บทความนี้ขอมอบให้แก่บรรดานายตำรวจมาดแมนๆ ทั้งหลาย ที่กำลังวางแผนจับผู้ร้ายอยู่ และจำเป็นจะต้องกลบเกลื่อนสถานะที่แท้จริง

บางครั้ง คุณอาจคิดว่าเพียงแค่การถอดเครื่องแบบตำรวจและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ออกแล้วแต่งกายธรรมดาๆ เหมือนประชาชนทั่วๆไป ก็พอจะตบตาเหล่าร้ายได้แล้ว ซึ่งความคิดเช่นนี้นั้นผิดถนัด

เพราะในทุกวันนี้ ผู้ร้ายเริ่มเฉลียวฉลาดขึ้นมาก และหากสังเกตุดีๆก็จะพบว่า เหล่าตำรวจที่ปลอมตัวนี้ ยังมีบางสิ่งที่คงสภาพความเป็นตำรวจอยู่ อาทิเช่น ทรงผมที่สั้น เรือนร่างอันบึกบึนกำยำล่ำสันมาดมั่นมาดแมนชนิดไหวติงต่อสิ่งเร้า เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ยังยึดติดอยู่กับเสื้อกางเกงที่คับๆ ฟิตๆ ถึงแม้จะไม่ได้ใส่ครื่องแบบอยู่ก็ตามที ส่วนลีลาการเยื้องย่างนั้นเล่า ก็ดูราวกับราชสีห์ผู้องอาจ อกผาย ไหล่ผึ่ง ก้นตึง เป้าตั้ง หลังตรง

ซึ่งรูปแบบทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นจุดหนึ่งที่ต้องลบทิ้งออกไปให้หมดจากตัวท่าน เพราะเมื่อผู้ร้ายเห็นก็จะล่วงรู้ได้ในทันทีว่าเป็นตำรวจ ซึ่งก็จะทำให้แผนการณ์จับของท่านนั้นล้มเหลว ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลอมตัวให้เหนือชั้นไปมากกว่านั้น โดยผู้เขียนจะขอเสนอแนะแนวทางให้ลองนำไปใช้ดังนี้ คือ

1. ปลอมเป็นคนแก่หงำเหงือก
แน่นอน จะต้องมีการโกรกสีผมเป็นสีขาวๆ แกมกับสีดอกเลาและเทาดำ ต้องทำผิวหน้าและผิวกายให้ตกกระและเ***่ยวย่น ใส่ฟันปลอมที่ทำเป็นฟันหักๆ เกๆ ดำๆ ซึ่งอาจต้องใช้ทีมงานช่างแต่งหน้าจากกองถ่ายภาพยนตร์ต่างๆ มาช่วยราชการเป็นกรณีพิเศษ ท่าทางการเดินและการพูดจาก็ต้องให้แนบเนียนสมจริงสมจัง เลิกทำตาขวางๆ เหมือนกำลังจับผิดคนร้าย แล้วหันไปทำตาละห้อยเหมือนกำลังคอยลูกหลานมาอุ้มชู น้ำเสียงก็ต้องฟังดูเหมาะสมกับภาพลักษณ์ โดยทำเสียงสั่นเครือแบบคนแก่ ซึ่งคงต้องเชิญนักพากย์ภาพยนตร์มาช่วยฝึกฝนอีกแรงหนึ่ง

2. ปลอมเป็นพวกติดยางอมแงม
งานนี้คงต้องหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีกขั้น เพราะท่านจะต้องไปลดน้ำหนักลง ให้ต่ำกว่ามาตรฐานชายไทยที่เป็นอยู่ ให้ดูผอมจนเห็นซี่โครง นัยน์ตาโหล ผิวแห้งกร้าน แขนและขาลีบจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนและเห็นแนวกระดูก ถ้าต้องการใช้หลักสูตรเร่งรัด ก็เพียงแค่เข้าไปอยู่ในห้องขังกับผู้ต้องหาติดยาเป็นเวลา 3 เดือน แล้วออกมาอดอาหารต่ออีก 3 วัน ก็น่าจะเห็นผลได้ชัดแล้ว

