แก้วพญานาค
แก้วอะไรน่ะสวยจังพลอยดูซิ
ตาฉันเหลือบไปเห็นลูกแก้วทรงกลมใส่ลูกขนาดกำมือรอบได้ พลางชี้ชวนให้เพื่อนสาวดูอย่างสนใจ
อือ สวยดี
แก้วพญานาคค่ะคุณ ซื้อไปดูซิคะเอาไว้เพ่งตอนทำสมาธิหรือว่าเอาไปไว้เป็นศิริมงคลกับบ้านหรือพกติดตัวก็ได้นะคะภูติผีปีศาจกลัวค่ะ บรรจุพลังเมตตาไว้แล้วนะคะคุณ
หญิงคนขายบรรยายสรรพคุณลูกแก้วลูกนั้นอย่างคล่องปาก พลอยมองอย่างสนใจ ฉันเหลือบไปเห็นแหวนหัวพลอยสีเหลืองสดใสวงหนึ่งอย่างสนใจเช่นกัน
แหวนนี่เท่าไหร่คะ สวยดี
90 บาทค่ะ ลงนะ เมตตาไว้แล้วเหมือนกันนะคะช่วยให้ร่ำรวยมีโชคมีลาภแคล้วคลาดเภทภัย
แล้วลูกแก้วล่ะป้า พลอยถาม
ลูกแก้วอันละ189บาทค่ะซื้อสองชิ้นนี้ ป้าลดให้สุดๆเลยนะ 259บาทเท่านั้นค่ะ เลขมงคลด้วยนะคะ 5 เลขเทวดา 9 เลขพระ
พลอยดูสนใจลูกแก้วนั้นพอๆกับที่ฉันสนใจแหวนเราจึงตัดสินใจซื้อทั้งสองอย่าง หลังจากซื้อของเสร็จเราพากันเดินไปที่เดิมแต่แผงที่ขายของศักดิ์สิทธิ์เมื่อสักครู่นี้หายไปแล้ว พวกเราต่างคิดกันว่าคงหนีเทศกิจไปขายที่อื่นแล้ว
สองอาทิตย์ต่อมาฉันกับพลอยได้วันหยุดประจำปีตรงกันจึงคิดกันว่าจะไปเที่ยวปักษ์ใต้เป็นการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานมาทั้งปี
เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย และยังคบยืนยาวเนื่องเพราะมีอุปนิสัยและรสนิยมคล้ายคลึงกัน จนกระทั้งทำงานก็ทำในระแวกใกล้เคียงกันจึงมาหาอพาร์ตเมนท์ เช่าอยู่ด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
จังหวัดที่พวกเราตัดสินใจไปเที่ยวกันมีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติที่งดงามห่างไกลความเจริญทางวัตถุและแสงสี ธรรมชาติที่งดงามทำให้มีการท่องเที่ยวแบบ home stay ซึ่งผู้เที่ยวจะต้องอาศัยอยู่กับคนในพื้นที่โดยจ่ายเงินในราคาถูกแสนถูก ได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงและวีถีชาวบ้านแบบถึงแก่น
เราถึงจุดหมายในตอนบ่ายๆ และทันทีที่เราลงรถสองแถวเราก็รู้สึกตกหลุมรักธรรมชาติแถบนี้ทันที
เอ..ไหนบอกจะมีคนมารับหน้าหมู่บ้านอ่ะพลอย
นู่นไงเดินมานั่นแล้ว
ชาวบ้าน ที่เราเห็นดูจะทำให้พวกเราสองคนแปลกใจและผิดคาด เพราะเป็นหญิงสาวผิวขาวผ่องผิดแผกกับชาวใต้ แต่งกายด้วยเสื้อยืดขาวกางเกงผ้าฝ้ายสีน้ำเงิน เดินยิ้มแต้มาไกลๆ
คุณที่จะมาพักที่บ้านใช่ไหมคะ
น้ำเสียงไม่เหน่อทำให้พวกเราแปลกใจมากขึ้น
ฉันชื่อมินตรา เคยเรียนที่กรุงเทพมาสิบกว่าปีค่ะพอเรียนจบก็มาทำงานที่บ้านเกิดเสียงพูดไทยกลางก็เลยไม่เพี้ยน ไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะ
มินตรายิ้มให้และอธิบายอย่างคล่องแคล่ว หล่อนบอกพวกเราว่า เรียนทางด้านเกษตรมาจึงมาพลิกฟื้นบ้านเกิด
ระหว่างเดินทางมีชาวบ้านสวนทางมาเป็นระยะแต่ละคนมองกลุ่มพวกเราอย่างสนใจและมีแววตาแปลกประหลาดใจในบางคน มีคนหนึ่งถามเราว่ามีที่พักแล้วหรือ เราก็ตอบไปว่ามีแล้ว ดูพวกเขาจะไม่สนใจมินตราเลย อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยกันดีอยู่ แต่ก็แปลกที่ไม่มีใครทักทายมินตราอย่างคนละแวกเดียวกันเลย
เมื่อถึงที่พักที่เป็นบ้านไม้มีใต้ถุนที่สูงพอเข้าไปนั่งยองๆได้ เราก็จัดแจงอาบน้ำอาบท่าซึ่งเป็นห้องน้ำแบบสมัยใหม่แล้วเพียงแต่ฝาทำด้วยสังกะสีกลางเก่ากลางใหม่ น้ำในโอ่งเย็นฉ่ำสร้างความสดชื่นให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก
อาบน้ำเสร็จมินตรายกผลไม้มาให้กินตะกร้าใหญ่ๆ ผลไม้หวานกรอบรสชาติดีมากๆจนพวกเราอิ่มแปร้
หลังจากนั้นเราทั้งสองคนก็งีบหลับกลางวันกันพักใหญ่ พลอยตื่นขึ้นมาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
ฉันฝันแปลกๆอ่ะแก ฝันว่าผู้หญิงที่ขายแก้วพญานาคให้มาบอกว่าถ้าจะใช้ลูกแก้วให้ยื่นลูกแก้วไปข้างหน้าแล้วใช้แรงจิตและสมาธิอธิฐาน
สงสัยพลอยจะกินอิ่มมากไปหรือเปล่า แล้วเอามาด้วยนี่ลูกแก้วนั้นอ้ะ แกอย่ายึดถืออะไรเป็นจริงเป็นจังนักเลยกะอีแค่ลูกแก้ว กับความฝัน ฝันก็คือฝันจะไปเอาอะไรกับมันนักหนา
แล้วพวกเราก็ไปเดินดูสวนของมินตราพร้อมกับพูดคุยกับเจ้าของบ้านซึ่งเป็นกันเองมาก
มินตราบอกว่าเธออยู่คนเดียวเพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว หล่อนจัดห้องไว้ให้พวกเรานอนด้วยกัน ที่นอนหมอนมุ้งล้วนมีกลิ่นสะอาดของไอแดด
พักผ่อนก่อนนะคะค่ำๆจะมาปลุกให้ทานข้าว วันนี้จะมีมะพร้าวน้ำหอมให้ทานด้วย
พวกเรานอนเอนคุยกันจนเผลอหลับไปทั้งคู่ ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเหมือนเสียงคนคุยกัน
อย่าทำพวกเค้าเลยค่ะนายท่าน นะคะ ผู้หญิงทั้งคู่ยังอายุน้อยอยู่เลย
เสียงมินตราเอ่ยขึ้นมาไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ
ไม่ได้ มันเป็นเหยื่อถ้าไม่ได้มัน เอ็งจะอยู่ไม่ได้ ข้าก็จะอยู่ไม่ได้
เสียงเกรี้ยวกราดแหบแห้งอย่างผู้สูงอายุเอ่ยค้านอย่างขัดใจ มินตราสะอื้นเบาๆ ฉันสะกิดพลอยซึ่งตื่นแล้วเช่นกันทำกริยาเหมือนว่าได้ยินเช่นกัน ฉันมองไปด้านนอกซึ่งมืดสนิทแล้ว พยายามเพ่งดูนาฬิกาบนข้อมือจากแสงตะเกียงที่สลัวๆที่ส่องมาจากภายนอก
ตีสอง มันช่างเงียบสงัดเสียยิ่งกว่าจะเป็นบ้านชนบทที่ปกติได้ ไม่มีแม้แต่เสียงลม มินตราไม่ได้ปลุกพวกเราขึ้นมาทานข้าวพร้อมมะพร้าวน้ำหอมอย่างที่หล่อนบอกเราไว้และพวกเราก็หลับสนิทราวโดนมนต์สะกด เกิดอะไรขึ้น ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย ตอนนั้นพลอยคลานกึ่งย่องไปที่ระแนงไม้เพื่อแอบดูสิ่งที่ได้ยิน
ฉันเห็นพลอยชะงักค้าง ฉันกำลังจะเอ่ยปากถามพลอยก็หันมาทำท่าให้ฉันเงียบแล้วพลอยก็ล้วงไปในกระเป๋าด้านหน้าของเป้หยิบเอาลูกแก้วพญานาค ที่ซื้อไว้เมื่อสองอาทิตย์ก่อนขึ้นมามอง
เธอสวมสร้อยพระมาหรือเปล่า พลอยกระซิบยิ่งกว่ากระซิบ จนดูเหมือนทำปากพะงาบๆมากกว่า ฉันพยักหน้าเร็วๆพร้อมทั้งรู้สึกแล้วว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล พวกเรายัดสิ่งของที่รื้อออกมาเมื่อบ่ายเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็วยกเป้ขึ้นมาพาดบนบ่า พลางย่องจากห้องนั้นลงบันไดบ้านด้านหลัง
ข้างนอกมืดมากจนทำให้พวกเราลังเลที่จะเดินออกไปเสียงเดินบนบ้านทำให้เราต้องรีบพาตัวเองเข้าไปที่ใต้ถุนบ้าน พื้นที่ยกสูงขึ้นมาขั้นหนึ่งเป็นช่องพอเอาตัวลอดได้ทำให้เรามองเห็นส่วนที่รับแขกหรือลานบ้านอย่างชัดเจน
มินตราเดินไปมาอย่างวิตก มือปาดน้ำตาไปท่าทางเหมือนหวาดกลัวสักพัก มีร่างชราทว่าว่องไวเดินออกมาจากห้องเราพลางร้องกรี๊ดอย่างเกรี้ยวกราด
พวกมันไปแล้วพวกมันไปไหน เอ็งทำให้พวกมันรู้ตัวใช่มั๊ย อีมินตรา
หญิงชรายกมือขึ้นบีบเค้นคอมินตราจนหล่อนตาเหลือกลาน
ป่ะ ..ป่ะเปล่าจ๊ะนายท่านมินตราไม่รู้..มินตราไม่เกี่ยว..
หญิงชราหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวนั้นค่อยๆอ้าปากจนกว้างยิ่งกว่ากว้างเป็นภาพที่สยดสยอง จนฉันต้องอุดปากตัวเองไม่ให้กรีดร้อง พลอยเองก็ไม่ต่างไปจากฉันมากนัก หญิงชรากลืนกินร่างมินตราเหมือนกับงูเหลือมกินเหยื่ออันโอชะ
กริยานั้นช่างยาวนานจนทำให้ใจของฉันแทบจะขาดรอนๆ อัศจรรย์ยิ่งนักสักพักร่างหญิงชราก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นร่างของมินตราทีละน้อย ทันทีที่ทุกสัดส่วนเหมือนมินตรา หล่อนก็เริ่มร้องเรียก
ฉันรู้นะว่าพวกเธออยู่แถวนี้ ออกมาเถอะนา มันไม่น่ากลัวสักนิดมันมีแต่ความสุข สุขที่ได้ถูกกลืนกิน
เสียงหัวเราะระริกระรี้ของมินตราทำให้ฉันขนลุกซู่ พร้อมเถิบถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
แกร๊บ! เท้าฉันไปชนกับไม้ตับจากที่อยู่ใต้ถุนอีกด้านหนึ่งทำให้มันเห็นพวกเรา ฉันอยากจะบ้าตาย
มินตราหรืออะไรก็ตามมองลอดใต้ถุนมาพร้อมยื่นมือที่มีไอสีขาวที่คล้ายว่าจะม้วนตัวมาดึงพวกเรา พลอยยกแก้วพญานาคขึ้นมาปะทะโดยตรงกับไอสีขาวนั้น แก้วพญานาคคล้ายจะดูดไอสีขาวเหล่านั้นมาใส่ไว้ในตัวเองสร้างเสียงกรีดร้องยาวนานให้กับ มัน
ฟ้าเริ่มสางเสียงไก่ขันแว่วมาแต่ใกล้พลอยเหงื่อโทรมตัว ทำท่าเหมือนจะทรุดลงไปในไม่ช้าทำให้ฉันเกิดความกล้าขึ้นบอกให้พลอยส่งแก้วพญานาคมาให้ฉันเพื่อสู้กับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ต่อจากพลอย
พลอยทำตามที่ฉัน เสนอเพราะคงรู้ว่าตัวเองอ่อนเปรี้ยเต็มทีแล้ว ทันทีที่ฉันรับแก้วพญานาคมาไว้ในมือไอสีขาวนั้นก็ดูเหมือนยิ่งปะทะเข้ามา ฉันสบตาของ มัน แรงกดดันดูจะมีเพิ่มมากขึ้นจนเหงื่อของฉันผุดขึ้นมาเหมือนตาน้ำ
แก้วพญานาคจากแก้วใสกลายเป็นสีขาวขุ่น ฉันกัดฟันทนพยายามรวบรวมสมาธิวินาทีต่อวินาที ทันทีที่แสงสีทองของดวงอาทิตย์สาดส่องมากระทบฝาบ้านด้านนอก
มันในร่างของมินตราคล้ายจะชะงักและผละมือไปจากมือของฉันที่ถือแก้วพญานาค วิ่งหายเข้าไปในห้องของมินตรา ฉันกับพลอยค่อยๆคลานออกมาจากใต้ถุนบ้าน แข้งขาชาไปหมด กึ่งเดินกึ่งวิ่งกระโผลกกระเผลกไปตามทางที่จดจำได้ว่าเป็นทางออกไปยังรถสองแถว
ตอนนี้แสงแดดเริ่มส่องทั่วถึง ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดใหม่รถสองแถวจอดนิ่งรอผู้โดยสารซึ่งมีอยู่แล้วสี่ห้าคน เราสองคนได้นั่งบนรถสองแถวและอาบแสงแดดยามเช้าอย่างกระหาย
ขวัญที่บินไปทางทิศไหนๆ เริ่มเข้ามาสู่ตัว แข้งขาอ่อนปวกเปียกและเพลียอย่างบอกไม่ถูก มีชายหนุ่มวัยรุ่นสองคนท่าทางเป็นคนกรุง ยืนอยู่นอกรถสองแถวพูดคุยกัน
ไหนคนที่จะรับเราไปพักด้วยว่ะ ยืนรอนานแล้วเนี่ยะ ไม่เห็นโผล่มาสักรายมีแต่คนจะเข้าเมืองทั้งนั้น
หนึ่งในวัยรุ่นชายนั้นเอ่ยขึ้น รถสองแถวติดเครื่องทำท่าจะออกรถ
เฮ้ยนั่นไงมาแล้วยิ้มหวานเชียวว่ะ สวยซะด้วย
ชี้ชวนกันดูหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งเดินตรงมาหาสองหนุ่มวัยรุ่นนั้น
อย่างนี้ค่อยกระชุ่มกระชวยหน่อยคนนี้กูเอานะ เมิงอย่าจีบนะกูจีบเอง
เสียงวัยคะนองพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือ ฉันกับพลอยหันไปมองทางที่เด็กวัยรุ่นสองคนนั้นชี้ รถสองแถวเริ่มเคลื่อนที่ออกจากท่าอย่างช้าๆ เราสองคนอุทานขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน มินตรา!!!
จากคุณ :
รอมแพง
- [
4 ม.ค. 49 09:35:00
]