ความคิดเห็นที่ 1 สูงและหนักเท่าเราเลยคะ แต่ตอนนี้ลงมา 5 โลแล้ว ของเราไปเรื่อยๆคะ ของเราทานไม่เกิน 1,000 แคลลอรี่/วัน  , ทานอาหารเสริมที่ไปช่วยเรื่องระบบขับถ่าย, ทานโยเกริต์เยอๆ, น้ำเปล่าเยอะๆ(พกขวดน้ำติดตัวเลยทีเดียว) หิวก็ทานคะ แต่ ทานอาหารที่เรารู้แคลลอรี่แน่นอน จะได้ยั้งใจก่อนเอาเข้าปาก ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เพราะไม่มีเวลา แต่จะเน้นเคลื่อนไหวร่างกายตลอด เช่น เรียนชั้น6 / ขึ้นบันไดเอา, ทำงานบ้าน,ล้างรถ พยายามมีกิจกรรมตลอดคะ จากคุณ : kaemboum เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 04:27:52

ความคิดเห็นที่ 2 ลดหรืองดข้าวเย็นเลยครับผม มื้อเช้ากินอย่างราชา มื้อเที่ยงกินอย่างราชินี มื้อเย็นกินอย่างเจ้าหญิง(เจ้าหญิงกลัวอ้วนต้องกินน้อยๆ อิอิ) อ้อ ส่วนการออกกำลังกายไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกัน เเต่จะ plankเอาครับ เน้นเฟิร์ม ไม่ค่อเบิร์นเท่าไหร่เลย แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 06:05:10 จากคุณ : โซ่วีนัสแห่งความรัก เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 06:03:48

ความคิดเห็นที่ 3 พยายามทาน ไม่เกินค่า BMR ของตนเอง เคลื่อนไหวร่างกายแยะๆค่ะ จากคุณ : คนเหงาเฝ้ารอเธออยู่ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 06:21:59

ความคิดเห็นที่ 4 http://diet.pantipmember.com/ จากคุณ : iampoypoy เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 06:32:19

ความคิดเห็นที่ 5 ลดกันแบบไม่กลัวโยโย่กันเลยห้องนี้ เข้าคลับลดความอ้วนเลยครับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ผมเสียโสดให้หญิงร้าย) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:03:40

ความคิดเห็นที่ 6 ลดมื้อเย็นค่ะ เปลี่ยนเป็นพวกผลไม้ตอนแรก แล้วก็เล่นฮูลาฮูปวันละ 30 นาที ลงไป 4 โล ก็เปลี่ยนมาออกกำลังกายตามยูทูปอ่ะค่ะ ของ billy blanks ไม่แน่ใจว่าชื่อถูกรึป่าว 555 ก็ออกมาเรื่อยๆ จากคุณ : chana_tarn เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:05:47

ความคิดเห็นที่ 7 กินครบสามมื้อค่ะ แต่ทานแป้งน้อยลด หลีกเลี่ยงน้ำตาล ไขมัน ออกกำลังกายโดยการวิ่งหรือว่ายน้ำค่ะ หลังสองทุ่มไม่ทานอาหาร ดื่มน้ำอย่างเดียวค่ะ จากคุณ : liveforlife (liveforlife) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:27:00

ความคิดเห็นที่ 8 กินครบสามมื้อค่ะ ไม่อดอาหาร ^^ จากคุณ : เขียนบน iPad (ตะลิงติงลี่) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:29:51

ความคิดเห็นที่ 9 ฏกของเราค่ะ 1.เรากินไม่ต่ำกว่า 1500 แคล ต่อวัน ... พยามยามไม่ให้เกิน 2500 กินคาร์โบปรกติ งดเนื้อสัตว์ส่วนที่มันเยอะๆ ลดของทอด ที่น้ำมันเยิ้มๆ นี่หันหน้าหนี 2.วิ่งแบบคาร์ดิโอให้ได้ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ (วิ่งเรื่อยๆ ไม่เน้นวิ่งเร็ว แต่วิ่งไม่หยุด ถ้าจุกก็เดินเร็วๆเอา ) ครั้งละ 1 ชม. .... speed เราก็ได้ ประมาณ 8โล/ชม. 3. วันไหนไม่วิ่งก็เดินให้ได้วันละ 2 โล เดินพาหมาออกกำลังเรื่อยเปื่อย sit-up ยกดัมเบล บ้างวันละ 20 ครั้ง กันเนื้อย้อยไว้หน่อย กล้ามจะได้โผล่มาบ้าง 4. ไปปาร์ตี้หลังเลิกงาน shopping กินตามใจ สัปดาห์ไม่เกิน 2 เพื่อให้ไม่เครียดเกิน 5. กินน้ำให้ได้วันละ 2-3 ลิตร  ไขมันที่ออกมาจากการ burn ต้องใช้น้ำในการขับออกมา ... ผิวพรรณยังดีขึ้นทันตาเห็นอีก ป.ล. โยเกิร์ตที่มีส่วนผสมของผลไม้นี่น้ำตาลอย่างเยอะอ่ะ  ผลไม้บางชนิดก็น้ำตาลสูงอยู่ ... ของเรากินนมพร่องมันเนยกับมะขามฝักๆ นี่ตัวระบายอย่างดีเลยค่ะ ไปเข้า club ลดความอ้วนในห้องสวนลุมดีกว่านะ ถ้าไม่อยากลดแบบผิดๆ สุขภาพเสีย แล้วก็เด้งกลับมมาอ้วนอีก 3 เท่า ในนั้นมีคนเก่งๆ ให้ความรู้ดีๆ เยอะเลยค่ะ จากคุณ : MJ_CHIC เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:42:15

ความคิดเห็นที่ 10 เราเป็นคนขี้เกียจมากกกกกกค่ะ และไม่มีเวลาออกไปข้างนอก ก็อาศัย  เดินอยู่กับที่  ในบ้านนั่นแหละ  พร้อมกับดูหนังเรื่องโปรดไปด้วย สลับกับหมุนจานทวิสต์  ได้ผลจริง ๆ  เอวมาเลย วันไหนขี้เกียจมาก ก็ครึ่งชั่วโมง  วันไหนขยันหน่อยก็ 1 ชั่วโมงค่ะ แต่ส่วนมากจะทำให้ได้ 1 ชั่วโมง  จะได้ผลดีที่สุด และน้ำสะอาด  สำคัญมาก แต่ละคนมีความต้องการน้ำไม่เท่ากัน เราใช้สูตรนี้ในการคำนวณ  (น้ำหนักตัว (ก.ก.)/2) x 2.2 x30 จะได้ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มในแต่ละวัน ก็ขยันจิบให้ได้ตามนั้น  ซึ่งมันช่วยจริง ๆ ค่ะ เราอยากลดพุงมาก  ออกกำลังกายยังไงก็ไม่ลดจริง ๆ  ถ้ายังทานเหมือนเดิม เลยปรับเปลี่ยน  คือทานอะไรก็ได้  ทานยังไงก็ได้  แต่อย่าให้พุงป่องออกมา เพราะเมื่อไหร่ที่พุงป่องออกมา สำหรับเราคือ มันเกินความอิ่มแล้ว เคี้ยวช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด  จะทำให้เราไม่สนุกกับการทานอาหารจนเกินไป แบ่งทานวันละ 5 มื้อ  อย่าง megan fox ก็ได้นะคะ จากคุณ : dEaRfany (KIMdEARJAE) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 10:16:14

ความคิดเห็นที่ 11 ควรปรับเปรี่ยนพฤติกรรมอย่าถาวร ไม่ใช้กินน้อยช่วงเวลาสั้นๆ กินให้พอดี พอประมาณ เลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเองมันถึงจะผอมแบบยืนยาว คาโบไฮเดรต (ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีทจะทำให้เราอิ่มนาน ไฟเบอร์สูง gi ต่ำ ไม่ได้แคลต่ำกว่านะ) พอประมาณ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ (อกไก่ สันในไก่ เนื้อไม่ติดมันทั้งหลาย นม) กินให้เยอะ ไขมันดี (น้ำมันมะกอก ไขมันจากพืช) ไฟเบอร์ (ผักใบเขียว ไฟเบอร์จะช่วยชลอการย่อยแป้ง นอกจากอิ่มนานขึ้น ยังชลอการเปลี่ยนแป้งเป็นไขมันได้ด้วย ทำให้เราอิ่มนานขึ้น หิวน้อยลง) ลดได้ 10 โลใแต่กลัามเนื้อหายไปพร้อมๆไขมัน cardio อย่างเดียว หัวใจแข็งแรงแต่กล้ามเนื้อปวกเปียก ต้องเวทไปพร้อมกันด้วยถึงจะเหมาะสม ทานน้อย โหมออกกำลัง เสี่ยงต่อการเป็น skinny fat ง่ายๆ ผอมแต่พุงพุ้ยๆ แขนย้วยๆ อีกอย่าง กินให้มากกว่า  BMR น้อยกว่า TDEE BMR (Basal Metabolic Rate) นั้นคือค่าของแคลอรี่ที่ร่างกายเราใช้ในกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน ไม่น้อยกว่า TDEE (Total Daily Energy Expenditure) หรือก็คือค่าของพลังงานที่ใช้ทั้งหมดในแต่ละวัน(ออกกำลังกาย) สมมุติ -300 แต่ต้องไม่ต่ำกว่า bmr นะค่ะ ปัทว่าทางที่ดีกินให้มากกว่า bmr ดีกว่าเพราะเราออกกำลังกายอยู่แล้วจะได้มีแรง อันนี้มีคนเคยบอกไว้คะ ลองไปปรับใช้เหมาะสมกับตัวเอง สมมุติว่า bmr 1800 tdee 2500 วันที่ออกกำลังกายให้กิน 2500 วันที่ไม่ได้ออกให้กินน้อยกว่า 2500 ได้แต่ต้องไม่ต่ำกว่า bmr อย่าลืม นน เราลดทุกวัน bmr tdee เราก็เปลี่ยน แบบลดต้นลดดอก ขอให้สุขภาพดี และแข็งแรงในการลดน้ำหนัก จากคุณ : WHOPUT เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 10:47:07

