CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ผ่ามิติระฟ้า ( ตอนที่ 1 ) ..... เรื่องสั้นแนวแฟนตาซี ( เกย์ ) 6 ตอนจบ โดย ด๋ง

    1



              นกอินทรีตัวหนึ่งเกาะอยู่บนยอดต้นสนอันสูงเสียดฟ้าอย่างไม่ครั่นคร้ามต่อกระแสลมอันกรรโชกแรง
             ท่าทีของมันนั้นองอาจและสง่างาม ดวงตาทั้งคู่ของมันนั้นคมกริบและมองออกไปไกลในขอบฟ้ากว้าง ที่ซึ่งแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องเรืองรองสว่างไสว
             ในขณะที่อีกฟากฟ้าด้านหนึ่ง กลุ่มเมฆสีดำทะมึนเริ่มก่อตัวขึ้นและกำลังเคลื่อนมาอย่างช้าๆ กระแสลมพัดโหมรุนแรงมากยิ่งขึ้น ยังผลให้กลุ่มเมฆสีดำดังกล่าวรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆขนาดใหญ่และแผ่กว้างออกไปไกลกว่าเดิมจนปกคลุมไปทั่วบริเวณแห่งนั้น
             เสียงฟ้าคำรามดังขั้นเป็นระยะ พร้อมๆกับแสงวาบวับของสายฟ้าแลบ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าพายุฝนกำลังจะมาภายในเวลาไม่นานนัก ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดคิด ปรอยฝนเริ่มโปรยปรายพร้อมๆกับสายฟ้าที่ฟาดฟันลงมารอบๆพื้นที่ป่าอันกว้างใหญ่
             ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงสักเพียงใดก็ตาม แต่นกอินทรีตัวนั้นก็ยังคงเกาะอยู่บนยอดต้นสนอันสูงใหญ่โดยไม่ไหวติงต่อสิ่งรอบข้าง ดูราวกับเป็นรูปปั้นอันศักดิ์สิทธิ์มากกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตอันอ่อนไหว
             พายุฝนทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ และสายฟ้าก็กระหน่ำลงมาอย่างน่าสะพรึงกลัว ต้นสนหลายต้นถูกฟ้าผ่าจนเกิดประกายไฟลุกโชติช่วงขึ้นมา แต่ก็ดับลงไปภายในเวลาอันรวดเร็วเนื่องจากสายฝนที่หนาเม็ด
             และแล้ว... สิ่งไม่คาดคิดก็บังเกิด ท้องฟ้าเหนือต้นสนที่นกอินทรีเกาะอยู่ส่งประกายแสงเล็กๆออกมา นกอินทรีตัวนั้นดั่งรู้ทัน มันรีบกางปีกโผทะยานออกจากยอดต้นสนในทันใด ก่อนที่สายฟ้าขนาดใหญ่มหึมาจะฟาดฟันลงมายังปลายยอดไม้นั้นอย่างจัง
             เสียงคำรามของฟ้าดังกึกก้องกัมปนาทไปทั่วผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ ประกายแสงและกลุ่มควันปะทุขึ้นจากจุดที่เกิดฟ้าผ่า และแรงจากสายฟ้าก็ทำให้ต้นสนใหญ่ทั้งต้นนั้นฉีกขาดจากยอดลงมาจนกระทั่งถึงโคน ซีกทั้งสองของต้นสนล้มแยกกันไปคนละทิศคนละทางและทับต้นไม้น้อยใหญ่จนราพณาสูรไปเป็นแนวยาว
             นกอินทรีตัวนั้นโผผินออกจากป่ามุ่งตรงไปยังขอบฟ้าอันกว้างใหญ่ ที่ซึ่งดวงอาทิตย์อันร้อนแรงส่องแสงสว่างไสวอยู่เบื้องหน้า โดยทิ้งกลุ่มเมฤดำกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำไว้เบื้องหลัง
             ปีกอันกล้าแกร่งทั้งคู่ของมันกระพือพัดสะบัดโบกและโผร่อนอย่างสง่างามราวกับเป็นจ้าวเวหา มันบินตรงไปยังเบื้องหน้าอันเป็นที่ตั้งของมหานครใหญ่ ราวกับมีผู้หนึ่งผู้ใดร้องเรียกหามันอยู่
             ภาพของเมืองอันเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ค่อยๆปรากฏให้เป็นประจักษ์อย่างช้าๆ เริ่มจากอาคารอันสูงตระหง่านที่ตั้งเรียงรายกระจัดกระจายอยู่จนเต็มไปหมด ซึ่งนกอินทรีตัวนั้นก็โผผินไปตามยอดตึกและอาคารต่างๆเหล่านั้น ราวกับมันกำลังมองหาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
             ถึงแม้ว่าเสียงของผู้คนและบรรดายวดยานพาหนะต่างๆมากมายที่กำลังสัญจรไปมาอย่างสับสนวุ่นวายอยู่บนท้องถนนจะดังอึกทึกครึกโครมไปทั่วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถดึงความสนใจ หรือทำให้นกอินทรีตัวนั้นตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันยังคงสอดส่ายสายตาทั้งคู่ของมันเพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างอันเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของมัน

    - - - - - - - - -

             ภายในห้องล็อบบี้อันหรูหราของอาคารหลังหนึ่ง
             ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคน ใบหน้าหล่อเหลาคมสันเคร่งขรึมและอยู่ในชุดสูทสีดำอันสง่างาม ค่อยๆย่างก้าวอย่างองอาจเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ ที่ซึ่งพนักงานสาวสวย 2-3 คน กำลังยืนรอคอยให้การต้อนรับอยู่
             " ขอโทษครับ ผม..โกเมส ได้นัดไว้กับคุณสก๊อต ครับ "
             ชายผู้นั้นกล่าว
             " คุณสก๊อตกำลังมีแขกค่ะ กรุณานั่งรอที่เก้าอี้รับรองสักครู่นะคะ "
             " ขอบคุณครับ "
             ชายคนนั้นเดินตรงไปยังเก้าอี้รับรองซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เขานั่งลงแล้วหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน พนักงานต้อนรับสาวหันไปหยิบหูโทรศัพท์แล้วกดหมายเลขบนเครื่อง

    - - - - - - - - -

             ภายในห้องๆ หนึ่ง บนอาคารหลังนั้น
             ชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีอยู่ในชุดสูทสีครีม กำลังบรรเลงบทรักอันร้อนแรงกับเลขาสาวสวยอยู่อย่างเมามัน ห้วงอารมณ์เสน่หากำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่ฉับพลัน เสียงกริ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้น กิจกรรมสวาทของทั้งคู่หยุดลงกลางคันด้วยทีท่าอันฉุนเฉียวของชายหนุ่ม ซึ่งเขาเอื้อมมือไปกดปุ่มบนเครื่องแล้วตะคอกไปว่า
             " มีอะไร "
             เสียงสาวสวยกรอกผ่านหูโทรศัพท์กลับมาว่า
             " คุณสก๊อตคะ คุณโกเมสที่นัดกับคุณไว้มาถึงแล้วค่ะ "
             ชายหนุ่มมีท่าทีตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดกลับไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มและเบาลงกว่าเดิมว่า
             " ผมจะรีบลงไปเดี๋ยวนี้แหละ "
             เขารีบไล่เลขาสาวสวยออกจากห้อง ก่อนจะจัดการกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของตนจนเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเร่งรีบออกจากห้องทำงานไป
             สก๊อตเป็นผู้จัดการฝ่ายอาคารของตึกหลังนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในบรรดาตึกทั้งหลายในมหานคร ชายหนุ่มเดินไปกดลิฟท์ และในขณะที่เขากำลังรอลิฟท์อยู่นั้น เขาก็จัดแต่งเสื้อผ้าของตัวเองไปตลอดเวลา พลางขยับเนคไทให้เข้าที่เพื่อให้ตนเองดูดีที่สุด ราวกับว่าบุคคลที่รอคอยเขาอยู่นั้นเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเลยทีเดียว
             เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก สก๊อตก็กระโจนเข้าลิฟท์ไป ก่อนจะกดชั้น จี เพื่อนำพาตัวเขาลงสู่ชั้นล่างสุด สก๊อตรู้สึกตื่นเต้นไปตลอดเวลาที่ลิฟท์ค่อยๆเลื่อนลงและรับคนไปทีละชั้นๆ อย่างเชื่องช้า จนกระทั่งถึงที่หมาย สก๊อตฝ่าผู้คนออกไปในทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก เขารีบตรงไปยังห้องล็อบบี้ในทันใด ชายหนุ่มเดินไปยัวงเคาน์เตอร์ก่อนจะถามพนักงาน้อนรับว่า
             " เขารอผมอยู่ที่ไหน "
