13 ปีกับอาชีพแพทย์ของกร การทำงานที่มุ่งให้คนป่วยได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด จรรยาบรรณและอุดมคติยังคงยึดมั่นในหัวใจหมอ ปัจจุบันหมอกรเป็นศัลยแพทย์ที่ฝีมือดีที่สุดในด้านหัวใจ ความสามารถที่เลื่องลือมาพร้อมกับรายได้ที่สูงลิบ โรงพยาบาลชื่อดังจากทุกมุมเมืองเชิญตัวหมอกร ให้ไปอยู่กับโรงพยาบาลตนด้วยค่าตอบแทนที่สูงสุดที่แต่ละโรงพยาบาลจะสามารถให้ได้ 4 ปีที่ผ่านมา หมอกรย้ายโรงพยาบาลถึง 3 แห่ง รายได้ไม่ใช่สิ่งจูงใจเดียวที่หมอกรเลือกหากแต่โอกาสต่างๆที่ โรงพยาบาลมอบให้เป็นสิ่งที่ทำให้หมอกรยากปฏิเสธ
กับโรงพยาบาลใหญ่ชานเมืองกรุงเทพฯ โรงพยาบาลหรูระดับ 5 ดาวของเมืองไทย หมอกรทำงานที่นี่มาเกือบ 1 ปีแล้ว การทำงานที่เป็นไปอย่างราบเรียบ แต่ผลงานก็เป็นที่ยอมรับต่อเพื่อนร่วมงานและสังคมเป็นอย่างดี หมอกรทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อให้คนไข้ได้หายป่วยจากอาการทางหัวใจ ซึ่งหมอกรไม่เคยละเลยแม้นจำเป็นต้องทุ่มเทกำลังและเวลาชื่อเสียงที่โด่งดังเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจเป็นวงกว้าง ไม่ว่าคนระดับไหนในประเทศ หากเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจก็มักเรียกหาหมอกร
"หมอค่ะ คุณหนึ่งลูก ส.ส.เกล้า เข้าห้องฉุกเฉินค่ะ" พยาบาลวิ่งมาตามหมอกรด้วยความรีบร้อน
"เดี๋ยวผมตามไป" หมอกรตอบพร้อมกับรีบหยิบเครื่องมือที่จำเป็น
คุณหนึ่งเป็นบุตรชายของ ส.ส. ชื่อดัง โรคหัวใจเป็นพันธุกรรมที่สืบทอดมาจากทางปู่ ปู่ของคุณหนึ่งเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ การสืบทอดโรคร้ายสู่ลูกหลานนับเป็นเหมือนมรดกคำสาบของตระกูล ส.ส.เกล้า แต่โชคยังนับว่าเข้าข้าง ด้วยฐานะที่ค่อนข้างจะมั่งมี บวกกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ครอบครัว ส.ส. เกล้า จึงใช้ชีวิตได้อย่างผาสุข จนเมื่อคืนที่ผ่านมา อาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงก็กำเริบขึ้น
"ตรวจคลื่นหัวใจ เร็วเข้า" หมอกรสั่งอย่างชำนาญงาน
"หมอค่ะ" พยาบาลเรียกหมอกรอย่างรนราน หมอกรหันไปหมอมอนิเตอร์ก็ทราบว่าอาการของคนไข้รุนแรงอย่างมาก
"เข้าห้องผ่าตัดเลย เตรียมเครื่องมือให้พร้อมนะ" หมอกรสั่งอย่างเร่งรีบ
หน้าห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยนักข่าวที่รุมล้อม เพื่อเสนอข่าวลูกชาย ส.ส. คนดัง
"ถ้าลูกผมหายครั้งนี้ ผมจะให้บวชครับ" ส.ส. พูดด้วยน้ำตาซึมขอบตา ความรักลูกของพ่อไม่มีอะไรเทียบได้
"อาการเป็นไงบ้างค่ะคุณหมอ" นักข่าวคนหนึ่งถามขณะ หมอกรกำลังเดินเข้าห้องผ่าตัด
"ยังทรงตัว ครั้งนี้ต้องผ่าตัดนะครับ ที่สำคัญการใช้บอลลูนขยายหลอดเลือด คงไม่ได้ผลกับกรณีนี้ เดี๋ยวผมขอตัวรักษาคนไข้ก่อนนะครับ" หมอกรตอบคำถามอย่างเร่งรีบ ก่อนเร่งเดินเข้าห้องผ่าตัดไป ปล่อยให้คุณพ่อ ส.ส. ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวต่อไป
หมอกรตัดสินใจผ่าตัดเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดนั้นมีขนาดเล็กกว่า 2 mm. ไม่สามารถใช้หลอดเลือดเทียมได้ เพราะหลอดเลือดเทียมมีขนาดเล็กมาก จะถูกอุดตันโดยลิ่มเลือดอย่างรวดเร็ว การผ่าตัด จำเป็นต้องใช้เส้นเลือดแดงจากบริเวณหลังกระดูกหน้าอก หรือจากแขน และหลอดเลือดดำจากขา แม้นหมอกรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่กระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ดี การผ่าตัดจะดำเนินไปทั้งที่หัวใจยังเต้นอยู่ มีการให้ยาเพื่อให้หัวใจทำงานช้าลง
การทำงานดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ก็เรียบร้อยดี หมอกรกับพยาบาลทำงานกันอย่างเข้ามือ หน้าอกคนไข้ถูกผ่าออกตั้งแต่กลางหน้าอกถึงลิ้นปี่ พยาบาลทำงานกับหมอกรอย่างเชื่อมั่น
ภาพหัวใจเต้นในวงแผลที่ถูกผ่าออกเป็นภาพที่น่าหวาดเสียวอย่างมาก แต่กลับเป็นภาพที่หมอกรชินตา กรณีแบบนี้หมอกรเคยผ่านมาแล้วมากมาย
"คุณณี เอาเครื่องมือนี่ไปฆ่าเชื้อหน่อย "
"นุจ หยิบแว่นขยาย ที่ห้องผ่าตัด 2 ให้หมอที" หมอหันไปสั่ง พยาบาลดารณีกับนุจรีรับคำสั่งและรีบปฎิบัติตาม
การผ่าตัดแบบเบี่ยงเส้นเลือดแบบนี้ ต้องทำด้วยความประณีต ศัลยแพยท์ต้องใช้แว่นขยาย 2 1/2 - 3 1/2 เท่า ระหว่างการเย็บด้วยเส้นไหมที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผม แต่เหนียวพอที่จะยึดหลอดเลือดเข้าด้วยกัน
พยาบาลคนหนึ่งเดินไปห้องผ่าตัดข้างๆ อีกคนห่างออกไปพอสมควรเพื่อฆ่าเชื้อเครื่องมือ จะต้องให้เวลาอีกพอควรกว่า พยาบาลทั้งคู่จะกลับมาช่วยหมอกรได้
ขณะที่อยู่กับคนไข้เพียงลำพัง
"ผมย้ายมาที่นี่เพราะครอบครัวคุณมารักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้" หมอกรกระซิบกับคนไข้ที่ไร้สติ
"ผมรู้ว่าครอบครัวคุณเป็นโรคหัวใจ" ......
"ผมจงใจลืมแว่นขยายเอง".....สายตาหมอกรดูเยือกเย็น
"คุณจำคนที่คุณยิงในผับนั่นได้ไหม" หมอเสียงกร้าวแต่แผ่วเบา
"คนๆนั้นเป็นน้าผมเองคุณหนึ่ง ............ ในที่สุดเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง"
......เหลือแต่เพียงการตัดสินใจ.......
**** ชื่อบุคคล เหตุการณ์และสถานที่ เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นเท่านั้น ****
จากคุณ :
AiTiA
- [
23 ม.ค. 49 12:14:28
]