ความคิดเห็นที่ 1 มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...         เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เราได้คุยไลน์กับรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งในที่นี้จะเรียกเค้าว่าพี่A ซึ่งเป็นรุ่นพี่คนนึงที่เราเคารพรักมานาน เพราะเรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยม แล้วก็บังเอิญมาเรียนมหาลัยเดียวกันอีก เรียกได้ว่ารู้จักกันมาเป็น10ปี แต่ช่วงหลังๆก็ไม่ได้คุยกันมาก ส่วนใหญ่ก็คุยกันบ้างในเฟซบุ๊ค เท่าที่รู้ข่าวล่าสุดคือพี่เค้าเรียนป.โทอยู่ แล้วอยู่ๆเค้าก็ส่งไลน์มาคุยกับเรา แรกๆก็คุยกันสัพเพเหระ แล้วก็คุยไปถึงเรื่องงาน พี่เค้าก็เลยถามเราว่าเป็นไงบ้าง เราก็เลยตอบไปว่างั้นๆก็มีเบื่อๆบ้าง พี่เค้าก็เลยบอกเราว่าถ้างั้นพอดีเลยเพราะพี่เค้าจะขึ้นมากรุงเทพเพื่อคุยเรื่องโปรเจคใหม่ของที่ทำงาน(ลืมบอกไปว่าตอนนี้พี่เค้าอยู่ต่างจังหวัด) เป็นโปรเจคระหว่างประเทศของบริษัทU ซึ่งเค้ากำลังขาดพนักงานอยู่ เรารีบเซย์เยสเลยค่ะ เพราะไม่ใช่แค่โอกาสทางอาชีพธรรมดาๆนะคร้า นี่มันบริษัทใหญ่ที่มีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมากกก พี่เค้าก็นัดเวลากับเรา10โมงเจอกันที่ตึกUแล้วก็แนะนำเรื่องการแต่งตัวว่าให้แต่งแบบบิสสิเนสนะ ประมาณว่าแต่งตัวไปคุยงาน เราตื่นเต้นมาก ถามพี่เค้าว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง พี่เค้าบอกให้เอาแค่สำเนาบัตรประชาชนมาก็พอ(แอบคิดเองนะว่าแค่นี้จะพอเหรอ ไม่เอาประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานอะไรพวกนี้เหรอ แต่เอ๊ะพี่เค้าคงมีเส้นสาย ของแบบนั้นเลยไม่จำเป็นมั๊ง)       คุยกันเสร็จแล้วเราก็ไปทำงาน ซึ่งปัจจุบัน จขกท ทำงานเป็นรีเซพชั่นค่ะ วันนั้นเราเข้าชิพเย็นเลิกดึก กว่าจะเลิกก็ประมาณเที่ยงคืน บังเอิญวันนั้นเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยทำให้หลังเลิกงานหัวหน้าของ จขกท ก็เลยชวนพนักงานทุกคนที่ทำงานวันนั้นกินเหล้ากันหลังเลิกงานเพื่อพูดคุยถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไอ้เราก็รู้ทั้งรู้ว่าพรุ่งนี้มีนัดต้องตื่นแต่เช้า แต่ก็เกรงใจหัวหน้าเพราะคนอื่นเค้าอยู่กันหมด ก็เลยอยู่กับเค้าด้วย ไปๆมาๆเมากลับบ้านซะงั้น TT^TT (ทุกท่านอาจจะงงๆว่ามันจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังทำไม) เช้ามาแฮ้งค์ค่ะ ปวดหัวมากสภาพไม่ไหวจะเคลียร์ แต่ไม่ได้ค่ะ   1. รับปากพี่เค้าไว้แล้วเกิดพี่เค้าไปคุยเรื่องเราไว้แล้ว แล้วเราเบี้ยวพี่เค้าจะเสียค่ะ   2. มันอาจจะเป็นความก้าวหน้าทางการงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ พลาดไม่ได้ค่ะ ยังไงก็พลาดไม่ได้          ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวจนสวย(คหสต) แต่กลัวไปไม่ทันนัด กลัวรถติด ไม่ได้ค่ะเด็กเส้นแล้วจะมาสายเดี๋ยวคนอื่นจะว่าได้ ลงทุนนั่งมอเตอร์ไซค์ไปค่ะ จากสาทรไปรัชโยธินเอง ใกล้กันนิดเดียว(เชียว) ไปถึงเลยเวลานัดประมาณ 10 นาที เราก็โทรหาพี่Aปรากฎว่าพี่เค้ายังมาไม่ถึงเลยบอกเราให้ขึ้นไปก่อนเลย เดี๋ยวจะให้คนมารอรับที่ลิฟท์ ไอ้เราก็บ้านนอกค่ะไม่เคยไปตึกเค้าซึ่งมีลิฟท์หลายด้านเราก็ไปเดินหลงจนเจอพี่อีกคนนึงซึ่งพี่Aนัดเค้าไว้เหมือนกัน ขอเรียกพี่Bละกัน (คุยไปคุยมา อ้าวว เป็นรุ่นพี่เราสมัยมัธยมเหมือนกัน แต่เราไม่รู้จักเค้า) พี่Bก็เลยจะพาเราไปที่อ็อฟฟิศก่อน แต่พาเราเดินหลง เรางงๆเลยถามเค้าว่าพึ่งเคยมาเหรอคะ พี่Bบอกว่าเพิ่งมาเป็นครั้งที่2 ฟังจากการพูดมีติดสำเนียงใต้เราเลยถามพี่เค้าว่าทำงานอยู่ที่ไหน พี่เค้าบอกว่าทำอยู่ชุมพร(อืมมม พี่เค้าคงทำอยู่บริษัทUสาขาชุมพร แหมก็บริษัทใหญ่เค้าก็ต้องมีสาขาทั่วประทศอยู่แล้วเนอะ) พี่Bก็พาเราเดินหลงต่อไป จนเจอพี่Aที่เพิ่งมาถึง เลยได้ขึ้นไปอ็อฟฟิศพร้อมกัน(ในที่สุด) ไปชั้น12ค่ะ ไปถึงปุ๊บพี่Aก็แนะนำให้เรารู้จักกับคนนั้นคนนี้ แล้วก็บอกเราว่าโปรเจคตัวใหม่ที่จะโกอินเตอร์ของUตัวนี้เป็นแบรนด์สินค้าภายใต้ชื่อAv ค่ะ แบบว่าสินค้าปกติของUเนี่ยจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วๆไป แต่Av เนี่ยจะเป็นสินค้าระดับไฮโซคุณภาพเลิศมากประมาณนั้น ระหว่างที่คุยกันสงสัยเราทำหน้าไม่โอเคกับสิ่งที่เค้าบอก(ไม่ชอบงานSaleค่ะไม่ว่าจะขายธรรมดาหรือขายตรง ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีแต่เราว่ามันไม่เหมาะกับเรา) พี่Aก็รีบบอกเราทันทีมาไม่ได้ให้มาขายของ แบบว่ามีหลายตำแหน่งให้ทำ แล้วก็บอกเราว่าตอนนี้กำลังมีสัมนาเรื่องผลิตภัณฑ์ของโปรเจคนี้อยู่ให้เราเข้าไปฟัง เราก็เข้าไปนั่งฟัง ในห้องสัมนามีคนประมาณ50คนได้มั๊ง แต่แว๊บแรกที่เราเห็นเราก็สงสัยนะว่าทำไมมีแต่คนท่าทางเหมือนมาจากต่างจังหวัด(จขกทก็เป็นคนต่างจังหวัดที่มาทำงานอยู่ในกทมค่ะเลยพอมองออก แต่คิดเอาเองว่าอาจจะเป็นคนที่มาอบรมเพื่อเป็นSale) นั่งฟังๆไปสินค้าเค้าก็น่าสนใจนะ โดยเฉพะพวกอาหารเสริม(ชอบกินเป็นการส่วนตัว ยังคิดเลยว่าถ้าไม่ได้ทำงานกับเค้าก็น่าจะลองซื้อผลิตภัณฑ์เค้าไปลองใช้ดู) จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 00:13:19

ความคิดเห็นที่ 2 ฟังอยู่ได้ซักพักก็ถึงเวลาเบรคค่ะ พี่Aก็พาเราออกมานั่งกินกาแฟตรงห้องรับรอง ระหว่างนั้นก็แนะนำคนนั้นคนนี้ให้เรารู้จัก ซึ่งแต่ละคนประมาณว่ามีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาทำโปรเจคนี้ เช่น คนนั้นเคยเป็นผู้จัดการธนาคารตอนนี้ลาออกมาทำโปรเจคนี้เต็มตัวเพราะมันดีจริงๆ คนนี้เป็นตำรวจแต่ทำโปรเจคนี้เสริมไปด้วย ทำปุ๊บได้ไปเที่ยวเมืองนอกเลย ไปมาหลายประเทศแล้วนะเออ บลาๆๆๆ ยิ่งฟังเรายิ่งคิดว่า เฮ้ยย นี้มันธุรกิจขายตรงป่ะเนี่ย ระหว่างที่คิดแบบนั้นก็มีพี่อีกคนนึงมาถามเราว่าสนใจทำมั๊ย เราเลยตอบว่าเรายังงงๆอยู่ เค้าเลยบอกให้เราไปนั่งฟังสัมนาต่อซึ่งรอบนี้จะเป็นเกี่ยวกับการบริหารและแผนการธุรกิจ อ๊ะ ไหนๆก็ๆไหนๆแล้วมาถึงขั้นนี้ไปฟังเค้าซะหน่อย ทีนี้ชัดเลยค่ะ ตอนเราเข้าไปในห้องสัมนาเค้ากำลังพูดถึงเรื่องว่า ถ้าอยากก้าวหน้าให้รีบอัพเลเวลตัวเองให้เร็วที่สุดเรียกว่าขึ้นเป็นSBA(ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งการจะอัพเลเวลให้เร็วนั้นสามารถทำได้โดยการซื้อผลิตภัณฑ์Av ชุดละ2หมื่นกว่าบาทรวม3ชุด สรุปให้ซื้อของราคา6หมื่นกว่าบาท o_O จะได้1,000คะแนน แล้วก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง เราเงิบไปประมาณ10วิ เราไม่รู้ว่าคนอื่นในห้องคิดยังไง แต่เราอึ้งมาก อ้าวว ไม่ได้ให้พนักงานไปขายของแต่บอกให้ซื้อเองเนี่ยนะ แถม6หมื่นกว่าบาทเนี่ยมันไม่ใช่เงินน้อยๆเลย บ้าไปแล้วเหรอ เหมือนวิทยากรณ์จะรู้ใจรีบบอกว่าถ้าใครไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นสามารถซื้อชุดเล็กก็ได้นะคะแค่2หมื่นกว่าบาทเองแล้วจะได้300คะแนนก็ค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆแล้วจะได้เลื่อนขั้น(ถึงแค่2หมื่นชั้นก็ไม่บ้าไปกับเธอหรอก คหสต)แค่นั้นยังไม่พอวิทยากรณ์ก็บรรยายต่อไปว่านอกจากนี้ถ้าอยากก้าวหน้า ทุกคนจะต้องหาสามาชิกมาเป็นดาวน์ไลน์ซึ่งประมาณว่ายิ่งมีดาวไลน์หรือลูกข่ายเยอะเราก็จะได้ส่วนแบ่งเยอะซึ่งมีค่าสมัครคนละ600บาท แต่เค้าฉลาดพูดนะ เค้าย้ำตลอดเวลาว่ามันไม่ใช่การไปหลอกคนอื่นธุรกิจของเราเป็นแบบใหม่(ตรงไหน) เป็นการเปิดโอกาสดีๆแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับคนที่เราชักชวนมาทำงาน(คิดถึงเรื่องนักร้อง จ. เลยที่เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้หลอกลวงแฟนคลับแต่แค่อยากแบ่งปันสิ่งดีๆ) จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 00:34:34

