CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    มหัศจรรย์คันฉ่องวิเศษ ( ตอนที่ 9 ) ..... วรรณกรรมเยาวชน โดย ด๋ง

    9



             รุ่งเช้า
             กลางอุทยานในปราสาทของโชกุน
             ท่านโชกุน โอทามะ และโออินุ กำลังนั่งดื่มน้ำชากันอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของแมกไม้ สวนหิน และลำธารเล็กๆที่ไหลริน เคล้าคลอกับเสียงนกที่ขับประสานและโผผินบินร่อนไปมา ท่านโชกุนยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบคราหนึ่งจึงกล่าว
             " เมื่อคืนนี้ กษัตริย์โรบอมบ์ได้เสด็จกลับไปอย่างรีบร้อนโดยไม่บอกกล่าวให้รู้ล่วงหน้า "
             ท่านโชกุนวางถ้วยน้ำชาลง แล้วโอทามะก็กล่าวขึ้น
             " คงจะมีเรื่องด่วนกระมังคะท่าน "
             " เปล่าหรอก... เมื่อคืนนี้ นินจาที่ข้าส่งไปสืบข่าวคราวบนเรือรบของกษัตริย์โรบอมบ์ได้กลับมารายงานว่า กษัตริย์โรบอมบ์จับตัวคนไทยทั้งสี่นั้นไปด้วย และยังบอกอีกว่า ประเทศไทยที่คนทั้งสี่พูดถึงนั้น มีของวิเศษ... "
             ท่านโชกุนกล่าวจบ โอทามะและโออินุนัยน์ตาเบิกโพลงในทันที
             " ของวิเศษ !! "
             โอทามะกล่าวขึ้น
             " ใช่... เป็นกระจกวิเศษ หากผู้ใดได้ครอบครองแล้วจะทำให้ผู้นั้นเป็นเจ้าโลกเจ้าพิภพ "
             " ขนาดนั้นเชียวหรือเจ้าคะ ? "
             โอทามะถาม ก่อนจะหันมามองยังโออินุที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ท่านโชกุนกล่าวขึ้นว่า
             " ข้าอยากได้กระจกวิเศษนั่นมาเป็นเจ้าของ "
             " ดิฉันจะนำมาให้ท่านเองเจ้าค่ะ "
             โอทามะกล่าวจบ ท่านโชกุนหันขวับมาในทันใดพลางถาม
             " เจ้าจะนำมาให้ข้าจริงๆหรือ...? เจ้ามีวิธีอะไรที่จะช่วงชิงมาได้ "
             " ดิฉันมีวิธีก็แล้วกัน "
             " เจ้าคงไม่ได้หลอกให้ข้าดีใจเล่นหรอกนะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า... "
             โชกุนยิ้มเยาะพลางหัวเราะลั่น ฝ่ายโอทามะเห็นท่านโชกุนแสดงทีท่าเย้ยหยันเช่นนั้น นางจึงเผยยิ้มพลางลุกขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนสืบเท้าไปข้างหน้าพลันเผยมือข้างขวาไปยังภูเขาจำลองลูกหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในสวนแห่งนั้น
             ทันใด...
             บังเกิดพลังแสงมหาศาลพุ่งออกจากมือของนางปะทะภูเขาจำลองลูกนั้นจนแตกกระจายเป็นจุณไป
             " ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก โอทามะ ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าต้องทำได้แน่ "
             ท่านโชกุนปรบมืออย่างพึงพอใจ ในขณะที่โอทามะได้หันมากล่าวว่า
             " ดิฉันจะเดินทางลงสู่ทางใต้ไปยังอาณาจักรสยาม เพื่อนำเอากระจกวิเศษนั่นมามอบให้ท่านในเร็ววัน "
             " ดี... แล้วข้าจะรอ ถ้าเจ้าสามารถทำได้จริงดั่งว่า ข้าจะสมนาคุณเจ้าอย่างงามเลยทีเดียว "
             " ให้ท่านเตรียมของสมนาคุณนั้นไว้ได้เลยเจ้าค่ะ "
             โอทามะกล่าวจบก็ยิ้มกริ่ม

