10
ใบหน้าของเทพคันฉ่องยามหลับใหลนั้นดูอ่อนโยน บริสุทธิ์ สดใส ไร้ซึ่งวี่แววความโหดเหี้ยมทารุนหรือโฉดชั่ว ตรงกันข้าม ใบหน้าของเขากลับสะท้อนความลึกลับออกมา ทั้งความสุข สนุกสนาน ความรื่นเริงบันเทิงใจ และความเศร้าโศกเสียใจในบางครั้ง ล้วนอยู่ในตัวเขาทั้งหมด เปรียบได้กับกระจกเงาที่สะท้อนภาพของผู้ส่องกระนั้น
" ดูเขาไม่มีวี่แววอันใดว่าจะนำความทุกข์มาให้เลย "
เงือกน้อยกลอยใจกล่าวขึ้น
" เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ "
" หามิได้ท่าน "
" เทพคันฉ่องผู้นี้หลุดออกมาจากคันฉ่องวิเศษที่อยู่ในโลกปัจจุบัน เขาเดินทางกลับมายังโลกอดีตกาลแห่งนี้เพื่อตามหาคันฉ่องวิเศษอีกบาน เพื่อใช้พลังจากมันนำพาตัวเขาและพรรคพวกอีกสี่คนกลับไป "
" แล้วมันเกี่ยวข้ออะไรกับความทุกข์ที่เขานำมาละคะท่าน "
" เกี่ยวสิ เพราะเขาและพรรคพวกได้เผยแพร่กิติศัพท์ความวิเศษของคันฉ่องบานนั้นให้ผู้คนได้ล่วงรู้โดยทั่ว ก่อให้เกิดกิเลสตัณหาและความละโมบอยากได้แพร่ระบาดไปในหมู่ผู้คนและปีศาจจนเกิดการแย่งชิงคันฉ่องวิเศษมาไว้ในครอบครอง "
" เช่นนั้นข้ายิ่งคิดเห็นว่าเราควรที่จะช่วยเขาให้ได้พบคันฉ่องวิเศษนั่นโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ความชั่วร้ายทั้งหลายแผ่ขยายมากไปกว่านี้ "
" แล้วถ้าเขาไม่พบคันฉ่องวิเศษล่ะ "
" ข้าจะช่วยเหลือพวกเขาเอง "
" เอาอีกแล้วนะ เงือกน้อยกลอยใจเอ๋ย เจ้าเอ่ยปากจะช่วยเหลือมนุษย์โดยไม่คิดใคร่ครวญให้ถ้วนถี่อีกแล้ว ถ้าเจ้าถูกปีศาจจับไปอีก จะเป็นเช่นไร "
เงือกน้อยกลอยใจยิ้มพลางกล่าวว่า
" ก็คงต้องรบกวนท่านเทพอโณทัยอีกครา "
เทพอโณทัยยิ้มกริ่ม
" รู้สึกว่าเจ้าจะมั่นใจในตัวข้าจริงๆนะ ข้าขอบอกเจ้าว่าข้าอาจจะช่วยเหลือเจ้าอีกไม่ได้แล้ว "
" ทำไมละคะท่าน ? "
" เพราะข้ามีหน้าที่ต้องถ่ายทอดพลังจากดวงอาทิตย์มาสู่โลก ถ้าขาดหายไปแม้แต่วันเดียว เจ้าลองคิดดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น เหล่าพืชพันธุ์ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะต้องล้มตายลงจนหมดสิ้น "
เทพคันฉ่องเริ่มขยับตัว ซึ่งเงือกน้อยกลอยใจก็กล่าวว่า
" อ๊ะ... เขาเริ่มฟื้นแล้ว "
" นั่นแหละร้ายนัก เป็นสัญญาณบอกถึงความทุกข์และความไม่สงบสุขที่กำลังจะอุบัติ "
" แล้วข้าควรทำเช่นไรดี ขอท่านเทพอโณทัยโปรดชี้แนะ "
" เห็นทีเจ้าคงต้องตัดสินใจด้วยตนเอง ข้าคงจะช่วยอะไรเจ้าไม่ได้อีกแล้ว "
เทพอโณทัยกล่าวจบก็หายวับไป ตามด้วยประกายแสงสีทองอร่ามตาที่ส่องสว่างพร้อมๆกับละอองอนูสีเหลืองที่พรั่งพรูลงมาจากฟากฟ้าเบื้องบน
เงือกน้อยกลอยใจเหลียวไปมองเทพคันฉ่องซึ่งค่อยๆลืมตาขึ้น เงือกน้อยกำลังครุ่นคิดและตัดสินใจว่าจะยังคงช่วยเหลือเขาต่อไปดีหรือไม่ ถ้าช่วยแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับโลก และตัวเธอ แล้วถ้าไม่ช่วยล่ะ เขาจะเป็นเช่นไร เขาจะเดือดร้อนมากมายแค่ไหนกัน "
" ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย ? "
เทพคันฉ่องกล่าวขึ้น ซึ่งเงือกน้อยกลอยใจก็ตอบไปว่า
" คุณอยู่บนหน้าผาริมทะเล "
" แล้วพวกเพื่อนๆของฉันล่ะ ? "
" คงอยู่กลางมหาสมุทรนั่น "
เทพคันฉ่องลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังริมหน้าผา เขาทำทีท่าว่าจะใช้พลังเวทมนตร์ แต่ก็ต้องทรุดกายลง เงือกน้อยกลอยใจคลานเข้าไปหา ซึ่งเทพคันฉ่องก็พูดขึ้นว่า
" ลูกแก้วยักษ์ของพ่อมดท๊อปเปอร์ทำให้พลังของฉันลดน้อยลง "
" คุณมาทำอะไรในโลกอดีตนี่ ? "
เงือกน้อยกลอยใจถามขึ้นทันใด เทพคันฉ่องหันมามองเธอด้วยความฉงน
" เธอ.. เธอรู้ได้อย่างไรว่าฉันมาจากโลกอื่น "
" ท่านเทพอโณทัยบอกฉัน "
" ถ้าเช่นนั้นเธอคงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว "
" ยัง... ฉันยังต้องการรู้อีกว่าถ้าคุณไม่พบคันฉ่องวิเศษ จะเกิดอะไรขึ้น "
" คนชั่วก็จะได้คันฉ่องวิเศษไปครอบครอง และใช้มันไปในทางที่มิชอบ นั่นหมายความว่าฉันก็จะกลายเป็นทาสรับใช้มันไปด้วย เมื่อถึงเวลานั้น โลกอดีตกาลทั้งหมดก็จะปั่นป่วนยิ่งนัก และอาจจะส่งผลกระทบกระเทือนถึงโลกอนาคตกาลไปด้วย เธอคิดว่ามันรุนแรงมากไหมล่ะ "
เทพคันฉ่องกล่าวจบ เงือกน้อยกลอยใจครุ่นคิด
" แต่ท่านเทพอโณทัยบอกว่าคุณจะนำความทุกข์มาให้ "
เทพคันฉ่องหัวเราะเบาๆพลางยิ้ม
" คงจะทุกข์มากกว่าที่เธอคิดแน่ ถ้าไม่รีบตามหาคันฉ่องบานนั้นให้พบ "
เงือกน้อยกลอยใจเงียบไปครู่หนึ่งจึงกล่าวขึ้น
" ตกลง ฉันจะช่วยพวกคุณ "
" ขอบใจมาก "
เทพคันฉ่องกล่าวจบ เงือนน้อยกลอยใจฉุดมือเขาแล้วกระโจนลงจากหน้าผาแห่งนั้นสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไปพร้อมกันในทันที
- - - - - - - - -
บนเรือรบของกษัตริย์โรบอมบ์ ซึ่งกำลังโลดแล่นโต้คลื่นลมอยู่กลางมหาสมุทรและกำลังเดินทางมุ่งสู่ทางใต้
ดล สุกิจ จ้อย อุ้ม ถูกจับขังอยู่ในห้องใต้ท้องเรืออย่างทุกขเวทนา
" ให้ตายเถอะ ! นี่ใครเป็นคนก่อนเรื่องวุ่นวายทั้งหมดขึ้นมาเนี่ย แทนที่ฉันจะได้อยู่บ้านดูทีวีให้สบายใจ ต้องมาหมกอยู่ในคุกเหม็นๆ อับๆ อย่างนี้ "
จ้อยบ่นพึมพำไม่หยุดหย่อน
" ก็อุ้มนั่นแหละ ตะโกนขึ้นมาได้จนเราสองคนตกใจเลยทำคันฉ่องนั่นแตก "
สุกิจว่า
" สุกิจ... นายจะมาโทษฉันได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะนายสองคนสอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง ก็คงไม่เป็นเช่นนี้หรอก "
อุ้มตวาดใส่
" ใช่ ใช่ ใช่ ฉันเห็นด้วย "
จ้อยว่าจบ สุกิจก็เบ้ปากใส่พลางกล่าว
" เข้าข้างกันนี่หว่า "
" ก็ไม่ต่างกันนักหรอก "
จ้อยเชิดหน้าค้อนไปอีกทาง
" พอทีเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย เราผิดเองแหละที่ไปเปิดประตูไม้สักทองบานนั้นออกมา ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงไม่เข้าไปจนพบคันฉ่องบานนี้ "
ดลกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเศร้า จนคนอื่นๆรู้สึกเห็นใจ
ทันใดกันนั้นเอง...
พ่อมดท๊อปเปอร์ก็ปรากฏกายขึ้น ก่อนจะเนรมิตอาหารมากมายใส่จานวางเรียงรายไว้บนพื้นภายในห้องขังนั้น เหล่าคนทั้งสี่ต่างตะลึงลานเป็นที่ยิ่ง
" ฮ่า... อาหาร น่ากินทั้งนั้นเลย "
" กินเสียสิ... เมื่ออิ่มกันแล้วก็จงบอกที่ซ่อนคันฉ่องวิเศษนั่นมา "
พ่อมดท๊อปเปอร์กล่าวจบ ดล สุกิจ อุ้ม รีบถอยห่างมาจากอาหารนั้น ในขณะที่จ้อยยังคงนั่งดูอยู่ด้วยความอยากกินเต็มที่จนอุ้มต้องฉุดให้ห่างมา อุ้มตวาดขึ้นว่า
" พวกเราไม่รู้ว่าคันฉ่องนั่นอยู่ที่ไหน "
" ถ้าเช่นนั้นก็อย่ากินมันเลย "
พ่อมดท๊อปเปอร์ตวาดใส่ก่อนจะหมุนตัวกลับหายวับไปพร้อมๆกับอาหารเหล่านั้นด้วย จ้อยทำตาโตพลางตวาดก้องห้องขังว่า
" อุ้ม... เธอทำให้ฉันอดกินเลย คนหิวจะตายอยู่แล้วนะ "
จ้อยกล่าวจบ บังเกิดระเบิดควันพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นห้อง ครั้นเมื่อควันนั้นจางลงก็พลันปรากฏเป็นสำรับอาหารวางไว้มากมายกว่าเก่าจนเหล่าคนทั้งสี่ถึงกับตะลึงตาค้าง
" โอ้โห !! ... อะไรกันเนี่ย ? "
ในไม่ช้า เทพคันฉ่องก็ปรากฏกายขึ้นที่มุมหนึ่งของห้องแห่งนั้น เขาทรุดกายลงนั่งด้วยความอ่อนล้าราวกับว่าใช้พลังไปมาก
" เทพคันฉ่อง !! "
ทุกคนกล่าวขึ้นพร้อมกันพลางรีบขยับกายมาหาแล้วจึงกล่าวขึ้นว่า
" เป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ เทพคันฉ่อง "
" ฉันได้รับบาดเจ็บ จำเป็นจะต้องพักรักษาตัวสักระยะ ฉันเอาอาหารมาให้พวกเธอและจะมาบอกพวกเธอว่าให้ดูแลรักษาตัวให้ดีๆ คิดว่าช่วงเวลานี้กษัตริย์โรบอมบ์กับพ่อมดท๊อปเปอร์คงจะไม่กล้าทำอะไรพวกเธอ เพราะพวกเขากำลังต้องการให้พวกเธอตามหาคันฉ่องวิเศษบานนั้น ส่วนตอนนี้... ฉันต้องขอลาก่อน... "
กล่าวจบ ร่างเทพคันฉ่องก็ค่อยๆเลือนลางและจางลงๆ แล้วหายวับไป
" เทพคันฉ่อง !! "
ทั้งสี่คนต่างร้องลั่น และเมื่อเทพคันฉ่องไปแล้ว อุ้มก็กล่าวขึ้น
" แล้วทีนี้พวกเราจะทำไงน่ะ สุกิจ "
" ก็คงต้องรอต่อไป จนกว่าจะถึงอาณาจักรสยาม "
สุกิจกล่าวขึ้น แต่จ้อยกลับยิ้มกว้างพลางว่า
" แต่ตอนนี้ ระหว่างรอ ฉันว่าเรามาหาอะไรกินกันก่อนเถอะนะ "
จ้อยกล่าวจบ คนอื่นๆก็หันมามองเธอในทันใด...
จบตอนที่ 10 โปรดติดตามต่อตอนที่ 11
จากคุณ :
misterpolice
- [
18 ม.ค. 49 12:47:43
]