ความคิดเห็นที่ 3         แต่ส่วนที่อึ้งที่สุดคือเค้าสอนวิธีหาสมาชิกค่ะ โดยแจกกระดาษให้คนละแผ่น ในกระดาษจะแบ่งเป็น4หมวดคือ 1. คนในครอบครัว 2. เพื่อนสมัยเรียน 3. เพื่อนที่ทำงาน 4. คนรู้จัก ในแต่ละหมวดจะมีช่องให้เราใส่ชื่อได้4-5ชื่อ วิทยากรณ์ก็บอกให้ทุกคนใส่ชื่อลงไปตามหมวด เสร็จแล้วก็ให้ทำเครื่องหมายหน้าชื่อ • ถ้าใครเป็นคนนิสัยดี ขยันทำงาน ขี้เกรงใจ ให้ใส่เครื่องหมายดาวไว้หน้าชื่อ • ถ้าใครเป็นคนรักสวยรักงาม ให้ใส่เครื่องหมายΔไว้หน้าชื่อ • ถ้าใครมีปัญหาเรื่องอ้วน ห่วงสุขภาพ ให้ใส่เครื่องหมาย□ไว้หน้าชื่อ จากนั้นวิทยากรณ์ก็สอนให้พูดประโยคนี้ค่ะ(ขอโทษที่จำประโยคแบบเป๊ะๆไม่ได้แต่ก็ประมาณนี้แหละ) 1. Uมีโปรเจคโกอินเตอร์ ลงทุนในไทยกว่า100ล้าน ลงทุนในต่างประเทศกว่า1,000ล้าน ต้องการสมาชิก600คนเพื่อร่วมงาน 2. ซื้อสินค้าพรีเมี่ยมแบบไม่ต้องจ่ายภาษี           เสร็จสรรพหลังจากสอนให้พูดประโยคข้างบนซ้ำๆกัน2,3รอบ วิทยากรณ์ก็บอกให้ทุกคนโทรเลยค่ะ โดยถ้าคนที่เราจะโทรหาเราทำเครื่องหมายดาวไว้หน้าชื่อเค้า ก็ให้โทรไปพูดประโยคแรก แต่ถ้าคนที่เราจะโทรเป็นΔหรือ□ให้โทรไปพูดประโยคหลัง โดยห้ามพูดโทรศัพท์เกิน3นาทีเดี๋ยวจะโดนปฏิเสธ ถ้าคนที่เราโทรไปหาเค้าถามอะไรก็ให้ตอบบ่ายเบี่ยงไปไม่ต้องไปอธิบาย ให้พยามยามนัดวันให้เค้ามาให้ได้ โดยบอกไปว่าจะอธิบายให้ฟังเมื่อเจอกัน รู้สึกหน้าชาเหมือนโดนตบหน้าเลยค่ะ ที่ชั้นโดนหลอกมามันก็ประโยคนี้เป๊ะๆเลย แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 00:48:19 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 00:47:28 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 00:47:09 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 00:46:24 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 00:44:25 จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 00:43:11

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อค่ะ...          เสร็จแล้วก็พักทานข้าว เรามีโอกาสได้เจอเพื่อนพี่Aที่เป็นคนชักชวนพี่Aมาทำธุรกิจนี้ ซึ่งพี่Aแนะนำว่าพี่คนนี้เป็น1ใน10ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณของAv เรามองหน้าพี่เค้าแล้วเงิบไปอีก3วิ คือ จขกท ก็ไม่ใช่คนสวยผิวดีอะไรนะ แต่สภาพผิวพี่เค้าต่อให้พูดแบบรักษาน้ำใจยังไงก็คงให้บอกว่าดีไม่ได้หรอกค่ะ ผิวที่ตัวดูกระดำกระด่าง หน้าเงี๊ยสิวตรึม คือเมื่อก่อนอาจแย่กว่านี้ แล้วหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ของAv ก็เลยดีขึ้นจนเป็นแบบนี้ อันนั้นเราก็ไม่ทราบได้ แต่ดูไม่น่าเชื่อถืออย่างแรงงง เราเลยจะขอตัวกลับ พี่ๆเค้าก็บอกว่าตอนบ่ายมีงานที่เรียกว่างาน GREAT ซึ่งเค้าอุตส่าห์ซื้อบัตรให้เราแล้ว(ที่หน้าบัตรพิมพ์ไว้ว่าราคาใบละ200ค่ะ) ด้วยความเป็นคนขี้เกรงใจ+ถ้าขอตัวกลับตอนนี้ต้องโดนตื้อไม่ยอมให้กลับจนกว่าจะได้เงินเราแน่ เราเลยยอมไปร่วมงานค่ะ          เป็นงานเหมือนมินิคอนเสิร์ตไปฟังว่าคนที่เค้าทำธุรกิจนี้เค้าประสบความสำเร็จกันแค่ไหน ประมาณแบบจากเคยเป็นหนี้เป็นสิบล้านทุกวันนี้รวยเป็นเศรษฐีแล้วอะไรเทือกนี้ พี่ๆเค้าบอกว่าฟังแล้วแบบว่าได้แรงบันดาลใจ เราฟังไปก็ยิ่งรู้สึกว่านี้มันหลอกลวง:-)ทั้งเพ ยกตัวอย่างเช่น มีอยู่คนนึงออกมาพูดประมาณว่าตัวเองโทรหาอัพไลน์วันละ30รอบ ทำตามที่อัพไลน์บอกทุกอย่าง เค้าให้ทำอะไรก็ทำ เชื่อฟังอย่างไม่มีเงื่อนไข จนทุกวันนี้รวยแล้ว เราฟังไปก็งงๆไป ถ้าโทรหาลูกค้าเพื่อขายของก็ว่าไปอย่าง แต่นี่โทรหาหัวหน้าตัวเองวันละ30รอบ มันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา พอพูดจบพิธีกรก็ขึ้นมาย้ำอีกว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องเชื่อฟังและทำตามอัพไลน์ทุกอย่างอย่างไม่มีเงื่อนไข(สงสัยคงให้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ซัก6หมื่น เสร็จแล้วก็ให้โทรไปหลอกคนอื่นมาสมัครเป็นดาวไลน์ตัวเองต่อเหมือนที่ได้ฟังสัมนา) พอฟังไปได้ซักพักเราก็ขอตัวกลับค่ะ แต่เค้าตื้อเราไม่ได้เพราะอยู่ในระหว่างงานมินิคอนเสิร์ตความสำเร็จของเค้า แต่ยังไม่วายตามมาส่งขึ้นรถเพื่อจะพยามยามนัดวันให้เรากลับไปอีก เราเลยบอกว่าเดี๋ยวขอเช็คตารางก่อนแล้วรีบชิ่งเกียร์หมาเลย จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 00:51:51

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาฟังจ้า =) จากคุณ : jibby_cooleyes เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 00:52:34

ความคิดเห็นที่ 6 เฮ้อ... พวกนี้มีเยอะค่ะเครื่องสำอาง, อาหารเสริม, ของอุปโภคบริโภค, ประกันชีวิต ระอาใจกับระบบการขายและดาวไลน์แบบนี้มาก เอาเที่ยวต่างประเทศ, ซื้อบ้านหลักหลายล้านได้ง่ายๆเร็วๆ, ได้เลื่อนขั้นเร็ว ตำแหน่งสูงปรี๊ด มาเป็นตัวล่อ แล้วทำไมไม่บอกด้วยว่าพวกเค้าต้องลงทุนเป็นหนี้กันเท่าไหร่? เสียความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกันไปกี่คน? จากคุณ : Gwan เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 00:56:23

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท ใจเย็นมากคะ เป็นเราชิ่งตั้งแต่บอกให้เราโทรหาคนอื่นแล้ว -0- จากคุณ : แมวเหมียวสีม่วง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:01:01