ความคิดเห็นที่ 12 ปกติชอบทานกาแฟแบบมีวิปครีม เดี๋ยวนี้ ทานกาแฟดำใส่น้าตาลแบบ0แคลอรี่ ดูอาหารที่ทานด้วยวิธีนับแคลอรี่ ตอนเย็นทานแก้วมังกร หรือ สลัดผัก ออกกำลังด้วยการเดิน วิ่งไล่จับลูกชาย 1.6 เดือน ทานไม่เกิน 1,200แคลอลี่ต่อวัน ทำมาเกือบเดือน ลดไปห้าโลคะ ^^ จากคุณ : Immer เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 10:54:14

ความคิดเห็นที่ 13 เราเคยลด 16 กก. ใน 4 เดือน ออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ โดยเล่น Elyptical 45 นาที แล้วก็ว่ายน้ำต่ออีก 1 กม. บางวันเปลี่ยนเป็น Elyptical 45 นาที แล้วตามด้วยยกเวท ส่วนเรื่องทานอาหาร เราพยายามทานเฉลี่ยวันละไม่เกิน 1500 แคลอรี่ เรื่องการทานอาหารว่าจะทานวันละกี่แคลอรี่ แนะนำว่าถ้าใช้ Smart Phone เค้าจะมีพวก Application เกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนัก ลองโหลดมาใช้ดูค่ะ เราก็โหลดมาใช้อยู่ตัวนึง เค้าจะให้เราใส่ข้อมูล น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เพศ พฤติกรรมการออกกำลังกาย น้ำหนักเป้าหมาย และระยะเวลาที่เราต้องการลดน้ำหนักลงไป แล้วเค้าจะคำนวนให้เลยว่าวันนึงต้องทานอาหารกี่แคลอรี่ ของเราเค้าคำนวนออกมาอยู่ที่ 1493 เราเลยปัดเป็น 1500 จัดเป็นเครื่องมือในการช่วยลดน้ำหนักที่ดีเลย ถ้าเรามีระเบียบวินัย ทำตามคำแนะนำใน Application นั้น ๆ อย่างเคร่งครัด แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 11:09:58 จากคุณ : ก๊าก ToT เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 11:06:23

ความคิดเห็นที่ 14 ยาวหน่อยนะคะ แต่อยากให้อ่าน เราก็กำลังเริ่มลด นน.​ เหมือนกันค่ะ ไม่เคยออกกำลังกายในชีวิต ลองมาหลายวิธีแล้ว อดข้าวเย็น กินแต่น้ำ กินแต่ผลไม้ ไม่เวิร์คค่ะ!! ตอนแรกน้ำหนักจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่พอจุดๆนึง มันจะไม่ลด ลดยากมาก นน.ไม่ลด แถมตัวยังบวมๆอีก แบบตัวนิ่มๆเหลวๆอ่ะค่ะ ต้นแขนนี่เห็นชัดเลย แต่คนเรามันไม่กินข้าวเย็นไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ยิ่งคนที่ชอบไปไหนมาไหนกะเพื่อนฝูง นัดกันกินข้าวบ่อยๆ พอเรากลับมากินข้าวเย็น ไปเที่ยวกะเพื่อนๆ ปรากฏว่าน้ำหนักขึ้นอีก ขึ้นมาเท่าเดิมก่อนลด (ดีนะที่ไม่ขึ้นไปมากกว่านี้) เราแนะนำให้ จขกท ไปอ่านคลับลดความอ้วนค่ะ คือเราไม่ได้เป็นสมาชิกคลับนั้นนะ แต่เราอ่านเราได้ความรู้เยอะมาก พี่ๆเพื่อนๆเค้าจะแนะนำการลดน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพ เรากำลังเริ่มลองทำอยู่ แต่เราไม่เคยออกกำลังกาย และขี้เกียจมาก เราก็เอาความรู้จากคลับนั้นมาปรับกับวิธีใช้ชีวิตของเรา เวลาออกกำลังกายมันก็จะมีจุดนึงเหมือนกัน ที่นน.ไม่ยอมลง แต่!!ต่อให้นน.ไม่ลง แต่สัดส่วนลงนะ ไปหาตลับเมตรวัดตัวซักอันมาเก็บไว้ แล้วดูความเปลี่ยนแปลงได้เลย จากคุณ : pttcha* เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:01:28