3. ปลอมเป็นขอทาน
เพื่อให้สมจริงที่สุด ขอแนะนำให้ไปตัดแขนตัดขาของท่านออก แล้วแช่แข็งเก็บเอาไว้ รอจนกระทั่งภาระกิจในการจับผู้ร้ายนั้นสำเร็จเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีจึงค่อยนำแขนและขานั้นกลับมาต่อใหม่ (ไม่รู้ว่าจะใช้การได้เหมือนเดิมหรือเปล่านะ) แต่รับรองว่าผู้ร้ายจะคาดไม่ถึงและเดาไม่ออกอย่างแน่นอนว่าท่านเป็นตำรวจปลอมตัวมาจับมัน

4. ปลอมเป็นพระ
อันนี้ไม่ขอกล่าวถึง เพราะไม่สมควร

5. ปลอมเป็นพนักงานขับรถเมล์ หรือกระเป๋ารถ
งานนี้ขอแนะนำให้ใช้ในกรณีที่จะดักจับบรรดานักเลงในคราบนักเรียน ที่มักชอบยกพวกตีกันบนรถเมล์ หรือดักจับพวกมิจฉาชีพและพวกโรคจิตที่มักชอบอาศัยความแออัดบนรถเพื่อประกอบกิจการโฉดของมัน แต่ขอแนะนำให้ท่านไปหัดเขย่ากระบอกตั๋ว พูดจายั่วยวนโทสะ ตะคอกผู้โดยสาร และขับรถฉวัดเฉวียนเพื่อให้การปลอมตัวนั้นแนบเนียนสมจริงสมจังมากยิ่งขึ้น

6. ปลอมเป็นคนขับแท็กซี่
อันนี้เหมาะกับการดักจับพวกโจรจี้แท็กซี่แล้วลวงไปฆ่า ถ้าจะให้ดี ท่านควรจะสลับไปปลอมตัวเป็นผู้โดยสารด้วย เพื่อดักจับพวกโชเฟอร์แท็กซี่ที่เป็นโจร อาจใช้ตำรวจหญิงแทน ในกรณีที่รู้เบาะแสมาว่าโชเฟอร์คนนั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีข่มขืน หรือถ้าหากนายตำรวจท่านใดมั่นใจในตัวเองว่าจะสามารถปลอมเป็นผู้หญิงได้อย่างแนบเนียนจนผู้ชายด้วยกันเห็นแล้วเชื่อก็น่าจะลองดู ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ถ้าจะให้ดีก็น่าจะลองปลอมเป็นข้อที่ 7 ด้านล่างนี้ด้วยก็ดูจะเข้าท่าอยู่ไม่น้อย

7. ปลอมเป็นเกย์ หรือไบ
ข้อนี้ให้นำไปใช้ในกรณีที่จะสืบเสาะหาตัวฆาตกรฆ่าบรรดาเกย์ไฮโซทั้งหลายที่มักจะถูกฆ่าหมกคอนโดหรูต่างๆ ซึ่งเห็นควรให้นายตำรวจผู้ต้องการจะปลอมตัวเป็นเกย์ หรือไบ ควรคิดให้หนัก เนื่องจากท่านต้องทำให้แนบเนียนที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ท่าทาง การแต่งกาย การพูดจา น้ำเสียง รวมไปถึงแววตาในการจ้องมองผู้ชายด้วยกัน ซึ่งถ้าจะให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบเต็มร้อย ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ถึงวิธีการมีความสัมพันธ์อันล้ำลึกกับผู้ชายด้วยกันบ้าง ถ้าไม่รู้จะไปหาผู้ชายที่ไหนที่ไว้ใจได้ ก็ให้ไหว้วานบรรดาเพื่อนๆตำรวจของท่านนั่นแหละ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า การปลอมตัวเป็นเกย์ หรือไบนี้ ต่างจากการปลอมตัวแบบอื่นๆทั้งหมด เพราะแบบอื่นๆ ยังพอเปลี่ยนกลับคืนไปเป็นคนเดิมได้ แต่แบบที่ 7 นี้ ร้ายนัก หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ อาจพ่ายแพ้กับรสชาติแปลกประหลาดพิสดารพันลึกสุดจะนึกสุดจะเดาเล่าขานกี่ชาติกี่พบก็ไม่รู้จักจบจักสิ้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วจะมาหาว่าผู้เขียนไม่เตือนไม่ได้นะขอรับ

- - - - - - - - -

หมายเหตุ : กรุณาอย่าคิดมาก ขอให้อ่านเพื่อความบันเทิงเริงรมย์เท่านั้น