ความคิดเห็นที่ 8 สิ่งที่ได้จากวันนั้น คือคำถามและข้อสงสัยมากมาย     • นี้มันธุรกิจหลอกลวงชัดๆไม่ใช่เหรอ ถ้าผลิตภัณฑ์คุณดีจริงทำไมไม่ขายเหมือนบริษัทอื่นๆ ทำไมต้องใช้วิธีล่อหลอกต่างๆนาๆด้วย     • จากการที่ จขกท เป็นต่างจังหวัดทำให้รู้ว่าปกติว่ามีอะไรดีๆเนี่ย คนกรุงเทพมักจะมีโอกาสหรือได้สิทธิ์ก่อนคนจังหวัดอื่น คงเพราะบริษัทแม่ส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างโดนัทชื่อดัง ที่เคยมีคนไปต่อแถวรอซื้อยาวเป็นกิโลๆ มันมีขายแค่ในกรุงเทพ แต่นี่มาแปลกทั้งๆที่พรีเซ้นว่าผลิตภัณฑ์เป็นระดับไฮคลาส แทนที่จะเจาะตลาดขายในกรุงเทพก่อน แต่นี่กลับทำแผนธุรกิจแบบเจาะกลุ่มคนต่างจังหวัด ขนาดคนที่มาพูดว่าประสบความสำเร็จนู่นนั่นนี่ก็มีแต่คนต่างจังหวัด หรือคุณมองว่าคนต่างจังหวัดหลอกง่ายเหรอ     • คนที่ทำธุรกิจแบบนี้มี2ประเภท คือ คนที่เชื่อสนิทใจว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ดีและอยากแบ่งบันให้คนรอบข้าง กับคนที่รู้ว่ามันเป็นการหลอกลวงทำนาบนหลังคนอื่นแต่ก็ยังทำ      • สำหรับคนที่กำลังจะหลวมตัวเข้าไปทำธุรกิจนี้ เราอยากจะเตือนหน่อยนะคะว่าของฟรีไม่มีในโลกหรอกค่ะ  มีตัวอย่างผู้ประสบความสำเร็จกับธุรกิจนี้ที่มาพูดให้เราฟังวันนั้น ว่า เธอมีอาชีพเป็นพยาบาล แล้วคุณพ่อป่วยเลยลางาน1เดือนเพื่ออยู่กับคุณพ่อ ต้องหยุดทำทั้งงานพยาบาลและงานธุรกิจเครือข่ายนี้ แต่เดือนนั้นเธอมีรายได้จากธุรกิจนี้กว่า 7หมื่นบาท เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะที่อยู่เฉยๆแล้วก็มีเงินเข้ามา ทุกคนต้องใช้แรงงานหรือความรู้แลกเงินทั้งนั้น คุณบอกว่าคุณแค่อยู่เฉยๆแล้วก็รวยขึ้นมามันผิดปกติแล้วล่ะค่ะ      • และสิ่งที่ไม่เข้าใจมากที่สุด คือบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างUที่เราเชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องรู้จัก คุณยังบอกเองว่าในแต่ละวันคนกว่า2พันล้านคนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ ถ้าคุณอยากทำธุรกิจขายตรงเพิ่มก็ไม่มีใครว่าคุณนี่ ทำไมไม่บอกตรงๆ เราเชื่อว่าคนที่ทำธุรกิจขายตรงก็มีอยู่เยอะแยะ เค้าอาจจะสนใจอยากทำกับคุณก็ได้ อย่างบริษัทอื่นเค้าก็บอกกันไปเลยว่าเค้าเป็นธุรกิจขายตรง อย่าง Am หรือ Unisi แต่นี่แค่เริ่มต้นก็ไม่ซื่อแบบนี้อย่าว่าแต่ทำธุรกิจกับคุณเลย แค่แบรนด์Av ของคุณเราก็เตือนคนรอบข้างไม่ให้ใช้ ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะจะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้คุณไปหลอกคนอื่นๆต่อไปเรื่อยๆซะเปล่า • สุดท้ายอยากฝากถามว่า “มีความสุขเหรอคะที่ได้ทำนาบนหลังคน???” จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:10:30

ความคิดเห็นที่ 9 เคยไปค่ะ แบบนี้เป๊ะ จากคุณ : BananiizZ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:10:37

ความคิดเห็นที่ 10 เหอะๆ เดี๋ยวนี้แฝงมาทุกรูปแบบเลยแหะ ยอมรับว่าผลิตภัณฑ์เค้าดีนะ แต่ถึงขนาดให้ทำยังงี้ก็ไม่ไหวค่ะ เซย์บายละ จากคุณ : Neptune Blue Planet เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:15:00

ความคิดเห็นที่ 11 จขกท โง่เองค่ะ ที่ไม่รู้ว่าบริษัทนี้เค้ามีขายตรงด้วย ปกติเคยใช้แต่ผลิตภัณฑ์ของเค้า(พนันได้เลยว่าทุกท่านต้องเคยใช้ค่ะ ใครไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้าซักอย่างในชีวิต จขกท ยินดีให้กระโดดถีบหน้า2ขาคู่เลยค่ะ) จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:16:27

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อนเราเคยชวนนะ ให้สมัครเป็นสมาชิก ประมาณซื้อของในราคาสมาชิก แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นการขายตรงด้วย เพิ่งมารู้ไปกี่ปีหลังนี่เอง จากคุณ : jibby_cooleyes เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 01:30:28

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท โคตรใจดีเลยค่ะ ถ้าเราอยู่ในสถานการ์ณนั้น เราคงเดินออกมาเลยไม่กลัวเสียเพื่อนหรอกค่ะ เกลียดจริงๆ วิธีการหลอกลวงอย่างนี้ จากคุณ : ~ @ Called ME LYDIA @~ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 02:04:03

ความคิดเห็นที่ 14 เออใช่ เหมือน คห.13 อะ จริงๆ เราก็ขี้เกรงใจนะ แต่เจอมาพูดแบบนี้พอเราเริ่มจับทางได้เราก็ัตัดบทเลยว่าเรา'ไม่เอา' พวกนี้ไปเกรงใจไม่ได้หรอก เราว่ามันน่ารังเกียจมากเลยนะ ไอ้ธุรกิจแบบนี้อะ เราไม่ชอบเลย หลอกลวง ไม่จริงๆใจ ทำนาบนหลังคน จริงๆ จากคุณ : zolokung เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 02:18:24

ความคิดเห็นที่ 15 เคยโดนเหมือนกันค่ะ( แต่น่าจะไม่ใช่ที่เดียวกับ จขกท. )ไปฟังๆเค้าพูด ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับค่ะ เสียเวลามาก เพราะรู้ว่าโดนหลอกแน่ๆ จริงๆจะออกมาตั้งแต่5นาทีแรกแล้ว แต่โดนคุมแจเลยค่ะ ขนาดจะไปห้องน้ำก็เดินตาม แย่จริงๆ สงสัยกลัวเหยื่อหนี ที่สำคัญเอาใครมาพูดก็ไม่รู้บอกว่าตำแหน่งใหญ่โต แต่บุคลิกมันไม่ให้อ่ะค่ะ อย่าหลอกกันให้ยากเลย มันไม่ได้น่าเชื่อถือเลย แต่ก็เห็นใจคนที่เค้าไม่รู้นะคะ คนที่โดนหลอกยังมีอีกเยอะ ถือว่า จขกท.ใจเย็นมากๆเลยนะคะเนี่ย เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ สมัยนี่ไม่ว่าคนรู้จัก/เพื่อน ก็ไว้ใจไม่ค่อยได้ค่ะ ยิ่งเพื่อนนั่นแหละตัวดีเลย ยิ่งสนิทมากก็... แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 15:42:44 จากคุณ : เดอ แบร์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 02:26:23

ความคิดเห็นที่ 16 บริษัทเดียวกัน!! ขอแชร์บ้างแล้วกันค่ะ ^^ เราไปเดินช๊ิอปปิ้งกะพี่สาวค่ะ แล้วก็เจอบูธของบริษัทนี้เข้า..พี่สาวเราก็โดนลากเข้าไป ตรวจสภาพผิวหน้าฟรี ตรวจเสร็จเค้าก็ชมนะคะว่าผิวหน้าดี งั้น งี้ แต่ถ้าลองผลิตภัณฑ์เค้า จะดีกว่านี้ บลาๆ เราก็เดินตามไปนั่งข้างๆล่ะค่ะ เค้าก็เข้ามาชวนคุย เสนอขายของ เราก็บอกไปเลยค่ะ ว่าไม่มีเงินซื้อครีมแพงขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะยังเรียนอยู่เลย ทีนี้เข้าทีนางค่ะ "คุณน้องสนใจจะร่วมงานกับเราไหมค่ะ งานก็ไม่มีอะไรมาก แค่มาออกบูธแบบนี้ แนะนำสินค้าแบบนี้ ถ้าน้องเชียร์ ขายได้ น้องก็รับส่วนแบ่งไป ไม่ต้องไปชวนเพื่อน ชวนใครมาซื้อ เหมือนบางแบรนด์" (ตึ่งงง..เหรอย่ะ? ของแบบนี้ก็เหมือนกันหมดแหละ ฉันเคยถูกหลอกจากแบรนด์อื่นมาก่อนนะคะ รู้ทันนะเฟร่ยย << คิดในใจนะคะ ไม่กล้าพูด กลัวโดนกระโดดถีบขาคู่ 5555) นางคงเห็นทีท่าเราไม่สนใจค่ะ เลยเรียก (น่าจะเป็น)ดาวน์ไลน์นางมาคุยแทน "เนี้ย น้องค่ะ พี่ก็เป็นนักศึกษาเหมือนกัน (หนูอยู่ปี 4 ค่ะเพ่!!) ตอนนี้พี่มีเงินเดือนหลักหมื่นแล้วนะ จริงๆบ้านพี่ก็รวยนะ ที่ดินบ้านพี่ก็ 5-6 ไร่ ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ก็ได้ (ค่ะ!! รวยค่ะ แล้วไงคะ?) แต่พี่อายค่ะ โตเป็นวัวเป็นควายแล้วมาขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่ มันไม่ใช่อ่ะ (นี่คุณพี่หลอกด่าหนูอยู่ป่าวคะ? - -) วันนั้นพี่มาช๊อปปิ้งแบบน้องวันนี้นี่แหละ แล้วก็เจอพี่เค้าเข้า เค้าก็พูดกับพี่ แบบที่เค้าพูดกับน้องแหละค่ะ (คุณพี่รู้ได้ไงคะ? ว่าเค้าพูดกะหนูแบบไหน พี่เพิ่งเดินเข้ามา ตอนที่เค้ากวักมือเรียกนะคะ!!) พี่เลยมาทำ ต้องขอบคุณพี่เค้านะ ที่พี่เชื่อเค้า พี่ถึงรวยอย่างทุกวันนี้"...นางพูดเยอะมากค่ะ ส่วนเราก็ "ค่ะ" อย่างเดียว!! 55555 "น้องสนใจจะร่วมงานกับพี่ไหมคะ" "หนูขอตัดสินใจก่อนแล้วกันค่ะ" "งั้นน้องเอาเบอร์พี่ไว้นะคะ สนใจก็โทรมาได้ ถ้าน้องไม่ทำก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คิดซะว่าเราผ่านมาเพื่อเจอกัน แยกจากกัน แต่ถ้าน้องอยากรวย อยากหาเงินใช้เอง โตเป็นวัวเป็นควายขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องคอยรบกวนพ่อแม่ บอกพี่ได้นะคะ พี่ยินดีจะช่วยให้น้องรวยค่ะ" (ตึ่งงงง...จะเดินจากกันอยู่ล่ะ ด่ากุอยู่นั่น!!!) เอิ่ม..สุดท้าย ถ้าพี่คนนั้นอ่านอยู่ล่ะก็...กรุณาใช้คำพูดที่ชวนฟังมากกว่านี้หน่อยก็ดีค่ะ ถ้าพี่เจอคนอื่นที่ทนคำพูดพวกนี้ไม่ได้ พี่อาจโดนไม่ใช่น้อยๆเลยนะคะ พอดีบ้านหนูไม่รวยหรอกค่ะ แต่พ่อหนูสอนไว้ ว่าอย่าไปพูดเปรียบเปรยอะไรแบบนี้ ถ้าไม่รู้จักใครคนนั้นดีพอหน่ะค่ะ มันดูไม่ค่อยมีมารยาท+การศึกษาเท่าไหร่ ด้วยความเคารพค่ะ ปล. กะเล่านิดเดียวนะคะ มาซะยาวเชียว 55555555 จากคุณ : มองด้วยตา...หาไม่เจอ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 02:33:25