ความคิดเห็นที่ 15 - ต่อ - วิธีที่เราทำอยู่ประจำ คือ หาเวลาออกกำลังกายสัก 2-3 วันต่อสัปดาห์ เราออกกำลังกายไม่เป็น ก็เริ่มจากวิ่งลู่วิ่ง (โชคดีมากที่มหาลัยมีฟิตเนสให้เล่น) จริงๆอย่าเรียกว่าวิ่งลย เรียกว่าเดินเร็วเอาดีกว่า ประมาณ 40 นาที ตอนวิ่งแรกๆเหนื่อยมาก เหงื่อออกเต็มตัวเลย เมื่อยขา วิ่ง 10-15 นาทีแรกอ่ะ รู้สึกสบาย แต่หลังจากนั้นเริ่มเมื่อยมาก รู้สึกทำไมเวลามันผ่านไปช้าจัง(วะ) ในใจก็คิดว่า "ทำไมต้องมาเหนื่อยแบบนี้ด้วย โอ้ยไม่ไหวแล้ว วันนี้พอแล้วดีกว่า" แต่เราก็พยายามคิดว่า "เห้ย นี่เราวิ่งมาได้ครึ่งทางแล้วนะ อีก 15 นาทีเอง อดทนหน่อย" ในฟิตเนสจะมีคนหุ่นดีๆ เราก็จะมอง แล้วบอกกับตัวเองว่า "ชั้นต้องหุ่นแบบนั้นให้ได้!!" "ถ้าเลิกตอนนี้กลับห้องไปจะทำอะไร ไปนั่ง? ไปนอน? นั่งๆนอนๆแล้วมันจะผอมมั้ย?" ตอนวิ่งก็ฟังเพลงไป หาเพลงแดนซ์ไปฟังเยอะๆ พอช่วงไหนเหนื่อย ก็เริ่มฮัมเพลง อย่าไปคิดว่าเราเหนื่อย อย่าไปมองเลขวินาที เวลาวิ่งก็อย่าโหมนะ อย่างเราวันแรก ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ปกติร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย เลยเริ่มจากช้าๆเอาที่เราพอได้ แต่มองคนที่เค้าวิ่งข้างๆเรา แบบเป็นผู้หญิง วิ่งเร้ววววเร็วววว รู้สึกอายที่ตัวเองวิ่งเป็นเต่าคลาน เลยเอามั่ง ปรับ speed วิ่งๆๆๆๆ ปรากฏว่าจะเป็นลม หน้ามืด แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ตอนนี้เราอ่านจากคลับลดความอ้วน เราจะเริ่มเล่นเวทละ เล่นก่อนออกไปวิ่ง ได้ความรู้ว่าจะมีสารอะไรซักอย่าง เอ่อ.. ขอโทษ เราลืมวิชาการ ลองไปหาอ่านดูนะ เวทก่อนวิ่ง วิธีคือ วอร์มอัพ เดินวอร์มสัก 10 นาที แล้วยืดเส้นยืดสาย จากนั้นก็เวท 30-45 นาที แล้วก็ไปคาร์ดิโอ้(สำหรับเราก็คือวิ่งอ่ะแหละ)อีก 40-60 นาที แล้วก็ cool down (เดินช้าๆ ปรับตัว) ยืดเส้นยืดสาย จบ! พอออกกำลังกายเสร็จแล้วตัวมันจะเบาๆ อาบน้ำสดชื่นมากกกก นอนหลับสนิท และมันจะรู้สึกดีกะตัวเอง "เราทำได้นะ" เหมือนเราชนะใจตัวเองอ่ะ คนรอบข้างเวลารู้ว่าเราจะลดน้ำหนัก ชอบพูดประมาณว่า "เห็นจะลดเป็นครั้งที่ล้าน" "อย่างแกไปวิ่ง คงวิ่งได้แค่สองวัน" อะไรแบบเนี้ยะ เจ็บใจมาก เราต้องทำให้ได้ เวลาเราผอมแล้วคนมาทักว่า "เห้ย ไปทำไรมา ดูตัวเล็กลง ดูผอมลง" มันเป็นความภูมิใจจริงๆอ่ะ (แต่พอบอกว่าไม่อดอาหาร ไปออกกำลังกาย ก็ไม่เห็นมีใครทำตามได้ซะที เห็นชอบอดข้าวกัน แปลว่าวิธีของเรามันยากนะเนี่ย แต่เราก็ทำได้) แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 12:07:52 จากคุณ : pttcha* เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:06:58

