กำแพง..
ผมแยกตัวออกมาจากครอบครัว - บ้านเก่าได้สี่ปีกว่าแล้ว และในช่วงระยะเวลาดังกล่าวผมไม่ได้เคยหวนกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเลย--สักเพียงครั้งเดียว แม้ว่าหนทางจากบ้านใหม่ไปสู่บ้านเก่านั้นจะมีระยะทางเพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรก็ตาม
ผมได้ปล่อยวันและเวลาให้ล่วงเลยผ่านไป จากวันสู่เดือน จากเดือนล่วงลุเป็นแรมปี ผมแทบไม่รู้ตัวเลยว่าในช่วงระยะเวลาที่พาดผ่านผมได้ก่อร่างสร้างกำแพงชนิดหนึ่งขึ้นมา--กำแพงที่ได้ขวางกั้นสัมพันธภาพระหว่างผมกับคนในครอบครัวให้เหินห่างกันออกไปไกลทีละนิดทีละน้อย
กำแพงเริ่มก่อตัวมาจากความเกียจคร้าน - ผัดวันประกันพรุ่งว่าของผมว่าจะกลับไปบ้านนั้นเมื่อไรก็ย่อมได้ แต่แล้วก็ไม่เคยได้กลับสักครั้ง ยิ่งผมปล่อยให้วันเวลาผ่านพ้นไปนานมากเท่าใดกำแพงนี้ก็เริ่มเพิ่มความหนา - ความเหินห่างมากยิ่งขึ้น และความวิตกจริตได้เข้ามาแทนที่ความรู้สึกหนแรก
ผมเกิดวิตกจริตไปต่างๆนานาเป็นต้นว่า คิดว่าผู้ใหญ่ของบ้านคงไม่อยากต้อนรับกับการกลับไปเยือนบ้านเสียแล้ว และหากเป็นจริงเช่นนั้นผมก็ไม่กล้าที่จะกลับไปสู้หน้าพวกเขาได้ ยิ่งวันเวลาล่วงเลยออกไปอีก ความหนาของกำแพงก็เพิ่มมากขึ้น สัมพันธภาพระหว่างผมกับคนในครอบครัวก็ยิ่งดูเหินห่างกันออกมากขึ้นเช่นเดียวกัน
* * *
ก่อนวันปีใหม่ทุกปี พี่สาว - ลูกผู้พี่ของผมมักจะโทรศัพท์มาชวนให้ผมไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้านหลังเก่าในวันปีใหม่ซึ่งพวกเรามักจะใช้เวลาในช่วงนี้รวมตัวพบปะ สังสรรค์ พูดคุยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ผมกลับไม่เคยรับปากกับเธอสักครั้งเดียวว่าจะไปหรือไม่ไป
มีอยู่ปีหนึ่งผมรู้สึกว่าตนเองนั้น 'ใจดำ' ที่ได้กล่าวอ้างกับพี่สาวว่าปีนั้นจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นผมไม่เคยไปไหนต่อไหนให้สมกับการกล่าวอ้างเลยสักครั้งเดียว
ผมโกหกทั้งพี่สาวและตัวเองอย่างหน้าด้านที่สุด!
ในระยะเวลาสี่ปีกว่าที่ผ่านมานั้นผมเฝ้าถามตัวเองอยู่เสมอว่า 'ทำไม?'--ทำไมต้องทำเช่นนั้นด้วย ทำไมถึงได้ปล่อยเวลาให้ได้สร้างกำแพงขึ้นมากีดขวางทางกั้นความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวได้อย่างหนาแน่นถึงเพียงนี้..กับเพื่อนฝูงเราฮาเฮได้ ถึงไหนถึงกันด้วยกันได้ แต่กับคนใกล้ตัว - คนในครอบครัวผมกลับไม่เคยคิดสนใจไยดี
วันปีใหม่ปีนี้ ถึงเวลาแล้วหรือยัง--เวลาที่จะทุบทำลายกำแพงขวางกั้นผืนนี้?
* * *
บ่ายวันที่ 1 มกราคม ผมออกเดินทางจากที่พักมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านหลังเก่าที่เคยได้อยู่อาศัยมาก่อนหน้าเป็นเวลานานมากกว่ายี่สิบปี
ทัศนียภาพสองข้างทางของการเดินทางจากบ้านใหม่สู่บ้านเก่าล้วนเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผม แปลกตาแปลกใจไปกับสภาพแวดล้อมที่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งอาคารตึกแถว ถนนตัดใหม่ ที่ดินสวนผืนใหญ่กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมาแทนที่..รวมถึงบ้านหลังเก่าของผมที่ในวันนี้แลดูเล็ก คับแคบผิดตาไปจากวันเก่าก่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงขนาดของบ้านก็ยังเท่าเดิม
มีเพียงความรู้สึกของผมเองเท่านั้นที่ได้หดแคบลงไป ตั้งแต่วันแรกที่ได้แยกตัวออกมา
ผู้ใหญ่ของบ้านทุกท่านต่างแสดงอาการดีใจที่ได้เห็นผมกลับมาเยี่ยมเยือนบ้านหลังนี้ และกับบางท่านที่ผมเคยทึกทักนึกคิดเอาเองว่าท่านคงไม่พอใจกับพฤติการณ์ที่ผ่านมาของผมกลับได้ให้การต้อนรับผมอย่างอบอุ่น และเป็นกันเองผิดจากความคาดหมาย...
ผมเกิดความรู้สึกรังเกียจ ชิงชังกับการทึกทักนึกคิดไปเองของตนเองอย่างที่สุด!
* * *
แม้ว่าในค่ำคืนของวันนี้จะล่วงเลยผ่านวันปีใหม่ไปแล้ว สำหรับผมยังคงหวนคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น--วันปีใหม่กับบ้านหลังเก่า และคิดถึงกำแพงที่ตนเองได้ก่อกั้นขวางความสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัว
วันนี้กำแพงนั้นได้พังทลายลงไปแล้ว และผมสามารถเดินทางย้อนกลับไปที่บ้านหลังเก่าได้อีกทุกเมื่อ...
โดยที่ผมไม่ต้องรอให้ถึงวันปีใหม่อีกครั้ง .
ด้วยมิตรภาพ
5 มกราคม 2549
จากคุณ :
อานันท์-โจนาธาน
- [
6 ม.ค. 49 20:34:46
]