ความคิดเห็นที่ 17 5555++ อ่านความเห็นของคุณมองด้วยตา...หาไม่เจอแล้วเห็นภาพเลยค่ะ ป.ล.เหมือนเราเลยอ่ะ กะเล่านิดเดียว ไม่รู้ทำไมยิ่งเล่ายิ่งยาว สงสัยเราจะแอบดราม่า วันนั้นที่เราโดนหลอกไปนอนก็น้อย แถมแฮ้งค์อีกต่างหาก ดีนะไม่อ้วกใส่ห้องสัมนาพาเพลินของเค้า จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 03:30:00

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านแล้วพอจะเดาได้จากตัวย่อของบริษัทกับชื่อแบรนด์ เราเคยเป็นสมาชิกของแบรนด์นี้นานแล้วสมัยนั้นเหมือนเค้าเพิ่งเปิดตัว ตั้งแต่ปี 2003 ได้มั้ง แต่ไม่เคยขายหรอกนะ ตอนนั้นเค้าไม่ได้มีวิธี Present แบบนี้ ไม่มีมานั่งจัดห้องประชุมสัมมนา หรือสอนวิธีหลอกคนมา แบบที่ จขกท. บอก คือเหมือนคนรู้จัก ชวนกันมาลองสินค้า นั่งคุยนั่งเล่นกัน แต่พอได้มาอ่านแล้วอึ้งมาก เปลี่ยนไปมากจริงๆ กลายเป็นเหมือนหลอกลวงผู้บริโภคไปซะแล้ว ที่ จขกท. บอกใน #8 เราคน กทม. ค่ะ เลยได้ลองของเค้าเร็วกว่า นี่ก็เกือบ 10 ปีแล้ว เพราะงั้นเค้าไม่ได้ไปเจาะตลาดคนต่างจังหวัดก่อนค่ะ แต่คงหาคนใน กทม. มาหลงกลไม่ค่อยได้แล้วมากกว่า 555 ตอนนั้นเค้าก็พูดประมาณเชิญชวนให้ทำธุรกิจ คุณจะเป็น Upline แถวบนๆ เพราะเค้าเปิดตัวที่เมืองไทยเป็นที่แรก แล้วค่อยขยายไปที่อื่น ไม่เหมือน Am... ที่มาจาก USA บลาๆๆๆ แต่ก็เท่านั้นแหละ เราว่าสินค้าขายตรงถ้าของคุณดีจริง เค้าก็บอกต่อๆ กันไปเอง ไม่ต้องมานั่งเชิญคนให้มาหาลูกข่าย แถมให้ซื้อสินค้าเองก่อนแบบนี้ ทำการตลาดผิดเป้ามีแต่จะได้ชื่อเสียๆ เท่านั้นเอง บริษัทใหญ่แบบนี้ไม่น่าพลาดเลย จากคุณ : mildymint เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 04:08:28

ความคิดเห็นที่ 19 เกลียดที่สุดขายตรงเนี่ย จะเลิกคบกันเพราะขายตรงนี่แระ หาเงินบนมิตรภาพความเป็นเพื่อน รวยแล้วจะภูมิใจมั้ย? จากคุณ : กระต่ายเป้าหลง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 08:05:52

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าหมายถึงยูนิลิเวอร์ หากไม่ใช่ขายตรงแต่เป็นตำแหน่งพนักงานบริษัททั่วไปรับแต่จบโทเมืองนอกเท่านั้นนี่นา จากคุณ : แอนนะยะ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 08:20:04

ความคิดเห็นที่ 21 คห ส่วนตัว เราว่าคนที่น่าด่าคือ รุ่นพี่คุณที่ชวนคุณไปโดยไม่บอกว่าเป็นขายตรงคะ เค้าเลิกคบกันมาเยอะแล้วนะ ไอ้พวกหลอกไปฟังขายตรงนี่ ตัวเราเองตอนจบใหม่เคยโดนคล้าย ๆ คุณ คือหลอกว่าให้ไปสมัครงานบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่กลายเป็นว่า หลอกให้ไปสมัครขายประกัน (บริษัทนี้เพิ่งมีธุรกิจขายประกัน) พอเรารู้เราเดินออกเลย เราบอกเค้าเลยว่าเราไม่สนใจ จากคุณ : jackkyjing เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 08:41:25

ความคิดเห็นที่ 22 เราคนกทม.ค่ะ โดนหลอกน่าเกลียดกว่าคุณอีก สมัยนั้นผ่านมาไม่น้อยกว่า 5 ปีละ ..ยังเด็ก ซื่อใส.. มีผู้ชายโทร.มาคุยด้วยงั้นงี้ วันนึงเค้าก็บอกว่าจะพาเราไปหาสิ่งดีดี อยากให้เรามีงานในบริษัทชั้นนำจะได้มีรายได้เยอะๆเหมือนเค้า แล้วก็พาเราไปที่นี่ละค่ะ.. เราเข้าไปเห็นแล้วเราก็นึกออกทันทีว่า นี่มันขายตรงนี่หว่า.. หลอกตูซะละ มุกแกล้งจีบนี้เพิ่งเคยเจอ ลงทุนมากเลยนะ!!! แต่เอาว่ะ ไหนๆก็ไหนๆ ฟังซะหน่อยจะได้รู้วิธีการขายของเค้า ก็พาเราไปรู้จักคนที่นั่งอยู่ แนะำนำเพื่อน คนโน้นคนนี้ รวยแล้วยังมาทำธุรกิจที่นี้่เลย.. บลา..บลา... (อืม..ผิดซะแล้วค่ะ ดิชั้นไม่ได้อยากรวยนะคะ ที่มานี่เพราะคุณไม่บอกว่าจะพามาทำไมต่างหาก) พาเราไปทดลองผลิตภัณฑ์ ทาๆบนหลังมือ แล้วพยายามบอกว่าของเค้าดีมาก.. (เอิ่ม..แพงขนาดนี้ค่ะพี่น้อง ดิชั้นไปซื้อแบรนด์ระดับโลกที่ขายในห้างไม่ดีกว่ารึคะ อย่างน้อย คนก็รู้ว่าดิชั้นรวย มีกะตังค์ซื้อของแพง.. 555) สรุปค่ะ วันนั้นเราก็แกล้งเออออห่อหมก ฟังไปเรื่อย เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แต่ในใจคิดว่า ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลยนะคะคุณพี่.. หลอกลวงคนอื่นแบบนี้ ขอให้เจริญๆเถอะค่ะ --" จากคุณ : Auntie AnT เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 09:10:14

ความคิดเห็นที่ 23 เราก็เคยเจอ ทุกวันนี้ก็ยังเจออยู่ เพราะแม่เราเป็นสมาชิก เป็นตัวหลัก ชักชวนคนอื่นมาทำ โดยตอนแรกมีญาติทำก่อนอยู่แล้ว แล้วมาชวนแม่เราไปทำ เหมือนแม่จะชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แม่เราก็ไปอบรม สัมมนาอะไรแบบนี้แหละค่ะ บอกว่าเค้าแต่งตัวดี คนก็ทำเยอะนะ ดียังงั้นยังงี้(แบบว่าแม่เราหลงเชื่อสนิทใจ) ชวนเราไปทำด้วย ชะงั้น! เราไม่ทำค่ะ เราอ้างว่าทำงาน ไม่มีเวลาหรอก ถ้าเราสมัครสมาชิกกะแม่ แม่เราได้สมาชิกเพิ่ม แม่เราก็จะได้เลื่อนขั้น เราก็ปฎิเสษ ไม่ทำๆๆๆ แม่เราทั้งขาย ทั้งใช้เอง ทั้งหาสมาชิก หลังๆให้แม่เราไปพูดชักชวนเหมือนเป็นกรณีตัวอย่าง แม่เราลงทุนไปตัดชุด ตัดเสื้อโค๊ด ซื้อรองเท้าครัทชู แม่เราอ้อนให้เราพาไปซื้อรองเท้า แล้วให้เราจ่ายตังค์ให้ เราไม่จ่ายแล้วบอกว่า ไม่จ่ายหรอก แม่จ่ายเองไม่ได้อยากให้มาทำชะหน่อย(แอบโกรธแม่ เบาๆ)มีแบบไปอบรมพักค้างคืน เสียค่าใช้จ่ายคนละ 500 บาท และแม่เราโดนรถชน เพราะขับรถไปส่งของให้ลูกค้า เราก็แอบโกรธนะ แต่ไม่รู้จะทำไงให้แม่เราเลิกทำ เราบอกแม่ว่า เค้าหลอกแม่ เค้าหลอกลวงอย่าไปทำ แกก็ว่า เค้าไม่ได้หลอก ถ้าหลอกพี่ที่เป็นญาติเราก็โดนหลอกไปนานแ้ล้ว ตอนนี้แกมีรถขับคันสวย บลาๆๆๆก็พูดไป ถึงตอนนี้แม่เราก็ยังไม่เลิกทำค่ะ เหนื่อยใจ จากคุณ : สาวเครื่องกล เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 09:19:05

ความคิดเห็นที่ 24 มีน้องที่ทำงานเหมือนกัน...เป็น Engineer ไปนั่งฟังมาก....ตอนนี้ลาออกไปอยู่กะ Av.ที่คุณว่าน่ะ จากคุณ : เป็ดถือปืนไปโบกตึก เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 09:24:04

ความคิดเห็นที่ 25 ยาวหน่อยนะคะ แต่อยากแชร์ด้วยคน เราเคยสมาชิกของที่นี่เหมือนกันค่ะ เพราะเพื่อนรักและเพื่อนสนิทเรานี่แหละที่ชวนเข้าไป หลายปีที่แล้วเพื่อนเราบอกจะชวนไปทำสปาฟรี ไอเราก็ไม่ได้เจอเพื่อนนานเลยรับปากไป ไปถึงก็พาเราเข้าไปที่ชอป Av ไปเจอคนๆ นึงซึ่งเพื่อนเราก็บอกว่าพี่ แล้วเค้าช่วยชาญด้านผิวพรรณ บลา บลา บลา ... ยกย่องกันแบบสุดๆ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะจริงๆ จุดประสงค์ที่นัดเจอกันครั้งนี้เราตั้งใจอยากเจอเพื่อนและไปกินข้าวกัน แต่เพื่อนเราก็ขอพาเช้าชอป Av ก่อนและบอกเราว่า ลูกพี่ลูกน้องทำงานที่นี่ จะเข้าไปขอเงินเค้ากินข้าวหน่อย (ตอนนั้นเราเรียนมหาลัยบวกกับเพื่อนเราลำบากมาแต่เด็กไม่ได้มีเงินกินข้าวตามห้างได้บ่อยครั้ง เราเลยไม่ได้สงสัยอะไร ณ จุดนี้ แต่ทีหลังเรามารู้ว่าที่พาเข้าไปก็เพื่อให้อัพไลน์สกีนก่อนว่าเรามีข้อบกพร่องเรื่องผิวพรรณยังไง เพื่อที่ระหว่างเราไปกินข้าว เขาจะได้เตรียมแผนการเชือดเรา) แล้วก็บอกอีกว่าคนนี้แหละเค้าให้บัตรทำสปาฟรี ซึ่งไอลูกพี่ลูกน้องที่เพื่อนเราบอกเนี่ย ก็คือคนที่เพื่อนเรายกย่องที่เล่าไปตั้งแต่ตอนแรก สรุปก็ไปกินข้าวกันก่อน กินเสร็จเราก็โดนเชือดตามสเต็ปแบบคุณ จขกท เลยค่ะ เพราะที่ตึก S.. รัชโยธินจะเป็นศูนย์กลาง และแต่ละช็อปต่างๆ ของ Av ก็จะเป็นศูนย์ย่อยๆ (แค่บางช็อปนะคะ) ช็อปที่เราเข้าไปมีอุปกรณ์เชือดครบครันค่ะ ทั้งห้องนวดหน้า ห้องประชุม โต๊ะนั่งคุยเหมือนในตึก S.. ที่เรารู้เพราะว่าเจ้าของช็อปที่เค้าอ้างกันว่าเป็นคนรวยมากแต่มาทำที่นี่จนไต่เลเวลระดับเทพได้แล้วจึงเปิดช็อปได้ เค้ามักจะพูดเสมอว่าช็อปเค้ามีครบอย่างนั้นอย่างนี้ ด้วยความที่เค้าเห็นว่าเราที่บ้านมีอันจะกิน เจ้าของช็อปเลยมักเข้าหาเรา เหมือนๆ จะให้เราซื้อของเพื่อปิดตำแหน่งตัวเองตำแหน่งนึงที่สูงเหมือนกัน เพราะตำแหน่งนั้นจะเปิดช็อปได้ หากว่าเราเปิดช็อป เราก็คือช็อปที่เป็นดาวไลน์พี่เค้าอีกที ลองคิดดูสิคะ เค้าจะได้ส่วนแบ่งจากยอดเราขนาดไหน สรุปเราก็สมัครสมาชิกแบบราคา 600 บาทมาพร้อมกับซื้อของมานิดหน่อย จริงๆ ก็ไม่นิด ประมาณ 9 พันบาท เขารู้ว่าเราไม่สนรายได้ที่เค้าพูดมาหรอกเพราะเราไม่ได้ลำบาก เค้ามักจะพูดกับเราทำนองว่า บ้านพี่ทำ ... เดือนนึงรายได้หลายสิบล้าน แต่พี่อยากมีรายได้เป็นของตัวเอง เราสองคนเหมือนกัน แล้วก็สาธยายเป็นฉากๆ ประหนึ่งว่ารู้เป็นอย่างดีว่าบ้านเรามีใครบ้าง แล้วทำงานอะไร เราคิดว่าเพื่อนเราน่าจะเล่าให้เขาฟังทั้งหมด เราอ่ะสงสารเพื่อนคนนี้มากซึ่งเขาก็น่าจะรู้ เลยมักจะพูดว่า ถ้าเราเป็นสมาชิกจะได้ช่วยเพื่อนเราได้ ปกติเราก็ช่วยเหลือเพื่อนคนนี้เท่าที่เราจะช่วยได้มากตลอด เราสนิทกับเพื่อนมาตั้งแต่ม. ต้น เพื่อนเราคนนี้ลำบากมาก บางวันไม่มีเงินกลับบ้าน ถึงเวลาจ่ายค่าเทอมก็ไม่เคยจะมีพร้อม ขนาดเราเรียนรัฐบาลค่าเทอมไม่กี่พันบาท เพื่อนเราคนนี้ที่บ้านคือพ่อหาเงินคนเดียวแล้วพ่อขับแท็กซี่ รายได้ก็ไม่เยอะ เราไม่ได้เข้าไปที่นี่ครั้งเดียวนะคะ ไปหลายครั้งมาก เพราะเราพยายามเตือนเพื่อนเราอยู่ว่าที่นี่มันหลอกลวง แต่เพื่อนเราเหมือนโดนล้างสมอง มันก็ยิ่งทำให้เราอยากรู้ว่า เค้ามีวิธีการกันอย่างไร เราเลยทำท่าทีว่าสนใจทำธุรกิจจริงจัง เค้าก็เลยพาเราเข้าประชุมนู้นนี่ แล้วมันจะมีช่วงที่ให้แต่ละคนแนะนำตัวว่าเข้ามาทำที่นี่ได้อย่างไร เท่าที่เราได้ฟัง แต่ละคนโดนวิธีการเดียวกันแต่ต่างวาระ เค้าจะสอนให้เราพาคนเข้ามา เดี๋ยวอัพไลน์เชือดให้เอง เรามีหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้ให้พาคนเข้าศูนย์เพื่อไปเจออัพไลน์ และเมื่อเจอหน้าอัำพไลน์ต้องยกย่อง แนะนำว่าเค้าเชี่ยวชาญอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนเป็นจิตวิทยาว่าคนที่เราพามาจะได้เชื่อในสิ่งที่อัพไลน์เราพูด เราจะพยายามโทรหาทุกคนที่เราได้เคยรู้จัก พอเหมือนรายชื่อคนรู้จัก ก็จะเจอบางคนใช้วิธีการเข้าตามเว็บที่ประกาศขายที่ดิน ขายบ้าน แล้วก็ทำ list เบอร์รายชื่อโทรไปบอกว่าแจกบัตรทำหน้า ทำสปาฟรี และสอนวิธีการหลอกคนเข้าไปเป็นสมาชิกอีกเยอะมาก สาธยาย 3 วันก็ไม่จบ เราสังเกตุว่าเขาจะเลือกคนที่มีกำลังซื้อหน่อย เพราะเดาว่าของราคาสูง เค้าคงอยากได้คนที่สามารถซื้อของเขาได้ จึงเลือกเว็บที่ขายรถ ขายบ้าน ขายที่ดิน ... เราพยายามเตือนเพื่อนเราหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล และหลายๆ ครั้งเพื่อนเราก็หลุดปากพูดมาบ่อยๆ ว่าไอที่โทรไปาหาเราตั้งแต่แรกเพราะว่าตอน list รายชื่อ เพื่อนเรานึกถึงเราคนแรก แล้วเพื่อนเราก็หลุดมาอีกว่า ถ้าชวนเรามา ยังไงเราก็ต้องสมัครและซื้อของแน่ๆ พูดทำนองว่า ตั้งใจพาเรามาที่นี่ ไม่ได้อยากเจอเราเหมือนตอนที่โทรมา ร้ายแรงไปกว่านั้น มีเพื่อนสนิมในกลุ่มคนนีงตอนนั้นเป็นแฟนฝรั่ง แฟนรวยมากให้เงินใช้เดือนนึงเป็นแสน คนนี้ก็โดนชวนมาหลังเรา และหนักกว่าเราคือ มาซื้อของแทบจะกวาด shelf ไปเลย ยอดหลายหมื่นบาท เราได้โทรไปหาเพื่อนคนนี้ มันก็พูดเหมือนเราว่า อยากช่วยเพื่อน เห็นมันลำบาก ที่ จขกท บอกว่าเค้ามักจะล้างสมองกันให้ทำในสิ่งทมี่อัพไลน์บอกทุกอย่างแล้วจะประสบความสำเร็จ นั่นเราเจอค่ะ เพื่อนเราอยู่ดีๆ ไปตัดแว่นใส่ (ไม่ใช่แว่นสายตา) เราก็ถามว่าคิดยังไงใส่แว่น มันบอกว่าอัพไลน์บอกให้ใส่แว่น เราก็ถามว่าเหตุผลหละ มันบอกไม่ได้ถาม เราต้องเชื่อทุกอย่างที่อัพไลน์บอก เพราะเค้าหวังดีกับเรา เราก็กลุมขมับเลยค่ะเจอคนตอบนี้ เหมือนลัทธิอะไรสักอย่าง เชื่อแบบไร้เหตุผลมาก แต่พอหลังๆ ทุกคนเริ่มรู้สึกฉุดเพื่อนเราไม่อยู่ แล้ววิธีการเชิญชวนเริ่มร้ายแรงเรื่อยๆ เราจึงหยุดเจอเพื่อนเราไปสักพัก โทรมาเราก็ไม่รับสาย เพราะเวลาโทรมาก็จะพูดเรื่องนี้ตลอด โทรมาชวนไปเจอคนนั้น คนนี้ เราเลยเลือกไม่รับโทรศัพท์ แล้วก็ได้แต่ภาวนา ขอให้มันไม่หมดตัวไปเสียก่อน แต่ได้ข่าวมาล่าสุด เพื่อนเราเลิกทำไปแล้ว เนื่องจากอัพไลน์ของเธอย้ายฐานปฏิบัติการไปทำที่หาดใหญ่ (ไปหลอกคนมาเลเซียต่อ) อัพไลน์ให้เธอย้ายไปอยู่หาดใหญ่ด้วยกัน ทางอัพไลน์ไปซื้อบ้านที่นั่นไว้แล้ว เก็บเสื้อผ้าไปอย่างเดียว แต่เนื่องด้วยทางบ้านของเพื่อนเราไม่ยอม เพื่อนเลยไม่ได้ไปด้วย และหลังจากที่ห่้างๆ กับทีมนี้ เลยทำให้เพื่อนเราเหมือนรู้สึกตัว ตอนนี้ก็เลยไม่ได้ทำ Av แล้ว จากคุณ : unbearable-sit เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 09:32:27

ความคิดเห็นที่ 26 เลิกคบเพื่อนเพราะหลอกไปฟังแบบนี้ไปหลายคนละอ่ะ ทำกันได้ หลังๆโทรมาไม่รับเลย ถ้าเดือดร้อนจิงๆก็ช่างละ ขอให้โชคดีได้สองเดือนแสนอย่างที่พวกขายตรงพูดๆกัน มันเหมือนลัทธิไรบางอย่างเลย ทุกคนจะตบมือ ส่งเสียงเฮ จนบางทีแอบงง ว่าต้องทำแบบนี้เลยหรอ จากคุณ : หว๊าน...หวาน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 09:48:44

ความคิดเห็นที่ 27 ไหนๆ ก็เล่าแล้ว เคยได้ยินคนที่นั่นเล่าให้ฟังว่า พีคที่เป็นดาราก็เหมือนจะโดนหลอกให้ซิ้อของที่ตึก S.. ค่ะ เค้าเล่าให้ฟังว่า มีพี่คนนึงชื่อ น. เห็นพีคใต้ตึก S.. ท่าทางเหมือนว่ากำลังกระวนกระวายใจเรื่องอะไรสักอย่าง พี่ที่ชื่อ น. นี้เลยเดินเข้าไปทักทาย ประหนึ่งว่าเป็นแฟนคลับ จึงได้รู้ว่าพีคโทรศํพท์แบตหมดเลยติดต่อเพื่อนไม่ได้ เข้าทางพี่ น. เลยทันที จึงเสนอตัวว่ามีที่ชาร์จที่โต๊ะทำงานและบอกว่าออฟฟิตพี่อยู่ข้างบน เลยเชิญพีคขึ้นไปชาร์จแบต เราว่าที่พีคยอมตามขึ้นไปเพราะว่าพวกนี้แต่งตัวดีมากๆค่ะ แถมทำงานอยู่ในตึกที่ใหญ่โตอีกด้วย เค้าบอกว่าระหว่างพีคนั่งรอชาร์จแบต เลยพาไปทดลองสินค้า แล้วสุดท้ายก็ปิดการขายกับพีคได้ค่ะ เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรไม่รู้ เจ้าของช็อป Av เล่าให้เราฟัง เพราะเธอต้องการบอกว่า ของเขาดีจริงๆ ดารายังใช้ แล้วดาราอีกคนนึงที่เค้าอ้างว่าใช้คือคุณชมพู่ อารยา ค่ะ เรื่องนี้ไม่รู้รายละเอียดว่ายังไง เค้าเล่าคร่าวๆ ทำนองว่าช่างแต่งหน้าแนะนำให้ชมพู่ใช้ แล้วชมพู่ติดใจ และที่มากไปกว่านั้นคือ บอกว่าชมพู่แนะนำคนอื่นต่อ มีคนสมัครต่อรหัสชมพู่จนได้ตำแหน่งใน Av เชียวนะ *--- เรื่องนี้ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร เค้าเล่าให้เราฟังมาอีกที ซึ่งเราไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ---* จากคุณ : unbearable-sit เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 09:50:51

ความคิดเห็นที่ 28 อ๊าวีย๊อง ของที่ ยูนี่ลี้เวอร์ ผลิตใช่ปะคะ เคยทำงานในเครือ ยูนี่ลี้เวอรฺ์ เค้ามีหลายธุรกิจ หลายเซคชั่น แต่บริษัทที่มาทำแบบนี้ไม่น่าจะใช่บริษัทในเครือโดยตรง อาจเป็น ร่วมทุน หรือไม่ก็เป็นบริษัทที่มาทำการตลาดให้ผลิตภัณท์ในเครือ ลองถามรายละเอียดลึกๆ หรือขอดูรายงานประจำปีก็ได้ค่ะ รับรอง งงเงิบ จากคุณ : Jarunya.b เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:16:27

ความคิดเห็นที่ 29 ระบบการขายแบบยัดเยียดนี่เกลียดมากเลยค่ะ หากสินค้าดี คนเค้าจะซื้อโดยไม่ต้องมาให้ทำแบบนี้หรอกค่ะ ปล.ทำไม่ยี่ห้อนี้เค้าเอาระบบนี้มาทำการตลาดนะแย่มาก จากคุณ : withyou again เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:24:02

ความคิดเห็นที่ 30 โดนเพื่อนที่รู้จักหลอกไปเหมือนกันค่ะ โดยโทรมาหาแล้วบอกว่าอยากเจอจังเลย พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านกาแฟหน่อยเนอะ มีเรื่องอัพเดทชีวิตกันหน่อย ไอ้เราก็งง ไม่ได้สนิทชิดเชื้อหรือว่าเคยคุยอะไรกันมากมายสักหน่อย มันแปลกๆนะ แต่ก็ไป........ไปก็เจอเพื่อนคนนี้ แล้วก็พาพี่คนนึงมา พูดๆๆๆ Am..นั่นแหละค่ะ หนีแทบไม่ทัน หลังจากนั้นก็โทรมาเรื่อยๆ โทรมาบ่อยๆ แต่ก็ปฎิเสธตลอด แต่ก็ยังโทรมา !! ทุกวันนี้หลอนมาก..เพืิ่่อนกันโทรมาก็ยังหลอนเลย เวลานัดออกไปต้องถามว่าไปทำอะไร ไม่เอาAm...เราไม่ชอบ จากคุณ : Bit_chiiz เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:42:10

ความคิดเห็นที่ 31 ขายตรงมันทำวิธีนี้มาตั้งนานมากกกกกกกกกกกกกกกกแล้ว เมื่อซัก 10 ปีที่แล้ว ดิฉันยังเรียนมหาลัย เพิ่งเข้ามาใหม่ค่ะปี 1 เล๊ย รุ่นพี่ก็ชวนไป บอกให้เราลองไปนั่งฟังก่อน บลาๆ ๆ ไปถึงก็เอาเอกสารพวกคุณสมบัติของสินค้าให้ดู แล้วก็บอกว่าให้ไปจ่ายเงินตรงนั้นตรงนี้ เป็นค่วิทยากร ฝึกอบรม อะไรซักอย่าง สมัยนั้นมันก็ไม่แพงหรอก 150 -200 บาท แต่! มันหลายคนไง และทำแบบนี้ทุกวัน มันก็ได้ไปเท่าไรแล้วล่ะ คือต่ให้เราจะทำต่อหรือไม่ เราก็จ่ายให้เค้าไปแล้ว 200 ตอนนั้นเราจำได้ชื่อแม่นเลย ชื่อย่อ สพด. แล้วมันก็เปลี่ยนชื่อมาเรื่อยๆ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีเพื่อนคนนึงที่ทำของดาวเอมคอยมาตอดๆ พรรณาสารพัดว่าไม่เหมือนกัน เราก็ เหรอออออออ? มันเห็นเราพูดประชดเลยเลิกตอแยกับเรา เพราะถ้ามีเวิ่นเว้อต่อ ก็อาจจะเจอด่ากลับ 5555 จากคุณ : PusZehCat เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:51:10

ความคิดเห็นที่ 32 เราเป็นคนนึง ที่เคยหลวมตัวเข้าไปทำงานเครือข่ายแบบนี้ เหตุผลเดียวเลยที่ทำให้ลองทำเพราะคำว่า Passive Income  คือเป็นรายได้ที่เราไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆก็ได้เงิน แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น เราต้องสร้างเครือข่าย ซึ่ง เหนื่ีอยโคตรๆๆๆๆ เหนื่อยกว่างานที่เราทำอยู่อีก (เราทำธุรกิจตัวเองนะคะ) แล้วมันต้องทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกเรามากๆๆๆๆ เราต้องรักษายอดต้องซื้อของใช้ มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีอิสระในการใช้เงินที่เราหามา ต้องซื้อของในไลน์ของเค้ามาใช้ เราก็ไม่ใช่พวกชอบตื้อ ใครทำท่าไม่สนใจ รำคาญเราก็ปล่อยไป และในการที่เราไปชวนใครมาแล้วเค้ามาร่วมทำอยู่ในทีม เราไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่าเราต้องรับผิดชอบต่อความฝันของเค้า ต้องรับผิดชอบต่อรายได้ที่เค้าจะได้ ความหวังของเค้า มันเป็นอะไรที่เกินตัวเราไปมากๆ และทำให้เราคิดได้ว่าการที่เราลากคนมามากมายเพื่อนถีบตัวเองให้มีรายได้สูง แต่คนที่มาทีหลังหล่ะ กว่าเค้าจะโตแบบเรา โอกาสมันน้อยมากๆ สุดท้ายทำได้ 6 เดือน เราก็รู้ว่าไม่ใช่ทางเรา เราก็เลิกทำ ทำของตัวเองสบายใจกว่า ถึงมันจะไม่ใช่รายได้แบบ passive income  แต่ก็เป็นอะไรที่ทำแล้วสบาย อยู่ได้ไม่เดือดร้อน และทำให้เรารู้ว่า แ่ต่ละวันเราต้องทำอะไร เพราะถ้าเราได้เงินมาใช้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่เฉยๆ เราว่าชีวิตมันก็คงไร้ค่าและน่าเบื่อ สำหรับเราเราไม่ได้คิดว่า ธุรกิจเครือข่ายมันไม่ดีนะคะ ข้อดีมันก็มี แนวคิดเค้ามันเจ๋งนะ แต่ความเป็นไปได้มันต่ำ ไม่ดีต่อคนที่เข้ามาทีหลัง เหนื่อยโคตรและทำให้หมดเพื่อนได้ 5555 แต่เราจะไม่ค่อยชวนเืพื่อนนะคะถ้าเกริ่นแล้วเค้าทำท่าทีติดลบเราก็เลิกพูดเลย  เราเน้นชวนคนรู้จัก ลูกค้าอะไรพวกนี้ เพราะว่า เรารักเพื่อนเรามากกว่ารักเงินค่าา และหลังจากเลิกทำตรงนี้ รู้สึกดีมากกตรงนี้วันๆเราก็ทำงานของเราไป ไม่ต้องไปนั่งนึกว่าจะชวนใครดีจะไปเล่าให้ใครฟัง เข้าประชุม ปลุกระดม สร้างขวัญกำลังใจกัน พอเลิก ชีวิตก็กลับมาเป็นชีวิตแบบปกติ ^^ จากคุณ : chic2cheap เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:57:30