ความคิดเห็นที่ 16 เราอดไม่ได้ ไม่อยากให้เจ้าของกระทู้เขวเดินผิดทาง เราออกตัวก่อนเลยนะคะว่าเป็นคนที่เคยหนักถึง 80 และลดลงมาเหลือ 53 ด้วยการอดอาหารบวกการใช้ยา คือกินแบบนับแคลฯ, งดแป้ง, กินแต่ผักกับผลไม้  พูดตรงๆมันก็ได้ผลค่ะ ลดเร็วจริง ภายในสามเดือนเราลดลงมาเหลือ 65 กิโล หลังจากนั้นใช้ยาลดน้ำหนักช่วย ผลที่ได้คือ ผอมลงเร็วมากค่ะ แต่มาพร้อมตาโหล ผมร่วง ผิวแห้ง และผิวหนังย้วยๆจนเพื่อนเรียกอีเหี่ยว หลังจากนั้นเราก็น้ำหนักขึ้นๆลงๆตลอด เพราะระบบเผาผลาญเราเสียไปแล้วค่ะ ตัวย้วยนิ่มเหลวไปหมด คือมันไม่มีกล้ามเนื้อสำหรับช่วยเผาผลาญพลังงานเลย (เรามารู้ตอนหลังว่าที่ทำมาตลอดมันผิดมากๆ) พยายามคุมน้ำหนักให้อยู่ที่ไม่เกิน 55 กินแบบที่ว่า.... น้อยจนไม่รู้จะน้อยยังไง กินแค่สุกี้น้ำกับผักผลไม้น้ำหนักก็ยังขึ้น จนเราคิดว่าชาตินี้คงต้องกินแบบอดๆอยากๆ ไปตลอดชีวิต ช่วงที่ผ่านมาอิจฉาคนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนมาก เพราะเรากินแบบนั้นไม่ได้เลย แค่ดมก็อ้วนแล้วอ่ะ - -" ทีนี้ค่ะ พออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญมันก็ช้าลง เราก็ลนแล้ว เพราะหุ่นเรามันมีวี่แววจะอ้วนแน่ คนที่เคยอ้วนมาตลอดชีวิตพอลดได้ ยังไงก็จะไม่อยากอ้วนอีก เข้าใจใช่มั้ยคะ ต้นปีนี้เราเลยเริ่มออกกำลังกายค่ะ เริ่มจากเล่นโยคะให้พอยืดเส้นสาย ทำอยู่ประมาณ 3 เดือน ผลที่ได้คือไขมันที่มันปลิ้นตรงขอบเสื้อชั้นใน มันหายไปค่ะ แต่น้ำหนักไม่ลดนะคะ แล้วสัดส่วนก็ชัดเจนขึ้น เอวเป็นเอว หุ่นดีขึ้นกว่าตอนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ได้ผลแค่นี้เราก็ดีใจมากแล้วค่ะ คิดว่า...เออ ฉันมาถูกทางละ อยากสวยต้องออกกำลังกายดีที่สุด จากนั้นก็หาข้อมูล เรารู้ตัวแล้วว่าตัวเรามีแต่ไขมัน แทบจะไม่มีกล้ามเนื้อเพื่อใช้เผาผลาญพลังงานเลย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมฉันกินนิดเดียยวถึงได้อ้วนปุปปับขนาดนั้น เคยวัด fat ได้ 33% ทั้งๆที่ค่า BMI แค่ 19.8 เราเลยหาวิธีสร้างกล้ามเนื้อค่ะ จนมารู้จักคุณ super เมีย ที่เคยมาโพสต์กระทู้ในห้องแป่้งนี่ล่ะ เค้าเป็นคนที่เปลี่ยนความคิดเราไปเลยนะคะ ว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องน้ำหนักน้อยก็หุ่นดีได้ คือพี่เค้าสูงเท่าเรา หนักเท่าเรา (168/56-58) แต่หน้าท้องเค้าแบนเรียบ อก เอว สะโพก เฟิร์มทุกสัดส่วนก็ว่าได้ ในขณะที่เรามีพุงย้วยกับต้นขา,ต้นแขนเผละๆอ่ะค่ะ มันเห็นชัดเลยว่าน้ำหนักเท่ากันแต่คนมีกล้ามเนื้อกับอีกคนมีแต่ไขมัน มันต่างกันยังไง!! และนั่นเป็นจุดที่ทำให้เราหันมาเล่นเวทค่ะ ตอนนี้เราเวทมาสองเดือนแล้ว น้ำหนักเรายังเท่าเดิมคือ 58 แต่เอวเราลดลง 5.5cm. แล้วค่ะ พูดง่ายๆคือตอนนี้เอวเล็กกว่าตอนที่เราหนัก 55 แต่ไม่ออกกำลังกายอีก แถมเสื้อผ้าก็ยังใส่ไซส์เดิมได้ ในขณะที่ตอนเราหนัก 57 แต่ไม่ออกกำลังกาย เรายัดไม่เข้าเลย อาหารการกินเราก็กินได้มากขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลว่ากินอะไรแล้วพรุ่งนี้จะอ้วน เพราะตกเย็นเราก็เบิร์นออกด้วย elliptical และยกเวทต่อสร้างกล้ามเนื้อ ที่พูดมายาวๆนี้เพราะเราเป็นห่วงคุณ ไม่อยากให้ไปผิดทางด้วยการลดแป้ง นับแคล กินยาลด ทางนั้นมันเร็วจริงค่ะ แต่มันไม่ยั่งยืนถาวร และเราทำมันไปตลอดชีวิตไม่ได้ เชื่อเราเถอะค่ะ เราลดมาตั้งแต่อายุ 17-31 กี่ปีเข้ามาแล้ว มันไม่มีวิธีไหนแน่นอนไปกว่าการออกกำลังกายจริงๆค่ะ จากคุณ : ++ Herr Hazy Hazlitt ++ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:27:26