             พักงานสาวสวยชี้ไปยังชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำ ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือและหันหลังให้เขาอยู่ สก๊อตยืดตัวตรงแล้วสูดหายใจลึก ก่อนจะก้าวย่างอย่างว่องไวตรงไปยังชายผู้นั้น เมื่อเขาหยุดยืนอยู่ห่างจากชายผู้นั้นเพียงเล็กน้อย เขาก็กล่าวด้วยความสุภาพว่า
             " ขอโทษครับ คุณโกเมสใช่ไหมครับ "
             โกเมสหันกลับมามอง
             " ครับ ใช่ครับ "
             ทันทีที่สก๊อตได้เห็นใบหน้าของโกเมส เขาก็รู้สึกซาบซ่านและร้อนผ่าวไปทั่วทั้งกาย ทั้งนี้เพราะใบหน้าของโกเมสนั้นหล่อเหลาคมคายและน่าหลงใหลอย่างประหลาด ราวกับมีมนต์สะกด แม้แต่ชายด้วยกันยังรู้สึกสั่นสะท้านยามได้ยล
             " ผมสก๊อต ยินดีที่ได้รู้จักครับ "
             " เช่นกันครับ... ไม่ทราบว่าเราจะตกลงทำสัญญากันที่ไหนดีครับ "
             " อ๋อ... ครับ ที่ห้องทำงานของผมก็ได้ เราเดินคุยกันไปดีไหมครับ "
             " ดีครับ "
             ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน สก๊อตพาโกเมสไปยังลิฟท์แก้วของอาคารพลางว่า
             " ผมคิดว่าคุณคงอยากจะชมห้องดูอีกสักครั้ง ก่อนที่จะตกลง "
             " ก็ดีครับ "
             " ผมรู้สึกยินดีมากเลย ที่คุณตัดสินใจที่จะเช่าพื้นที่ชั้นบนสุดของอาคารหลังนี้ทั้งชั้น วิวบนนั้นสวยมากเลยนะครับ "
             เมื่อทั้งคู่เข้าไปในลิฟท์ สก๊อตก็กดสวิตช์ชั้นบนสุด พร้อมทั้งกดสวิตช์ไม่รับผู้โดยสารจากชั้นอื่นๆ เพื่อไม่ให้ลิฟท์หยุดชะงักระหว่างชั้นต่างๆ ลิฟท์ค่อยๆเคลื่อนขึ้นไปอย่างช้าๆ และสามารถมองเห็นภาพของเมืองได้ในมุมที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งอยู่สูงขึ้นไปเท่าใด ก็ยิ่งมองเห็นความโอฬารตระการตาของมหานครแห่งนี้ได้มากขึ้นเท่านั้น
             เหล่าอาคารระฟ้ามากมายต่างกระจัดกระจายกันอยู่ทั่วทุกมุมของเมือง แสดงให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งความสูงของอาคารหนึ่ง ล้วนถูกลบทิ้งไปโดยอาคารที่สูงกว่าภายในเวลาไม่นานนัก แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของมนุษย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
             เฉกเช่นเดียวกันกับผู้ที่คิดว่าตนเองอยู่สูงกว่าผู้อื่นแล้ว หากแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไป กลับพานพบกับผู้ที่อยู่สูงกว่าตนเสมอ
             " ตึกของคุณสูงมากจริงๆ ครั้งแรกที่ผมได้เห็นก็รู้สึกชื่นชอบ และอยากจะมาอยู่แล้ว "
             โกเมสยิ้ม
             " ใช่ครับ เป็นตึกที่สูงที่สุดในมหานครแห่งนี้ ทั้งยังสวยและสง่างามที่สุดอีกด้วย... ไม่ทราบคุณจะเช่าเป็นที่พักอาศัยเหรอครับ "
             " ผมจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ครับ "
             " พิพิธภัณฑ์ !! "
             สก๊อตประหลาดใจ
             " ครับ... เป็นการแสดงวัตถุโบราณอันล้ำค่าที่หาดูที่ไหนไม่ได้ ผมสะสมงานเหล่านี้ไว้มากมาย เลยตั้งใจจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อเปิดให้ผู้คนเข้าชม "
             " ดีครับ พิพิธภัณฑ์บนยอดตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในมหานคร นับเป็นแนวคิดที่น่าสนใจไม่เลวเลย "