    - - - - - - - - -

             เช้าวันรุ่งขึ้น...
             เรือรบของโอทามะก็ค่อยๆเคลื่อนออกจากอาณาจักรญี่ปุ่นไปอย่างช้าๆ โดยมีโอทามะ และโออินุ ยืนบัญชาการอยู่บนดาดฟ้าเรือ พวกนางตั้งใจจะติดตามเรือของกษัตริย์โรบอมบ์ไปเพื่อหาโอกาสช่วงชิงคันฉ่องวิเศษมาให้ได้
             ลึกลงไปยังใต้ท้องมหาสมุทรอันเย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยฝูงปลานานาชนิดที่แหวกว่ายไปมานั้น
             เทพคันฉ่องกำลังพยายามออกแรงยกก้อนลูกแก้วยักษ์ซึ่งทับร่างตนเองอยู่ให้หลุดออกไป แต่ก็ไร้ผล มันทั้งหนักและมีพลังมาก มันปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมาอยู่ตลอดเวลา และดูเหมือนว่ามันจะค่อยๆดูดพลังจากเทพคันฉ่องไปทีละน้อยอีกด้วย
             แต่แล้ว... ในทันใดกันนั้นเอง
             ปรากฏนางเงือกที่เคยช่วยดล สุกิจ จ้อย และอุ้มไว้ ได้แหวกว่ายกระแสน้ำเข้ามาใกล้แล้วผลักลูกแก้วนั้นออกจากร่างเทพคันฉ่องอย่างง่ายดาย จนเทพคันฉ่องสามารถหลุดออกมาได้ เขากล่าวกับนางเงือกผู้นั้นว่า
             " ขอบใจ แต่เธอทำได้อย่างไรน่ะ มันหนักมากออกอย่างนี้ "
             " ฉันชื่อ เงือกน้อยกลอยใจ ฉันเกิดในทะเล แล้วฉันก็เป็นเทพธิดาแห่งทะเลด้วย ฉะนั้น ฉันจึงมีพลังมากกว่าผู้ใดในท้องทะเล คุณเป็นใครถึงมาถูกลูกแก้วยักษ์ทับอยู่ในอาณาเขตของฉัน "
             เทพคันฉ่องเผยยิ้มคราหนึ่งจึงตอบว่า
             " ฉันชื่อ เทพคันฉ่อง เป็นเทพแห่งกระจกเงา ฉันกำลังตามหาเพื่อนๆอีกสี่คน เขากำลังได้รับอันตราย "
             " คงเป็นพวกเด็กทั้งสี่ที่หล่นลงมาจากฟากฟ้าใช่ไหม "
             เงือกน้อยกลอยใจกล่าวจบ เทพคันฉ่องนัยน์ตาเบิกกว้างพลางกล่าว
             " เธอรู้จักพวกเขาเหรอ "
             " ใช่... ฉันเคยพาพวกเขามาไว้บนชายหาด ฉันจะพาคุณไปพบพวกเขา "
             " แต่ตอนนี้พวกเขาถูกคนจับตัวไปแล้วนะ "
             " วางใจได้ ฉันสามารถพาคุณไปได้ "
             จบคำ เงือกน้อยกลอยใจฉวยข้อมือเทพคันฉ่องมาแล้วพุ่งตัวแหวกว่ายสายน้ำไปอย่างรวดเร็ว
             ทั้งสองลัดเลาะไปตามแนวปะการังและภูเขาไฟใต้น้ำที่กำลังปะทุอย่างดุเดือด ฝ่าผ่านฝูงปลานานาชนิดที่กำลังแหวกว่ายไปมา ลอดเข้าถ้ำใต้น้ำอันมีผนังหลากหลายสีและพืชพันธุ์ไม้ใต้ทะเลรูปร่างแปลกประหลาด และปลาหมึกยักษ์ที่โยกไหวหนวดของมันอย่างน่ากลัว
             เงือกน้อยกลอยใจพาเทพคันฉ่องมาจนถึงหุบเหวใต้ทะเลแห่งหนึ่ง แล้วในทันใด พลันบังเกิดกระแสน้ำอันรุนแรงพุ่งตัดผ่านจนกลายเป็นวังน้ำวนยักษ์ เงือกน้อยกลอยใจพยายามแหวกว่ายหนี แต่ก็สุดจะต้านทานแรงดึงดูดจากวังน้ำวนนั้นได้ ร่างเงือกน้อยกลอยใจและเทพคันฉ่องถูกดูดเข้าสู่วังน้ำวนอันกรรโชกแรง ก่อนที่ร่างทั้งคู่จะหมุนไปตามกระแสน้ำนั้น
             ทันใด...
             กระแสน้ำกลับรวมตัวกันอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนจะดันร่างทั้งสองพุ่งจากใต้ห้วงมหาสมุทรขึ้นมาสู่ท้องฟ้าและชั้นบรรยากาศเบื้องบนแล้วร่อนลงสู่ลานกว้างบนหน้าผาอันสูงใหญ่ริมทะเลอย่างนิ่มนวล

    - - - - - - - - -

             บนลานดินอันกว้างใหญ่...
             ปรากฏร่างชายผู้หนึ่งยืนอยู่ด้วยอากัปกิริยาอันสงบเสงี่ยม เขาสวมเครื่องแต่งกายอันแปลกตา ห่มผ้าสีเหลืองสุกใสหลายชั้น และชายผ้าก็ต้องกระแสลมจนปลิวไสวอย่างงดงาม บนศีรษะของบุคคลผู้นี้มีเครื่องประดับเป็นรูปดวงอาทิคย์มีรัศมีเป็นโลหะสีทองอร่ามตาส่องประกายวาววับจับตาอย่างน่าเกรงขาม บุคคลผู้นี้คือ เทพอโณทัย เทพเจ้าแห่งแสงอาทิตย์ ผู้มีหน้าที่คอยถ่ายทอดแสงสว่างและพลังความร้อนจากดวงอาทิตย์มาสู่โลก เพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลดำรงชีพอยู่ได้
             เทพอโณทัยก้มลงมองเงือกน้อยกลอยใจซึ่งเอนกายหมอบราบอยู่กับพื้น เคียงข้างเทพคันฉ่องที่นอนสลบไศลไม่ได้สติอยู่นั้น ดวงตาแห่งองค์เทพทอดมองบุคคลทั้งสองอย่างมีจิตเมตตา ราวกับว่าเป็นสรรพชีวิตที่กำลังได้รับทุกข์เข็ญแสนสาหัสกระนั้น เงือกน้อยกลอยใจเงยหน้าขึ้นมององค์เทพผู้สูงส่งคราหนึ่งจึงกล่าวว่า
             " ท่านเทพอโณทัย... โปรดปลดปล่อยข้าให้เป็นอิสระด้วยเถิด ข้าอยากจะช่วยเหลือเทพคันฉ่องผู้นี้ "
             เทพอโณทัย เทพเจ้าแห่งแสงอาทิตย์โปรยยิ้มคราหนึ่งจึงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลชวนฟังและก้องกังวาลไปทั่วว่า
             " เจ้าเอ๋ยเจ้า... เจ้าคิดจะพาเอาบุรุษผู้นี้ไปไหนกันหรือ อย่าลืมสิว่าเจ้าได้ให้สัญญากับข้าแล้วว่าจะไม่เดินทางออกไปจากหมู่เกาะญี่ปุ่นนี้ "
             " แต่ครานี้จำเป็นจริงๆ ข้าจะต้องพาชายผู้นี้ไปส่งยังที่หมาย ขอท่านเทพอโณทัยโปรดเมตตาด้วย "
             " คราก่อนก็เช่นนี้ มิใช่เพราะเจ้าอยากจะช่วยพวกมนุษย์หรอกหรือ ถึงได้เกิดเรื่อง ถ้าข้าไปช่วยเจ้าไว้ไม่ทัน เจ้าก็คงไม่แคล้วต้องตกเป็นอาหารของพวกปีศาจไปแล้ว "
             เงือกน้อยกลอยใจก้มหน้าลงพลางกล่าวว่า
             " ครานั้นข้าน้อยรู้สึกเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ครานี้ก็เช่นกัน "
             " เจ้าทำให้ข้าหนักใจ "
             เทพอโณทัยกล่าวพลางเดินไปยังหน้าผา ก่อนจะทอดสายตามองออกไปในท้องทะเลกว้าง แล้วกล่าวขึ้นอีก
             " จงบอกข้ามาซิ ว่าเจ้ารู้สึกเช่นไร เมื่อเจ้าได้ช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ "
             " ข้ารู้สึกเป็นสุข อิ่มเอิบ และสบายใจ "
             เงือกน้อยกลอยใจกล่าวจบ เทพอโณทัยหันไปมองยังเทพคันฉ่องผู้นอนสลบไศลอยู่นั้นพลันกล่าว
             " ถึงแม้ว่าบุคคลผู้นี้จะนำความทุกข์มาให้ก็ตามกระนั้นหรือ ? "
             " ความทุกข์ ... ??  ข้า.. ข้าไม่เข้าใจ "
             เงือกน้อยกลอยใจกล่าวพลางทำสีหน้างุนงง เทพอโณทัยยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า
             " ผู้ที่เจ้ากำลังให้ความช่วยเหลืออยู่นี้คือ เทพคันฉ่อง ผู้สิงสถิตย์อยู่ในคันฉ่องวิเศษของเจ้าฟ้าต้อยติ่ง เขากำลังจำนำความทุกข์และความไม่สงบสุขมาเยือน และจะทำให้โลกนี้วุ่นวายเดือดร้อนกันถ้วนหน้า "
             เงือกน้อยกลอยใจหันไปมองเทพคันฉ่องผู้นั้นพลางเอ่ย
             " คนผู้นี้น่ะหรือ ? "


    ( จบตอนที่ 9 โปรดติดตามต่อตอนที่ 10 )

    จากคุณ : misterpolice - [ 15 ม.ค. 49 13:28:56 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป