 |
ขอเพิ่มเติม คห. ของท่านอื่นๆนะคะ
Stem cell ในปัจจุบัน แบ่งเป็นสองชนิดใหญ่ๆ คือ
1. Embryonic stem cell หรือที่เรียกกันว่า เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน แยกออกมาจากเซลล์ชั้นในของตัวอ่อนตอนระยะ blastocyst (ระยะแรกๆที่มีการแบ่งตัวเซลล์ประมาณ 70-100 เซลล์) และมีความสามารถในการแบ่งตัวไม่จำกัด(ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าถ้ามันแบ่งต่อไปเรื่อยๆไม่หยุดก็จะมีคุณสมบัติคล้ายเซลล์มะเร็ง), สามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นเซลล์อะไรก็ได้...และในไทยนั้นมีแต่การทำวิจัยในห้องทดลองเท่านั้นค่ะและส่วนใหญ่เป็นเซลล์ที่ซื้อมาจากบริษัท เพราะในไทยคงทำจากตัวอ่อนคนจริงๆไม่ได้เนื่องจากยังติดเรื่องจริยธรรมการวิจัย แต่ถ้าเป็นจากสัตว์นั้นก็ยังต้องทำเรื่องขออณุญาติเรื่องจริยธรรมการวิจัยกันยากมากค่ะ...เรื่องการนำเซลล์ขั้นนี้มาฉีดหรือมาทำอะไรเกี่ยวกะเรื่องสวยงามนี่ เราว่าเสี่ยงมากนะคะ ที่เชื่อแล้วกล้าไปฉีด เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าบริษัทเหล่านั้นเอาเซลล์มาจากไหน ถ้าเอามาจากสัตว์หละ ยิ่งต่างสปีชี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยน่ากลัวมาก เหมือนการเอาสิ่งแลกปลอมฉีดเข้าร่างกาย ร่างกายย่อมมีการต่อต้านเป็นธรรมดานะคะ ส่วนที่เค้าบอกว่าเอามาจาก growth factor นั้นเราคิดว่าสารที่เซลล์อ่อนๆต้องการกะเซลล์บนผิวหน้าของเรา(ซึ่งแก่แล้ว) อาจจะต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันก็ได้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อทาไปแล้วก็อาจจะไม่มีผลอะไรเิดขึ้นเลย หรือเกิดน้อยมากๆ แต่บริษัทก็สามารถเอามาหลอกขาย ให้คนที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้หลงเชื่อได้ง่ายๆค่ะ เพราะจะอ้างถึงแต่ด้านดีๆของมัน
2. Adult stem cell ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว หมายความง่ายๆก็คือ stem cell ชนิดนี้สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ต่างๆได้อย่างจำกัด เช่น เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด(hematopoietic stem cell) ก็จะสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์เม็ดเลือดต่างๆได้เท่านั้น ไม่สามารถเจริญไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆได้ (แต่ในปัจจุบันมีการทดลองที่สามารถทำให้เซลล์แก่ย้อนกลับเป็นเซลล์อ่อนได้นะคะ แต่ต้องทำการใส่ยีนบางชนิดลงไปซึ่งถ้าให้เล่าคงจะยาวมาก) adult stem cell อีกตัวที่ศึกษากันมากเพราะคุณสมบัติของมันน่าสนใจมาก คือ Mesenchymal stem cell สามารถแยกได้จากไขกระดูก, เซลล์ไขมัน, เนื้อเยื่อจากรกและสายสะดือ เป็นต้น แต่คุณสมบัติที่น่าสนใจของมัน คือจะลดการต่อต้านของภูมิคุ้มกันร่างกายเพราะบนผิวของเซลล์ชนิดนี้จะไม่มีแอนติเจนบางตัวที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมืคุ้มกันออกมามาก จึงทำให้นักวิจัยสนใจเจ้า MSC นี้กันมากค่ะ แต่การได้มาและเลี้ยงดูนั้นยากมากค่ะ เพราะมันมีการเจริญเติบโตที่จำกัด(เราเลี้ยงได้มากสุดถึงแค่ passage สิบกว่าๆเท่านั้นก็เดี้ยงหมดแล้ว) และส่วนใหญ่นั้นก็ยังอยู่ในการวิจัยทั้งนั้นค่ะ... ถ้าบริษัทจะนำเรื่อง growth factorมาเป็นจุดขาย ก็อย่างที่เราอธิบายไว้แล้วข้างบนค่ะ
อีกเรื่องที่ยังเข้าใจผิดหรือไม่ทราบกันมาก คือการเก็น stem cell จากเลือดสายสะดือ เซลล์ส่วนใหญ่ที่คัดแยกออกมาได้ก็คือเซลลเม็ดเลือดขาวหลายๆชนิดและขนาดต่างกันไปซึ่งในนั้นจะมีส่วนผสมของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทั้งอ่อนและแก่ และมี MSC ปนอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ จำนวนเซลล์ที่ได้็จะแตกต่างไปในแต่ละบุคคลอีก การนำไปใช้ในอนาคตเราคิดว่ามันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง ถ้านำไปใช้รักษาโรคเลือดทั้งหลายเช่น ธาลัสซีเมีย ส่วนที่โฆษณากันว่าเก็บได้เป็นยี่สิบปีแล้วค่อยละลายออกมาแล้วไปฉีดนั้น เราว่ายากที่เซลล์ที่มีชีวิตจะเหลือรอดค่ะ ก็จะเหลือน้อยมากๆแล้ว ขนาดแค่แช่เย็นด้วยไอไนโตรเจนเหลว(ติดลบประมาณ180-190องศา)หกเดือนแล้วละลายออกมาดู %การรอดชีวิต ยังเหลือน้อยเลยค่ะ
ปล.การเขียนออกมาเป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่ายๆแอบยากลำบาก แหะๆ ^^
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 01:55:18
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 01:45:50
| จากคุณ |
:
+-- MiNi Cookies&Cream --+  
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ย. 55 01:44:06
|
|
|
|
|
มารู้จักเครื่องสำอาง:-)และ stem cell กันเถอะ