ความคิดเห็นที่ 33 ธุรกิจนี้ไม่ได้หลอกลวง แต่คนทำธุรกิจนี้ต่างหากที่หลอกลวง ... บางคนว่าได้สังคมใหม่ ใช่ได้เพื่อนใหม่ในธุรกิจ แต่เสียสังคมเก่าแน่นอน ... เฮ้อ ... หากินแบบนี้ .... จากคุณ : ปังผิง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:32:07

ความคิดเห็นที่ 34 โดนเหมือนกันค่ะ จากเพื่อนสนิทนี่แหละ ประโยคแนวๆเดียวกับที่ จขกท เจอเลยนะคะ เราก็ขี้เกรงใจก็สมัครๆไปแต่ปฏิเสธไปเลยว่าจะให้ซื้อ 2หมื่นกว่าไม่ไหวแน่ ตอนนี้ก็เลิกคุยกับเพื่อนคนนั้นแล้วค่ะ กลัว จากคุณ : ลูกพลับน้อย เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:57:21

ความคิดเห็นที่ 35 เราเคยเป็นสมาชิก av ด้วยค่ะ ตั้งแต่ยุคแรกๆที่เค้าเริ่มโปรโมท สมัยนั้นยังไม่ได้ hard sale ขนาดนี้นะ ตอนนั้น เราสนใจแชมพูของเค้า ที่เลือกสูตรเลือกกลิ่นด้วยตัวเองได้ เลยสมัครสมาชิกเพื่อให้ได้ซื้อในราคาสมาชิกค่ะ แต่สมาชิกเค้าจะมี 2 แบบ คือ สมาชิกแบบใช้เอง กับสมาชิกที่ขาย เราเลือกแบบแรกไปเพราะไม่รู้จะไปขายใคร เค้าก็ไม่ได้ตื้ออะไร ตอนเป็นสมาชิกเคยไปอบรมแต่งหน้าฟรีที่ตึก scb ก็สอนแต่งหน้าล้วนๆ อาจจะมีแอบขายของบ้าง แต่เราไม่ซื้อก็ไม่มีใครตื้ออะไร ใช้แชมพูได้ 3-4 ขวด รู้สึกว่าแพงเกินเหตุ อีกอย่างก็ไม่ได้รู้สึกว่าดีกว่าแบรนด์อื่นมากมาย เลยเลิกใช้ แต่เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเปลี่ยนแนวเป็นขายตรงเลย -"- ปล.แต่ครีมหมักผมที่เป็นโคลน ใช้ดีตริงๆนะคะ เป็นผลิตภัณท์ตัวเดียวที่เราเคยใช้แล้วรู้สึกว่าดีจริงๆ แต่ก็แพงค่ะ 555 จากคุณ : bienca เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 12:02:51

ความคิดเห็นที่ 36 เราคิดว่านัดแบบนี้หลอกกันค่ะ แล้วยังบังคับให้โทรทันทีเลย มันรวบรัดไปมั้ย อีกอย่างที่เป็นไปได้ยากคือซื้อของ 6 หมื่น ใครจะมาซื้อกันง่ายๆคะ อันนี้คิดตามหลักเหตุผลธรรมดาๆเลยนะ แต่จะบอกว่าธุรกิจนี้มันเวิร์กในทางของมันค่ะ หลายๆบ.ที่มีธุรกิจอยู่แล้ว (ขายตามห้างทั่วไป) ก็หันมาเอาดีด้านนี้ค่ะ โดยใช้ชื่ออื่นเยอะแยะมากมาย จึงไม่แปลกใจที่คุณจะคิดไปเองว่าได้เข้าไปทำในตัวบ.แม่ ซึ่งมีชื่อเสียงไปในทางที่ดี อันนี้ส่วนตัว...เราไม่คิดจะตัดเพื่อนกับคนที่มาชวนนะ 55 เพราะว่ายังไงดี เค้าอาจจะมีช่วงโมเมนท์นั้น ที่แบบอยากลองทำดู ก็ลองชวน (แต่เราอาจไม่ไปจริงๆ) ก็ให้เพื่อนได้ลองกันไป เดี๋ยวก็เห็นเองค่ะว่าเป็นไง เพราะบางคนที่มาชวนเรานี่ก็นิสัยดีจริงๆนะคะ คบกันมานานแล้ว ก็ตอบไปตรงๆค่ะ ว่างานที่เราทำมีความสุขดีอยู่แล้ว ขอบคุณนะที่หวังดี ว่ากันไป จากคุณ : ตามสั่งลุงต้อม เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 12:06:12

ความคิดเห็นที่ 37 เคยไปเหมือนกันค่ะไอ้ขายตรงแบบนี้อ่ะ ขายอะไรรู้ไหมคะ ขายอากาศค่ะ บ้าไปแล้ว มันเป็นตะเกียงค่ะ จุดแล้วให้อ็อกซิเจน คนสูดดมหายป่วยหายไข้ โอ๊ยจะบ้า อันละหมื่น จากคุณ : เด็กหญิงรองเท้าแก้ว เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:14:04

ความคิดเห็นที่ 38 เคยเหมือนกันค่ะ น่าจะคนละที่ แต่วิธีการแบบนี้เลย จากคุณ : น้ำตาลสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:25:05

ความคิดเห็นที่ 39 จขกท ไม่โกรธรุ่นพี่ที่ชวนไปนะ เพราะเหมือน คห#23,25 แหละ คือ เหมือนคนที่ทำอยู่เค้าจะเชื่อสนิทใจว่าธุรกิจนี้มันดีจริงๆ การที่เค้าชวนเราทำคือการแบ่งปันสิ่งดีๆ ออกแนวเหมือนโดนล้างสมอง ก็เลยโกรธเค้าไม่ลง ป.ล.แต่ถึงธุรกิจนี้จะดียังไง ล้างสมองเก่งแค่ไหน แต่อยู่ดีๆมาบอกให้อิชั้นซื้อผลิตภัณฑ์มูลค่าแค่6หมื่นกว่าบาทเอง บ้าไปแล้ว ไม่มีทางได้เงินอิชั้นหรอกค่ะ จากคุณ : ส่วนสูงไม่ถึงแต่สวย! เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:56:51

ความคิดเห็นที่ 40 เรายังเคยโดนหลอกให้ไปขายเลย unici... อะค่ะ เพื่อนเราต้องมาร่ายยาว คาดเค้นให้เรามีปัญหาชีวิต ปัญหาสุขภาพ  ส่วนเราก็แอบอึ้ง แต่ก็โม้ไปว่า ชีวิตเราไม่มีปัญหา งานดี เงินดี สามีดี มีกินมีใช้ สุขภาพก็ปกติ ยังแกล้งถามเพื่อนไปเลย ว่า ตกลงทำแล้วได้เงินตามที่เค้าบอกไหม เพื่อนเราก็เอ้อๆ อ้อๆ บอกว่า ถ้าทำตามก็ได้ที่เค้าบอก เป็นแสนเลยนะ เราก็แกล้งโง่ถามต่อว่า แล้วทำไมถึงยังเหนื่อยกับงานประจำล่ะ เลิกไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ทำงานถึงสี่ทุ่ม มันคงไม่ใช่ชีวิตที่ดีแล้วมั้ง เครียดก็เครียด เพื่อนเราก็แถไปอีก -_-" แต่หลังจากนั้น แม้เราจะติดต่อช่วยมันซื้อของง แต่มันก็ไม่ขายเรา  ไม่รู้ไปหลอกคนอื่นอีกหรือเปล่า ไอ้มุกบริษัท Rx นี่ ถ้าคนมีความรู้หน่อย เค้าจะไม่เชื่อว่าจริงหรอก แต่แปลกใจที่ว่าแม้แต่คนที่อ้างว่าเป็นหมอ หรือพวกอัพไลน์ก็เล่นมุกเดียวกัน ไม่รู้ว่าความภูมิใจในชีวิตมันจะมีได้ยังไง ถ้ายังหาเลี้ยงชีพด้วยการหลอกใช้ความไว้วางใจของคนอื่นอยู่แบบนี้ :(   ส่วนตัวคิดว่าสินค้ามันไม่ได้แย่อะไร ที่แย่คือวิธีการเสี้ยมสอน ให้คนดีๆกลายเป็นพวกโกหกเพื่อชีวิตมากกว่า ที่เราไม่ชอบ จากคุณ : caramelfrappe เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 16:10:09

ความคิดเห็นที่ 41 ขอเล่าบ้างนะค่ะ เราเคยไปค่ะ เมื่อเกือบ10 ปีมาแล้ว ตอนนั้นน่าจะเป็นยุคเริ่มแรก เราไม่ได้โดนหลอกไปนะ พี่ที่รู้จักชวนไป เราก็ไป คิดแค่ว่าว่างอยู่(ช่วงรอมหาลัยเปิดเทอม) เค้าเริ่มจากกทม.นี่แหล่ะค่ะ แต่ตอนนี้คงเจาะกลุ่ม ตจว.แล้วมั้ง เราไปก็ไม่ได้สมัครนะ แล้วดีที่ว่า พี่ที่ชวนไปก็ไม่ได้หลอกอะไรเรา ก็บอกตามตรงว่า ไปทําอะไร เราก็ซื้อมาใช้นะ เราว่าของแบรนด์นี้ คุณภาพดีมากเลย(สมัยที่เคยใช้ตอนนู้นนนนะค่ะ).แต่หาซื้อยากเหลือเกิน - -" เราว่า ปัญหามันเกิดจากรุ่นพี่คุณไม่บอกความจริงมากกว่ามากกว่าค่ะ เลยทําให้เสียความรู้สึก ของเราปัจจุบัน ก็เจอนะ เพื่อนที่เคยสนิทโทรมา ตอนแรกรับโทรศัพท์ก็ดีใจ แต่พอฟังปุ๊บ อ้อ คิดถึงเราแค่เพราะเรื่องนี้หรอกหรือเนี่ย แถมยังไม่พอดูถูกอาชีพพนักงานเอกชนอีกว่าไม่มีวันรวย ถ้ารวยแล้วต้องเสียเพื่อนฝูง ก็เชิญรวยคนเดียวเถอะย่ะ เสียความรู้สึกอ่ะ ของบางอย่างมันดีจริงๆนะ แต่คนจะไม่ซื้อเพราะไอคนที่โทรมาชวนนี่แหล่ะ จากคุณ : IBeNes เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 16:35:15

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนจบใหม่ๆ เคยเจอเหมือนกัน อารมณ์เสีย ตอนโทรมาให้ไปสัมภาษณ์ก็พูดตำแหน่งหลอกล่อเราซะดิบดิ ไปถึงเห็นท่าไม่ดีก็ต้องชิ่งกลับ เสียความรู้สึกกับคนพวกนี้ คนตั้งใจหางาน เสียเวลา เสียค่ารถ ค่ากิน เปล่าประโยชน์ ไม่ชอบพวกนี้เลยจริงๆ จากคุณ : kamekung เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 16:58:08

ความคิดเห็นที่ 43 โดนหลอก บ. เดียวกันกับเจ้าของกระทู้เลยค่ะ โดนรุ่นพี่ที่เคารพหลอกไป ตอนนี้แม้แต่หน้าก็ไม่มองค่ะ ขนาดแบรนด์เค้าเราเชื่อว่่าดีนะ แต่เกลียดระบบ พาลเกลียดแบรนด์ด้วยกันเลย จากคุณ : Shiki Klun เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 17:01:52

ความคิดเห็นที่ 44 เราเคยโดนเหมือนกัน โดยเพื่อนเรามาชวนไปฟังเค้าพูดสะกดจิตให้เข้าไปในกลุ่มขายตรงนี้ เพื่อนโทรมาตามหลายครั้งมากแต่เราไม่ไป สุดท้ายเพื่อนถึงกับด่าทอเราและตัดเพื่อนไม่คุยกับเราอีกเลย ธุรกิจนี้ทำให้เสียเพื่ินจริงๆ ทุกวันนี้ไม่คุยกับเพื่อนคนนั้นอีกเลยค่ะ เพราะเค้าไม่คุยกับเรา เหตุเพราะไม่ไปขายตรงกับเค้า คิดดูสิคะ คบกันมาตั้งเป็น 10 ปี มาตัดขาดกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง จากคุณ : naru lunla เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 23:09:46

ความคิดเห็นที่ 45 เดาว่า ยูนิเวอร์ลี่ สินค้า คือ อองวิย้า อิอิ จากคุณ : BankZGee เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 00:29:21

ความคิดเห็นที่ 46 แบบนี้มันต้องเจอมุนินทร์!!! จากคุณ : แมวละอ่อน เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 01:15:02

ความคิดเห็นที่ 47 ว๊ายยย อ่านไม่ดี เจอคำตอบแล้ว 55     แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 55 13:26:59 จากคุณ : opleka เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 13:21:24

ความคิดเห็นที่ 48 ผมก็โดนเหมือนกันฮะ โดยโดนจากเพื่อนสนิทนี่แหละ ทีแรกเธอก็โทรมาหา(ปกติคุยกันเป็นปกติอยู่แล้ว แค่อยู่คนละจังหวัด) เธอก็บอกว่า ทำธุรกิจแล้วมันดีอย่างนั้นดีอย่างนี้  เธอบอกว่า บ.นี้ มีความน่าเชื่อถือสูง เพราะเป็น บ. ลูกของ ซุปเปอร์แวร์ จิงๆเราก็รู้นะฮะ ว่า มันก็ขายตรงนั่นแหละ ล่ะคราวนี้เธอก็ชวนไปฟัง จิงๆไอ้เราก็ปฏิเสธเพื่อนไม่ได้ อ้างนั่น อ้างนี่ตลอด อ้างว่าติดเรียนบ้าง การบ้านเยอะบ้าง เราก็หนักใจ เพราะเธอก็เป็นเพื่อนสนิทเราไรงี้ กลยุธของเค้านะฮะ 1 จ่ายค่าสมัคร ค่าทำเว็ป ซื้อของ หมดหลายพัน(ผมเป็น นศ. อยู่นะฮะ เงินมันก็เยอะพอควร) 2 ชวนคนที่สนิท แล้วประโยคเด็ดของเค้าคือว่า"เหมือนเราเอาเค้กมาให้คนอื่นกิน คนอื่นเค้าก็ต้องคิดว่า เฮ้ย อีนี่มีไรซ่อนไว้ป่าว แต่เราก็เสนอเอาสิ่งดีๆ(เค้ก) ให้เค้า) 3 ต่อขาซ้ายขวา โดยเน้นความน่าเชื่อถือเป็นหลัก 4 พยายามเสนอสิ่งดีๆ(ที่คนอื่นไม่ต้องการ) 5 ขายความฝัน ว่าจะได้นั่นได้นี่มากมายก่ายกอง จากคุณ : NoizCouture เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 14:53:03

ความคิดเห็นที่ 49 เคยโดนเหมือนกันคะ สมัยแรกๆเลย นานมากๆๆ ตอนนั้นเสียค่าสมาชิกไปเพราะเป็นคนขี้เกรงใจ จากนั้นก็ไม่ได้ซื้อหรือไปอีก ผ่านไป5ปีไดแล้วมั้งคะ เมื่อปีที่แล้วคนที่ชวนยังโทรมาแนะนำสินค้า ให้เราเข้าไปอยู่เลย แบบนานๆโทรมาที ไม่ชอบแบบสุดๆ จากคุณ : PLAYTIMEs เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 18:28:38

ความคิดเห็นที่ 50 โอ้  อ๊าวี่...นี่เองอ่านมาตั้งนาน สงสัยอยู่ว่ามันคืออะไร มีเพื่อนสาวที่น่ารักคนนึงนางไปทำงานเมืองกรุง จำได้ว่าหลายเดือนก่อนมีธุระจะเข้ากรุงพอดี ก็เลยคุยกะนางว่าว่างป่าวเผื่อได้เจอกัน เหมือนนางจะพูดถึงอ๊าวี่...นี่แหละ บอกว่าถ้าเราว่างให้ไปหา โชคดี๊ที่เราไม่ว่าง ฮาๆๆ ไม่งั้นคงได้แตกหักกันแน่นอนเลยทีเดียว จากคุณ : เด็กหญิงจริงใจ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 20:07:20

ความคิดเห็นที่ 51 อยากบอกว่า คำฮิตของ Am.... จะบอกว่า "คุณคือคนพิเศษของเรา"  5555 คือมันฮามาก จะโกรธก็โกรธนะ เคยโดนเหมือนกันค่ะ วันนึงนั่งเล่นเฟสบุ๊กไป มีเพื่อนซึ่งก็ไม่ได้สนิทไรมาก สมัยเรียนม.ปลายเข้ามาทัก เฟรนลี่มาเชียว ทักอย่างนู้น อย่างนี้ อย่างนั้น ถามสารทุกข์สุขดิบแล้ว แล้วก็ชวนเล่นเกมส์ไรสักอย่าง อยากให้ไปมว๊ากกกกกกกกก มีคนไปเยอะแยะเลยเทอ เพื่อนเยอะไม่ต้องกลัว ตอนนั้นตกงาน อยากได้ตังค์ใช้ ทำฟรีแลนส์ยังไม่ได้ตังค์ไรมาก 555 อีกอย่างก้สนุกดีด้วย เราก็ถามแล้วนะว่า เออ..นี่เป็นพวกขายตรงรึเปล่า เค้าบอกเปล่าจ้า แต่น่าเสียดายนะเทอไม่สนใจอ่ะ ในใจตะหงิดๆละ อีนี่แพล่มไร 55 พอถึงวันจริง เราไปสาย เพราะโทรหาเพื่อนที่รู้จักไม่มีใครไป เค้าก็ไม่รู้เหมือนเรานะแต่ไม่มีใครว่างไง ตอนแรกจะไม่ไปละ แต่เออ อุตส่าไปสัญญากะเค้าก็ไปซะหน่อย มันโทรมาเร่งมาก ยังกะญาติเข้า ไอซียู ย้ำจัง อีคนพิเศษสำหรับเราเนี่ย พอไปถึงแถวจุฬา ตึกเรียนพิเศษใหญ่ๆ ขึ้นไปประมาณชั้น3 เสียเงิน60บาทอีกจ้าาา เสียบ้าไรวะ คิดในใจ มันก็นั่งอีกห้อง เราก็นั่งไปฟังๆ ตอนแรกนึกว่าให้ความรู้ด้านธุรกิจ ทีนี้ฟังๆไปเริ่มทะ:-)ๆ คนบรรยายบอกว่า "ผมจบวิดวะ แล้วก็ทำงานออฟฟิต ก่อนมาเริ่มธุรกิจนี้" ธุรกิจไรล่ะ เราก้เริ่มถามคนข้างๆ พอรู้เท่านั้นเป็นของ AM.... เท่านั้นล่ะจ่ะ เดินออกเลย เสียความรู้สึกมากๆวันนั้น เป็นไรที่แย่มาก ลากไปกินในน้ำเลยดีกว่า อยู่ในนั้น15นาทีรู้สึกแทบวายตาย พอถึงบ้าน เพื่อนผู้น่ารักก็โทรม เราบอกกลับบ้านละ เค้าก้ให้ผู้ทรงความรู้จากสถาบันแพทย์อันทรงเกียรติ ที่จบย่านนั้นมาคุย เราบอกไม่สนใจ ไม่เอาอย่างเดียว ไม่เข้าใจว่า หากินความทุเรศเลวๆแบบนี้ได้ไง แย่มากเลย มาแชร์ประสบการณ์นะคะ เพราะเสียความรู้สึกจริงๆ จากคุณ : นิภาวรรณ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 22:43:34