ความคิดเห็นที่ 17 - ต่อ - สำหรับการกินอาหาร เราไม่อดนะ แต่จะเลือกกินมากๆมื้อเย็น แล้วก็กินโปรตีนเยอะๆ เพราะมันจะอิ่มนาน พวกแป้งอะไรพวกนี้ไม่ถึงชม.ก็ย่อยละ ย่อยหมดก็หิวใหม่ เน้นกินพวกปลา ไก่ ผัก ไม่กินเนื้อสัตว์แปรรูป พวกหมูยอ แหนมอะไรแบบนี้ อ้วน ปกติไม่กินน้ำอัดลมอยู่แล้ว เลี่ยงน้ำตาลด้วย ไม่กินพวกเลย์อะไรแบบนี้เลย และเราจะมีวันที่จะกินของที่อยากกิน 1 วัน/สัปดาห์ อยากกินอะไรก็กิน แล้วถ้าวันไหนหรือมื้อไหน กินอาหารอ้วนๆ มื้อถัดไปก็กินพวกผักๆเอา ไม่กินอาหาร โดยเฉพาะขนมหรืออะไรหวานๆก่อนนอน 3 ชั่วโมง ลองหาอ่านดูนะ เค้าบอกว่าตอนนอนร่างกายเราจะผลิตอะไรสักอย่าง ช่วยเผาผลาญ แต่ถ้ามีน้ำตาลมันจะไปสกัดกั้นสารตัวนี้แหละ ขอโทษด้วยนะ เรื่องวิชาการเราจำไม่ได้จริงๆ แล้วพอออกกำลังกายเสร็จก็กินโปรตีนสักหน่อย ไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ออกกำลังกายเสร็จแล้วอดนะ เรื่องนับแคลลอรี่ เราก็นับนะ แต่จริงๆถ้าเรากินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้กินขนมระหว่างมื้อมาก ยังไงก็ไม่อ้วนหรอก แต่ถ้าลองนับก็ดีเหมือนกัน อย่างเราเพิ่งรู้ว่าผัดไทกะเฟรนช์ฟรายด์แคลอรี่เยอะมากกกกกกก แบบตกใจ คือรู้ว่ามันเป็นอาหารอ้วน แต่ไม่คิดว่าแคลอรี่มันจะเยอะขนาดนี้ ลองไปศึกษาดูเป็นความรู้ จะได้เลือกกิน อาหารที่เรากินแบ่งตามมื้อ ก็จะเป็นประมาณนี้ มื้อเช้า: ปกติไม่กินมื้อเช้า ก็หัดกิน ร่างกายต้องการพลังงานไปเผาผลาญ แต่เราไม่ค่อยมีเวลากินมื้อเช้า ก็จะเป็นพวกโจ้ก แล้วที่ 7-11 จะมีสลัดผักเป็นกล่องๆขาย ประมาณ 30 บาท ถ้ากินแค่สลัดมันจะไม่อยู่ท้อง เราก็ไปซื้อทูน่าในน้ำแร่มาใส่(ครึ่งกระป๋องพอ) แคลอรี่และไขมันไม่สูง ได้โปรตีน อื่มนานด้วย วันไหนรีบมากๆก็จะดื่มเนสวิต้า 1 ถ้วย มื้อกลางวัน: กินอาหารปกติ ในปริมาณที่พอดี หมายถึง ถ้าปกติสั่ง 2 จาน ก็เหลือแค่จานเดียว ไม่ต้องถึงขนาดกินครึ่งจานอะไรแบบนั้นนะ ส่วนใหญ่เราจะไม่กินของมัน ของทอด แต่บางวันก็กินข้าวกระเพรา แหม ของมันเคยๆจะให้อดเหรอ แต่ไม่ใช่กินทุกวันนะ กินพวกน้ำๆแกงจืด ส้มตำ ไก่ย่างไม่เอาหนัง ต้มแซ่บ อะไรพวกนี้ แต่เราแนะนำพวกปลา ปลานึ่งมะนาว/ซีอิ๊ว สเต็กปลาก็ดี อย่าเผลอเขมือบเฟรนช์ฟรายด์ล่ะ เวลากินก็เคี้ยวช้าๆ กินให้พออิ่ม อย่าจุก มื้อเย็น: เรากินอาหารเย็นหลังออกกำลังกาย และพยายามไม่กินดึก แต่บางคนทำงานเลิกดึก มันเลี่ยงไม่ได้ อาหารเย็นให้เลือกกินหน่อย ยิ่งหลังออกกำลังกาย กินโปรตีนจะดี อาหารเย็นที่เรากินก็คล้ายๆกับมื้อกลางวันอ่ะแหละ แต่ไม่กินพวกกระเพราละนะ ไม่กินอะไรมันๆ ไข่กินได้นะ ปลายังเป็นตัวหลัก ปกติเราชอบทำสุกี้กินเอง ใส่เห็ด ผัก กุ้ง ปลา ใส่ทีละน้อย เดี๋ยวใส่เยอะไป พออิ่มแล้วมาเสียดาย ระหว่างมื้อ: บางคนอดไม่ได้ เราก็แนะนำเหมือนคนอื่นแหละ กินผลไม้ พวกแอปเปิ้ลนี่ดีมาก เค้าบอกว่าแอปเปิ้ลเขียวช่วยเรื่องลดน้ำหนัก แต่จะเขียวจะแดงกินไปเถอะ อย่าลำบากตัวเอง เรากินสัปปะรดด้วย กินหลังอาหารมื้ออ้วนๆมันช่วยย่อย แต่ก็เอาพอดี เพราะบางคนก็บอกน้ำตาลเยอะ เวลาอยากอะไรหวานๆแล้วไม่มีผลไม้ก็อมลูกอมก็ได้ เม็ดสองเม็ดมันไม่เป็นไรหรอก มันช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้นด้วย แต่อย่ากินเป็นถุง ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพอดี ประโยชน์มันมี แต่ถ้ามากไปก็เป็นโทษได้ ถ้าได้อ่านมาถึงตรงนี้ เราขอบคุณจริงๆ เราก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องวิชาการอะไรหรอก อาศัยอ่านจากคนอื่นมาเหมือนกัน แต่เราอยากแนะนำวิธีที่ได้ผลจริงๆ การออกกำลังกายและเลือกกินอาหารที่ดี มันช่วยได้หลายเรื่อง มันเห็นผลกับเรา เราก็อยากให้คนอื่นได้แบบเราบ้าง หลังจากที่ออกกำลังกายมาเดือนนึง ทุกวันนี้เราไม่ค่อยป่วยเหมือนแต่ก่อน จากที่เมื่อก่อนหน้าเป็นสิว ตอนนี้ขอบอกเลยว่า ไม่มีสิวเลยยยยย เวลาไม่แต่งหน้า หน้ามันจะแดงๆ ดูมีชีวิตอ่ะ ใครๆก็ทัก ลองดูคนที่อดอาหาร กินยาลดความอ้วน จะดูโทรมๆ และสัดส่วนเราลดลง มั่นใจในตัวเอง ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยแรงใจของตัวเองล้วนๆ พึ่งตัวเองนะ อย่าพึ่งคนอื่น สู้ๆ - แก้ไข - เรากินมื้อเย็นหลังออกกำลังกายนะ พิมพ์ผิดๆ แล้วอาหารพวกนี้ที่เรากิน คือเรากินตอนลดความอ้วน ถ้าเราลดได้จนถึงจุดที่เราพอใจแล้ว เราก็ไม่ต้องมาเคร่งกินอะไรแบบนี้ก็ได้ เลือกกินให้ครบ 5 หมู่ ไขมันก็กินได้ (ลองหาข้อมูล ไขมันดี ไขมันเลวดูนะ) พอผอมแล้วอาหารอ้วนหรือบุฟเฟ่ต์เราก็กินได้ ตราบใดที่เรายังดูแลสุขภาพของตัวเอง ขอแค่จำไว้ว่า กินอย่าง"พอดี"และ"รู้ตัว" แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 15:59:06 แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 12:54:43 แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 12:54:42 แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 12:52:23 จากคุณ : pttcha* เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:41:48

ความคิดเห็นที่ 18 กินให้ครบ อย่าอดค่ะ แต่เลือกกินดีๆ ออกกำลังกาย พักให้พอค่ะ ตามเม้นท์บนๆเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (poojo_ke) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:41:55

ความคิดเห็นที่ 19 นับแคลลอรี่ไม่เวิร์คอย่างแรง เคยอ่านเจอว่า ถ้ากินน้อยกว่า 1000 แคลลอรี่ น้ำหนักอ่ะลดจริง แต่ร่างกายจะปรับเข้าโหมดจำศีลเพื่อเซฟพลังงานที่เหลือ พอกลับมาทานอาหารปกติก็เหมือนเดิม แล้วประเภทงดนู้นงดนี่ เราเคยทำนะคะ ถ้าไปตรวจจะพบเลย "ขาดสารอาหาร" ค่ะ เราขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก ฉะนั้น กินให้ครบ กินแต่พอดี ของหวานงด น้ำสีๆเลี่ยง ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วัน เราจะเล่นเวทก่อนจะช่วยให้เผาผลาญดีขึ้น 30% แล้วค่อย คาร์ดิโอ แล้วถ้ายิ่งออกกำลังกายตอนเช้าก่อนทานข้าวได้จะลดเร็วขึ้น แค่นี้เอง ปัจจุบัน เช้า : คลิป figureobic ตัวดัมพ์เบลก่อน แล้วค่อยต่อด้วย คลิปกางเกงแดง ดึก : ฮูล่าฮูป ครึ่งชั่วโมง ถ้าคุมอาหารด้วยลงอาทิตย์ละครึ่งกิโลค่ะ จากคุณ : ล่องลอยในความฝัน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 12:49:51

ความคิดเห็นที่ 20 เพิ่งเห็นเรื่องอยากลดช่วงล่าง อยากลดช่วงล่าง อย่างแรกเลย อย่ากินเค็มค่ะ เอาพอดีๆ กินเค็มจะทำให้บวมน้ำแล้วมันจะไปบวมช่วงล่าง (ไปอ่านมาจากคลับลดความอ้วนมาอีกทีนั่นแหละ) นอกนั้นก็ออกกำลังกาย ช่วยคุณได้ พวกเวท พวกนี้เราก็เพิ่งเริ่ม มาพยายามด้วยกันนะ :) จากคุณ : pttcha* เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 13:05:22

ความคิดเห็นที่ 21 ดิฉันลดน้ำหนักโดยการเข้าฟิตเนตทุกวันค่ะ วันละ 1 ชม. แล้วก็ทานอาหารตามปกติ แต่จะทานข้าวเย็นแค่วันละ 1 จาน(ไม่ได้เต็มจานน่ะค่ะ) และระหว่างวันก็ไม่ได้ทานของจุบจิบอะไรนอกจากน้ำ หรืออาจจะมีบ้างก็เล็กน้อย ชิ้นสองชิ้นค่ะ ปล.ส่วนตัวน้ำหนักก็ลดมาทีละนิดแล้วค่ะ จากคุณ : เจมส์ & ปังคุง (ลิงกะหมา) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 13:53:34

ความคิดเห็นที่ 22 เคล็ดลับของเราใช้วิธีควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แล้วพวกอาหารเสริม ก็หลังเลิกงานก็เข้าฟิตเนส บางวันก็ว่ายน้ำ โชคดีหน่อยค่ะของคอนโด แล้วเราเน้นผัก ผลไม้มากกว่าค่ะ เนื้อก็มีบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นปลาค่ะ แล้วตอนนี้ทานอาหารเสริม The secret ของ Verena ค่อนข้างได้ผลอยู่ จากคุณ : amanekun เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 16:24:27

ความคิดเห็นที่ 23 ของเราตื่นมา จะวิ่งก่อน 1 ชั่วโมง ก่อนวิ่ง วอมอัพก่อน 15 นาที รวมแล้วก็ 1.15 ชั่วโมง (พึ่งจะมาแบ่งเวลาออกกำลังเป็น 2 ช่วง เมื่อวันสองวันนี่เองค่ะ เมื่อก่อนออกทีเดียว 2 ชั่วโมงจบ ) หลังจากนั้น ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง ถึงจะกินข้าวเช้า ข้าวเช้ากินอะไรก็ได้ที่อยากกิน กับข้าวถ้าเป็นผัดๆ พยายามอย่าใส่น้ำมันเยอะเราใส่ประมาณ 1 ช.ช เอาแค่ให้ติดกะทะก็พอค่ะ ปริมาณข้าวเปล่าใน 1 วัน เอาน้ำหนักตัว X 5 กรัม (ข้าวสวยข้าวกล้องยิ่งดีค่ะ) = ผลลับ อย่างของเรา 48 X 5 = 240 กรัม ถ้าวันใหนเราตั้งใจจะกินข้าว 3 มื้อ เราก็จะเอา 240 หาร 3  ถ้าวันใหนเราตั้งใจจะกินสลัดมื้อเย็น เราก็จะเอา 240 หาร 2 กินมื้อเช้ากับกลางวัน กลางวันเราเน้นไปทางผักมากขี้น เป็นพวกแกงส้ม เกาเหลา ต้มจืด ฯลฯ มื้อเย็นเราจะกินช่วง 4 โมงเย็น 6 โมงเย็น เราจะ เล่นอิลิปติคอลอีก 1.15 ช.ม รวมวอม สลับวัน ถ้าวันใหนแอโรบิคดัมเบล ครึ่งชั่วโมง ก็อิลิปติคอล 45 นาที หลัง 2 ทุ่ม เราจะไม่กินอะไรแล้วเพราะยังไม่ทันหิว ประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ เราก็เข้านอนแล้วค่ะ โชคดีว่าเป็นคนไม่ชอบดูละครเลยนอนเร็วได้ แต่ก็มีบางวันถ้าวันใหนนอนช้ามีหิว ก็นม 1 แก้วค่ะ จากคุณ : นู๋มาริ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 18:04:29

ความคิดเห็นที่ 24 ควบคุม อาหาร. คำเดียว สั้นๆ กินพอกับที่ใช้ จากคุณ : poker999 เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 09:30:31

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเวลาเราลด เราจะไม่ทานข้าวเย็น ทานเป็นผลไม้ นมถั่วเหลือง วันนึงทานหลาย ๆ มื้อ เช้า กลางวัน บ่าย เย็น งดของมัน ทอด ออกกำลังกาย เราวิดพื้นเอา คือนอนคว่ำเหมือนจะวิดพื้นนั้นแหล่ะ แต่ใช้ข้อศอกตั้งฉาก ดันตัวขึ้นมา ถ้าเหมือนวิดพื้นแต่ไม่ได้ใช้ฝ่ามือ งงป่าวคะ ^^ ทำค้างไว้ 30 วินาที ทำ 3 set ควรหาพื้นยางรองด้วยนะคะ ทานแป้งน้อย ๆ ทานน้อยกว่าที่จะใช้ เคยอ่านเจอดารา hollywood แอน แฮทอเวย์ลดน้ำหนักเพื่อรับบทหนึ่งในหนัง เธอทานวันละ 500 กิโลแคลอรี่เท่าน จากคุณ : me2again เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 15:24:59