             " ขอบคุณครับ "
             ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างถูกคอ ในจิตใจของสก๊อตนั้นรู้สึกหลงเสน่ห์ชายวัยกลางคนผู้นี้มากขึ้นทุกขณะ ตลอดระยะเวลาของการสนทนากันนั้น สก๊อตก็มองดูใบหน้าของโกเมสอย่างไม่วางตา เขาช่างเป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลจริงๆ ไม่รู้ว่าเรื่องราวบนเตียงของเขาจะดุเด็ดเผ็ดมันสักเพียงใด
             สก๊อตเองก็เป็นไบเซ็กชวล เขาชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เขาเป็นชายหนุ่มที่มีอารมณ์อันหลากหลาย หลงใหลในชายหนุ่มรูปงามเรือนร่างกำยำ ในขณะที่บางห้วงเวลาก็อยากจะบรรเลงบทรักอันเร่าร้อนกับสาวสวยอ้อนแอ้นอรชรสักคนหนึ่ง
             สายตาของโกเมสมองออกไปไกลยังขอบฟ้ากว้าง เขากำลังเพ่งมองบางสิ่งบางอย่างซึ่งกำลังโผบินอยู่ในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ นั่นก็คือ นกอินทรีอันองอาจตัวหนึ่งซึ่งกำลังกางปีกบินร่อนไปตามยอดอาคารอันหลากหลาย มันบินตรงเข้ามาใกล้และโฉบเฉี่ยวผ่านลิฟท์แก้วที่สก๊อตและโกเมสกำลังโดยสารนั้นไป สก๊อตมองตามนกอินทรีด้วยทีท่าอันตื่นเต้นราวกับเด็กๆเห็นของเล่นอันแปลกตา
             " นั่นนกอินทรีใช่ไหมครับ ? เมืองนี้ไม่มีนกอินทรีบินผ่านมานานมากแล้ว "
             " อย่างนั้นเหรอครับ "
             โกเมสกล่าวพลางยิ้ม
             ลิฟท์แก้วตัวนั้นพาบุคคลทั้งสองขึ้นไปจนกระทั่งถึงชั้นบนสุดของตัวอาคาร ซึ่งอยู่สูงกว่าอาคารทุกๆหลังในเมืองนี้
             ทิวทัศน์ยามเมื่อได้มองผ่านกระจกออกไปนั้นดูกว้างใหญ่แปลกตา แลเห็นผืนป่าอันเขียวขจีในขอบฟ้าด้านหนึ่ง และท้องทะเลอันสวยงามในฝั่งตรงกันข้าม
             สก๊อตพาโกเมสออกจากลิฟท์แล้วเดินผ่านโถงโลงตรงไปยังประตูขนาดใหญ่ 2 บาน ซึ่งล็อคอยู่ ชายหนุ่มหยิบกุญแจขึ้นมาไข และเปิดประตูเข้าไปอย่างช้าๆ ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องซึ่งกว้างขวางโอ่อ่า เพราะกินเนื้อที่ของอาคารทั้งชั้น รอบด้านเป็นกระจก เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบอาคารได้ในมุมกว้าง ภายในห้องนั้นว่างเปล่า และพื้นก็มีฝุ่นเกาะอยู่เต็ม เนื่องจากว่างเว้นจากการใช้งานมาเป็นเวลานานมากพอสมควร
             ภายหลังจากที่โกเมสได้ชมห้องจนเป็นที่ถูกใจแล้ว สก๊อตก็พาโกเมสไปยังห้องทำงานซึ่งอยู่ชั้นล่างถัดลงไปอีกหลายชั้น เมื่อตกลงทำสัญญากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โกเมสก็กลับขึ้นมาบนห้องชั้นบนสุดนี้อีกครั้ง ส่วนสก๊อตก็ขอตัวไปทำธุระที่ค้างไว้ต่อ
             นกอินทรีอันองอาจโผร่อนมาเกาะที่หน้าต่างกระจกบานหนึ่ง ซึ่งโกเมสก็เดินไปเหิดหน้าต่างแล้วยื่นแขนไปรับนกอินทรีตัวนั้นเข้ามา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
             " เป็นไง... ที่อยู่ใหม่ของเรา เจ้าชอบมันไหม "
             นกอินทรีกระพือปีกคราหนึ่งราวกับเป็นการตอบรับ ก่อนที่โกเมสจะกล่าวอีกว่า
             " ที่นี่แหละ ที่เราจะใช้เป็นที่ดำเนินงานของเรา "

    - - - - - - - - -

    จากคุณ : misterpolice - [ 18 ม.ค. 49 15:28:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป