CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ห่อ ‘ความรัก’ เป็นของขวัญหัวใจ ... ให้ ‘เธอ’ คนพิเศษของฉัน (Brother’s love) ตอนที่ 3

    สวัสดีค่ะ มาแล้วค่ะ ^^ ขอโทษจริงๆทีมาช้ากว่าที่บอกไว้
    พอดีติดเรียนหนัก งานเยอะ หัวฟูเลยค่ะตอนนี้ เหอๆ

    ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้อีกตอนนะคะ
    (สะใจตัวเองจริงๆ 4 ตอนจบจนได้ T___T)

    ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3993538/W3993538.html

    ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3999969/W3999969.html




    ห่อ ‘ความรัก’ เป็นของขวัญหัวใจ ... ให้ ‘เธอ’ คนพิเศษของฉัน (Brother’s love)

    ตอนที่ 3



    “พี่รันไปทำแบบนั้นได้ยังไงกันน่ะ!” พอห่างจากจุดเกิดเหตุมาได้สักพัก น้องสาวก็หันไปโวยใส่พี่ชายด้วยท่าทางไม่พอใจ
    “อลงกรณ์เขาเป็นเพื่อนน้องรินนะคะ”

    “แต่ว่ามันทำหน้าไม่น่าไว้ใจ” ร่มธรรมว่าอย่างใจคิด ในขณะที่น้องสาวส่ายหัวไปมา ระอาเสียจริงกับสายตาพี่ชาย ที่ไม่ว่าอะไรก็ดูจะเลวร้ายไปซะหมด

    “ไม่น่าไว้ใจ ไม่ว่าใครในสายตาพี่รันก็ไม่น่าไว้ใจไปหมดล่ะค่ะ” โดยเฉพาะกับเพื่อนๆของเธอ

    “น้องรินกำลังว่าพี่เป็นคนใจแคบ มองโลกในแง่ร้ายงั้นเหรอ” คนพูดขมวดคิ้ว กับคำต่อว่าของน้องสาว

    “น้องรินเปล่าว่า แต่พี่รันกำลังทำแบบนั้น อลงกรณ์เป็นเพื่อนน้องรินนะคะ”

    “นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะมองว่าใครไว้ใจได้หรือไม่ได้ น้องรินรู้จักมันมาซะกี่เดือนเชียว อีกอย่างจำที่พี่บอกไม่ได้หรือว่า ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ไม่ว่าหน้าไหนก็ห้ามไว้ใจเด็ดขาด”

    “ถ้าแบบนั้น ไม่ว่าจะพี่นัท หรือพี่รัน น้องรินก็ไว้ใจไม่ได้เหมือนกันใช่ไหมล่ะคะ” ดวงหน้าขาวเงยหน้ามองแน่นิ่งไม่กระพริบตา

    “มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง พี่เนี่ยนะไว้ใจไม่ได้” ร่มธรรมว่าน้ำเสียงตกใจที่อยู่ๆน้องสาวที่เขารักที่สุดในโลกใบนี้ถามออกมา...ด้วยคำถามแบบนี้

    “ก็พี่รันว่า ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ไว้ใจไม่ได้” เธอเอาคำพี่ชายมาเถียง

    “แต่ไม่ใช่พี่แน่นอน ... นี่น้องรินไม่เข้าใจพี่เลยนะเนี่ย” คนเป็นพี่โอด

    “พี่ก็ไม่เข้าใจน้องเหมือนกันแหละค่ะ แล้วจะบอกให้เลยนะคะ กรเขาไว้ใจได้ค่ะ!” น้องสาวเน้นคำหนัก ก่อนจะก้าวเท้าลิ่วๆเดินเข้าร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด อย่างไม่มีทีท่าจะหันมาไต่ถามคนสองคนด้านหลังเกี่ยวกับความพอใจในร้านอาหารที่หล่อนเลือกหรือไม่เลย

    พี่ชายมองแล้วได้แต่ถอนหายใจหลายเฮือก อารมณ์เขาขุ่นไม่น้อยเลยหากก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะรู้นิสัยกันดีว่าน้องสาวตนยามนี้ ทำอะไรไปก็คงจะมีแต่เสียกับเสีย

    ทำไมร่มรินถึงไม่เข้าใจเขาเลยนะ ว่าที่เขาหมายความไปนั้นมันคืออะไร ความน่ากลัวที่เธอไม่เคยเจอในสังคมนี้มันเป็นอย่างไร

    ทำไมต้องไปเข้าข้างเพื่อนถึงขนาดนั้นด้วย แล้วเขาเล่า...จะไม่ฟังกันบ้างเลยหรือไง ไม่สนใจความปรารถนาดีที่เขามีให้เธอบ้างเลยหรือไง

    ความคิด และคำถามมากมายจำต้องหยุดชะงักลงเมื่อนทธรเดินเข้ามาสมทบ และตบบ่าเรียกสติคนหน้ามุ่ยที่ยืนเด่อยู่หน้าร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน

    “ไง ทะเลาะกับน้องรินอีกเหรอ” คนพูดเดาได้ถูกเผง เพราะสีหน้าเพื่อนสนิทมันบอกเช่นนั้น บอกว่าเขากำลังไม่พอใจกับบางสิ่ง แล้วเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้ร่มธรรมขมวดคิ้วมุ่นได้ก็คือร่างเล็กที่หายเข้าไปในร้านอาหารตรงหน้านั่นเอง

    ร่มธรรมเพียงแค่พ่นลมหายใจบางๆออกมา พร้อมทั้งก้าวเท้าเข้าสู่ร้านอาหาร หันมองไปยังน้องน้อยที่นั่งอยู่ที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเรียบร้อยแล้ว หล่อนเบือนหน้าหนี คงด้วยอารมณ์ที่ยังคั่งค้างกับเรื่องเมื่อครู่ เขาก็ยิ่งกลัดกลุ้มใจเข้าไปกันใหญ่ จนไม่อาจจะเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อนั้นได้แม้แต่คำเดียว





    หลังจากร่มธรรมขับรถไปส่งร่มรินที่บ้านแล้ว เขากับนทธรที่นั่งคู่กันมาด้านหน้าก็วกรถกลับไปที่บริษัทใหม่อีกครั้งด้วยยังมีประชุมงานค้างอยู่ในตอนเย็น

    และสีหน้าของคนขับรถยังไม่สู้ดี นทธรเลยพูดขึ้นด้วยอยากให้คนหน้าบึ้งอารมณ์ดีขึ้น

    “ฉันว่าแกอย่าคิดมากไปเลยไอ้รัน บอกแล้วไง พอเข้ามหาวิทยาลัย ยังไงเสียน้องรินก็ต้องมีเพื่อนผู้ชายบ้าง แกไม่คิดหรือว่ามันจะเป็นการดีถ้าน้องแกจะได้รู้จักคนเยอะๆ”

    “ฉันรู้ ฉันเข้าใจ แต่มันก็อดห่วงไม่ได้นี่หว่า แกอ่านข่าวสิพักนี้มีแต่ข่าวบ้าๆ ฉันกลัว...กลัวจะปกป้องน้องไม่ได้ เหมือนกับที่เคยสัญญาไว้กับแม่ของฉัน” ร่มธรรมเอ่ยหน้าเครียด

    นทธรเหมือนจะเคยได้ยินเรื่องนี้ เรื่องคำสัญญาระหว่างเพื่อนรักกับมารดาที่เสียไปเมื่อตอนที่น้องร่มรินอายุได้เพียงห้าปี สัญญาที่มีเนื้อความประมาณว่า
    ‘ปกป้องน้องสาวแทนมารดาที่ไม่อาจจะอยู่ดูแลต่อไปได้อีก’

    หากจากการที่นทธรเห็นในช่วงเวลาห้าปีที่ผันผ่านเข้ามาในสายตา คงมากกว่าแค่คำสัญญานั้น คงจะมีทั้งความรักและผูกพันที่สร้างสายใยเหนียวแน่น ที่ไม่ว่าจะเวลาใด วินาทีใด พี่ชายอย่างร่มธรรมก็ไม่เคยจะไม่นึกถึงน้องสาว แม้แต่ในเวลาทำงาน ร่มธรรมก็ยังหาทางปลีกเวลา ไม่ได้พบหน้าก็ขอให้ได้ยินเสียง เพื่อความสบายใจ

    แม้นทธรจะบ่นปาวๆว่าเพื่อนชอบคิดมาก คิดอะไรไปไกลกว่าที่เป็นอยู่จนเหมือนจะเป็นโรควิตกจริตไปแล้วนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่ชื่นชมกับความรักที่ร่มธรรมมีต่อร่มริน

    “ฉันเข้าใจ แต่ว่าตอนนี้ถึงแกจะไปพูดอะไรเรื่องนี้มาก ก็ดีแต่จะทะเลาะกันแบบเมื่อกี้ บางทีแกอาจจะต้องมั่นใจในตัวน้องแกให้มากกว่านี้นะไอ้รัน ไม่ใช่ว่าฉันจะว่าแกว่าแกไม่เชื่อใจน้อง แต่หมายถึงมั่นใจในสายตาของน้องสาวแกว่า น้องรินมองคนออก” นทธรออกความเห็น หากคนฟังยังไม่หายระแวงกับสิ่งแวดล้อมในสังคมนี้ที่เต็มไปด้วยหมอกควันร้ายๆ

    “ฉันไม่ได้ว่าว่าน้องฉันไม่มีตานะ แต่ยังไงก็ผู้หญิงนี่ อีกอย่างยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจไอ้หมอนั่น หน้าตามันส่อแววมีพิรุธกับน้องริน” ร่มธรรมว่าพลางนึกไปถึงหน้าคนที่ร่มรินบอกว่าเป็นเพื่อน ด้วยสัญชาติญาณบางอย่างทำให้เขาหนักใจและไม่คลายกังวล ก่อนหันไปถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆอีกที
    “แกล่ะ คิดเหมือนฉันหรือเปล่า ไอ้นัท”

    นทธรไม่ได้ตอบในทันที หากนิ่งคิดหวนไปถึงเหตุการณ์นั้นที่เขา...เองก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ชอบท่าทีที่นายอลงกรณ์อะไรนั่นทำตัวสนิทสนมกับร่มรินเกิน ซึ่งเขายังคิดเลยว่าที่เขาก้าวขึ้นไปยืนขวางหน้าน้องสาวเพื่อนนั้นเป็นเพราะเขาได้รับอิทธิพลมาจากร่มธรรมหรือเปล่า หรือเพราะว่าเหตุผลอย่างอื่น ... ที่ทำให้เขาออกอาการหวงร่มรินเหมือนเช่นร่มธรรมชอบทำ

    แม้ว่าจะไม่แน่ใจกับหัวใจและความรู้สึกนั้นว่าเขาทำไปเพราะอะไรดลใจ แต่สิ่งที่ร่มธรรมถามมานั้นเขาออกจะมั่นใจกับความรู้สึกมากว่าเขาไม่ชอบหน้านายคนนั้นสักเท่าไหร่

    “ฉันอาจจะคิดเหมือนแกนะ แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจอะไร อีกอย่างฉันก็อยากจะเชื่อที่น้องรินบอกเอาไว้ด้วย เพราะน้องรินไม่ใช่คนไร้เหตุผล”

    “แกหาว่าฉันไม่มีเหตุผลหรือไอ้นัท! บอกว่าฉันไม่ยอมฟังที่น้องรินบอกอย่างงั้นรึ!” คนถูกกล่าวกระทบหันมาว่านัยน์ตาขุ่น คนพูดเลยต้องรีบหันไปปฏิเสธ

    “เปล่าๆ ฉันไม่ได้ว่าแก”


    leaf ++มีต่อค่า

    จากคุณ : iNt_GaL - [ 12 ม.ค. 49 05:04:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป