วันนี้ก็เหมือนปกติเช่นทุกวันที่เคยเป็นมา ตื่นเช้าล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว เปิดร้านขายของชำกิจการเล็กๆของบ้านผม
ทุกสิ่งก็ยังดำเนินไปตามเรื่องของมัน ลูกค้าแวะเวียนมาจับจ่ายซื้อของ ผมก็ทำหน้าที่ขายของไป
ตกเย็นวันนี้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปเดินดูอะไรเล่นที่ตลาดนัดแถวบ้านสักหน่อย
วันนี้พ่อค้าแม่ค้าดูจะเยอะเป็นพิเศษแฮะ.. อ้อ..ก็วันนี้วันศุกร์สิ้นเดือนด้วยนี่หว่า พวกมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายต่างพากันมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างเต็มที่
ผมยังคงเดินเอื่อยๆ เรื่อยๆ มองดูนู่นทีนี่ที ยังไม่ได้ตัดสินใจจะซื้ออะไรสักอย่าง ไม่มีของที่ผมอยากได้ในตอนนี้ ผมเพียงแค่มาเดินเล่นดูข้าวของ ดูผู้คนก็แค่นั้น อยู่ที่ร้านขายของไปทุกวัน ทุกวัน มันน่าเบื่อเกินไป เลยต้องหาเวลาออกมาดูโลกภายนอกบ้าง
ชีวิตผมมันก็ไม่ต่างกับมนุษย์เงินเดือนเหล่านั้นเท่าไหร่นักหรอก เพียงแต่ผมไม่ได้มีเจ้านายมาคอยจ้องเท่านั้นเอง
อ๊ะ..นั่นร้านขายหนังสือมือสองนี่ แวะเข้าไปดูหน่อยดีกว่า เผื่อได้ไปอ่านซักเล่มสองเล่ม สรุปสุดท้ายก็ไม่ได้มาซักเล่ม ยังไม่มีเล่มไหนที่โดนใจผม
หาอะไรกินหน่อยดีกว่า เริ่มหิวแล้ว ผมเลือกจะกินลูกชิ้นปิ้ง กินง่าย และไม่ต้องคิดเลือกอะไรมาก ซื้อมา 3 ไม้ กินมากกว่านี้เดี๋ยวอิ่ม ต้องกลับไปกินข้าวเย็นกับที่บ้านด้วย
เดินกินลูกชิ้นปิ้ง พร้อมกับดูนู่นดูนี่อยู่เป็นนาน เดินจนถ้วนทั่ว ใกล้จะค่ำแล้ว กลับบ้านอาบน้ำนอนเอาแรงไว้เปิดร้านพรุ่งนี้ต่อดีกว่า ว่าแล้วก็ควบมอไซค์คู่ใจกลับบ้าน
ระหว่างทางกลับบ้านผมได้เจอกับอุบัติเหตุข้างทางเล็กน้อย ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขี้เกียจแวะดู ไม่อยากเป็นไทยมุงเท่าไหร่...
และแล้วทั้งผมและรถก็มาถึงหน้าบ้าน ขณะเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงคนในบ้านกำลังกินข้าวเย็นกัน อ้าว..ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าจะรอกินพร้อมกันไง ผมไปแป๊บเดียวเอง ถึงกับไม่รอกันเชียวเหรอไง
เมื่อเท้าก้าวย่างเข้าสู่ตัวบ้าน ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ พี่ หลาน และ...อ้าว! ไอ้นั่นมันใครหว่า? หน้าตามันคุ้นๆแฮะ ทำไมหน้ามันถึงได้เหมือนผมนักล่ะ ทุกคนในโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามองแขกผู้มาเยือน คือผมเอง ทุกคนต่างประหลาดใจ ไม่แพ้ผมเช่นกัน
ถ้าไอ้คนที่นั่งอยู่นั่นเป็นผม แล้วไอ้นี่ล่ะที่ยืนอยู่นี่มันใครกัน ใครมันช่างมาแอบอ้างเป็นผมได้เหมือนขนาดนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ กระทั่งเสื้อผ้าที่สวมในวันนี้
ทุกคนไม่เป็นอันกินข้าวกันเลยในตอนนี้ รวมทั้งไอ้เบื๊อกนั่นด้วย..
ทุกคนต่างยิงคำถามออกมา เพื่อสอบสวนหาความเป็นจริง ใครกันแน่ที่เป็นตัวปลอม?
ทั้งมันและผมตอบคำถามได้ถูกต้องหมด เสมือนเป็นคนๆเดียวกันจริงๆ แต่ทำไมล่ะ ทำไมผมจึงมี 2 คนได้ในเวลาเดียว
ผมขอเวลาคุยกับมัน(ผมอีกคน) เป็นการส่วนตัวสักครู่
เอ็งเป็นใครกันวะ มาที่นี่เพื่ออะไร? ผมถามมันไป
ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดแล้ว เหตุการณ์ทุกอย่าง คนทุกคนก็คุ้นกับมันเหมือนเอ็งนั่นล่ะ หรือว่าเอ็งกันแน่ที่เป็นตัวปลอมมันย้อนผมกลับ
ผมชักโมโห บ๊ะ ไอ้นี่ถามดีๆ ไหงมาย้อนกลับกันงี้วะ
ผมถามมันในทุกๆเรื่องที่มีแต่ผมเองเท่านั้นที่จะรู้ แต่มันกลับตอบได้ถูกต้องตรงเป๊ะ ไม่มีผิดเพี้ยน เอ๊ะ หรือว่ามันคือเรา และเราคือมันกันแน่...
เมื่อหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ ผมกับมันเลยต้องอยู่ร่วมกันไป ในคืนนี้ ผมกับมันนอนด้วยกัน กำลังนั่ง นอน คิดอยู่ว่าสาเหตุอะไรจึงทำให้มันเป็นอย่างนี้ไปได้
มันกลับมาก่อนหน้าผมไม่กี่นาที เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นตอนระหว่างทางตอนที่ผมขี่รถกลับมากัน? ทำให้ผมนึกถึงไอ้อุบัติเหตุที่ผมเห็นระหว่างทางกลับบ้านนั้น ผมไม่ได้แวะดูเลยไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกันรึปล่าว และเป็นเพราะผมนึกอะไรไม่ออกแล้วว่ามันจะเกิดจากสิ่งใด
วันรุ่งขึ้นผมกับมัน ไปตรงที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวาน สอบถามคนแถวนั้นดูว่า เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น มีพี่อยู่คนนึงชื่อพี่อ๊อดเป็นคนเห็นเหตุการณ์โดยตลอดเล่าให้ผมฟังว่า
พี่เห็นไอ้รถกระบะคันนั้นมันวิ่งมาก็ไม่เร็วเท่าไหร่หรอก แต่ไอ้มอไซค์คันนั้นสิมันดันไปวิ่งตัดหน้าเขา คนขับรถกระบะเลยหักหลบไปข้างทาง แต่ก็ไม่พ้นเฉี่ยวไปนิดนึง แล้วพี่ก็เห็นว่าตอนที่รถกระบะหักหลบน่ะไปเฉี่ยวเข้ากับมอไซค์อีกคัน แต่แปลกแฮะ ที่พี่ไม่ยักกะเห็นไอ้มอไซค์คันนั้นในที่เกิดเหตุ กลายเป็นว่ามีคู่กรณีกันแค่ 2 ฝ่ายเท่านั้น พี่ก็ยังแปลกใจอยู่ เล่าให้ใครเค้าฟังก็ไม่มีใครเชื่อ เค้าบอกว่าพี่น่ะตาฝาดไป พี่อ๊อดเล่ามาแบบนี้
ผมกับมัน มานั่งขบคิดกันดู ใช่แน่ ผมต้องเป็นไอ้มอไซค์ที่จะเป็นคู่กรณีคันนั้นแน่ๆ แต่ทำไมผมกลับไม่เป็นอะไรเลย แต่กลับกลายเป็นว่ามันทำให้ผมผุดขึ้นมาอีกร่างนึง
ผมตัดสินใจเล่าให้พี่อ๊อดฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
พี่อ๊อดทำหน้าตกใจ พร้อมกับพูดขึ้นว่า จริงหรือนี่ ตอนแรกพี่นึกว่าเราสองคนเป็นแฝดกันซะอีก เลยไม่ได้สงสัยอะไร อืม..เรื่องมันเป็นแบบนี้เองรึ
แล้วมันจะมีทางแก้ไขมั้ยครับ ผมลองปรึกษาพี่เค้าดู
พี่ก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าจะให้เดา เหตุมันเกิดเพราะอุบัติเหตุ ถ้าจะแก้ก็คงต้องแก้ที่ต้นเหตุ แต่ถ้าจะให้ย้อนเวลากลับไปก็คงทำไม่ได้ เพราะพี่ไม่มีประตูกาลเวลาของโดเรมอน 555+ พี่อ๊อดยังติดตลก
อืม พี่ว่าถ้าทำให้มันเกิดเหตุคล้ายๆกัน มันจะทำให้ร่างกลับคืนเป็นหนึ่งเดียวได้รึปล่าว? พี่เค้าลองให้ความเห็นมา
มันก็น่าคิดนะครับ แต่ไอ้การที่ผมจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมามันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับพี่ เผื่อพลาดขึ้นมา ทั้งผมนัมเบอร์วันและนัมเบอร์ทู อาจจะตายไปจริงๆ ไม่เหลือเลยซักร่างเอานะครับ ผมตอบออกไป
งั้นเรามาลองวางแผนกันดีกว่าว่าจะเอายังไงกันดี พี่เค้าบอก
ท่าทางพี่อ๊อดดูกระตือรือร้น และรู้สึกสนุกไปกับการทำให้ร่างผมกลับไปเหลือร่างเดียวเหมือนเดิม ก็ดีแล้วครับ ดีกว่าให้ผมกับมัน ซึ่งมีสมองเล็กเหมือนกันมาคิด มีหวังต้องอยู่อย่างนี้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ
และแล้วการสร้างสถานการณ์จำลองก็เกิดขึ้นในวันถัดมา พี่อ๊อดรับอาสาขับรถยนต์ ส่วนรถมอไซค์อีกคัน เค้าให้น้องชายเค้าเป็นคนขี่ ส่วนผมกับมันก็อยู่บนมอไซค์คู่ชีพ ผมเป็นคนขี่มันเป็นคนซ้อน
ผมตื่นเต้นกับการรวมร่างครั้งนี้มาก ผมกลัวพลาด กลัวจะตายจริงๆ แต่ถ้าผมไม่ทำ มันคงจะดูประหลาดๆน่าดู ที่มีผมถึง 2 คน ทั้งๆที่ไม่ใช่ฝาแฝดกัน มันก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เราปรึกษากันดีแล้วครับ จึงตกลงกระทำการในครั้งนี้
พี่เค้าก็ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเช่นกัน ที่จะได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ประหลาดๆครั้งนี้
และแล้วเวลาสำคัญก็มาถึงพี่อ๊อดให้สัญญาณ ทั้งรถยนต์ รถมอไซค์คู่กรณีอีกคัน และรถผม เราทั้ง 3 ต่างพุ่งออกไปพร้อมกัน ใกล้เข้ามาแล้ว ใกล้เข้ามาแล้ว..
เอี๊ยด....โครม! เสียงรถผมล้มลง จากนั้นผมก็ไม่รู้สึกตัวอีก
จากคุณ :
ID Guy
- [
23 ม.ค. 49 19:44:48
]