ความคิดเห็นที่ 1 ขั้นตอนที่ 1. ล้างมะเขือเทศให้สะอาด ขั้นตอนที่ 2. ตัดจุกมะเขือเทศ และผ่าครึ่งเป็น 4 ส่วน ขั้นตอนที่ 3. เติมน้ำเปล่านิดเดียวใส่หม้อ ตั้งน้ำให้เดือด จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:22:40

ความคิดเห็นที่ 2 ขั้นตอนที่ 4. ใส่มะเขือเทศที่หั่นไว้ เบาไฟ คนบ่อย ๆ จนมะเขือเทศเริ่มเละ จากนั้น ดับไฟ แล้วตั้งทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:24:19

ความคิดเห็นที่ 3 ขั้นตอนที่ 5. เทลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:25:24

ความคิดเห็นที่ 4 ขั้นตอนที่ 6. เทลงกระชอน แล้วใช้ทัพพีคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำมะเขือเทศหมด เหลือแต่กาก จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:28:07

ความคิดเห็นที่ 5 ขั้นตอนที่ 7. เราจะได้น้ำมะเขือเทศที่เข้มข้น ไม่หวาน อร่อย มีคุณภาพ และเข้มข้นมากค่ะ สูตรของเราไม่ใส่เกลือ น้ำตาล หรือน้ำผลไม้อย่างอื่นนะคะ จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:30:48

ความคิดเห็นที่ 6 ขั้นตอนที่ 8. กรอกลงขวด แล้วแช่ตู้เย็น เสร็จสิ้นกระบวนการ จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:32:01

ความคิดเห็นที่ 7 มะเขือเทศราคาถูกและมีคุณภาพ เราแนะนำ makro ค่ะ เราซื้อเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 17 บาท ซื้อมา 2 กิโลกรัม เมื่อทำเสร็จแล้ว อยู่ได้ไม่เกิน 12 วันค่ะ (เพราะหมดก่อนค่ะ) 55 อยากจะบอกว่า ถึงแม้ว่าใส่น้ำนิดเดียว เข้มข้นมากค่ะ ไม่หวานด้วย ไม่ต้องกลัวอ้วน สำหรับร รสชาติ บางครั้งก็เปรี้ยว บางครั้งก็จืด ค่ะ 55 จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:36:15

ความคิดเห็นที่ 8 มันจะได้โภชนาการเหมือนน้ำมะเขือเทศกล่องหรือเปล่าคะ? เพราะน้ำมะเขือเทศกล่องเพิ่มไลโคปิน เข้าไปด้วย จากคุณ : C-Cat&C-Cow เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:45:17

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำมะเขือเทศ จะเพิ่มไลโคปีน เพราะ ผ่านความร้อนค่ะ http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=1 เมื่อนำมะเขือเทศสดไปผ่านกระบวนการผลิตให้อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่างๆ พบว่าปริมาณไลโคปีนสูงขึ้นมาก มะเขือเทศปรุงสุก ปริมาณไลโคปีน (มิลลิกรัม ต่อ น้ำหนัก 100 กรัม) = 3.70 จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:55:58

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : honey hive เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:56:59

ความคิดเห็นที่ 11 ไลโคปีนก็อยู่ในมะเขือเทศแล้วจ้ะ เพียงแค่เอาน้ำมะเขือเทศที่ จขกท ไปต้มไลโคปีนก็ออกมาแล้ว ดื่มแบบนี้มีประโยชน์กว่ากล่อง กระป๋องเยอะ เพราะไม่มีน้ำตาลเพิ่มความอ้วนและ เกลือ โซเดียมตัวดีทำให้ร่างกายบวมน้ำและเป็นอุปสรรคต่อการลด นน. จากคุณ : uka04 (uka04) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 15:59:11

ความคิดเห็นที่ 12 ต้มแล้ว  วิตามินไม่หายหรอคะ? จากคุณ : จิ้งจอกสามหาว เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:26:45

ความคิดเห็นที่ 13 ในเน็ต เห็นกล่าวถึงแต่ ไลโคปีน นะคะ วิตามิน น่าจะยังอยู่ค่ะ เพราะ มีความเปรี้ยว และวิตามิน ได้รับจากอาหารชนิดอื่นก็ได้ค่ะ เหตุผลที่ทำเอง เพราะ ไม่อ้วน มั่นว่ามีคุณภาพ ถ้าซื้อแบบกล่อง มีน้ำตาลแน่ ๆ เราเลือกไม่มีน้ำตาลดีกว่าค่ะ จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:37:39

ความคิดเห็นที่ 14 แนะนำให้คุณมินนี่นึ่งแทนการต้มนะคะ จะได้คุณค่าอาหารครบมากกว่าการต้มคะ พอเละแล้ว ดึงเปลือกออกนะคะ แล้วเอามาปั่น เสร็จก็เอาลงบล็อคน้ำแข็งทำเป็นก้อนๆ แล้วขูดกินเป็นไอติมอร่อยเชียวคะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 21:24:43 จากคุณ : +สาวสวย+ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 21:24:04

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับวิธีการนึ่งด้วยคนค่ะ แล้วพอเค้าสุกได้ที่ เปลือกเค้าจะลอกออกง่ายมากเลย เราก็ลอกเปลือกออกทุกครั้งนะคะ จากคุณ : เพลงฝนต้นลมหนาว เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 23:24:28

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ นึ่งไม่เป็นน่ะค่ะ แหะ ๆ จะลองศึกษาวิธีดูนะคะ จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 07:43:28

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณมินนี่ที่รักค่ะ แต่แอบสงสัยว่า ถ้าเรากินสด ๆ มันจะได้สารอาหารมากกว่ามั๊ยอ่ะ  แห่ะ ๆ แอบขี้เกียจ แห่ะ ๆ จากคุณ : ด.ช.ตามใจ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 11:40:42

ความคิดเห็นที่ 18 มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า มีไลโคปีนเพิ่มขึ้น เมื่อผ่านความร้อนค่ะ จากคุณ : มินนี่ที่รัก เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 12:49:41

ความคิดเห็นที่ 19 กินผักทุกชนิดค่ะ จะฝาด เฝื่อน ขม อะไรก็ได้ แต่มะเขือเทศ...ไม่นะ  ~~>_<~~ แค่ได้กลิ่นก็ไม่ไว้ละ เข้ามาชื่นชมค่ะ รู้นะว่ามีประโยชน์อยากกินด้วย เห็นเพื่อนกินแล้วทำตาปริบๆ ขนลุกขึ้นมาด้วย ฮ่าๆ  ไม่รู้จะแก้ยังไงดี เฮ้อ ปล. เราไม่ชอบรสชาติมันน่ะค่ะ รู้สึกไม่อร่อย สะเดาขมๆนี่ยังกินได้ไม่มีปัญหา ใบบัวบก กินสดๆ ก็ไม่เหม็นเขียว แต่แพ้ทางมะเขือเทศ เศร้า... จากคุณ : extraordinary love เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 16:50:26