากรังสี UVA จึงเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยขจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอย หลายๆคนจึงทานCoQ10 เพื่อป้องกันและลดเลือนริ้วรอยค่ะ วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ 30-300mg. (เป็นสารเสริมฤทธิ์วิตามิน จึงควรทานร่วมกับวิตามินค่ะ) คห.ส่วนตัว เราทานตัวนี้หวังผลทั้งเรื่องหัวใจและริ้วรอยค่ะ ส่วนตัวยังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างนะคะ แต่ก็ทานมาเรื่อยๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 23:42:46 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 55 23:06:36 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:02:24

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้วว เยอะมากเลยค่ะ ดิฉันแค่สองสามตัวก็ไม่ไหวล่ะ จากคุณ : Lapoire เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:03:48

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่าเราทานมากแล้ว ของคุณ  the pretty pill มากกว่าเรามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : narusu เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:04:30

ความคิดเห็นที่ 24 รอๆครับ จากคุณ : iambung เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:13:01

ความคิดเห็นที่ 25 คุณnarusu   แหะๆ เราไม่ได้ทานทีเดียวทั้งหมดนี้หรอกค่ะ แต่อันนี้คือรีวิวทั้งหมดที่เคยทานน่ะค่ะ^^ --------------------------------------------------------------------------------------------------------- Omega 3  เป็นน้ำมันปลาซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นอย่างหนึ่ง ประโยชน์มากมายค่ะ ในที่นี้จะขอยกมาเฉพาะเรื่องความงามนะคะ omega 3 นั้นช่วยป้องกันการอักเสบของอวัยวะต่างๆรวมทั้งผิวหนังและดรคผิวหนังบางชนิด แพทย์ผิวหนังหลายท่านระบุว่า Omega 3มีความจำเป็น เพื่อป้องกันการเกิดสิวจากปัจจัยภายในร่างกาย (ไม่เกี่ยวกับสิวที่เกิดจากเครื่องสำอางนะคะ) เพราะว่า Omega 3 มีฤทธิ์ในการต้านอักเสบที่สูงมากค่ะ วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ 1000mg. คห.ส่วนตัว เราทานOmega 3 มาตลอดค่ะ เพราะOmega 3 ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ ถามว่ารู้สึกว่าได้ผลมั้ย มันไม่เหมือนทาครีมบำรุงผิวน่ะค่ะที่จะเห็นผลทันตา แต่เราพอใจกับผิวเราค่ะ อาจจะเพราะเราทานหลายตัวร่วมกันทั้ง ALA Flaxseed Omega 3 เราทานสามตัวนี้เราหวังผลเรื่องสิวนะคะ เรามีปัญหาสิวอักเสบช่วงก่อนมีปจด.ค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:25:00

ความคิดเห็นที่ 26 Vitamin E อันนี้คงไม่ต้องบอกสรรพคุณอะไรมากมาย เอาเป็นว่าขอรีวิวเลยละกันนะคะ วิธีรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหาร วันละ 100-200IU คห.ส่วนตัว เราทานวิตอีเพราะหมอผิวหนังสั่งมา เนื่องจากเราผิวตัวแห้งมากค่ะ แล้วก็ก่อนหน้านี้เรามีรอยดำสิว หมอเลยสั่งให้ทานวิตอีเสริมไปด้วย ผลที่เห็นแน่ๆคือผิวแห้งน้อยลงค่ะ แต่เรื่องริ้วรอย รอยดำ ฯลฯ ยังไม่เห็นผลชัดเจนค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:30:29

ความคิดเห็นที่ 27 เยอะมากค่ะ สนใจทาน ALA หาซื้อได้ที่ไหนอ้ะคะ เสิชดูกูเกิ้ลเมื่อวันก่อน ร้านขายเยอะมาก กลัวของปลอมด้วยค่ะ แนะนำทีนะคะ ขบคุณล่วงหน้าค่ะ ^^ จากคุณ : via iPhone (เหม่งน๊ะจ๊ะ) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:52:22

ความคิดเห็นที่ 28 Vitamin D3  มีความสำคัญในการสร้างกระดูกและฟัน ช่วยในการดูดซึมและรักษาภาวะสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัส ฯลฯ ซึ่งโดยปกติร่างกายจะได้รับวิตามินดี 2 ทางด้วยกันคือ จากการรับประทานเข้าไปแล้วดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และ อีกทางหนึ่งคือการที่ผิวหนังได้รับแสงแดด แล้วรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ไปกระตุ้นคอเลสเตอรอลชนิดที่อยู่ในผิวหนังให้เปลี่ยนเป็นวิตามินดี ในกรณีที่ไม่ถูกแดด จำเป็นต้องได้รับวิตามินดีจากอาหารให้มากขึ้น แต่หากได้รับแสงแดดเพียงพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริม หรืออาหารที่มีการเสริมวิตามินดี สำหรับเรา ทานวิตามินดีเพราะว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งเราออกแดดน้อยมากๆค่ะ เราเลยกลัวว่าร่างกายจะขาดวิตามินดี เลยซื้อมาทานในช่วงนั้นค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 23:56:37

ความคิดเห็นที่ 29 Beta Glucan มีหน้าที่ไปกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งโดยปกติแล้วเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะไม่ทำงานจนกว่าจะตรวจพบสิ่งแปลกปลอม แต่ เบต้า กลูแคนจะไปกระตุ้นให้เซลล์ทำงานอยู่ตลอดเวลา สรรพคุณของเบต้ากลูแคนมีมากมายค่ะ เช่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูสภาพผิว กระตุ้นภูมิต้านทานโรคต่างๆ ฯลฯ คห.ส่วนตัว เราไม่รุ้จักวิตามินตัวนี้มาก่อนค่ะ แต่มาอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์ชะลอวัย ของศาสตราจารย์ ดร.นพ. วิจิตร บุณยะโหตระ แล้วท่านแนะนำเบต้ากลูแคนในการชะลอวัยค่ะ เราเลยลองหามาทานดู ราคาแอบสูงอยู่ค่ะ ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มทาน ยังไม่เห็นผลเปลี่ยนแปลงค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:05:57

ความคิดเห็นที่ 30 รอค่ะ จากคุณ : LiveabLe เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:09:20

ความคิดเห็นที่ 31 Glutathione ที่ทุกคนรุ้จักดีนะคะ ปัจจุบันมีออกมขายมากมายล้านแปด ไม่ขอแนะนำที่ขายตามเน็ทแบบแบ่งขายเป็นเม็ดนะคะ ไหนๆแล้ว ขอพูดถึงกลูต้าฯสักนิดนะคะ ในตอนนี้ดูเหมือนว่าในประเทศไทยกลูต้าฯจะกลายเป็นนางมารร้าย แต่จริงๆกลูต้าฯมีบทบาทต่อสุขภาพร่างกายรวมถึงสุขภาพผิวของเราเป็นอย่างมาก ตามปกติร่างกายของเราจะผลิตกลูต้าไธโอนได้อยู่แล้ว แต่จากการศึกษาพบว่า คนที่ร่างกายอ่อนแอจะมีกลูต้าฯในร่างกายน้อย และคนที่แข็งแรงอายุยืน โดยเฉพาะผลวิจัยคนอายุ100ปี+ มีกลูต้าฯในร่างกายปริมาณที่สูงมาก เคยอ่านบทความของแพทย์เรื่อง"ความสัมพันธ์กลูต้ากับสิว" เค้าว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างนี้ค่ะ สารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุดในเซลล์ของร่างกายเราคือ กลูต้าไธโอน และเมื่ออนุมูลอิสระมากระทบกับเซลล์ของร่างกายก็จะทำให้เกิดการอักเสบภายในเซลล์ แล้วพอเกิดการอักเสบขึ้น กลูต้าในร่างกายก็จะลดน้อยลงมาก ซึ่งนำไปสูการอักเสบที่รุนแรงมากขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันการทำลายผลข้างเคียงของการอักเสบที่เกิดจากอนุมูลอิสระ กลูต้าไธโอนจะไปเสริมระบบการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น วิตามินซีและวิตามินอี ในการปกป้องเซลล์ของเราจากอนุมูลอิสระ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะรักษาระดับกลูต้าไธโอนในเซลล์ร่างกายให้เพียงพอ เพื่อที่จะป้องกันการก่อตัวของการอักเสบซึ่งไปกระตุ้นการหลั่งสารcytokines ซึงจะไม่หลั่งในสภาวะปกติแต่จะหลั่งในสภาวะที่มีการกระตุ้นระบบภุมิคุ้มกันของร่างกาย เช่นภาวะที่มีการติดเชิ้อ ซึ่งจะโยงไปถึงความไม่สมดุลของการผลัดเซลล์ในรูขุมขน ซึ่งสุดท้ายทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน และเป็นจุดกำเนิดของสิว ส่วนประเด็นการทานกลูต้าไธโอนร่างกายสามารถดูดซึมได้แค่ไหน? ก็มีความเชื่อไป2แนวทาง แนวทางแรกคือ ถ้าทานเข้าไปดูดซึมไม่ได้เลย100% แนวทางที่สองดูดซึมได้เกือบหมด80% ในตอนแรกตัวเรายังไม่เชื่อฝ่ายไหน แต่ทดลองด้วยตัวเองก่อน และผลอย่างที่รีวิวค่ะ Lypo spheric ได้ผลดีกับเราที่สุด (ปสก.กับตัวเรา คนอื่นๆอาจจะแตกต่างกันไป ใช้วิจารณญาณนะคะ) และก็มีผลวิจัยที่บอกว่าให้กินNAC+ALAไปเพิ่มระดับการสร้างกลูต้าไธโอน เพราะร่างกายสามารถดูดซึมสารทั้งสองชนิดนี้ได้เกือบหมด100% เพื่อนๆที่สนใจเรื่องนี้ลองถามอากู๋ได้เลยค่ะ นอกจากนี้ ก็มีกล่าวถึงเกี่ยวกับประสบการณ์สิวหายเพราะทานกลูต้าที่เว็บacne.org ทั้งนี้ทั้งนั้น สิวของแต่ละคนก็เกิดจากสาเหตุต่างๆนะคะ เราต้องพิจารณาก่อนว่าสิวของเราเกิดขึ้นเพราะอะไร ภายในหรือภายนอก ฯลฯ กลับมาที่รีวิวนะคะ เราเองจะกล้าลองเฉพาะยี่ห้อที่มีแหล่งผลิตที่แน่นอนและดูน่าเชื่อถือเท่านั้น ที่ขายตามท้องตลาดแบบแบ่งขายเป็นเม็ด เราคิดว่าไม่ใช่กลูต้าเลย โปรดระวังค่ะ ซึ่งจากที่ลองมาหลายยี่ห้อ เราประทับใจกลูต้ายีห้อนี้มากที่สุดค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 06:03:03 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:12:56

ความคิดเห็นที่ 32 คุณเหม่งน๊ะจ๊ะ   ส่วนมากเราจะสั่งจากอเมริกาค่ะ เว็บ iherb ก็มีขายแทบทุกตัวที่เรารีวิวจ้า -------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กลูต้าฯShiseido อันนี้บอกตรงๆเลยว่า ทาน2ขวดแรก ผิวใสมากค่ะ แต่จากนั้นไม่เห็นความแตกต่าง แต่พอหยุดก็ไม่คล้ำหรือหมองลงแต่อย่างใดนะคะ จากนั้นพอกลับมาทานอีกก็ไม่ใสขึ้นแต่อย่างใดเช่นกัน ผิดกับยี่ห้อด้านบน ทานเมื่อไหร่ใสเมื่อนั้น แต่ตัวนี้เราทานเพราะมันมีวิตามินซีสูงถึง1,000mg.ค่ะ เราเลยทานมาเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:17:54

ความคิดเห็นที่ 33 กลูต้าฯอีกยี่ห้อค่ะ Ivory Caps ลองสั่งมาทานดู ผลที่ได้ก็เฉยๆค่ะ ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:22:51

ความคิดเห็นที่ 34 Cutina วิตามินจากป.ญี่ปุ่น เค้าโฆษณาว่าช่วยเรื่องสิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง เลยลองสั่งมา ทานไปหมดขวดก็ไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงใดๆค่ะ เลยเลิกทาน ไม่แน่ใจว่าต้องทานต่อเนื่องหลายขวดหรือเปล่านะคะถึงจะเห็นผล จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:28:30

ความคิดเห็นที่ 35 ยังทันชมถ่ายทอดสดมั้ยนะ -0- จากคุณ : jewjewmabushii (jong-jaewon) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:29:06

ความคิดเห็นที่ 36 มาดูวิตามินสู้สิวฝั่งฝรั่งบ้างนะคะ Murad นอกจากทำคสอ.แล้ว ยังมีพวกวิตามินอาหารเสริมด้วยนะคะ ค่อนข้างนิยมทีเดียวในตปท. ตัวนี้เราทานมา4-5ขวดแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทานแล้ว ช่วยเรื่องสิวได้ดีทีเดียวเลยค่ะ ส่วนประกอบหลักๆคือวิตามินA ,Yellow dock และBurdockค่ะ สองตัวหลังเป็นสมุนไพร สรรพคุณช่วยในเรื่องกำจัดสารพิษที่ก่อให้เกิดสิวค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:35:09

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้เป็นวิตามินบำรุงผมที่เราใช้แล้วประทับใจมากค่ะ ขวดเดียวก็เห็นผลชัดเจนเลย แต่ราคาสูงนิดนึงนะคะ สรรพคุณช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น ร่วงน้อยลง ผมมีน้ำหนักมากขึ้น ยี่ห้อPhyto มีขายตามเว็บไซต์ต่างๆของอมเริกาค่ะ ลองดูที่ amazon,ebayนะคะ ถูกกว่าตามเว็บอื่นๆค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:41:11

ความคิดเห็นที่ 38 ต่อมาวิตามินป้องกันผิวถูกทำลายจากแสงแดด ยี่ห้อMuradค่ะ ตัวนี้เราว่ามันทำให้ผิวเราไม่ไหม้แดดง่ายค่ะ เช่น ไปเที่ยวทะเล ผิวจะไม่แดงเวลากลับมาน่ะค่ะ คห.ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลที่ได้ค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:47:43

ความคิดเห็นที่ 39 วิตามินปกป้องผิวจากแสงแดดอีกยี่ห้อนึงค่ะ ยี่ห้อนี้จะถูกกว่าข้างบนเยอะเลยค่ะ ยี่ห้อSunpill จริงๆเราเคยรีวิวในนี้ไว้ครั้งหนึ่งนานแล้ว ตอนนั้นน้ำท่วมเราไปอยู่พัทยาเป็นเดือน ซึ่งเลี่ยงแสงแดดไม่ได้เลยค่ะ โดนแดดจังๆเต็มๆทุกวัน แต่ผิวเราไม่คล้ำขึ้นหรือไหม้แดดเลย คห.ส่วนตัวพอใจกับผลที่ได้มากค่ะ แต่ตัวนี้ต้องทานต่อเนื่องนะคะ ไม่ใช่วันนี้จะออกแดดแล้วทาน และยังต้องทากันแดดอยู่ตามปกตินะคะ ควรทานต่อเนื่องสัก2สัปดาห์ให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานแสงแดดแล้วออกแดดจะไม่เป็นอะไรมากค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:53:02

ความคิดเห็นที่ 40 เยอะจัง ขอแบ่งบ้างได้มั้ยครับ ล้อเล่นนะ จากคุณ : BankZGee เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:55:21

ความคิดเห็นที่ 41 Collagen หลายคนบอกว่าคอลลาเจนทานเข้าไปร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมได้ อันนี้เราไม่ทราบเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าถามเรา จากปสก.เราค่อนข้างพอใจกับผลที่ได้ค่ะ ยิ่งทานคู่กับไฮยาลูรอนิคเอซิด รู้สึกเลยว่าผิวเด้งและนุ่มมากขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 00:58:45

ความคิดเห็นที่ 42 สำหรับเพื่อนๆห้องแป้งที่อยากจะทานวิตามินเพื่อบำรุงผิวพรรณ และ ชะลอวัย เราขอรวบรวมวิตามินที่แพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้ตามด้านล่างนี้ค่ะ จริงๆแพทย์แต่ละท่านจะแนะนำหลายตัวค่ะ แต่เราจะเลือกตัวที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำเหมือนกันมานะคะ (เป็นข้อมูลที่ได้จากการอ่านหนังสือและบทความของแพทย์หลายๆท่านค่ะ) Vitamin C  ต้านอนุมูลอิสระ Vitamin Bรวม ดูแลสุขภาพภายในแบบองค์รวม ALA  ต้านอนุมูลอิสระและต้านอักเสบได้ดีที่สุด DMAE  ต้านริ้วรอย ชะลอวัย Omega 3-6  ต้านอักเสบ ต้านริ้วรอย Glutathione  ต้านอนุมูลอิสระ สำหรับตัวเราปัจจุบันทาน ALA Grapeseed Flaxseed VitaminC Collagen Hyaluronic CoQ10 Glutathione เราจะทาน4ดือนพัก2เดือนค่ะ บางทีบางตัวหมดก็ทานแค่ตัวที่มีค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 55 01:31:57 จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:23:51

ความคิดเห็นที่ 43 แอบทานคล้ายๆกัน แต่เราไม่ทานคอลลาเจน แล้วก็เปลี่ยนกลูต้าเป็น nac แทนค่ะ แนะนำเพื่อนๆที่มาแอบอ่าน ถ้าทานกลูต้าคู่กับวิตะมินซีอยู่ควรเพิ่ม ala เข้าไปด้วย เพราะ ala จะไปช่วย reuse วิตะมินซี ทำให้วิตะมินซีทำงานในเต็มประสิทธิภาพ จากคุณ : กล้วยไส้ข้าวเหนียว เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 01:52:59

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณที่มารีวิวให้ฟังกันนะคะ กลูต้า Lypo-Spheric GSH ตัวนี้เราสนใจมานานมากแล้วค่ะ จขกทกินอาทิตย์ละกี่ซองคะ ซองเดียวเห็นผลเลยรึเปล่า ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หมีน้อยตาดำ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 05:59:35

ความคิดเห็นที่ 45 ดีนะที่เราเข้ามาอ่านทัน เราเพิ่งเริ่มกินซิงค์กับไบโอตินจริงๆ จังๆ แบบติดต่อกันราวสี่ห้าวันได้แล้ว ก็ว่าแล้วว่าอยู่ดีๆ สิวอักเสบมาจากไหนเต็มกรามเลย เหอะๆ ที่แท้ !!! ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากนะคะ เราคงต้องงดแล้วล่ะ แล้วถ้าหยุดกินแล้วสิวยุบ ก็ชัวร์ละ T_T จากคุณ : รั่ววันละนิดจิตแจ่มใส เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 08:10:17

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากคะ ประกอบการตัดสินใจได้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : SaLapao_Sweety เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 08:22:40

ความคิดเห็นที่ 47 ถามคุณเจ้าของกระทู้เรื่อง ALA เพราะเราค่อนข้างสับสนแม้ว่าจะหาข้อมูลมาแล้ว ตอนแรกเราเข้าใจตามคุณเจ้าของกระทู้ว่าควรจะทานแค่ 50-100 เท่านั้นมากกว่านั้นจะกลายเป็นยารักษาโรค แต่ก็มีอีกกระแสว่าถ้าทานไม่ถึง 300 ผลในการบูทพวกวิตามินตัวอื่นจะไม่ดี T^T เราควรจะทานเท่าไรดีตอนนี้เพิ่งเริ่ม 300mg เวียนหัวได้อีก จากคุณ : ครีมโซดา เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 09:36:05

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ นะคะ ข้อมูลเยอะมากค่ะ จากคุณ : Lasagne เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 12:51:01

ความคิดเห็นที่ 49 ทานพร้อมกันหมดทุกตัวเลยหรอคะ  หรือสลับกินคะ แล้วแยกออกได้ยังไงค่ะ ว่าตัวไหนเป็นผลจากตัวไหน  บางตัวเหมือนสรรพคุณแอบคล้ายกันออกค่ะ ปล.สนใจตัว phyto จังค่ะ เรามีปัญหาผมร่วง  อยากรู้จังมันมีอะไรเป็นส่วนประกอบหลักหรอคะ จากคุณ : ข้ามเมฆ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:00:10

ความคิดเห็นที่ 50 ได้ประโยชน์มากมายเลยค่ะ จากคุณ : JNRK เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:04:08

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากๆเลยคะ เป็นแนวทางในการทานวิตามินมากๆ (พี่สาวจ๋ากลับจากแคนาดาปีหน้า คงหนักหน่อยนะ 5555) จากคุณ : opleka เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:07:53

ความคิดเห็นที่ 52 ทานเยอะจังมันไม่มีผลต่อตับไตเหรอคะ เคยได้ยินมาว่าทานมากไปตับไต ก็ทำงานหนักในการขับสารส่วนเกินออกจากร่างกาย จากคุณ : sueki เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:18:33

ความคิดเห็นที่ 53 ชอบมากๆเลยค่ะ เพราะบางทีนึกว่าดี ก็ซื้อมากินแต่ไม่รู้ผลข้างเคียง เราอยากขอคำแนะนำค่ะ ถ้าอยากกินวิตามินเพื่อรักษาสิว เราทานแค่ Zinc กับ grape seeds พอมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เด็กอ้วนรักป๊าม๊า เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 13:26:21

ความคิดเห็นที่ 54 คุณข้ามเมฆ วิตามินทั้งหมดเราทานมาเป็นปีๆแล้วค่ะ แต่เก็บขวดไว้ เราทานครั้งละไม่กี่ตัวค่ะ ถามว่ารู้ได้ไงตัวไหนเป็นผลมาจากตัวไหน เราคิดว่าร่างกายเรามีปฏิกิริยากับพวกนี้ไว คือถ้าตัวไหนทานแล้วสิวขึ้น ประมาณอาทิตย์นึงเราจะเห็นผลเลยน่ะค่ะ คุณหมีน้อยตาดำ เราทานวันละซองค่ะ แอบเปลืองเนอะ > <  แต่หลังๆก็วันเว้นวันค่ะ ตัวนี้เราว่าถ้าทานห่างกว่านี้ไม่ค่อยเห็นผลเท่าที่ควรค่ะ คุณครีมโซดา เราว่าวันละ100mg.ก็เพียงพอค่ะ ถ้าโดสสูง300mg.จะแนะนำคนอายุ40ปี+ เพราะคนอายุมากจะมีALAน้อยลงมาก เลยทานตัวนี้ช่วยช่วยความจำและป้องกันสมองเสื่อม ส่วนโดสสูงมากๆอย่าง600mg. สำหรับผู้ป่วยเบาหวานค่ะ คุณsueki เราทาน4เดือน หยุด2เดือนค่ะ เราคิดว่าถ้าไม่ทานในปริมารที่สูงเกินไปไม่น่าจะมีปัญหานะคะ เราและที่บ้านทานพวกวิตามินมาหลายปีแล้วค่ะ ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ คุณเด็กอ้วนรักป๊าม๊า เอาจริงๆ เราว่าแล้วแต่ร่างกายของแต่ละคนด้วยค่ะ ถ้าตามตำราหมอก็จะแนะนำเป็นzinc แต่ส่วนตัวเราทานzincสิวไม่ดีขึ้น และเหมือนจะแย่ลงด้วยซ้ำ ทางที่ดีลองทานดูก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าดีขึ้นก้ทานต่อ ถ้าแย่ลงก็หยุดและเปลี่ยนเป้นตัวอื่น เช่น Flaxseed oil จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 15:19:25

ความคิดเห็นที่ 55 มีหลังไมค์เรื่องสิวมาเยอะมาก เราขอรวบรวมอาหารสำหรับคนเป็นสิวหน่อยดีกว่า รายการอาหารที่ช่วยเรื่องผิว และ สิว ควรทานมากๆค่ะ เห็ด ถั่วงอก แตงกวา บร็อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี มะเขือทุกชนิด ผักโขม ถั่วอัลมอนด์ ถั่วแมคคาเดเมีย เล็ดทานตะวัน แอปเปิ้ล เบอร์รี่ทุกชนิด เมลอนพันธ์ฮันนี่ดิว ทับทิม แซลมอน เต้าหู หอยนางรม ปลาทุกชนิด อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เนย ชีส นม ไอศครีม (ฮอร์โมนเพศในวัวตกค้างมายังนม อาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ค่ะ) กล้วย ข้าวโพด ข้าวขาว ขนมปัง บะหมี่ พิซซ่า มันฝรั่ง น้ำตาล ขนมหวานทุกชนิด โซดา น้ำอัดลม จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 15:43:18

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมากครับ ๆ ว่าแต่ไม่มี Vit C หรอครับ ?!? จากคุณ : TOSHy เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 16:35:43

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ โหวตให้ และเก็บเข้าคลังค่ะ โดยส่วนตัวเราเพิ่งจะเริ่มทาน โอเมก้า และเริ่มที่จะสั่ง พวก L-CARNITINE ,L-PHENYL, GLUTA , CALLAGEN  ค่ะ ( ตกงานแล้ว เริ่มมีเวลาดูแลตัวเอง) แอบดู ๆ ตัวที่เกี่ยวกับผิวด้วยค่ะ จะรอพวกบำรุงสมอง หรือเส้นประสาท พอจะมีป่าวคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เหมียวเมี่ยวกะมู่ตู้ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 16:36:59

ความคิดเห็นที่ 58 ของควรหลีกเลี่ยงของคนเป็นสิว เรากินหมดทุกอย่างเลย บ่อยด้วย เยอะด้วย T_T จากคุณ : เด็กอ้วนรักป๊าม๊า เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 16:46:09

ความคิดเห็นที่ 59 กระทู้แบบนี้ ที่รอคอย > <" จากคุณ : Farfalle เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 16:53:24

ความคิดเห็นที่ 60 ขอถามเรื่องกลูต้าอีกนิดค่ะ เราเคยอ่านที่ไหนก็ไม่รู้บอกว่า ถ้าทานกลูต้าไปเรื่อยๆจะทำให้ร่างกายสร้างกลูต้าได้่น้อยลงนี่จริงรึเปล่าคะ จากคุณ : หมีน้อยตาดำ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 17:12:24

ความคิดเห็นที่ 61 กระทู้นี้มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ แต่ว่า... T^T แง ของโปรดเราทุกอย่างเลยค่ะ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เฮ้อ... จากคุณ : ไม่ใช่คน (ไม่ใช่คน) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 18:05:54

ความคิดเห็นที่ 62 เยอะเกินไป จากคุณ : Minnie (BOYDS2544) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 18:31:37

ความคิดเห็นที่ 63 เยอะมากมาย ขอบคุณที่นำมารีวิวค่ะ สำหรับคนที่เป็นห่วงจขกท.ว่าทานเยอะเกินไป ไม่ต้องห่วงนะคะ จขกท.เค้าเขียนบอกไว้แล้วว่า เค้าค่อย ๆ กิน ไม่ได้กินทีเดียวทั้งหมดค่ะ จากคุณ : ยูหยู่ยู่ยู้หยูว์ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 19:57:59

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณที่มาแนะนำค่ะ ได้อีกทางเลือกเพื่อดูแลตัวเองเลยค่ะ จากคุณ : via iPhone (peartutu) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 20:42:55

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณมากครับ จขกท. ^^ สุดยอดรีวิวเลย ว่าแต่พอจะจัดชุดอาหารเสริม สำหรับรักษาสิวและรอยแผลเป็น ซัก 3-4-5 อย่างเน้นๆ ควรจะเริ่มจากตัวไหนบ้างดีครับ จากคุณ : via iPhone (nameyoungjet) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 22:10:42

ความคิดเห็นที่ 66 มัวแต่บำรุงด้วยวิตามิน อย่าลืมเช็คมะเร็งลำไส้ใหญ่บ่อยๆละคะ สิ่งตกค้างจากแคปซูลที่ไม่ย่อยหมด เด๋วจะสาวแล้วไม่แก่.. จากคุณ : อืมม..มิราเคิล เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 22:19:27

ความคิดเห็นที่ 67 คุณTOSHy ไม่ได้รีวิวเพราะคิดว่าเพื่อนๆทุกคนน่าจะทราบประโยชน์และกินวิตซีกันอยู่แล้วน่ะค่ะ คุณเหมียวเมี่ยวกะมู่ตู้ พวกบำรุงสมอง ส่วนมากก็จะเป็นพวกวิตามินBและOmega3ค่ะ คุณหมีน้อยตาดำ ไม่เคยได้ยินข้อมูลนี้เลยค่ะ สงสัยต้องไปศึกษาข้อมูลก่อน คุณnameyoungjet ไม่กล้าจัดให้อ่ะค่ะ ไม่เก่งขนาดนั้น แต่ถ้าจากปสก.ของเราและคนใกล้ตัว ลองเริ่มที่ทานผักผลไม้ให้เยอะที่สุด ออกกำลังกาย นอนให้เพียงพอ งดผลิตภัณฑ์จากนม ทานนมถั่วเหลืองแทน อาหารเสริมลอง Zinc,Flaxseed oilหรือOmega3,ALA,Vit E,Vit C สำหรับหลายๆคนที่เป็นห่วงจขกท.เรื่องทานวิตามินมากเกินไป ต้องขอบคุณมากค่ะ จะไปว่าไปเรานี่ยังอนุบาลนะคะ แหะๆ เคยอ่านหนังสือของคุณหมอหลายท่านทั้งไทยและเทศ ท่านเหล่านี้ทานทีเป็นกำเป็นเรื่องเป็นราวมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรปรึกษาเภสัชกรและแพทย์ก่อนการทานวิตามินค่ะ ปรึกษาหลายท่านๆจากหลายๆแหล่งก็ยิ่งดีค่ะ เพระเรื่องวิตามินนั้นมีหลายทฤษฎีและหลายความเห็นมาก คุณหมอบางท่านก็บอกวิตามินไม่ใช่เรื่องจำเป็น เหมือนเรื่องดื่มน้ำเยอะๆทำให้ผิวสวย ชุ่มชื่น สุขภาพดี ฯลฯ หมอหลายท่านสนับสนุนแนวคิดนี้ แต่หลายท่านก็บอกดื่มน้ำมากไม่ได้ก่อประโยชน์ต่อผิวหนังแถมยังจะทำให้ไตพัง ก็ต้องศึกษาข้อมูลกันต่อไปค่ะ แต่เท่าที่เราเคยหาข้อมูลยังไม่เคยเจอใครเสียชีวิตเนื่องจากการทานวิตามินนะคะ ถ้าทานอย่างถูกวิธีน่ะค่ะ^ ^ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 22:40:23

ความคิดเห็นที่ 68 ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะเลย ขอบคุณ จขกท. มากคะ ^^ จากคุณ : สาวสวนมะนาว เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 23:27:31

ความคิดเห็นที่ 69 ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะเภสัชกรนะคะ  เนื่องจากกระทู้นี้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ vitamin supplement หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นี้ ขออธิบายง่ายๆว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วย เสริมในส่วนของวิตามินที่ร่างกายต้องการแต่ได้รับน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายของคุณเกิดอาการบาง อย่างว่าขาดวิตามินนั้นๆ เช่น การเกิดอาการชาตามแขน ขา เนื่องจากการขาดวิตามิน บี 1 หรือ แคลเซียม  แมกนีเซียม หรืออย่างกรณีที่คุณมีการอักเสบสิว สิวเห่อ บวมแดงเนื่องจากติดเชื้อ การเสริม Zinc ช่วยลดการอักเสบ ติดเชื้อ ได้ นั้นจึงพอจะเป็นสาเหตุที่จะอธิบายได้ว่าทำไมคุณถึงกินวิตามินบางตัวแล้วไม่เกิดผลใดๆ เพราะคุณไม่ได้ขาดนั้นเองค่ะ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ขาดแล้วไปกินเนี่ย  มันจะเกินค่ะ แน่นอนยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากการรับวิตามิน หรือแร่ธาตุใดมากเกินไป  แต่ที่มีนัยสำคัญคืออาการข้างเคียงจากที่รับมากเกินไป และการสะสมแน่นอนค่ะ และอวัยวะที่ต้องรับภาระหนักในการขจัดส่วนเกินเหล่านี้คือ ตับและไต ของเรานั้นเอง ฉะนั้นก่อนที่คุณจะเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุใด  ก็ขอให้ตั้งคำถามจากอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับคุณก่อนค่ะ  แล้วค่อยเสริมผลิตภัณฑ์เข้าไป  บางอย่างเช่น กลูต้าไธโอน บอกตรงๆว่าผลเสียมากกว่าดี เพราะสารนี้ไม่ได้ผลิตมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความขาวของผิวค่ะ ส่วนเรื่องวิตามินต้านอนุมูลอิสระ ส่วนตัวเรามองว่าวิธีการเลือกรับประทานอาหาร  การออกกำลังกาย มีผลช่วยเสริมได้เช่นกัน ระวังเรื่องนิ่วด้วยการดิ่มน้ำเพิ่มขึ้นด้วยเมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร   ขอย้ำอีกครั้งนะคะ ปัจจัยหลายด้านเรื่องกรรมพันธุ์ก็ดี เรื่องมลภาวะ อาหารการกิน ความเครียด  ฮอร์โมน  การออกกำลังกาย  มีผลต่อร่างกายเราเช่นกัน ลองศึกษาตนเองและลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆควบคู่ไปด้วย อาจมีผลดีหรือเทียบเท่ากับการรับประทานอาหารเสริมค่ะ จากคุณ : นู๋จุ๋มมาใหม่ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 55 23:51:03

ความคิดเห็นที่ 71 ขอย้ำเจตนาในการตั้งกระทู้นี้อีกครั้งนะคะ เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ในการทานวิตามินอาหารเสริมว่าตัวไหน ได้ผลกับตัวเราและคนใกล้เคียงอย่างไรบ้าง ซึ่งเราเองเป็นคนชอบดูแลสุขภาพ แน่นอนว่าสุขภาพดีคงไม่ได้มาจากการกินวิตามินเพียงอย่างเดียวแน่นอน และก่อนจะกินสิ่งเหล่านี้เราก็ปรึกษาแพทย์หลายท่าน และอ่านหนังสือของแพทย์หลายท่านมาก่อน ขอบอกแบบนี้นะคะ ใครที่มาอ่านก็ใช้วิจารณญาณให้เยอะๆ ไปศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน อย่าเชื่อเรา หรือ อย่าเชื่อใครในกระทู้นี้ค่ะ ไปศึกษาด้วยตัวคุณเอง และเลือกในสิ่งที่คุณพอใจค่ะ ทุกอย่างในโลกนี้มี2ด้านเสมอ ยารักษาโรคก็เป็นยาคร่าชีวิตได้ อยู่ที่เราจะใช้มันอย่างไร ก็เป็นการบอกเล่าให้ฟังเฉยๆนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่คุณเป็นคนตัดสินใจค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 00:54:50

ความคิดเห็นที่ 72 vote ka   thanks for review ka จากคุณ : ไฮเปอร์สุดขีด เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 03:37:47

ความคิดเห็นที่ 73 เข้ามาชมด้วยคนค่ะ จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 10:28:09

ความคิดเห็นที่ 74 แค่เห็นรูปแรก ก็อลังการ  งานช้าง แว้วววววววววววววววววว กดโหวต โดนทันใด อิิอิ คห 5 ไม่ทราบราคา เท่าไหร่จ้ะ บอกหน่อยๆ>//< จากคุณ : กรุงเก่าของเราแต่ก่อน เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 11:14:43

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณจขกท มากมายค่ะ ช่วงต้นเดือนเรามีสิวขึ้นทุกวันเลย วันละเม็ดก็ว่าได้ มาอ่านกระทู้จองคุณแล้ว สาเหตุสิวที่เราเป็นมา 1 เดือนเนี่ย มาจาก วิตมินบีรวมที่เราเริ่มกินนี่เอง เหมือน คห.45 เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เราจะลองหยุดวิตมินบีรวมดูค่ะ ป.ล. รีวิวมีประโยชน์มากค่ะสำหรับเรานะ จากคุณ : ถุงหมัด เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 11:57:49

ความคิดเห็นที่ 76 ขอแซว จขกท  ทานมากขนาดนี้ ทานข้าวลงไม๊คะ  555 จากคุณ : wiworakarn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 12:46:09

ความคิดเห็นที่ 77 จขกท..มีข้อมูลดีๆๆ..สำหรับการกินวิตามินเยอะมาก แต่อย่าจะบอกอะไรหน่อยได้มั้ยเอ่ยว่า...การรับประทานยาหรือวิตตามินที่มากเกินไปจะส่งผลต่อการทำงานของไตและตับ..ถ้ามันเยอะแล้วร่างกายไม่สามารถขับออกหมด..มันจะทำให้ไตกับตับทำงานหนัก..ถ้าโชคร้ายอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคไตวายเลยยยน่ะค่ะ จากคุณ : คนริมป่าริมควน เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 15:22:53

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณค่ะที่นำข้อมูลมาแชร์กัน ตอนนี้กำลังหัดทานวิตามินอยู่ ซึ่งเราทานยาเม็ดไม่ค่อยจะได้ เวลากลืนมันรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมลงคอ จะอ้วกออกให้ได้ กินได้ครั้งละเม้ดเท่านั้นT-T วิตามินซีตัวดีเลยใหญ่เป้งมาก จากคุณ : ที่นั่นตอนนี้เป็นอย่างไร เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 17:54:58

ความคิดเห็นที่ 79 เข้าใจพี่เจ้าของกระทู้นะคะ ตัวจริงคงวิ้งออร่ามากเลย อยากเห็นรูปจัง^^ อยากถามว่า กินหลายตัว แล้วแบ่งอย่างไรในแต่ละวันอะคะ จากคุณ : bwnt1602 เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 18:50:27

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณจขกท.มากมาย บางคห.เราว่าแค่เห็นรูปขวดวิตามินในหัวกระทู้ก็เกิดอคติซะแล้ว อ่านรีวิวของจขกท.แล้วก็รู้ได้ว่าเขามีสติมีความเข้าใจในการกินวิตามินอาหารเสริมดีอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเขาหรอก ตับไตถ้าไม่บกพร่องอยู่แล้วมันไม่พังหรือพิการจากการกินวิตามิน(อย่างเข้าใจ)พวกนี้หรอกเด๊อ สิบอกไห่ ไปห่วงพวกผงชูรส สารเคมี ยาฆ่าแมลง ยาปฏิชีวนะ น้ำตาล เกลือ สารกันบูด สารปรุงแต่งรสกลิ่น ไขมันทรานส์ โลหะหนัก สารพิษ ... ฯลฯ พวกนั้นจะดีกว่า ถ้าเราอยู่ในยุคต้นรัตนโกสินทร์ถึงเมื่อ 50 ปีที่แล้วก็ไปอย่าง อย่างนั้นน่ะพูดได้ว่าวิตามินอาหารเสริม เป็นสิ่งไม่จำเป็น เพราะดินดีน้ำสะอาดอากาศบริสุทธิ์ ลัทธิเคมียังไม่เข้ามารุกรานประเทศเรา ฉะนั้น สมัยนี้วิตามินอาหารเสริมเป็นสิ่งจำเป็น อาหาร 5 หมู่นั่นน่ะลืมไปซะเถอะ กินส้มเป็นเข่งกว่าจะได้ วิตซีเท่ากับแบล็คมอร์ส 1 เม็ด ไอ้นู่นก็เร่งปุ๋ย ไอ้นี่ก็เติมเคมี แม้แต่ข้าวสารกรอกหม้อก็เต็ม ไปด้วยเคมี มิพักต้องพูดถึงผักผลไม้เร่งปุ๋ยและย่าฆ่าแมลงทั้งหลาย ฯลฯ ขอบคุณจขกท. แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 21:14:33 แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 19:40:39 แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 55 19:39:57 จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 19:39:15

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณ จขกท ที่มารีวิวให้ดู ส่วนตัวไม่กล้ากินเยอะอะไรขนาดนี้ เห็นก็แอบกลัว (ลำไส้จะสั้นและหดลงรึเปล่า) //มองตามหลักดาวิน อะไรใช้บ่อยๆมันก็ยืดออก อะไรไม่ได้ใช้ก็หดลงๆ ----------------------------------- ส่วนตัวกินแค่วิตซีกะโอเมก้า3 จากคุณ : ไบรโอไฟต้า เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 20:15:22

ความคิดเห็นที่ 82 Vitamin C ที่กินอยู่ปัจจุบันนี้ค่ะ เป็นผงฟู่ค่ะ เทลงน้ำเปล่า คนๆแล้วดื่มได้เลย ง่าย สะดวก รสชาติดี สดชื่น ไม่แพง เราชอบดื่มหลังออกกำลังกายมาใหม่ๆ ถ้าช่วงไหนเป็นหวัดก็วันละ2-3ซอง รู้สึกเองนะคะว่าหวัดหายไวขึ้น ส่วนตัวเราจะพยายามเลี่ยงการทานยาปฏิชีวนะค่ะ ถ้าเป็นหวัดจะรักษาตัวเองก่อน นอนเยอะๆ ทานผักผลไม้เยอะๆ และอัดวิตซี พูดถึงเรื่องวิตามิน แม่เราเป็นคนที่ให้เรากินพวกนี้มาตั้งแต่อายุ12-13ค่ะ ตอนนั้นแอนตี้มากกกก ทำไมแม่ต้องยัดเยียดเราด้วย ไหนจะครีมกันแดดอีก โอ้ย ตอนนั้นแอบเอาวิตามินไปทิ้งเลย มานึกย้อนไปสิ่งที่แม่แนะนำเราคือสิ่งสุดยอดทั้งนั้นเลยนะเนี่ย!!555 เวลาผ่านไปสิบกว่าปี ไปเรียนต่างประเทศแล้วเกิดไม่สบายเป็นหวัด เจ้าของบ้านที่เราไปอยู่ด้วยยื่นวิตามินซีของBlackmores สูตรสำหรับคนเป็นหวัด (น่าจะเป็นแบบโดสสูงนั่นแหล่ะค่ะ) เราก็กิน1เม็ด ตื่นเช้ามาดีขึ้นมากกก จากนั้นเราเลยเริ่มหันมาศึกษาเรื่องnutritionและวิตามิน เริ่มหาหนังสือมาอ่าน เวลาไปหาหมอผิวหนังตามคลีนิคผิวหนัง ก็จะแอบถามหมอเรื่องวิตามินตลอด นี่ล่ะค่ะ ที่มาที่ไป อิอิ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 20:38:33

ความคิดเห็นที่ 83 มีคนหลังไมค์มาถามว่าเคยทานพวกวิตามินลดความอ้วนบ้างมั้ย เมื่อกี้เลยไปคุ้ยตู้มา เจอเจ้านี่ค่ะ หุหุ แต่ตอนนี้ไม่ได้กินแล้วนะคะ แต่ยังเก็บขวดไว้ ที่ขวดเค้าอ้างว่าช่วยคุมระดับcortisolในร่างกาย (cortisolคืออะไรถามอากู๋ได้เลยค่า) ซึ่งเกี่ยวโยงกับวงจรอุบาทว์ กิน-->อ้วน-->เครียด-->กิน--->อ้วน-->เครียด ผลการทดลองทาน ไม่เห็นความแตกต่างค่ะ อาจจะเพราะเราทานแค่ช่วงสั้นๆก็ได้ ส่วนตัวค่อนข้างสนใจกับเรื่องcortisolที่เกี่ยวโยงกับความอ้วนค่ะ แต่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องการกินวิตามินหรืออาหารเสริมเพื่อลดความอ้วน เราคิดว่าจะลดได้อยู่ที่ใจอย่างเดียวเลย กินน้อย+ออกกำลังกาย ผอมชัวร์ เราก็เลยไม่ค่อยได้ทานพวกวิตามินหรืออาหารเสริมลดน้ำหนักเท่าไหร่ค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 20:48:58

ความคิดเห็นที่ 84 อาหารเสริมที่เราและครอบครัวทานค่ะ Wheatgrass หรือต้นข้าวสาลีอ่อน ช่วยดีท็อกซ์ ล้างสารพิษ เพิ่มภูมิต้านทาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงานของสมอง สายตา การย่อยอาหาร ทำให้ผิวพรรณสดใส ลดน้ำหนัก และที่สำคัญเป็นอาหารอารมณ์ดีอีกด้วย ยี่ห้อที่เราทานเป็นแบบorganic และแบบrawด้วยค่ะ raw foodคืออะไร? คืออาหารที่ไม่ผ่านขบวนการปรุงแต่งทางเคมี ไม่มีแป้ง และน้ำตาล ไม่ใช้ความร้อนเกิน 46C เพื่อคงคุณค่าเอ็นไซม์ วิตามิน และเกลือแร่ สารอาหารก็จะอยู่ครบถ้วน ไม่ถูกทำลาย เสมือนเราทานผักดิบสดๆ รีวิว ชอบมากค่ะ รู้สึกร่างกายสะอาด สบายตัว เราจะทานตอนเช้า ตื่นนอนมาจะดื่มwheatgrass ก่อนเลย ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคนที่สนใจจ้า http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2006/12/L5007355/L5007355.html จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 21:08:46

ความคิดเห็นที่ 85 สำหรับยี่ห้อของวิตามินและอาหารเสริม จากในรูปเพื่อนๆจะเห็นว่าเรากินหลายยี่ห้อมากเลย ส่วนตัวแนะนำให้ทานยี่ห้อชั้นนำค่ะ ไม่แนะนำแบบแบ่งขายตามเน็ทนะคะ โดยทั่วไปยี่ห้ออย่าง Blackmores NatureMade GNC NowFood Twinlab Kirkland Jarrow Natrol ฯลฯ คุณภาพไม่ต่างกันมากค่ะ แต่วิตามินบางตัวอย่างน้ำมันปลา เช่น Omega 3 ต้องเลือกนิดนึงนะคะ น้ำมันปลาที่ดีจะต้องไม่มีโลหะหนัก และ ไม่มีคลอเรสเตอรอล และควรคำนึงถึงแหล่งของปลาที่นำมาผลิตด้วยค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 21:27:23

ความคิดเห็นที่ 86 เราว่าควรจับจุดที่คุณ จขกท. สื่อนะ คือมารีวิว อธิบายเป็นสิ่งอย่าง กินอะไร ยี่ห้อไหน ประโยชเพื่ฉะไร กินจริงเป็นไง จขกท.ไม่ได้ให้เรากินทุกอย่างที่เค้าบอก และ จขกท.เค้าก็บอกเค้าไม่กินพร้อมกันหมดทุกตัว ตกใจกันทำไม ?? จากคุณ : Noon_Ja_Zaa_TuK_TeE เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 22:33:05

ความคิดเห็นที่ 87 ขอถามนิดนึงค่ะ จะสามารถสังเกตจากสีน้ำปัสสาวะได้มั้ยคะ เช่นเราทานวิตชี บางครั้งฉี่เหลือง บางครั้งก็สีใสปกติ ทั้งๆที่ปริมาณน้ำที่ดื่มก็เหมือนเดิมทุกวัน แปลว่ามันดูดซึมได้มากน้อยต่างกันมั้ยคะ  แล้วของจขกท เวลาทานพวกวิตามินบี ปัสสาวะเหลืองมั้ยคะ จากคุณ : Jazzio เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 11:12:56

ความคิดเห็นที่ 88 จขกท.คะ ลองทำตารางการทานวิตามินของจขกท.ให้ดูหน่อยได้มั้ยคะ (วิตามินที่ทานอยู่ทุกวันนี้อ่ะค่ะ) คืออ่านไปเริ่มงง (ขอโทษนะคะ เราโง่เองล่ะ) จากคุณ : jewjewmabushii (jong-jaewon) เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 14:59:40

ความคิดเห็นที่ 89 น่ากลัว ว่า เจ้าของกระทุ้ จะเป็นมะเร็งตับ :P จากคุณ : ::hinase:: เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 21:04:43

ความคิดเห็นที่ 90 เมพมาก ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : เกี๊ยวซ่ากะชาเขียว เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 21:27:05

ความคิดเห็นที่ 91 อยากให้ลอง ทาน Pantothenic acid (B5) ดูนะครับ 500mg - 5g / วัน แล้วแต่คนนะครับ สำหรับถ้ายังเป็นสิวอยู่ ทานคู่กับ zinc ก็ได้ จากคุณ : _NutBoy_ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 22:13:56

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณ จขกท ที่นำรายละเอียด ประโยชน์ โทษ ของการกินวิตามินมาบอกกัน การทานวิตามินเสริมในส่วนที่ตัวเองขาดเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของมันด้วย ของบางอย่างดีสำหรับบางคน แต่กับอีกหลายคนอาจไม่เหมาะก็ได้ เพิ่มเติมในส่วนของวิตามินอี อันนี้เจอกับตัวเองค่ะ.. หวังผลในเรื่องของผิว เพราะเราเป็นผื่นง่าย แต่ทานแล้วกระดูกงอก เหงือกบวม  เลยหยุดไปล่ะ จากคุณ : viee เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 11:16:23

ความคิดเห็นที่ 95 จขกท.เลือกทานวิตามินโดดๆแบบนี้ ต้องมีความเข้าใจในวิตามินให้มากๆนะคะ เพราะวิตามิน หรืออาหารเสริมบางตัว มันจะไปขัดขวางการดูดซึมสารอาหารบางชนิด และบางครั้งเสริมฤทธิ์สิ่งที่ให้โทษกับร่างกายได้...ที่่สำคัญ จนถึงปัจจุบัน มนุษย์ยังไม่สามารถสกัดสารอาหารที่อยู่ในผักผลไม้ออกมาได้ทุกตัว สกัดออกมาได้น้อยมาก ที่เหลืออีกนับพันนับหมื่นตัวยังคงต้องไปทานจากผักผลไม้โดยตรง.. เราคนหนึ่งที่ทานวิตามินเยอะเหมือนกันค่ะ แต่เลี่ยงการทานแบบโดดๆ เพราะอ่านเจอข้อเสียมามาก และโดนผลกระทบกับตัวเอง จากประสบการณ์หลายปี เราหันมาเลือกทานที่เป็นแบบรวม ส่วนอาหารเสริมที่มาแบบโดดๆ โดยเฉพาะที่ไม่ละลายในน้ำ A D E K และอะไรที่เราไม่รู้จักมันเพียงพอ... ถ้าจะทาน จะถามหมอก่อนค่ะ ครั้งหนึ่ง หมอที่ศิริราชเคยเตือนว่า อย่าทานวิตามินมากและติดต่อกันนาน เพราะมีเพื่อนของหมอ ซึ่งก็เป็นหมอเหมือนกัน ทานวิตามินมาก จนตับบวมโต... เราเชื่อค่ะว่า จขกท. ไม่ได้ทานทุกตัวที่มาโชว์ บางตัวทานแค่ระยะนึงก็เลิกไป แต่ยังเก็บมันไว้ ... จากคุณ : แฮม (noopin) เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 22:43:57

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณ จขกทและความเห็นที่เป็นประโยชน์หลายๆ คห นะคะ มีประโยชน์มากค่ะ กำลังเล้งวิตามิน B รวมอยู่ค่ะ เพราะไม่กินเนื้อสัตว์ ส่วนตัวตอนวัยรุ่นก็ชอบหามากินนะคะ ตอนนี้ไม่กินเพราะกลัวค่ะ เราอาจจะขาดสารอาหารบางชนิดนะคะ เพราะเราเป็นมังสวิรัติ แต่เราไม่เป็นสิว ผิวแห้งอยู่แต่พยายามดื่มน้ำเยอะๆ และกินนม กินเต้าหู้ ถั่วต่างๆ และทาน้ำมัน ทาครีมค่ะ ปัญหาในชีวิตที่ทำให้อยากกินเสริมคือ เราเป็นทอมซิลอักเสบบ่อยมาก แต่ก็ยังกลัวเรื่องสารตกค้าง เลยลองสมุนไพรตามคำแนะนำของพี่สาวที่เรียนแพทย์แผนไทย ก็เลยเริ่มกิน "ยาผงชนิดเม็ดตราใบห่อ" ค่ะ กินมั่งไม่กินมั่งมาได้อาทิตย์นึง แก้ไข้ ร้อนใน กระหายน้ำ และเป็นยาระบายอ่อนๆ (มากๆ) จริงๆค่ะ ตัวที่ร้อนๆทุกวันก็ดีขึ้นหน่อย แต่ไม่ได้ดีขึ้นพรวดพราด คือค่อยๆดีขึ้นทีละนิดๆ ที่รู้สึกได้ชัดคือกินมา 1 อาทิตย์รู้สึกว่าไม่ค่อยเจ็บคอ (แอบกินฟ้าทะลายโจรแคปซูลไป 3 วัน ด้วย แต่ไม่กล้ากินเยอะเพราะเป็นแคปซูล) สรุปคือ รู้สึกชอบมากค่ะ ยาสมุนไพร หอม และสบายใจว่าเป็นสมุนไพร น่าจะโอเค ^.^ ที่สำคัญ การออกกำลังกายช่วยได้เยอะมากค่ะ ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้วหยุดไปไม่ได้ออก มาเริ่มวิ่งและซิดอัพอีกทีวันนี้ รู้สึกดีมากๆค่ะ เชิญชวนเพื่อนๆ ที่อยากสวย สุขภาพดี ออกกำลังกายและกินอาหารให้ครบห้าหมู่กันนะคะ สำหรับเราได้รับความรู้จากกระทู้นี้มากๆ ซึ่ง จขกท ได้ศึกษามาแล้วว่าวิตามินเสริมตัวไหนดีไม่ดี เพื่อนๆ ที่อยากสวยแบบสุขภาพดีแบบ จขกท อย่าลืมทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ (ใครยังไม่แน่ใจ ก็อ่านสรรพคุณวิตามินในนี้แล้วลองไปหาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดังกล่าวมาลองกินกันดูก่อนนะ จะได้ไม่อันตรายจ้า) จากคุณ : เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวอีกคะ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:03:35

ความคิดเห็นที่ 97 เหอๆ จากคุณ : หนู๋เจี๊ยก เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 11:32:08

ความคิดเห็นที่ 98 ขอขอบคุณจขกท.ที่มาแนะนำ ติงนิดนึงนะครับ  ผมว่า  จขกท. อ่านหมดทั้งหมดสี่เล่ม  แล้วยังเคยปรึกษาแพทย์เภสัชกร มาพอสมควร ผมว่า  จขกท.น่าจะลองเริ่ม  อ่านพื้นฐานทั้งหมดอีกครั้งหนึ่งนะครับ เท่าที่อ่านๆมา  มันเหมือนฐานไม่แน่นเลย  พื้นฐานบางอย่างไม่รู้อีกเยอะเลย กลัวจะเป็นผลเสียมากกว่าดีนะครับ เหมือนที่ผมเคยเตือนเพื่อนที่ไม่ได้เป็นเภสัชกร   ด้วยคำพูดนี้เสมอ   เผื่อ"ตับ"ไว้ทานยาในอนาคตบ้างเถอะ  เป็นห่วงจริงๆ มันมีสองด้านจริงๆ  คนไม่มีความรู้พอ  ซึ่งในประเทศเรามีเยอะมาก  มาอ่านกระทู้นี้ แล้วเอาไปทำตามแบบผิดๆหนะครับ และคำพูดอาจจะดูแรง  ต้องขออภัยด้วย  เจตนาดีจริงๆ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 15:13:40

ความคิดเห็นที่ 99 Lypo-Spheric GSH ซื้อได้จากไหนอ่ะคะ ร้านยามีไหมคะ จากคุณ : Nameless Monster เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 17:05:05

ความคิดเห็นที่ 100 ต่อไปใครจะกล้ารีวิว  ^_^ จากคุณ : pikju เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 11:59:04

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณ จขกท ค่ะ บาง คห เข้าใจว่าการกินวิตามินมากๆ ไม่เป็นผลดี คนทุกวันนี้ไม่ออกกำลังกาย นอนดึก เครียด แถมกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แล้วก็ยังยึดติดกับความเชื่อที่ว่าการได้รับวิตามินเยอะเกินไปเป็นผลเสียเลยไม่ค่อยจะยอมกินวินตามิน อาหารเสริมกัน ถ้ายังงี้ร่างกายก็ยิ่งแย่กันพอดีค่ะ เราก็อ่านหนังสือสุขภาพค่อนข้างมาก และคุยกับหมอมามากพอสมควรค่ะ การได้รับวิตามิน over dose ไม่ได้เป็นผลเสียขนาดนั้นค่ะ เราเองก็กินวิตามิน อาหารเสริม มากพอๆกับ จขกท ดีหรือไม่ดี รู้สึกได้ด้วยตัวเองจริงๆ จากคุณ : น้องหยาด เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:54:56

ความคิดเห็นที่ 102 #98 ไม่ได้อ่านแค่4เล่มนี้นะคะ  แต่ขี้เกียจขนหนังสือจากชั้นหนังสือที่บ้านมาถ่ายค่ะ มันเยอะและหนักมากกก ใครมีความรู้แน่นๆเก่งๆ ขอเรียนเชิญมาตั้งกระทู้เรื่องวิตามินอาหารเสริมเลยค่ะ พอดีเราไม่มีความรู้ไปสั่งสอนใครได้ เพราะความสามารถเราทำได้แค่ถ่ายทอดปสก.ว่าวิตามินที่เคยทานแต่ละตัวมันส่งผลเช่นไรต่อตัวเรา ใครที่เป็นห่วงเราก็เอาเวลาไปห่วงตัวคุณและครอบครัวคุณดีกว่านะคะ ไม่ได้ประชดนะคะ เพราะเราแข็งแรงและสบายดีค่ะ^^ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 05:07:47

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ  ^__^ เราว่าการทานอาหารเสริม เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตในปัจจุบันไปแล้ว เนื่องจากสภาพของอาหารเปลี่ยนไปเน้นอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นเราก็ควรดูแลร่างกายเราให้มีภูมิต้านทาน  ต้านสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน จากหนังสือที่ จขกท.อ่านเราว่า หนังสือ Nutrisearch Sipplement  จะบอกอาหารเสริมตัวไหนที่ดีที่สุดต่อร่างกาย 18 ระบบของร่างกาย และมีสารพิษตกค้างน้อยที่สุด น่าจะเลือกจากหนังสือ (ความเห็นส่วนตัว เพราะเราเอาหนังสือเล่นนี้เป็นเกณฑ์) จากคุณ : เยาว์ (yaowhun) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 10:27:58

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ดีมากๆเลย จากคุณ : ซ้อสิบ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 15:05:19